Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Gadgets»Accessories Review»รีวิว Mi Watch สมาร์ทวอทช์น้ำหนักเบาหวิว ฟีเจอร์ครบครัน แบตโคตรถึก ในราคาแค่ 3,490 บาท
    Accessories Review

    รีวิว Mi Watch สมาร์ทวอทช์น้ำหนักเบาหวิว ฟีเจอร์ครบครัน แบตโคตรถึก ในราคาแค่ 3,490 บาท

    ACHI-SPBy ACHI-SP27 ธันวาคม 2020Updated:6 มกราคม 2021
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Mi Watch
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email
    Mi Watch

    Mi Watch สมาร์ทวอทช์ตัวแรกที่เป็นของ Xiaomi จริง ๆ ได้เปิดตัวในไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้สมาร์ทวอทช์ทุกรุ่นจะเป็นของที่ทำตลาดในชื่อ Amazfit ที่เป็นบริษัทในเครื่อ ในครั้งนี้จึงพูดได้ว่าเจ้าตัวนี้เป็นสมาร์ทวอทข์ตัวแรกของ Xiaomi จริง ๆ นั่นเอง ซึ่งบทความนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้า Mi Watch นี้กัน

    สเปค Mi Watch

    • หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว (454×454 พิคเซล)
    • รองรับเมนูและการแจ้งเตือนภาษาไทย
    • ระบบ HR Real-Time, SPO2, Stress Measure, Meditation (วัดลมหายใจ)
    • GPS และเข็มทิศในตัว
    • โหมดออกกำลังกาย 117 โหมด
    • กันน้ำ 5 ATM
    • แบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 16 วัน
    • น้ำหนัก 32 กรัม
    • ราคา 3,490 บาท

    อุปกรณ์ในกล่อง

    • Mi Watch
    • แท่นชาร์จแม่เหล็ก
    • หนังสือคู่มือ
    • สมุด Warranty

    จุดเด่น

    • หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่เห็นชัด สีสันสด
    • รองรับ Always on Display
    • น้ำหนักเบาสุด ๆ แค่ 32 กรัม
    • แบตเตอรี่อึดมาก
    • โหมดออกกำลังกายมากถึง 117 ชนิด
    • รองรับการแจ้งเตือนและแสดงผลภาษาไทย

    ข้อสังเกต

    • ไม่มีไมค์และลำโพง ทำให้ไม่รองรับการสนทนา การแจ้งเตือนด้วยเสียง และการใช้งานด้านคำสั่งเสียง และการบันทึกเสียง

    ดีไซน์

    Mi Watch ที่ Specphone เราได้มานั้นเป็นรุ่นสีดำสุดเท่ ที่มีหน้าขอขนาด 1.39 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ AMOLED ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล ที่มีความคมชัด สีสันสวยงาม อ่านข้อความได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง และด้วยกระจก 2.5D tempered glass พร้อมเคลือบสารป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ ทำให้เวลาใช้งานไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นรอย แถมไม่ต้องมาคอยเช็ดหน้าจออีกด้วย

    ที่ตัวเรือนจะมีปุ่มอยู่ทั้งหมด 2 ปุ่ม ได้แก่ปุ่ม Home สำหรับเรียกแอปต่างๆ ขึ้นมา และปุ่ม Sport ที่จะมีหน้า Exercise หรือ Workout ต่างๆ ให้เลือกใช้งาน ซึ่งจะมีโหมดออกกำลังให้เลือกถึง 117 โหมดด้วยกัน

    ที่ด้านหลังของตัวเรือนนั้น Optical Sensor สำหรับวัดค่า HR, SPO2 และอื่น ๆ พร้อมด้วยขั้วชาร์แบบแม่เหล็ก

    วัสดุตัวเรือนเป็นพลาสติก สายนาฬิกาเป็นซิลิโคน ทำให้ตัวเรือนมีน้ำหนักที่เบามาก ๆ และทนแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้เวลาใส่นาน ๆ ก็ไม่มีอาการระคายเคืองอีกด้วย

    การใช้งาน

    ในการใช้งานนั้นมีสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำก่อนเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อได้นั่นก็คือให้ทำการโหลดแอพที่ชื่อ Xiaomi Wear มาติดตั้งลงในเครื่องก่อน ซึ่งตัวแอพนี้นั้นใช้ได้ไม่จำกัดแบรนด์ไม่จำกัดยี่ห้อ แค่เป็นสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ Android 4.4 ขึ้นไป รวมถึง iOS 10.0 ขึ้นไป ก็สามารถใช้งานได้แล้ว แล้วก็จำเป็นต้องมี Mi Account อีกด้วย

    สิ่งแรกที่จำเป็นต้องตั้งค่าเลยหลังจากเข้าแอพได้ก็คือ Notification (แจ้งเตือน) และ Incoming Call (แจ้งเตือนสายเข้า), เพราะเริ่มมาทั้งหมดจะถูกปิดเอาไว้ ส่วน Watch Face (หน้าปัด) สามารถเลือกเปลี่ยนได้ตามใจอยาก

    ในนหน้าแรกของตัวแอพ Xiaomi Wear นั้นจะเป็นหน้าสรุปข้อมูลว่าเราเดินไปกี่ก้าว ใช้พลังงานไปกี่ kcal ออกกำลังกายไปเท่าไร นอนไปกี่ชั่วโมง อัตราการเต้นของหัวใจเท่าไร ใช้พลังงานไปกี่เปอเซ็นต์ มีความเครียดกี่คะแนน มีการยืนกี่ครั้ง VO2 Max กี่คะแนน และมีออกซิเจนในเลือดกี่เปอเซ็นต์ ซึ่งในแต่ละหัวข้อนั้นสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้

    อีกหน้าจะเป็นหน้าสรุปการออกกำลังกายล่าสุดว่าเราออกกำลังกายเป็นระยะทางกี่กิโลเมตร ใช้พลังงานไปกี่ kcal พร้อมทั้งระบุตำแหน่งที่เราออกกำลังกายผ่าน GPS ได้อีกด้วย

    หน้าสุดท้ายจะเป็นหน้าโปรไฟล์ที่จะแสดงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้และมีการตั้งค่าต่าง ๆ รวมเอาไว้ในหน้านี้ ทั้งการตั้งค่าจอแสดงผล การแจ้งเตือนต่าง ๆ การจัดการวิดเจ็ต และการตั้งค่าปุ่มลัด “SPORT”

    การใช้งานตัวสมาร์ทวอทช์นั้นจะใช้การสไลด์หน้าจอและการทัชเลือก โดยสไลด์ขึ้นเพื่อเปิดศูนย์ควบคุม สไลด์ลงเพื่อดูการแจ้งเตือน สไลด์ไปซ้ายหรือขวาเพื่อดู Widget ต่าง ๆ ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ พลังงาน การนอน สภาพอากาศ ความเครียด เพลง การตรวจจับออกซิเจนในเลือดและ VO2 Max ในการออกกำลังกาย

    ที่ด้านข้างของตัวเรือนจะมีปุ่มอยู่ 2 ปุ่ม โดยปุ่ม HOME จะเป็นปุ่มที่เอาไว้เพื่อกลับหน้าแรกหรือเข้าหน้ารายการแอพภายในเครื่อง ส่วนปุ่ม SPORT เป็นปุ่มลัดสำหรับเข้าโหมดออกกำลังกายโดยเฉพาะ แต่ทว่าปุ่มนี้นั้นสามารถปรับตั้งค่าให้ระบุลงไปได้เลยว่าจะให้เรียกโหมดออกกำลังชนิดไหนออกมาแทนเพื่อเป็นการประหยัดเวลา เนื่องจากโหมดออกกำลังนั้นมีมากถึง 117 โหมดเลยทีเดียว

    สำหรับการชาร์จนั้นจะเป็นการชารืจแบบใช้แท่นเฉพาะตัว ซึ่งการชาร์จจะเป็นระบบแม่เหล็กที่มีแรงดึงดูดใช้ได้ ไม่หลุดง่าย ๆ โดยตัวเรือนจะมีแบตเตอรี่แบบ Li-Po ขนาด 420 mAh แต่ไม่จำเป็นต้องชาร์จบ่อย ๆ เพราะถึงแม้ตัวระบบวัดอัตราการเต้นหัวใจจะทำงานตลอดเวลา แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ 2 สัปดาห์สบาย ๆ แถมแบตเตอรี่ยังไม่หมดอีกด้วย

    หนึ่งในความเจ๋งก็คือการที่ตัวมันรองรับการแสดงผลภาษาไทย 100% หรือก็คือทั้งหน้าเมนูและการแจ้งเตือนทั้งหมดจะเป็นภาษาไทย เพื่อน ๆ จะไม่ต้องมาเจอภาษาต่างดาวให้ปวดใจแน่นอน

    อีกสิ่งที่น่าจะถามหากันเยอะก็คือฟีเจอร์ Always on Display ซึ่งก็แน่นอนว่าจากการที่ใช้หน้าจอแบบ AMOLED นี้ก็สามารถใช้งงานได้เช่นกัน โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ในหน้าตั้งค่าของตัวนาฬิกาเองเลยในหัวข้อ หน้าจอ > แสดงหน้าจอเสมอ ซึ่งหน้าจอนี้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ 6 รูปแบบตามแต่ที่ชอบ


    สรุป Mi Watch

    จากที่ได้ลองใช้มา 2 สัปดาห์ต้องบอกเลยว่ามันดีมาก ๆ เบามาก ๆ จนแทบไม่รู้สึกว่าใส่นาฬิกาอยู่เลย แบตอึดจนน่าตกใจทั้ง ๆ ที่มีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจและอื่น ๆ อยู่ตลอดเวลาแท้ ๆ แต่ก็สามารถใช้ได้มากกว่า 2 สัปดาห์เสียอีก

    อีกจุดที่ชอบเป็นการส่วนตัวคือตัวห่วงเก็บสายจะมีตัวล็อคไม่ให้สายรัดหลุดออกมาด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นอะไรที่ไม่มีใครคิดจะทำแน่นอน

    ด้วยราคาแค่ 3,490 บาท ผมมองว่าเป็นอะไรที่คุ้มเอามาก ๆ ใครที่ต้องการสมาร์ทวอทช์มาใช้ออกกำลังกายแล้วมีงบไม่เยอะผมขอแนะนำ Mi Watch ตัวนี้เลย เพราะการวัดค่าต่าง ๆ ก็คลาดเคลื่อนเพียงนิดเดียว (ลองเทียบการวัดอัตราการเต้นหัวใจกับทางโรงพยาบาลแล้ว ค่าคลาดเคลื่อไม่เกิด 5 bpm)

    หาซื้อได้จาก Xiaomi Official ทาง JD Central เท่านั้น

    mi watch Review Smartwatch Xiaomi
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ACHI-SP

    Related Posts

    เปิดตัว Xiaomi 15S Pro และ Pad 7 Ultra ใช้ชิปที่ Xiaomi ออกแบบเองเป็นครั้งแรก

    23 พฤษภาคม 2025

    ผล AnTuTu ชิป XRing O1 ใน Xiaomi 15S Pro มาแล้ว เฉือน SD8 Elite

    22 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดีในปี 2025 ตัวช่วยลดปัญหากลิ่นอับ และเชื้อราในบ้าน

    21 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    เช็คราคาเปลี่ยนแบต iPad ทุกรุ่นในปี 2025 แต่ละรุ่นมีราคาแบตและค่าบริการเท่าไหร่ เปลี่ยนที่ไหนได้บ้างเช็คเลย!

    23 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 10 โทรศัพท์เล่นเกมไม่เกิน 10000 บาทปี 2025 สเปคแรง เล่นเกมได้ไหลลื่นในราคาคุ้มๆ

    23 พฤษภาคม 2025

    ทุบสถิติโลก! realme GT 7 ทำลายสถิติ Guinness World Record ดูหนังมาราธอนต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ไร้สะดุด!

    23 พฤษภาคม 2025

    เปิดตัว Xiaomi 15S Pro และ Pad 7 Ultra ใช้ชิปที่ Xiaomi ออกแบบเองเป็นครั้งแรก

    23 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X