3 เหตุผลที่ทำให้ Mi 10T Series เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี 2020

ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนของ Xiaomi ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีระดับโลก มักจะได้รับการชมเชย และถูกรับเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนในใจผู้บริโภคมาโดยตลอด เป็นมือถือที่ความสนใจในแง่ของความคุ้มค่าด้านราคาอยู่เสมอ โดยการเทียบระหว่างสเปคและราคาจำหน่ายที่มีความสมเหตุสมผล โดยเฉพาะรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Mi 10T Series

Mi 10T Series

ทำให้  Mi 10T Series เป็นสมาร์ทโฟนแห่งปี 2020 เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างดี ทั้งในแง่ของยอดขายและการพูดถึงบนโลกออนไลน์ จนทำให้การรับรู้แบรนด์สมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ ในกลุ่มผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตอกย้ำให้เห็นว่าในปี 2020 นี้ Mi 10T Series ได้กลายมาเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ และมีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นนี้มากเป็นลำดับต้น ๆ

เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเรือธงเหมือนกัน Mi 10T Series ให้สเปคและการใช้งานที่ดีกว่า ในราคาที่สมเหตุสมผลกว่าอย่างชัดเจน โดยสามารถทำทำราคาได้ต่ำกว่าเกิน 50% แต่ให้สเปคที่ดีกว่าในหลายแง่มุม ได้แก่

1. มาพร้อมชิปเซ็ตเรือธง และรองรับ 5G

Snapdragon 865 5G Mi 10T Pro

Mi 10T Series เลือกใช้ชิปเซ็ตระดับเรือธงอย่าง Qualcomm Snapdragon 865 5G ที่มีประสิทธิภาพการประมวลผลระดับสูงในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน และได้รับการยอมรับให้เป็นชิปเซ็ตที่น่าสนใจที่สุดในช่วงปี 2020 นี้ โดยเฉพาะในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง ตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ไม่เพียงเท่านี้ Mi 10T Series ยังเข้ามายกระดับเรือธง ที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ในระดับราคาหมื่นต้น ๆ เป็นรุ่นแรก ๆ ที่สามารถใส่ซิมที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G แล้วใช้งานได้ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง ในขณะที่เรือธงรองรับ 5G ของแบรนด์อื่นนั้น มีราคาสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด


2. กล้องถ่ายรูปความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล

Review Mi 10T Pro 5G SpecPhone 00020

Mi 10T Pro ยังมาพร้อมกับกล้อง AI ความละเอียดสูงสุดที่ 108 ล้านพิกเซล ทำให้นอกจากสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงแล้ว สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K ได้อีกด้วย ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเรือธงส่วนใหญ่จะเลือกใช้กล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล จนถึง 64 ล้านพิกเซลเท่านั้น เช่นเดียวกับการถ่ายวิดีโอที่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 4K เป็นหลัก


3. แบตเตอรีใหญ่ ชาร์จเร็ว

Review Mi 10T Pro 5G SpecPhone 00021

Mi 10T Series ให้แบตเตอรีมาจุใจถึง 5000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว 33W บนเทคโนโลยี MMT ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการชาร์จแบบคู่ขนานทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรีเต็ม 100% ในเวลา 59 นาที ที่สำคัญ Xiaomi ให้อะเดปเตอร์รุ่นนี้มาในกล่องแบบไม่ต้องซื้อเพิ่มเติม ส่วนเรือธงรุ่นอื่น ๆ ในท้องตลาดส่วนใหญ่ จะให้แบตเตอรีมาราว 4300 – 4500 mAh เท่านั้น ซึ่งเมื่อใช้งานร่วมกับระบบชาร์จเร็วเพียง 25W จะทำให้ชาร์จพลังงานได้ช้ากว่าอย่างชัดเจน รวมถึงระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรีต่อเนื่องที่น้อยกว่าด้วยเช่นกัน


Mi 10T Series สุดยอดสมาร์ทโฟนเรือธง ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า

นอกจากนี้ Mi 10T Series ยังมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.67 นิ้ว FHD+ DotDisplay บนอัตราการแสดงผล (Refresh Rate 144 Hz) เหนือกว่าคู่แข่ง ที่เลือกใช้จอแบบ 60 Hz – 120 Hz ที่สำคัญที่สุด Mi 10T Series โดยเฉพาะ Mi 10T ซึ่งรองรับ 5G ด้วยนั้นราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 12,990 บาท ได้ RAM 8 GB ROM 128 GB ในขณะที่ Mi 10T Pro 5G รุ่นเริ่มต้น RAM 8 GB ROM 128 GB วางจำหน่ายอยู่ที่ 13,990 บาท เท่านั้น

Review Mi 10T Pro 5G SpecPhone 00005

ทั้งหมดนี้ ทำให้ Mi 10T Series ได้ขึ้นมานั่งแท่นเรือธงราคาคุ้มค่าที่น่าสนใจที่สุดในปีนี้ และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เทียบเคียงกับสมาร์ทโฟนคู่แข่งในระดับราคาเกือบ 30,000 บาท ได้สบาย ๆ


เกี่ยวกับเสียวหมี่

เสียวหมี่ ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2553 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 (1810.HK) เสียวหมี่เป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก

เสียวหมี่ให้ความสำคัญทั้งด้านนวัตกรรมและคุณภาพ มุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดรวมไปถึงการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ เสียวหมี่ ไม่ลดละสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพในราคาที่เป็นจริงเพื่อมอบโอกาสให้ทุกคนบนโลกได้เพลิดเพลินไปกับการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม

ปัจจุบัน เสียวหมี่ เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 3 ของโลก และได้สร้างแพลตฟอร์ม AIoT (AI+IoT) สำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 289.5 ล้านผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสียวหมี่ วางจำหน่ายมากกว่า 90 ตลาดทั่วโลก ในเดือนสิงหาคม 2563 เสียวหมี่ ได้รับการจัดอันดับใน ”Fortune Global 500” โดยอยู่ในอันดับที่ 422 ไต่ขึ้นมา 46 อันดับจากปีที่แล้ว และบริษัทยังอยู่ในอันดับ 7 ของประเภทบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

เสียวหมี่เป็นส่วนหนึ่งของ Hang Seng Index, Hang Seng China Enterprises Index และ Hang Seng TECH Index

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ https://blog.mi.com/en/

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก