บางคนอาจเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว สำหรับคำว่า 4G VoLTE (อ่านว่า โวแอลทีอี หรือนิยมเรียกกันว่า โวลเต้) แต่สำหรับบางคนก็ยังไม่รู้ ว่ามันคืออะไรกันแน่ แล้วมันมีข้อดี ต่างจากการโทรฯปกติยังไงบ้าง ที่สำคัญคือ รุ่นมือถือและเครือข่ายที่ใช้ จะสามารถรองรับได้หรือไม่
ขอย้อนความกันหน่อย ในยุคสมัยก่อนที่การโทรยังคงเป็น 1G ไปจนถึง 3G นั้น การรับส่งข้อมูล จะแยกกันกับการโทร ก็คือการส่งสัญญาณระหว่างการโทรนั้นแยกกัน จนมาถึงยุคของ 4G LTE โดย LTE นั้น ย่อมาจาก Long-Term Evolution ที่เป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายด้วยความเร็วสูง ที่สร้างขึ้นมาเพื่อมือถือโดยเฉพาะ แน่นอนว่าการรับส่งข้อมูล ต้องเร็วแรงกว่ายุคของ GSM/GPRS/EDGE และ 3G แน่นอน
4G LTE นั้น ถึงจะเร็วแรงทะลุ 3G แค่ไหน แต่การสร้างโครงข่ายของ LTE ก็ยังไม่ได้มีช่องสัญญาณแยก สำหรับการโทรโดยเฉพาะอยู่ดี จึงทำให้เราไม่สามารถใช้ LTE ในการโทรได้เลย เมื่อมีการโทรเข้า – โทรออก สัญญาณก็จะถูกสลับมาเป็น 3G แทน ทำให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตมักจะหลุดทันที พูดง่ายๆคือ สมมติเล่นเกมอยู่ แล้วคนโทรเข้ามา ก็อาจทำให้การเล่นเกมของเราหลุดจากการเล่นได้ ประมาณนั้นครับ
ทีนี้เมื่อการโทร และการรับส่งสัญญาณข้อมูลที่มันแยกกันเนี่ย มันก็ส่งผลให้เกิดปัญหาหลายอย่าง อย่างสัญญาณที่หลุดหาย เน็ตหลุดไปดื้อๆ การเชื่อมต่อในการโทรก็ช้าไปอีก ก็เลยมีคนคิดค้นและพัฒนา VoLTE ขึ้นมา แล้วมันคืออะไรล่ะ? แล้วมันดีกว่าแบบเดิมยังไงบ้าง? วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปด้วยกัน
VoLTE คืออะไร
VoLTE หรือ 4G VoLTE นั้นย่อมาจาก Voice over LTE หรือ Voice over Long-Term Evolution เป็นการสื่อสารผ่านเสียง โดยคิดค้นต่อยอดจาก LTE ปกติขึ้นมา เพื่อให้การโทรผ่าน LTE แบบปกติได้ โดยการทำงานจะเป็น Packet Data แทนแบบ Circuit Switch และใช้ IP Multimedia Core Network Subsystem (IMS) ในการทำงานทั้งหมด พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการโทรคุยกันพร้อมกับเน็ตผ่านสัญญาณ 4G LTE ที่ยังใช้งานได้อยู่ ไม่ถูกตัดออกไปเหมือน 4G LTE แบบปกตินั่นแหละ แต่ทั้งสองเครื่องที่คุยกัน ต้องเปิดเหมือนกันด้วย
ข้อดีของ 4G VoLTE
4G VoLTE เป็นการสื่อสารที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อให้มีความสามารถในการทำงานที่ดีกว่าเดิม ดังนี้
1. คุณภาพเสียงในการสนทนา
การโทรโดยปกตินั้น อาจจะมีอาการติดขัดอยู่บ้าง อย่างเช่น สายหลุด มีสัญญาณรบกวนเข้ามาขณะคุยกันอยู่ ที่สำคัญคือเน็ตหลุดไปด้วย แต่ถ้าหากเปิดใช้ 4G VoLTE ที่มีคุณภาพเสียงสนทนา 4G HD Voice ระดับ High Definition (HD) ทำให้สามารถโทรเข้า โทรออกและคุยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสียงใสไร้สิ่งรบกวนไปเลย นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ต 4G ได้ไปพร้อมๆ กัน โดยสัญญาณจะไม่รบกวนกันเลย
2. ความรวดเร็วในการต่อสัญญาณ
ความรวดเร็วในการโทรของ 4G VoLTE นั้นมีความเร็วไม่เกิน 1 วินาที (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ รุ่นมือถือด้วย ถ้าเครื่องใหม่ๆก็จะเร็วตามไปด้วย) ถ้าอ่านแล้วสงสัยว่าไวกว่ายังไง ก็ให้ลองนึกถึงการโทรแบบปกติ ที่เป็น 3G หรือ 4G ที่แยกการโทรกับสัญญาณออก เวลากดโทรออกจะมี Dead Air อย่างน้อยก็ 1-2 วินาที ก่อนจะมีเสียง “ตื้ด” และมีคนรับสาย แต่ถ้าเป็น 4G VoLTE เมื่อกดโทรออกแล้วก็จะมีเสียง ตื้ด เลยในทันที นอกจากความเร็วแล้ว สัญญาณที่เข้าถึง ก็สามารถเข้าไปได้ในเกือบทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ในที่อับสัญญาณหรือไกลจากเสา
3. สามารถ Video Call ได้ทันที
การคุยกันผ่าน Video Call ที่เป็นภาพและเสียงพร้อมกัน ถ้าเป็น 3G หรือ 4G จะต้องใช้แอปพลิเคชัน เช่น Line Skype ฯลฯ ในการโทรคุยกันเท่านั้น แต่เมื่อเปิดใช้งาน 4G VoLTE เราสามารถเปิดการสนทนาแบบ Video Call ได้เลย ไม่เสียค่าเน็ตในการโทรหากัน ได้ภาพและเสียงที่คมชัดมาก ที่สำคัญคือ สามารถเปลี่ยนสลับ ระหว่างการโทรแบบ Voice กับ Video ได้เลยโดยไม่ต้องวางสายให้เสียเวลา
4. ไม่เปลืองแบตเตอรี่
นอกจากการโทรหากันด้วยความเร็ว ได้ความชัดเจน และยังสามารถ Video Call ได้อีก ยังประหยัดแบตเตอรี่ได้อีกเยอะกว่าเดิมด้วย เนื่องจากการใช้ 3G และ 4G ที่เป็นสัญญาณแยกกันแบบเก่านั้น โดยปกติ เวลาโทรหากันจะต้องสลับสัญญาณ ของ 3G และ 4G ขณะโทรเข้า และวางสาย ในช่วงเวลานี้ แบตเตอรี่มือถือเราจะทำงานหนักมาก ที่ต้องหาสัญญาณสลับกันไปมา แต่ถ้าหากเปิดใช้งาน 4G VoLTE การทำงานของมันจะไม่ได้ตัดอินเทอร์เน็ตไปด้วย ทำให้ยังสามารถจับสัญญาณ 4G ได้อยู่ตลอดเวลา ทั้งก่อนโทรและวางสาย จึงลดเวลาการทำงาน และลดปริมาณในการกินแบตเตอรี่ไปด้วย
การเปิดสัญญาณ 4G VoLTE
การจะใช้งานได้นั้น จำเป็นต้องเปิดการใช้งานทั้งสองเครื่อง ทั้งคนโทรออก และคนที่รับสาย ถ้าเปิดใช้งานเพียงเครื่องเดียว ก็จะไม่สามารถทำได้ และที่สำคัญไปกว่านั้น มือถือที่ใช้ต้องรองรับการเปิดการใช้งานได้ด้วย ตอนนี้ทุกเครือข่ายทั้ง DTAC AIS และ True ได้มีบริการนี้หมดแล้ว วิธีเปิดการใช้งานทั้งของฝั่ง iOS และ Android มีวิธีดังนี้
1. เปิดสัญญาณ สำหรับ iOS
การเปิดสัญญาณ ของ iOS ต้องเป็น iOS 9.3.2 ขึ้นไปเท่านั้น มีวิธีเปิดที่เหมือนกัน คือเข้าไปที่ Settings > Cellular > Cellular Data Option > Voice & Data > 4G, VoLTE On
แต่การจะเปิดสัญญาณให้ใช้ได้จริงๆ นั้น ต้องกดสมัครจากทางเครือข่ายที่ใช้งานอยู่ด้วย หากเปิดใช้งานได้แล้วให้สังเกตจากการโทรคุยกัน เครื่องหมาย 4G จะไม่หายไป แสดงว่าได้เปิดใช้งานแล้ว
2. เปิดสัญญาณ สำหรับ Android
ในส่วนของ Android แต่ละยี่ห้อ และแต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกัน แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ต้องอัพเดทเฟิร์มแวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนเท่านั้น โดยมีวิธีคร่าวๆ ให้เข้าไปที่ Setting > Mobile Network > Mobile data > เปิด VoLTE calls
ย้ำว่าแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน หากหาวิธีเปิดไม่เจอ ให้โทรหา Call Center เครือข่ายที่ใช้อยู่ หรือตรวจสอบว่ามือถือที่ใช้ รองรับการเปิดใช้งานหรือไม่
เครือข่าย DTAC AIS True และรุ่นที่รองรับ 4G VoLTE
ในแต่ละเครือข่ายก็จะมีการรองรับ ในแต่ละรุ่นของมือถือ และข้อมูลการใช้งานที่ต่างกัน รวมไปถึง การสมัครและค่าบริการต่างๆ ก็จะไม่เหมือนกัน มาดูข้อมูลของแต่ละเครือข่ายไปพร้อมๆ กันเลย
DTAC 4G Calling (VoLTE)
เครือข่าย DTAC สามารถกด สมัครใช้งาน Dtac 4G Calling | VoLTE ผ่านหมายเลข *444*41# โทรออก ส่วนวิธียกเลิกต้องติดต่อ Call Center เพื่อทำการยกเลิก ส่วนค่าบริการของ DTAC ทั้งการโทรและวิดีโอคอล จะคิดค่าบริการเหมือนการโทรปกติ ตามแพ็กเกจที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่คิดค่าอินเทอร์เน็ต หรือค่าบริการเพิ่มเติม
ยี่ห้อและรุ่นที่รองรับ
iPhone SE, iPhone 6, 6s, 7, 8, X, 11 รวมถึงตัว Plus ในทุกรุ่น
Samsung Galaxy J8, J2 Pro, Note9, A8 (2018), A8 Plus (2018), J5 Prime, S9, S9 Plus, Note 8, J7 Plus, J7 Core, S8, S8+, S7, S7 edge, S6, S6 edge, S6 edge plus, Note 5, J5 (Version 2), J7 (Version 2), A8, A5 2016 / 2017, A7 2016 / 2017, A9 Pro, S5, J7 Pro และรุ่นที่สูงกว่า
Huawei GR5 2017, Y9 2018, Mate 9, Mate 9 Pro, Mate 10 Pro, Y5, Y7, Nova 2i, P9, P9 PLUS, P10, P10 PLUS, P20, P20 Pro และรุ่นที่สูงกว่า
Oppo A3S, Find X, F7, F7 128 GB, R15, F9, F5 Youth, F5 6GB, A83, A71, F5, R9s Pro, A37, R9s และรุ่นที่สูงกว่า
Xiaomi Max3, Redmi6, A2 และรุ่นที่สูงกว่า
Nokia 1, 2, 3, 5, 6, 7 Plus, 8, 8110 และรุ่นที่สูงกว่า
Vivo Y53c, V9, X21, Y85, Y71, Y81, Y65, V7 Plus, V5s, V5 / V5 Plus และรุ่นที่สูงกว่า
Dtac Phone X3, T3, S3, Eagle X, M1, S1, S2, M2, T2 และรุ่นที่สูงกว่า
Sony Xperia Xz2, XA2 Ultra, XZs, XZ, XZ Premium, XA1 Ultra และรุ่นที่สูงกว่า
Asus Zenfone dtac edition 5.5″, Zenfone 3 5.5″, Zenfone 3 5.2″
ทั้งหมดนี้เป็นรุ่นที่ DTAC รองรับ แต่ถ้าหากไม่มั่นใจว่ารุ่นที่ใช้อยู่สามารถใช้ได้หรือไม่ ให้ลองโทรถาม Call Center ดีที่สุด
AIS HD Voice หรือ VoLTE
มาถึงค่าย AIS กันบ้าง ที่เหมือนจะเตรียมพร้อมให้สามารถใช้งานได้ดีพอสมควร สามารถกดสมัครได้ ผ่านทาง *412*1# โทรออก วิธียกเลิกการบริการ ให้กด *412*2# โทรออก ส่วนค่าบริการ คิดตามแพ็กเกจ Voice ที่ใช้งานอยู่ ไม่คิดค่าอินเทอร์เน็ตและบริการเพิ่มเติม ควรโทรสอบถาม Call Center ก่อนสมัครทุกครั้ง สามารถกดดูรุ่นมือถือที่ใช้บริการได้ โดยกด *987# โทรออก หรือตรวจสอบได้ดังนี้
ยี่ห้อและรุ่นที่รองรับ
iPhone SE, iPhone 6, 6s, 7, 8, X, 11 รวมถึงตัว Plus ในทุกรุ่น และ Apple Watch Series 3, 4, 5
Samsung Galaxy Note10+, Note 10, S10 Plus, S10, s10e, J4 Plus, A10, A10s, A2 Core, A20, A30, A50, A70, A8 Star, A80, C7 Pro, Fold, J2 Pro, J4, J5 Pro, Galaxy J6, J7 Duo, J8, M20, J6 Plus, A6, A6 Plus, S9 Plus, S9, A8 Plus, A8, Note 8, Note 5, NOTE 8.0, S8, S8+, Note FE, J7 Plus, XCOVER 4, C9 Pro, J2 Prime, Note 9, J7, S6 edge Plus, S6 edge, S7, A9 Pro, J5 Prime, J7 Prime, S7 edge J1 (2016) 4G และรุ่นที่สูงกว่า
LAVA AIS Super Smart Plus X1, Plus X2, Plus X3, BIRD E5018, W7, 4G Vol te 60, 4G 80, A3, 4G 880, AIS SUPER COMBO 4G 53, 4G IRIS A3, 4G VoLTE 656, 4G 565, 4G Volte 560, 4G Volte 755, 4G Volte 870 และรุ่นที่สูงกว่า
Huawei P30 Pro, P30, P30 Lite, Mate 20, Mate 20 Pro, Mate 20 X, Y5 Prime (2018), Y5 Lite, nova 3, P20 Pro, P20, Y9, Mate 10 Pro, Nova 2i, GR5 2017, Mate 9 Pro, Mate 9, P9, P9+, Premium Y6 2018, Y7 Pro 2018, Nova 5t, Nova 5i, Nova 5i Pro, Y5 2019, Y9 Prime 2019, Nova 4, Y6 Prime, Y7 Pro 2019, Y9 2019, P10, Nova 3i, P10+, Nova 3e และรุ่นที่สูงกว่า
VIVO NEX 3, V17 Pro, Y95, Y81, Y81i, V11, V11i, X21, Y85, Y71, Y65, V7 Plus, V7, V5 Plus, V5 Lite, Y55s, V5s, V5, Y55, Y53C, Y91, Y91i, Y91c, Y95, V15 Pro, Y17 และรุ่นที่สูงกว่า
OPPO F11, F11 Pro, Reno 10x zoom, A7, Find X, R17 Pro, A3s, F9, F7, A71 (2018), A83, F5 Youth, F5, A77, A57, A37, R15 Pro, A1k, A5s, R9s, R9s Pro, R9s Plus และรุ่นที่สูงกว่า
Sony Xperia XZ2 Premium, XZ2, XA2 Ultra, XZ1, XZs, Xperia Premium และรุ่นที่สูงกว่า
Xiaomi Mi 8, Mi 9T Pro, Mi 9T, Mi 9, Mi 9se, Redmi 7, Redmi Go, Note 7, Note 8, Note 8 Pro, Mi 8, Mi 8 Lite, Mi A2 Lite, Mi A2 Lite, Redmi 6, 6A, Redmi S2 และรุ่นที่สูงกว่า
นอกจากรุ่นที่กล่าวมา ควรสอบถามหรือกดบริการสอบถามการใช้งานจาก Call Center ก่อน
TrueMove H 4G HD Voice หรือ VoLTE
มาถึงค่ายสุดท้ายจาก True Move H ที่มีพื้นที่ให้บริการ 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย สามารถกดสมัครได้โดยกด *440*1# โทรออก ถ้าเป็น Hybrid SIM ให้กด *440*2# โทรออก ค่าบริการ จะคิดตามแพ็กเกจการโทรที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ส่วนวิธียกเลิกการบริการ ให้โทรสอบถาม Call Center เท่านั้น
ยี่ห้อและรุ่นที่รองรับ
iPhone SE, iPhone 6, 6s, 7, 8, X, 11 รวมถึงตัว Plus ในทุกรุ่น
True Smart 4G 3.5 Hybrid, Max 4.0, Max 5.0, Max 5.5 , 4G M1, 4G M1 Plus, Tab M1, HD Voice, 4G Plus, 4G Speedy 5.0, 5.0 Plus, Octa 5.5, Adventure, Gen C 4.0, C 5.0 , 5.5, P1, P1 Prime และรุ่นที่สูงกว่า
Huawei P10 , P10 Plus, Mate 9, Mate 9 Pro, P9, P9 Plus, P10, P10 Plus, GR5(2017), Nova 2i, Mate 10 Pro, Mate 10 Porsche, P20 Pro, P20, Y9, Nova 3e, Nova 3i, Nova 3,Y9 (2019), Mate 20, Mate 20 Pro, Mate 20 X และรุ่นที่สูงกว่า
Samsung Galaxy S7, S7 Edge, A5 (2017), A7 (2017), S8, S8 Plus, A9 Pro, J7 Pro, Note 8, J7+ , A8, A8+, S9, S9+, A6, A6+, A8 Star, J6, J8, J4, Note 9, A7 , J4+, J6+, J6+ และรุ่นที่สูงกว่า
OPPO R9s, A37, A71, F5, R9s Pro, F5 Youth, F5,A37 Lock sim, F7, A83, F5, A83 Lock, R15 Pro, Find X, A3S Lock, A3S (3+32), F9, R17 Pro และรุ่นที่สูงกว่า
Sony XA2 Ultra, XZ2 และรุ่นที่สูงกว่า
Vivo V7, Y65, Y53C, Y53C Lock, V11, V11i, Y81i, Y95, Y85 และรุ่นที่สูงกว่า
Honor 8X และรุ่นที่สูงกว่า
Moto One Lock SIM และรุ่นที่สูงกว่า
Nokia 2,8 และรุ่นที่สูงกว่า
ถ้านอกเหนือจากรุ่นที่กล่าวมา ควรโทรสอบถาม Call Center ก่อนการสมัครทุกครั้ง
VoWiFi
VoWiFi จะมีความคล้ายกับ VoLTE ที่โทรผ่านมือถือโดยใช้การโทรเหมือนปกติ แต่เพียงใช้บริการอินเทอร์เน็ตจาก WiFi ไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตจากมือถือเลย ข้อดีคือสามารถใช้กับพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต อย่างการอยู่ต่างประเทศ ก็จะสามารถโทรหากันได้ด้วยค่าโทรเหมือนกับราคาที่ใช้อยู่ที่ประเทศไทย
สรุป
4G VoLTE ก็คือการโทรหากัน ผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G โดยจะไม่มีการรบกวนกันระหว่างการโทร และเน็ตไม่ถูกตัดไประหว่างการโทรด้วย อีกทั้งยังได้รับความเร็ว กับความชัดในการสนทนา และสามารถ Video Call กันสลับไปมาได้ด้วย
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ 4G VoLTE ที่ได้รวบรวมมาให้รู้จักมันมากขึ้น เผื่อในอนาคตที่จำเป็นต้องใช้งาน จะได้สามารถใช้ได้อย่างไม่ติดขัด รวมไปถึงการสมัครการใช้บริการในแต่ละเครือข่าย และมือถือที่รองรับได้ ถ้ามีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจอีก specphone ก็จะรีบมาบอกกันให้รู้อีกนะครับ