เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับ HUAWEI Y9 2018 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Y Series ที่จัดเป็นตระกูลเล็กสุดของ HUAWEI อย่างไรก็ตาม HUAWEI Y9 2018 ก็ถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุดในตระกูล Y Series ทำให้มันมาพร้อมกับสเปคที่สูงในระดับหนึ่ง รวมถึงฟีเจอร์ที่สามารถต่อกรกับสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น ที่มีราคาสูงกว่าได้สบาย ๆ
สเปค HUAWEI Y9 2018
- หน้าจอ Huawei FullView Display 5.93 นิ้ว FHD+
- ชิปประมวลผล Kirin 659 octa-core 2.36 GHz
- Ram 3 GB
- ความจุ 32 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256 GB
- ถาดซิมแบบ 3 Slot (Dual Sim + Micro SD Card)
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าคู่ความละเอียด 16 + 2 ล้านพิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 8.0 base on Android 8.0 Oreo
- แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh
- มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ Black, Blue และ Gold
- ราคา 6,990 บาท
HUAWEI Y9 2018 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับจุดเด่นหลายด้าน เช่น การใส่กล้องถ่ายรูปถึง 4 กล้อง (กล้องหน้า 2 + กล้องหลัง 2) ทำให้ HUAWEI Y9 2018 สามารถถ่ายรูปในโหมดโบเก้ (โหมดหน้าชัด – หลังเบลอ) ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง หรือจะเป็นการออกแบบที่ดูหรูหราเกินราคา และยังเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน้าจอ FullView 18:9 ตามสมัยนิยมอีกด้วย
ดีไซน์มีความใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง HUAWEI nova 2i สมาร์ทโฟน 4 กล้องรุ่นก่อนหน้าพอสมควร ด้วยความที่เป็นหน้าจอแบบ FullView แบบเต็มจอ แต่จะมีขนาดหน้าจอที่เล็กกว่าเพียงเล็กน้อย ทำให้ภาพรวมของตัวเครื่องเมื่อเทียบกับ nova 2i มีขนาดที่เล็กกว่า
วัสดุตัวเครื่องใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นพลาสติกที่ออกแบบมาให้เหมือนโลหะผิวด้าน มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีทอง, สีดำ และสีน้ำเงิน น้ำหนักตัวเครื่อง 170 กรัม ถือว่าไม่หนักมากสำหรับสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดเกือบ 6 นิ้ว
รายละเอียดต่าง ๆ เริ่มจากด้านหน้าตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยหน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.93 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ 2160 x 1080 พิกเซล และด้วยความที่เป็นหน้าจอแบบ FullView ทำให้พื้นที่ตัวเครื่องด้านหน้าแทบจะเป็นหน้าจอ 100% เลยทีเดียว
ด้านบนหน้าจอประกอบไปด้วยกล้องหน้าจำนวน 2 ตัว ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และ 2 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายโหมด Portrait หน้าชัด หลังละลายได้ รายละเอียดอื่น ๆ ก็ได้แก่ ลำโพงสำหรับสนทนา และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ
ด้านล่างหน้าจอโล่ง ๆ แบบเดียวกับใน HUAWEI Mate 10 Pro คือมีเพียงคำว่า HUAWEI เพียงเท่านั้น เนื่องจากปุ่มควบคุมถูกใช้เป็นปุ่มกดแบบ Soft Key ที่อยู่ในหน้าจอ และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็อยู่บริเวณด้านหลังตัวเครื่อง
ด้านข้างมีความหนาอยู่ที่ 7.89 มิลลิเมตร จัดเป็นตัวเลขที่กำลังจับถือได้ถนัดมือ ไม่หนา และไม่บางจนเกินไป สำหรับสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รายละเอียดต่าง ๆ เริ่มจากทางด้านขวามือ ประกอบไปด้วยปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ด รองรับซิมการ์ดแบบ Nano Sim และเป็นถาดซิมแบบ 3 Slot ใส่ได้ทั้ง 2 ซิม พร้อม ๆ กับ Micro SD Card โดยรองรับ Micro SD Card ความจุสูงสุดถึง 256 GB
ด้านล่างประกอบไปด้วยพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง, ไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์ และมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรติดมาให้ด้วย
ด้านหลังประกอบไปด้วยกล้องหลังคู่ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และความละเอียด 2 ล้านพิกเซล วางคู่กันในแนวนอน ข้าง ๆ กล้องหลังมีแฟลช LED จำนวน 1 ดวง ถัดมาตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และมีเสาอากาศพาดบริเวณด้านบน และด้านล่าง
ด้วยความที่เป็นหน้าจอ HUAWEI FullView 18:9 ทำให้ขนาดตัวเครื่องพอ ๆ กับสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดตัวเครื่องที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย อีกทั้งการออกแบบที่มีความโค้งมน ส่งผลให้การจับถือทำได้อย่างสะดวก
ด้านระบบปฏิบัติการมาพร้อมกับ EMUI 8.0 ที่มีพื้นฐานบน Android 8.0 Oreo ด้านการใช้งานก็ไม่ได้มีความซับซ้อนแต่อย่างใด หน้าตา UI มีความคลีนมากกว่าเวอร์ชันก่อน ๆ สเปคที่ให้มาก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น CPU Kirin 659 octa-core 2.3 GHz, Ram 3 GB และความจุ 32 GB
โหมดกล้องแม้จะเป็น Y Series แต่ก็ให้ฟีเจอร์ในโหมดกล้องอัดแน่นไม่แพ้รุ่นใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Wide Aperture (หน้าชัด หลังเบลอ) โหมด Portrait รวมถึงโหมดลูกเล่นเจ๋ง ๆ อย่าง AR Lens และโหมด Pro ก็มีให้เลือกใช้เช่นกัน เรียกว่าใส่เต็มไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว
วันวางจำหน่าย จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ สนนราคา 6,990 บาท สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจ ก็สามารถไป Pre-Order ล่วงหน้าผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟน HUAWEI ได้ตั้งแต่วันที่ 16 – 29 มีนาคม 2561 โดยการพรีออเดอร์จะมีค่าจองเครื่อง 1,000 บาท และจะได้รับของแถมพิเศษเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉิรยะ HUAWEI Body Fat Scale มูลค่า 2,990 บาท แถมให้ฟรี ๆ เฉพาะคนที่พรีออเดอร์เท่านั้น