สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนที่ตั้งอกตั้งใจรอคอยเกม Pokemon Go มาอย่างยาวนาน ดูเหมือนว่า Niantic Labs จะสับขาหลอกพี่น้องชาวไทยเสียเหลือเกิน เพราะมีข่าวหลุดออกมามากมาย บางทีก็แอบให้เล่นวับ ๆ แวม ๆ แต่ยังไงตอนนี้เกม Pokemon Go ก็ยังไม่เปิดให้เล่นในประเทศไทยเสียที
วันนี้เรามาดู 40 ทริค ที่จะช่วยให้เล่น Pokemon Go ได้ง่ายขึ้น เผื่อวันไหน Niantic Labs เปิดให้ประเทศไทยเล่น Pokemon Go อย่างเป็นทางการ จะได้เอาไปใช้กันครับ
1.จับปิกาจูเป็นโปเกม่อนตัวแรกตอนเริ่มเล่น
เมื่อตอนเริ่มเกมหากเราคุยกับศาสตราจารย์ Willow เสร็จแล้ว จะมีโปเกม่อนให้เราเลือกได้ทั้งหมด 3 ตัว นั่นคือ Charmender, Squirtle และ Bulbasaur แต่ถ้าหากผู้เล่นคนไหนที่อยากได้ปิกาจูมาเป็นตัวเริ่มก็ไม่ต้องสนใจโปเกม่อนทั้ง 3 ตัวนี้ เพียงแค่เดินออกจากพื้นที่ที่เราอยู่ตอนนั้นให้ไกลออกไปพอสมควร แล้วจะได้เจอโปเกม่อนโผล่มาเรื่อยๆ ตามทาง ปล่อยให้โปเกม่อนโผล่ออกมาเรื่อยๆ จนครบ 3 ครั้ง พอถึงครั้งที่ 4 เจ้าปิกาจูก็จะออกมาปรากฎตัวให้เราจับแล้ว
2. วิธีหา Poke Balls มาแบบฟรี ๆ
เราจะได้ Poke Balls มา 50 ลูกเมื่อเริ่มเกม และจะได้เพิ่มทุกครั้งเมื่อเราเพิ่มเลเวลขึ้น แต่มันก็อาจไม่เพียงพอหากเราจับโปเกม่อนพลาดบ่อย ๆ ดังนั้นเราจึงต้องไปเยือนที่จุด PokeStops เพื่อไปรับ Poke Balls เพิ่มขึ้น
3. มีของฟรีที่ PokeStops
เมื่อคุณมาถึงจุด PokeStop และเปิดเข้าไป เราก็จะได้ไข่มา ซึ่งไข่นี้เราก็จะสามารถฟักได้ แต่วิธีการฟักไข่นั้นจะต้องเดินให้ได้ระยะทางตามที่กำหนดไว้ ซึ่งการเดินฟักไข่นั้นมีทริคโกงได้เช่นกัน แต่ไม่ขอพูดนะครับ ใบ้ให้แล้วไปหากันเองนะ อิอิ
4. เอา Poke Balls ที่ขว้างพลาดกลับคืนมา
หากเพื่อน ๆ โชคร้ายขว้างไม่แม่น หรือรู้ตัวทันว่าที่เราขว้างไปนั้นไม่โดนแน่ ๆ ให้เพื่อน ๆ รีบแตะที่ Poke Balls ให้ทันก่อนที่จะเปิดออกเพื่อขว้างใหม่อีกครั้ง (อันนี้ช่วยให้ประหยัดได้เยอะเลย)
5. PokeStops จะอัพเดตทุก ๆ 5 นาที
PokeStops นี้เป็นคลังที่มีหลากหลายไอเทม ทั้ง Pokeball เหรียญ Pokecoins ไขโปเกม่อน EXP และอื่น ๆ ที่อาจทำให้เราเซอร์ไพรส์กันนะครับ ในแผนที่จะมี PokeStops ใกล้กันมาก ใครอยู่ใกล้ ๆ ก็ไล่เก็บให้หมด เพราะ มันจะมีการอัพเดตประมาณทุก ๆ 5 นาที แบบไม่มีลิมิตตลอดทั้งวัน
6. Pokemon ที่ซ้ำกัน จับมาให้หมด!
ผู้เล่นหลาย ๆ คนอาจมองข้ามโปเกม่อนตัวที่ซ้ำกับที่เคยจับมาแล้ว แต่การพัฒนาร่างของโปเกมอนนั้นต้องใช้ Candy และโปเกม่อนแต่ละตัวก็จะมี Candy เป็นของตัวเอง ดังนั้นการจะพัฒนาร่างโปเกมอน จะต้องจับโปเกมอนตัวนั้นๆ ซ้ำให้ได้เยอะ และการเปลี่ยนโปเกมอนตัวนั้นๆ ไปให้กับ ศาสตราจารย์ Willow เพื่อให้เป็นเป็น Candy นั่นเอง
7. อย่ามองข้ามโปเกม่อนตัวที่พลังน้อย
หากผู้เล่นได้พบกับ Pidgey, Caterpie, Weedle, Zubat, Ratata และตัวอื่น ๆ อีกที่ดูพลังน้อยกว่าชาวบ้านเขาก็อย่าไปมองข้ามนะ จับมาให้หมด เพราะเราสามารถนำไปแลก Candy กับศาสตราจารย์ได้ ท่องไว้นะครับ “Catch ’em all!”
8. แลกเปลี่ยนโปเกม่อนพลังน้อยไปให้ศาสตราจารย์
หลังจากที่เล่นไปได้ซักพัก เราก็จะจับโปเกม่อนตัวที่ด้วยกว่าตัวอื่นได้ตามจากข้อที่ 7 ใช่ไหมล่ะครับ ทีนี้เราเพียงแค่เพิ่มค่า CP ให้เพียงพอต่อการพัฒนาร่างของโปเกม่อนแต่ละตัว แล้วนำไปแลกเปลี่ยนกับศาสตราจารย์ได้ อย่างเช่นจะแลกตัว Pidgey จะต้องใช้ Pidgey Candy จึงจะสามารถส่งให้ศาสตราจารย์ได้
9. ใช้ Nearby Radar ติดตามจับโปเกม่อนที่แอบอยู่ใกล้เคียง
ในเมนู Nearby ที่อยู่มุมล่างขวาของจอนั้น จะเป็น Radar ที่จะบอกให้เรารู้ถึงการเคลื่อนไหวของโปเกม่อนที่อยู่ใกล้เคียง สามารถมองได้จากรอยเท้า เพราะยิ่งมีรอยเท้าน้อย เราก็จะมีโอกาสเจอกับโปเกม่อนสูงขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดวงของผู้เล่นด้วยแหละ แต่ถ้าเห็นรอยเท้ามีแค่รอยเดียว นั่นก็หมายความว่าเรามีโอกาสได้เจอสูงมาก เพราะมันอยู่ห่างเราไม่มากแล้ว
10. ปิด AR เพื่อให้จับ Pokemon ง่ายกว่าเดิม
การจะจับโปเกม่อนให้ได้ซักตัวนั้น ต้องใช้ทักษะการขว้างลูกบอลออกไป เพราะฉะนั้นหากเปิด AR เหรือเปิดกล้องเพื่อความสมจริงนั้น อาจทำให้เราลายตา และจับโปเกม่อนได้ยากขึ้น เมื่อปิดโหมดนี้ ฉากหลังจะเป็นสีเขียว ๆ จะทำให้สามารถกะระยะได้ง่ายกว่าเดิม ไม่เปลืองลูกบอล
11. สีวงแหวนบอกความยากง่ายในการจับได้
หากเรากำลังจะจับโปเกม่อนนั้น จะมีเป้าเล็งที่ตัวโปเกม่อนเป็นสีต่าง ๆ คือสีเขียว เหลือง ส้ม และแดง ซึ่งเป็นตัวบอกความง่าย-ยากตามลำดับ นั่นคือสีเขียวจับได้ง่ายสุด ส่วนสีแดงจับยากสุดนั่นเอง
12. วิธีจับโปเกม่อนให้ได้ “Nice!”, “Great!”, หรือ “Excellent!”
ทริคนี้ค่อนข้างมีประโยชน์มากสำหรับมือใหม่หัดเล่น เพราะถ้าหากไม่รู้นั้นอาจทำจับไม่สำเร็จ และมันจะหนีไปในที่สุด เสียทั้งโปเกม่อน เสียทั้งบอล
ขั้นแรกหากพบโปเกมม่อนที่จะจับแล้ว เราก็จะพบกับวงแหวนที่เอาไว้เล็งตามที่เคยบอกในข้อที่แล้ว ให้เราเล็งเบ้ขวามเล็กน้อยตามภาพด้านล่าง จะทำให้จับโปเกม่อนได้ง่ายดายกว่าเดิม ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูกันนะครับ
นอกจากนั้นยังมีไอเทมที่สามารถช่วยให้เราจับโปเกมอนได้ง่ายขึ้น นั้นก็คือ Razz Berries ไว้ใช้เพื่มโอกาสในการจับโปเกม่อน และลูกบอลพิเศษอย่าง Great Balls , Ultra Balls เเละ Master Balls ให้จับได้อยู่หมัด
13. ดอกไม้ชมพูรอบ ๆ PokeStop แสดงว่ามีบางคนใช้ไอเทม Lure อยู่
ถ้าหากเราเข้าไปใกล้ ๆ PokeStop แล้วพบดอกไม้ชมพูอยู่รอบ ๆ แสดงว่ามีคนใช้ไอเทม Lure อยู่ หวานหมูแล้วล่ะ เพราะไอเทมนี้จะสร้างเเรงดึงดูดเหล่าโปเกม่อนที่อยู่ใกล้ ๆ บริเวณที่เราใช้งานอยู่ให้เข้ามาหาเยอะ ๆ บริเวณ PokéStop ในเวลาที่จำกัด ทำให้มีโอกาสเจอโปเกม่อนมากขึ้น รีบ ๆ เข้าไปจับเลยครับ
14. ใช้แผนที่ในเกมนำทางได้เลย (จริงจังนะเนี่ย)
หากต้องเดินทางไปตามซอกซอยในมุมเมือง มองในแอพพลิเคชั่น Map ก็ดูจะไม่เข้าที ใช้ Map ในเกม Pokemon GO นำทางซะเลย เพราะตัวแผนที่ก็ตรงกับแผนที่จริง ๆ อยู่แล้ว แต่สามารถมองได้ง่ายกว่ามาก ลองนำไปใช้ดูซิ่ครับ
15. สังเกตเสียงรองเท้าดี ๆ นั่นแหละมีโปเกม่อนซ่อนอยู่
หากกำลังเดินตามหาโปเกม่อนอยู่ แล้วได้ยินเสียงอะไรแปลก ๆ หรือมีจุดอะไรเคลือนไหวแวบ ๆ นั่นแหละมีโปเกม่อนซ่อนอยู่แน่ ๆ ตามไปหาเลย เตรียม PokeBalls ไว้เผื่อด้วยนะ
16. ไม่ชอบชื่อเดิม อยากเปลี่ยนชื่อโปเกม่อนก็ได้นะ
เบื่อไหมกับโปเกม่อนที่ชื่อซ้ำ ๆ เดิม สามารถเปลี่ยนให้เป็นชื่อที่เราชอบได้ด้วยนะ เพียงแค่แตะหนึ่งครั้งที่ชื่อของโปเกม่อน หลังจากนั้นก็ตั้งได้ตามใจชอบเลย
17. Evole ปุ่มเพิ่มพลังให้กับ Pokemon
หากเราทำการพัฒนาร่างของโปเกม่อน ก็จะทำให้คา CP เเละ HP สูงขึ้นด้วย เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องดูด้วยว่า โปเกม่อนของเราสามารถพัฒนาร่างได้หรือเปล่า หากโปเกม่อนตัวไหนสามารถพัฒนาร่างได้ ก็จะมีปุ่มให้กด Evolve ได้
เงื่อนไขในการพัฒนาร่างก็คือต้องมี Candy ของโปเกมอนชนิดนั้น เช่นหากจะพัฒนาร่าง Pidgeotto ให้เป็น Pidgeot จำเป็นต้อง มี 50 Pidgey Candy (จากโปเกม่อนชนิดเดียวกัน) ซึ่งเราจะได้รับก็ต่อเมื่อจับ เจ้า Pidgey ส่งให้กับศาสตราจารย์ โดยโปเกมอนเเต่ละตัวจะใช้ Candy ไม่เท่ากัน
18. การ Evole เพิ่มค่า XP ได้ด้วย
19. ใช้ Stardust และ Candy เพิ่มพลังให้กับโปเกม่อน
การเพิ่มพลังให้โปเกม่อนโดยวิธีนี้ Candy เเละ Stardust ในการเพิ่มค่า CP ให้กับโปเกมอน ซึ่ง Candy ที่นำมาใช้ต้องมาจากการจับโปเกมอนเท่านั้น เเละต้องเป็น Candy ของโปเกมอนชนิดนั้น ๆ ด้วย ส่วน Stardust หาได้จาก Pokestop ทั่วไป ในการเพิ่มค่าโดยวิธีนี้จะใช้เพียง 1 Candy เท่านั้นต่อการเพิ่ม 1 ครั้ง
20. มีสองวิธีที่จะได้ Stardust มา
วิธีแรกคือการจับโปเกม่อน ก็จะได้ 3 Pokemon Candy เเละ 100 Stardust ส่วนวิธีที่สองคือการป้องกันยิม จะได้ 500 stardust ต่อ 1 ยิมที่เราป้องกันได้ พร้อมเหรียญในเกมอีกด้วย ซึ่ง stardust นี่เองที่จะมาใช้เพิ่มค่า CP ให้กับโปเกม่อนของเรา
นี่เป็นเพียงทริคเพียงเล็กน้อยที่เรารวบรวมมาให้เพื่อน ๆ ได้ศึกษาดูเพื่อเป็นการคั่นเวลาก่อนที่ตัวเกมจะเปิดให้เล่นแบบเป็นทางการ เพื่อน ๆ รอติดตามทริคเพิ่มเติมจากเราใน part 2 เร็ว ๆ นี้ ใครที่อยากจะเป็นเทรนเนอร์พลาดไม่ได้เลยนะครับ
ที่มา : PhoneArena