นี่ก็เป็นบทความที่สามของเราจากการไปร่วมงานเปิดตัว ASUS Zenfone 2 ที่จาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียแล้วนะครับ ซึ่งถือเป็นบทความพิเศษมากๆ เพราะเป็นบทสัมภาษณ์คุณ Jerry Shen ซีอีโอใหญ่ของ ASUS (จากภาพด้านบน คือคนที่ถือ Zenfone 2 อยู่ในมือ) ที่ทีมงาน SpecPhone เราได้รับโอกาสพิเศษสุดๆ และเป็นสื่อไทยหนึ่งเดียวที่ได้เข้าสัมภาษณ์อีกด้วยครับ บอกเลยว่าโอกาสนี้หาไม่ได้ง่ายๆ กับการที่จะได้นั่งพูดคุยกับซีอีโอใหญ่ รวมถึงผู้บริหารระดับท็อปอย่างนี้ ติดอยู่ที่เวลาค่อนข้างจำกัดไปหน่อย เพราะต้องบอกเลยว่าคิวของคุณ Jerry แน่นมากๆ การสัมภาษณ์เลยต้องค่อนข้างกระชับกันซักเล็กน้อย เรามาดูกันไปทีละข้อเลยแล้วกันครับ
ภาพรวมและการเติบโตของ Zenfone ในปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างครับ แล้วในปีนี้ ทาง ASUS ตั้งใจจะไปโฟกัสที่ตลาดไหนเป็นพิเศษบ้าง?
ในปีที่ผ่านมา เราเริ่มทำตลาดในไต้หวัน จากนั้นก็เป็นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, เวียตนาม, ไทย) แล้วค่อยมาเป็นอินเดีย ซึ่งผู้คนก็ให้การตอบรับกับ Zenfone เป็นอย่างดี รวมถึงในด้านยอดขายก็ทำได้ดีเช่นกัน จัดว่าเป็นปีแรกที่น่าประทับใจมากๆ สำหรับพวกเรา ส่วนตลาดที่จะเน้นในปีนี้ ก็ยังคงเน้นกลุ่มแรกนี้ไปก่อนครับ เพราะถือเป็นกลุ่มที่มีให้ความสนใจในตัว Zenfone มาโดยตลอด และเราน่าจะได้เห็นการขยายไปยังตลาดอื่นๆ ด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม: ตอนนี้ Zenfone เป็นมือถือเครื่องเปล่าที่ยอดขายสูงสุดในญี่ปุ่น
ทำไม ASUS ถึงเลือกที่จะทำตลาดมือถือในกลุ่มราคากลางๆ เป็นหลัก แทนที่จะไปเน้นทำราคาสูงอย่างหลายแบรนด์ และในมุมมองของ ASUS เองคิดว่าใครคือคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุด เพราะอะไร?
ต้องเริ่มตั้งแต่กระบวนการออกแบบเลยครับ ตัวผมได้พูดคุยหารือกันในระหว่างหลายๆ ทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมฮาร์ดแวร์ ทีมซอฟต์แวร์ ทีมทำแอพพลิเคชัน ทีมทำ UI ทีมกล้อง และทีมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ ว่าจุดมุ่งหมายที่สำคัญสุดของเราคือการสร้างประสบการณ์การใช้งานอันยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า ให้ได้ในระดับเดียวกับ Apple และ Samsung ที่ทำในส่วนนี้ได้ดีในระดับของผลิตภัณฑ์กลุ่มไฮเอนด์ ซึ่งก็คือเราต้องการมอบความหรูหราครบครันในแบบ Empowering Luxury ให้กับผู้ใช้งานทุกท่าน ซึ่งถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเราอยากให้สินค้าของเรามีพลังในแบบที่ Apple และ Samsung ทำได้ เราต้องการให้ลูกค้าของเราทุกๆ ท่านรู้สึกสนุกและอินไปกับผลิตภัณฑ์ที่เกิดมาจากความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ ASUS เรา
แต่ในขณะเดียวกัน เรื่องของราคาก็เป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นเดียวกัน เราต้องการให้ราคาผลิตภัณฑ์ของเราออกมาสมเหตุสมผล ไม่แพงจนเกินไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นราคา Zenfone 2 ในจีน เราก็เปิดมาที่ 1,999 หยวน (ประมาณหมื่นต้นๆ) ซึ่งเรามองว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ามากๆ ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย และก็เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้งานอันยอดเยี่ยม ที่เราตั้งใจสร้างสรรค์มันขึ้นมาสำหรับทุกๆ คนได้ง่ายอีกด้วย ทำให้เราต้องสร้างสมดุลให้ดีระหว่างการมอบประสบการณ์ที่ดี กับราคาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม สำหรับกระบวนการนี้ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างยากพอสมควร กับการสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ โดยที่ทำราคาออกมาไม่ให้สูงเกินไป
ดังนั้นเราจึงต้องเน้นทำราคาในระดับกลางๆ เป็นหลักครับ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของเรา
ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุด ผมมองว่าโลกของมือถือมันจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ หนึ่งคือกลุ่มที่เน้นประสบการณ์การใช้งาน ซึ่งทางทีมงานเราก็จะเน้นกลุ่มนี้ในด้านของการพัฒนา ZenUI และกล้องของ Zenfone 2 ให้ออกมาได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาซักเท่าไรก็ตาม เพื่อให้สามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีในระดับเดียวกับ Apple และ Samsung ทำได้
อีกกลุ่มก็คือกลุ่มที่เน้นด้านราคา ตรงนี้ เนื่องจากผมต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความพิเศษสุดๆ ในแง่ของการมอบประสบการณ์การใช้งานอันยอดเยี่ยมให้กับผู้ใช้งาน แต่มาในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ซึ่งที่ผ่านมา เราก็ทำราคา Zenfone ออกมาได้ดี สามารถแข่งกับผู้ผลิตรายอื่นได้สบายในตลาดหลายๆ ประเทศ เนื่องด้วยราคาก็ออกมาไล่ๆ กัน เพราะฉะนั้นผมมองว่าคู่แข่งในตลาดกลุ่มนี้คงจะไม่มีใครที่เรามองว่าโดดเด่นขึ้นมาเท่าไหร่นัก ถ้าให้ผมตอบเป็นชื่อเลย ผมคงต้องบอกว่าคู่แข่งของ ASUS ก็คือ ASUS เองนี่แหละครับ ซึ่งก็เป็นการต้องแข่งกับตัวเองในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ายิ่งขึ้นกว่าที่เราเคยทำมาแล้วนั่นเอง
จากปีที่ผ่านมา หลังจาก Zenfone รุ่นแรกวางขายในไทย การตอบรับก็ดีมากๆ และสร้างกระแสของมือถือสเปคคุ้มค่า ราคาไม่แพง พร้อมงานประกอบในระดับคุณภาพที่ดีมาแล้ว คุณ Jerry คิดว่าปีนี้ Zenfone 2 จะทำได้เหมือนปีที่แล้วหรือเปล่า?
ในแง่ของประสิทธิภาพนั้น Zenfone 2 เลือกใช้ชิปประมวลผล Intel ที่มีการพัฒนาทั้งในส่วนของพลังการประมวลผลให้แรงขึ้น 2-3 เท่า และการประมวลผลกราฟิกที่แรงขึ้นถึง 4 เท่า ส่วนของกล้องก็เพิ่มความละเอียดกล้องหลังเป็น 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้าเป็น 5 ล้านพิกเซล แถมยังมีเทคโนโลยี PixelMaster 2.0 มาให้ทั้งคู่อีก ต่างจากใน Zenfone รุ่นแรกที่มีมาให้แค่เฉพาะในกล้องหลังเท่านั้น ทำให้การถ่ายรูปเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าทำได้ง่ายและมีคุณภาพมากขึ้น ส่วนการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังก็ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยโหมดใหม่ๆ เช่น Super HDR และคุณภาพของส่วนประกอบต่างๆ ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ด้านของอินเตอร์เฟสเราก็มี ZenMotion เพิ่มเข้ามา
ตัวผมเองมองว่า Zenfone 2 เป็นรุ่นที่ก้าวกระโดดจาก Zenfone รุ่นแรกในหลายด้านจริงๆ และจะสร้างกระแส สร้างความสนใจให้ได้ยิ่งกว่าปีที่แล้วเสียอีก
ในมุมมองของคุณ Jerry คิดว่าอะไรเป็นจุดแข็งที่สุด และคิดว่าอะไรเป็นฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Zenfone 2?
เราได้สร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาใน Zenfone 2 นั่นคือขอบตัวเครื่องที่บางเพียง 3.9 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้ได้ทั้งในเรื่องของความเพรียวบางและความสวยงาม ส่วนในเรื่องของสเปคและประสิทธิภาพครับ จากการที่เราเปิดตัว Zenfone 2 ครั้งแรกในงาน CES 2015 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เราได้สร้างมาตรฐานในแง่ของสเปคขึ้นมาใหม่ ในส่วนของ CPU และ GPU ที่มีประสิทธิภาพ กล้องก็ได้รับการพัฒนาขึ้นจากเดิม และที่สำคัญคือแรม ทำให้ Zenfone 2 เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีแรมมาให้ถึง 4 GB ในตัว ตรงจุดนี้ต้องบอกเลยว่าเราได้เดินนำผู้ผลิตรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Samsung, LG รวมถึงผู้ผลิตชิปเซ็ตอย่าง Qualcomm เองก็ตาม และเชื่อได้เลยว่ากว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ จะตามเรามาทัน ก็คงไม่ต่ำกว่าช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของปีนี้เลยทีเดียว (ถึงตอนนั้น Zenfone 2 ก็คงขายไปเยอะแล้ว) ดังนั้นจึงคงต้องบอกว่าจุดแข็งของ Zenfone 2 นั้นคือแทบจะเป็นทุกองค์ประกอบเลยก็ว่าได้ครับ
นอกจากนี้ในโมเดล ZE551 ยังรองรับการชาร์จไฟแบบเร็ว (BoostMaster) ที่สามารถชาร์จแบตได้ 60% ในเวลา 39 นาที ซึ่งผมจัดว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Zenfone 2 เลย
ทางทีมงานเรามีแผนจะเดินทางไปงาน Computex 2015 ที่ไต้หวันด้วย คิดว่าในงานนี้ ASUS จะมีอะไรเซอร์ไพรส์ หรือมีเปิดตัวอะไรใหม่หรือเปล่า? จะมี Zenfone ตัวใหม่มาอีกมั้ย?
แน่นอนครับ งานนี้บอกเลยว่ามีเซอร์ไพรส์แน่ๆ อันนี้ผมขอบอกเป็นคำใบ้คร่าวๆ ก่อนแล้วกันนะ คือเราจะมีเปิดตัวโน้ตบุ๊คใหม่ 1 รุ่น คอมพิวเตอร์ออลอินวัน 1 รุ่น มือถือ 1 รุ่น แท็บเล็ต Fonepad อีก 1 รุ่น แน่นอนว่ารอดูกันได้เลย (แถมไม่แน่ อาจจะมีเปิดตัวมากกว่านี้อีกก็ได้)
นอกจากนี้คุณ Jerry และทีมผู้บริหารยังเปิดโอกาสให้ทางเราได้ลองเล่น ลองใช้งาน Zenfone 2 และอุปกรณ์เสริมทั้งหมดกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น Zenflash, Lolliflash, ZenPower ให้ลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ จากในเครื่องส่วนตัวที่คุณ Jerry ใช้อยู่เองกับมือ ทั้งยังแนะนำการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาใน Zenfone 2 ด้วยตนเองอีก งานนี้เรียกว่า exclusive สุดๆ ครับ กับการที่ซีอีโอเปิดให้พูดคุย และสอนการใช้งานต่างๆ ด้วยตนเองเลย ซึ่งต้องบอกเลยว่าคล่องมากๆ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากคุณ Jerry เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ ASUS มาก่อน ซึ่งผลงานก่อนหน้านี้ก็คือตัวของเน็ตบุ๊ก Eee PC ที่หลายท่านคงจะพอคุ้นเคยกันอยู่บ้างนั่นเอง เลยทำให้ท่านเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี
สำหรับภาพในแกลเลอรี่ด้านล่างนี้ก็เป็นบรรยากาศระหว่างช่วงสัมภาษณ์และตอนลองใช้งาน Zenfone 2 ครับ บอกเลยว่าเป็นกันเองสุดๆ
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทาง ASUS ประเทศไทยด้วยนะครับ สำหรับโอกาสดีๆ และการอำนวยความสะดวกในการพาเดินทางไปร่วมงานเปิดตัว ASUS Zenfone 2 ที่อินโดนีเซียในครั้งนี้ และยังเปิดโอกาสให้ได้สัมภาษณ์พูดคุยกับซีอีโอใหญ่อีก ซึ่งถือเป็นโอกาสพิเศษมากๆ ทางทีมงาน SpecPhone ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ 🙂