ทุกวันนี้ หูฟัง Bluetooth ไร้สายก็เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องด้วยความสะดวกในการใช้งาน ไม่มีสายมาเกะกะรุงรัง ทั้งความง่ายในการแพร์ การใช้งานก็ดีกว่าเมื่อก่อนมาก ราคาก็ไม่สูงเกินไป ทำให้หลายๆ ท่านเริ่มจะมองหาหูฟัง Bluetooth มาใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตกันเรื่อยๆ แต่ในเรื่องที่ยังกังวลกันอยู่ก็คือเรื่องของคุณภาพเสียง ว่าจะทำได้ดีเหมือนกับหูฟังที่มีสายตามปกติมั้ย สัญญาณจะดรอปหรือเปล่า มีดีเลย์ขนาดไหน
ซึ่งในวันนี้ ทางเราก็มีหูฟัง Bluetooth รุ่นหนึ่งมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกัน ไม่ใช่แบรนด์ไก่กาที่ไหนด้วย มันคือ Beats กับรุ่น?Powerbeats2 Wireless?จะน่าสนใจขนาดไหน มาดูข้อมูลที่น่าสนใจบางส่วนกันก่อนครับ
- เป็นหูฟังแบบ In-ear เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต/คอมพิวเตอร์ผ่านทาง Bluetooth ได้ไกลสุดประมาณ 30 ฟุต (ประมาณ 9 เมตร)
- ภายในหูฟังแต่ละข้าง มีไดร์เวอร์ขับเสียงถึง 2 ไดร์เวอร์ ให้เสียงครบถ้วนทั้งย่านเสียงสูง เสียงกลาง และเสียงเบสที่หนักแน่นตามสไตล์ Beats
- กันน้ำในระดับมาตรฐาน IPX4 กันน้ำกระเด็นใส่ได้ทุกทิศทาง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ 6 ชั่วโมงต่อเนื่อง ชาร์จไฟผ่านสาย Micro USB
- มีรีโมทคอนโทรลที่สาย ใช้เป็นสมอลล์ทอล์คได้
- น้ำหนัก 24 กรัม
- ความยาวสาย 50 เซนติเมตร
- มีให้เลือก 5 สีคือ ดำ, แดง, น้ำเงิน, ชมพู-เทา และสีขาว
- ราคา 8,900 บาท
ทีนี้มาดูดีไซน์กันบ้าง
Design
ตัวของ Beats Powerbeats2 Wireless เป็นหูฟังแบบ In-ear ซึ่งจะแยกออกเป็นสองชิ้นหลักๆ เชื่อมต่อกันผ่านสายเส้นแบน เวลาใส่ ด้านที่เป็นโลโก้ Beats จะหันออกด้านนอก ซึ่งก็ไม่ยากอะไร เพราะที่ตัวหูฟังแต่ละข้างจะมีบอกอยู่แล้วว่าชิ้นไหนสำหรับด้านซ้าย (L) และชิ้นไหนสำหรับด้านขวา (R) โดยแต่ละข้างจะมีสายสำหรับคล้องใบหูอยู่ ซึ่งใช้วัสดุหลักเป็นยาง ทำให้สามารถบิดงอได้เล็กน้อย สามารถจัดเข้ารูปกับใบหูของผู้ใช้ได้ง่าย ตอนใส่ก็ไม่รู้สึกระคายเคือง หรือบีบใบหูแต่อย่างใด รับรองว่าใช้งาน Powerbeats2 Wireless กันได้แทบทุกคนแน่นอน
ส่วนที่ตัวหูฟังเองนั้นจะใช้วัสดุเป็นพลาสติกเนื้อแข็ง งานประกอบจัดว่าดีพอสมควร ดูแน่นหนา แต่ไม่หนักมือ ทำให้สามารถใส่นานๆ ได้แบบไม่ปวดเมื่อยหรือล้าใบหูอย่างที่คิด ตัวจุกยางสามารถถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งในกล่องก็จะมีจุกยางสำรองมาให้อีก 3 คู่ หรือจะใช้จุกยางอื่นๆ ก็ได้ เพราะ Beats Powerbeats2 Wireless ก็ใช้จุกยางในขนาดท่อเสียงปกติ ไม่ได้ใช้ท่อเล็กพิเศษ ทำให้สามารถหาซื้อมาเปลี่ยนแทนได้ค่อนข้างง่าย จะไปหาจุกโฟม จุกยางสองชั้นมาใช้งานก็ได้ ไม่ว่ากัน โดยจุกที่ให้มาก็เป็นสีเทาขาวตามโทนสีของหูฟังครับ ตัวที่ทางเราได้มาเป็นรุ่นสีขาว ก็เลยได้จุกสีขาวตามภาพ
จุดที่สำคัญของ Powerbeats2 Wireless จะอยู่ที่หูฟังข้างซ้าย ซึ่งเป็นที่รวมของทั้งสวิทช์เปิด (ภาพขวาบน) ซึ่งถ้าหากปิดอยู่ แล้วกดค้างไว้เล็กน้อย ก็จะเป็นการเปิดใช้งาน โดยไฟ LED ที่เห็นเป็นจุดสีดำเล็กๆ นั้นก็จะขาวสว่างขึ้นมา แต่ถ้าหากกดค้างไว้ 4 วินาที ก็จะเป็นการสั่งให้หูฟังเปิดรับการเชื่อมต่อ เพื่อแพร์เข้ากับมือถือ ส่วนด้านล่างก็จะมีช่อง Micro USB ซึ่งมีฝายางปิดอยู่ ช่องนี้ใช้สำหรับชาร์จไฟให้กับหูฟังโดยเฉพาะ ในระหว่างชาร์จ ไฟ LED ด้านบนก็จะติดขึ้นมาเป็นสีแดง ส่วนถ้าชาร์จจนเต็มแล้ว ไฟก็จะเป็นสีขาวครับ ดูไม่ยาก จากที่ชาร์จระหว่างใช้งาน พบว่าชาร์จได้เร็วดี ส่วนถ้าใครรีบ ชาร์จเพียง 15 นาที ก็สามารถใช้งานได้ราว 1 ชั่วโมงแล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงหน่อยก็คือตรงฝาปิดที่เป็นยางนี่ล่ะครับ ว่าหลังจากใช้ไปนานๆ แล้ว จะกรอบ เปื่อย หรือขาดออกจากตัวหูฟังหรือเปล่า โดยเฉพาะถ้าโดนเหงื่อเยอะๆ ระหว่างใช้งาน อันนี้ก็คงต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดกันซักหน่อย น่าจะลดปัญหานี้ลงไปได้พอสมควรครับ
สำหรับไฟแสดงปริมาณแบตเตอรี่ จะมีให้สังเกตด้วยกัน 3 แบบคือ
- ไฟสีขาว: แบตเตอรี่ปกติดี
- ไฟสีแดง: ใช้งานได้อีกประมาณ 1 ชั่วโมง
- ไฟสีแดงกระพริบ: ใช้งานได้อีกประมาณ 15 นาที
แต่ถ้าหากเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอยู่ ปกติแล้วจะมีการแสดงปริมาณแบตเตอรี่คร่าวๆ ให้ดูจากในมือถืออยู่แล้ว ส่วนตัวผมใช้ฟังเพลงติดต่อกันเกือบจะตลอดเวลา ก็สามารถใช้งานได้ประมาณ? 4 ชั่วโมง โดยที่แบตของหูฟังยังเหลืออีกประมาณ 25%
บริเวณกึ่งกลางสายก็จะมีหมุดพลาสติกสำหรับร่นสายให้เหมาะกับการใช้งานอยู่ ซึ่งสามารถยึดได้แน่นหนามาก รับรองว่าไม่เลื่อนหลุดง่ายๆ แน่นอน ส่วนถ้าใครอยากจะเอาหมุดนี้ออก ก็สามารถดึงสายหูฟังออกมาทางช่องด้านข้างได้เลย ส่วนเรื่องคุณภาพของสายหูฟังนั้น ก็จัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดี สายหนา แน่น เหนียว ดูแล้วน่าจะทนทานพอสมควร ทั้งยังเป็นสายแบน ซึ่งช่วยลดปัญหาเรื่องสายพันกันได้ดีอีกด้วย จะติดก็แค่มันเป็นสายสีขาว ซึ่งอาจจะมีคราบสะสมให้สังเกตได้ง่ายซักหน่อยเท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นรุ่นสีอื่น คงไม่มีปัญหาอะไรครับ ยิ่งถ้าใครใช้สีดำนี่คงสวยน่าดู หูฟังสีดำ สายดีแดงตามสไตล์ Beats
ทีนี้มาดูตอนใส่ใช้งานจริงกันบ้าง สำหรับการสวมใส่ Beats Powerbeats2 Wireless ก็ไม่ยากเลย เพียงแค่คล้องก้านยางเข้าไปหลังใบหู จากนั้นก็ค่อยใส่หูฟังเข้าไป ซึ่งเท่าที่ลองใช้งานในระหว่างรีวิวดู ก็สามารถใส่ใช้งานได้ดี กระชับ ไม่หลุดง่ายๆ แม้ในระหว่างวิ่ง ออกกำลังกาย ทำให้เหมาะเป็นทั้งหูฟังที่ใส่ฟังเพลงในระหว่างทำกิจกรรมตามปกติ หรือจะในระหว่างออกกำลังกายก็ไม่มีปัญหา แถมกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IPX4 อีกด้วย (กันน้ำสาดทุกมุมได้ 10 ลิตร/นาที เป็นเวลา 5 นาที) ซึ่งก็เหมาะแก่การป้องกันเหงื่อ หรือน้ำสาดเล็กๆ น้อยๆ แต่คงไม่ถึงขั้นใช้ใส่ระหว่างว่ายน้ำได้นะครับ
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Powerbeats2 Wireless จะมีรีโมทคอนโทรลที่มีไมโครโฟนอยู่ด้วยในตัว ทำให้สามารถใช้เป็นสมอลล์ทอล์คได้ วัสดุที่หุ้มภายนอกก็เป็นยาง สำหรับปุ่มกดที่มีให้ใช้ก็จะเป็นปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่ม Play/Pause เหมือนกับหูฟังมือถือทั่วๆ ไป จากที่ลองใช้งานกับ iPhone ก็จะมีวิธีควบคุมหลักๆ ประมาณนี้
กดปุ่มกลาง 1 ครั้ง:?สั่งเล่นเพลงหรือหยุดเพลง
กดปุ่มกลาง 2 ครั้ง:?สั่งข้ามเพลง
กดปุ่มกลาง 3 ครั้ง:?สั่งไปเล่นเพลงก่อนหน้า หรือต้นเพลงที่กำลังฟังอยู่
เรียกว่าถ้าใครชินกับการใช้รีโมทหูฟังเดิมๆ ของมือถืออยู่แล้ว ก็สามารถใช้รีโมทของ Beats Powerbeats2 Wireless ได้สบายเลย จะติดก็แต่ปุ่มกดที่ค่อนข้างแข็ง กดยากไปนิด ทำให้บางครั้งต้องใช้เล็บจิกลงไปเพื่อกดเลยก็มี รวมถึงการวางตำแหน่งของรีโมทที่ค่อนข้างแนบชิดใบหน้าและลำคอไปหน่อย บางครั้งก็อาจทำให้กดลำบากอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ข้อนี้ ใช้ไปซักพักก็ชินไปเองนะ ไม่จัดว่าเป็นปัญหาใหญ่อะไรมากมาย
ส่วนเรื่องเสียงที่ได้จาก Beats Powerbeats2 Wireless ก็ตามแนวทางของหูฟัง Beats เลย คือเน้นเบสเป็นหลัก เบสที่ได้ก็เป็นลูกๆ ดีอยู่ สมกับที่ใช้งานสองไดรเวอร์ ตัวหนึ่งสำหรับขับเสียงเบสมาโดยเฉพาะ แต่ถ้าเพลงไหนที่อัดเสียงเบสมาหนาอยู่แล้ว ก็จะกลายเป็นเบสบวมไปนิดๆ เลยด้วยซ้ำไป ส่วนโทนเสียงอื่น อย่างเสียงสูงและเสียงกลางก็ทำได้ดีพอประมาณ อาจจะมีเสียงต่ำกลบบ้าง แต่ก็ยังฟังได้ชัดอยู่ รวมๆ แล้ว ใครที่รักเสียงเบสเป็นชีวิตจิตใจ น่าจะชอบนะตัวนี้ ส่วนใครที่รักเสียงร้อง เสียงกลอง อาจจะต้องปรับ EQ ในเครื่องเพื่อลดเสียงเบสกันซักหน่อยนะ
จุดเด่นของหูฟังประเภท In-ear ที่สอดเข้าไปในช่องหู ก็คือความสามารถในการป้องกันเสียงภายนอกเข้าไปรบกวน ซึ่งจุดนี้เป็นความสามารถที่ผู้รักในการฟังเพลงชอบ เพราะจะสามารถได้ยินเสียงเครื่องดนตรี, มิติของเสียง, สเตจต่างๆ ได้อย่างชัดเจน แต่สำหรับ Beats Powerbeats2 Wireless นี้ ตามคอนเซ็ปท์คือทำมาเพื่อผู้ที่ต้องการฟังเพลงระหว่างออกกำลัง ใช้งานระหว่างการเดินทางเป็นหลัก จึงจำเป็นจะต้องปรับลดจุดเด่นของหูฟังประเภท In-ear ออกบ้าง คือต้องยอมให้เสียงภายนอกเข้ามาได้เล็กน้อย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยครับ เช่น เสียงรถที่วิ่งอยู่บนถนน เป็นต้น โดยจากที่ลองใช้งานมา ก็พบว่าตัวหูฟังสามารถกันเสียงได้ดีประมาณหนึ่ง และก็มีเสียงภายนอกเข้ามาอยู่บ้างเล็กน้อย ถ้ามองในแง่ของความปลอดภัยระหว่างใช้งานก็จัดว่าโอเคเลย แต่สำหรับใครที่อยากฟังเพลงแบบเน้นๆ เต็มๆ ก็อาจจะขัดใจตรงนี้อยู่บ้างเหมือนกัน
Feature
สำหรับฟีเจอร์ต่างๆ ของ Beats Powerbeats2 Wireless ก็ตามภาพด้านบนและที่กล่าวไปแล้วในส่วนของดีไซน์ครับ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth, แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานติดต่อกันได้ 6 ชั่วโมง, มีรีโมทคอนโทรลและไมโครโฟนในตัว,?สามารถกันน้ำได้ (ตามมาตรฐาน IPX4), สายคล้องใบหูสามารถปรับตำแหน่งให้เข้ากับใบหูของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ง่าย ปิดท้ายด้วยการแถมกล่องใส่หูฟังมาให้ใช้สำหรับเก็บเวลาไม่ใช้งานอีกด้วย
ตัวกล่องเก็บหูฟังก็จะอยู่ภายในกล่อง Powerbeats2 Wireless นี่ล่ะครับ ผิวหน้าของกล้องเป็นแบบด้านๆ ทำให้รู้สึกเนียนมือเวลาสัมผัส มีโลโก้ Beats สีแดงเด่นอยู่ตรงกลาง เนื้อวัสดุและการเก็บงานจัดว่าทำออกมาดีมากเลยล่ะ
ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่ให้มาในกล่องก็จะเป็นพวกเอกสารคู่มือ, สติ๊กเกอร์โลโก้ Beats ดวงโตๆ, สาย Micro USB สำหรับชาร์จไฟ และจุกหูฟังอีกสามแบบคือขนาดใหญ่, เล็ก และจุกยางสองชั้น ซึ่งแบบหลังนี้จะช่วยลดเสียงเบสลงได้ (จุกที่ติดมากับตัวหูฟังเป็นขนาดกลาง)
Overall
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเจ้า Beats Powerbeats2 Wireless หูฟัง Bluetooth ตัวนี้ นับว่าน่าจะเป็นหูฟังสำหรับคนรักเสียงเพลงที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งาน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้สายเชื่อมต่อกับมือถือ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ฟังเพลงให้ยุ่งยากวุ่นวาย ซึ่งดูแล้วใครที่ชอบการออกกำลังกายน่าจะถูกใจกันแน่ๆ เพียงแค่จัดการจับคู่หูฟังเข้ากับมือถือ จากนั้นก็ฟังเพลงพร้อมออกกำลังไปได้สบายๆ จะเปลี่ยนเพลงก็มีรีโมท จะรับสายโทรศัพท์ก็มีไมโครโฟนให้ในตัวเลย สายคล้องระหว่างตัวหูฟังเองก็ไม่เกะกะด้วย
ส่วนเรื่องพลังเสียง ก็สมกับความเป็น Beats ครับ คือเน้นไปที่เบส เหมาะสำหรับผู้รักในการบริโภคเบสจริงๆ แต่ในด้านของอิมแพค (แรงกระแทก) จัดว่าไม่มากนัก พอฟังได้เพลินๆ เท่านั้น ส่วนโทนเสียงกลางและเสียงสูง ก็ทำได้ดีพอประมาณ ใครที่ชอบฟังเสียงร้องใสๆ เสียงหวดหนังกลอง หรือเสียงโซโล่กีต้าร์อาจจะไม่ใช่แนวของหูฟังตัวนี้ซักเท่าไรครับ แต่ก็พอมีวิธีแก้อยู่นิดหน่อย คืออาจจะต้องไปใช้การปรับ equalizer ชดเชย ช่วยลดเสียงเบสลงไปซักหน่อยก็สามารถช่วยได้แล้ว ปิดท้ายด้วยเรื่องความคุ้มค่า อันนี้ก็คงแล้วแต่มุมมองนะครับ ถ้ามองว่าอยากได้หูฟังไร้สาย ที่มาพร้อมเสียงคุณภาพในสไตล์ Beats อยากฟังเพลงมันส์ๆ ระบบเสียงมาเต็ม พร้อมกับความง่ายในการใช้งาน กับราคา 8,900 บาทของ Beats Powerbeats2 Wireless ก็จัดว่าคุ้มพอตัวเลยทีเดียว (แต่ถ้าราคาลงจากนี้มาหน่อย จะโอเคมากเลย อิอิ)