ถ้าถามว่าช่วงนี้มือถือยี่ห้ออะไรที่คนกำลังสนใจ เชื่อว่า Xiaomi คงต้องติด 1 ใน 5 แบรนด์มือถือที่คนไทยให้ความสนใจค่อนข้างมากอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของ Xiaomi ที่สเปคเทพสุดๆ แต่วางขายในราคาที่จับต้องได้ (ส่วนมากไม่เกิน 10,000 บาท แม้จะเป็นเครื่องหิ้วก็ตาม) และทางทีมงาน Specphone ก็ได้ทำการรีวิวมือถือ Xiaomi ไปด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ Xiaomi Mi3 และ Xiaomi Redmi Note ซึ่งจากที่ลองใช้งานทั้ง 2 รุ่นก็พบว่ามือถือ Xiaomi นี่ไม่ธรรมดาเลยครับ แทบไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำว่าเป็นมือถือแบรนด์จีนแท้ๆ และเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่าน ถ้ายังจำกันได้ ทางเราได้นำเสนอข่าว Xiaomi เปิดตัวแท็บเล็ตตัวแรกของบริษัทซึ่งก็คือเจ้า Xiaomi Mi Pad แท็บเล็ตพลังชิปเซ็ต Nvidia Tegra K1 (ชิปเซ็ตตัวนี้เป็นแรร์ไอเทมเลยนะครับ หายากมาก)
และเจ้า Xiaomi Mi Pad ก็ได้มาอยู่ในมือทีมงาน Specphone เพื่อรอขึ้นเขียง!! เอ้ย เพื่อรอรีวิวแล้วครับ แต่ถ้าใครจะรออ่านรีวิว Xiaomi Mi Pad อาจจะต้องรอซักหน่อย?เพราะฉะนั้นระหว่างที่รอทีมงานเทสเจ้า Xiaomi Mi Pad มารับชมการแกะกล่อง และพรีวิว Xiaomi Mi Pad เบาๆ รอไปพลางๆ ก่อนครับ
สเปค Xiaomi Mi Pad
- หน้าจอแสดงผลสัมผัสขนาด 7.9 นิ้วความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล (326 ppi, อัตราส่วน 4:3) ผลิตโดย LG หรือ AUO
- ใช้ชิป NVIDIA Tegra K1 ?4+1? Core ความเร็ว 2.2 GHz
- การ์ดจอ NVIDIA Kepler 192-Core GPU
- แรม 2GB
- ความจุ 16GB หรือ 64GB เพิ่มความจุผ่าน MicroSD ได้อีก 128GB
- กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat ครอบด้วย MIUI
- รองรับ 802.11ac WiFi และ Bluetooth 4.0 แต่ไม่รองรับ 3G-4G
- แบตเตอรี่ 6,700 mAh
- มีลำโพงแบบ Stereo Speaker
- น้ำหนัก 360 กรัม
- ราคาเครื่องหิ้วในไทย สำหรับรุ่น 16 GB อยู่ที่ประมาณ 9,xxx – 10,xxx บาท
- สเปค Xiaomi Mi Pad แบบเต็มๆ
แพคเกจกล่องของ Xiaomi Mi Pad มาในแพคเกจกล่องกระดาษรีไซเคิลที่เหมือนกับมือถือรุ่นก่อนหน้านี้ (น่าจะเป็นเอกลักษณ์ของกล่อง Xiaomi ไปแล้ว) แต่กล่องของ Xiaomi Mi Pad จะมีขนาดใหญ่กว่า เมื่อเปิดกล่องก็จะเจอเจ้า Xiaomi Mi Pad นอนแอ้งแม้งอยู่ โดยเครื่องที่เราได้มารีวิวเนี่ยเป็นเครื่องสีขาวครับ แต่ปกติ Xiaomi Mi Pad จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 สี (นี่มันจูเรนเจอร์ชัดๆ) สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องก็จะให้มาแค่ อแดปเตอร์จ่ายไฟ 2A รับประกันชาร์จไวแน่นอน, สาย USB, เข็มจิ้มถาดใส่ Micro SD card และคู่มือภาษาจีนล้วนๆ ครับ
สำหรับตัวเครื่องของ Xiaomi Mi Pad เชื่อว่าถ้าใครได้เห็นก็คงต้องบอกเลยว่า “นี่มัน iPad Mini with Retina Display ชัดๆ” ทั้งรูปทรง, การออกแบบ, ขนาดหน้าจอนี่ต้องบอกว่า “ได้รับแรงบันดาลใจ” มาจาก Apple iPad Mini เต็มๆ (หรออออ) จะแตกต่างกันที่สีสัน, วัสดุและน้ำหนักเท่านั้นและครับ โดย Xiaomi Mi Pad จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกที่มีสีสันเหมือน iPhone 5C และมีน้ำหนักเครื่องมากกว่า iPad Mini 2 พอสมควรเลย บอกแล้วว่าได้รับแรงบันดาลใจมาเต็มๆ
หน้าจอของ Xiaomi Mi Pad จัดเป็นจุดเด่นอีกอย่างของมันก็ว่าได้ เพราะเป็นแท็บเล็ตจีนที่จอสวยจริงๆ ด้วยหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล และเห็นว่าความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลนี่อัดมาถึง 326 ppi กันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นการมองหาเม็ดพิกเซลบนหน้าจอของ Xiaomi Mi Pad จะเป็นเรื่องที่ยากมากครับ แต่เท่าที่ลองจับๆ ดูพบว่าตัวกระจกจอค่อนข้างสะท้อนพอสมควร
และด้วยความที่ Xiaomi Mi Pad ใช้ชิปเซ็ต Nvidia Tegra K1 ชิปเซ็ตตัวแรงจาก Nvidia เพราะฉะนั้นเราจึงลองทดสอบเครื่องด้วยโปรแกรม Benchmark อย่าง AnTuTu และทดสอบซ้ำด้วย AnTuTu X เพื่อป้องกันการโกงผล Benchmark โดยคะแนนก็ออกมาไล่เลี่ยกันครับ แสดงว่า Xiaomi Mi Pad ไม่น่าจะโกงผล Benchmark แล้วหล่ะ ส่วนคะแนนที่มันทำได้ก็ทะลุหลอดกันไปที่ 40,000 คะแนนนิดๆ ครับ รับชมได้จากรูป Screenshot เลย
สำหรับการแกะกล่องพรีวิว Xiaomi Mi Pad ก็คงต้องจบไปเพียงเท่านี้ก่อนครับ สำหรับใครที่ยังไม่หนำใจคงต้องอดใจรอกันซักหน่อย แต่รับรองว่าอีกไม่นานจะได้อ่านรีวิว Xiaomi Mi Pad แบบเต็มๆ จากทีมงาน Specphone อย่างแน่นอน แล้วจะได้รู้กันว่า Xiaomi Mi Pad แรงจริงหรือไม่? แล้วคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า?