LG G4 เป็นมือถือเรือธงรุ่นล่าสุดจาก LG ที่พึ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานครับ มาพร้อมกับบอดี้สุดคลาสสิคแบบโค้งรับกับอุ้งมือเหมือนตอน LG G3 และทุกอย่างก็ได้มีการอัพเกรดขึ้นไปจากตอน LG G3 เยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นกล้อง, หน้าจอ และอื่นๆ
โดยสเปคคร่าวๆ ของ LG G4 ก็ประมาณนี้ครับ ใช้ CPU Qualcomm Snapdragon 808 Hexacore (6 Core) แบบ 64 Bit, Ram 3GB หน่วยความจำภายใน 32 GB, หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด QHD กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F1.8 พร้อม OIS ที่ดีกว่าเดิม ส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ 3000 mAh และมาพร้อมกับ Android 5.1 ครอบด้วย LG UX4
ส่วนราคาของ LG G4 จะมีด้วยกัน 2 รุ่นครับ ได้แก่รุ่นที่ใช้ฝาหลังเป็นพลาสติกเคลือบเซรามิค มีราคาอยู่ที่ $680 (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 22,000 บาท) และสำหรับรุ่นฝาหลังทำจากหนังแท้ จะมีราคาอยู่ที่ $760 ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 24,000 บาทครับ
แน่นอนว่า LG G4 เป็นมือถือที่ดีเครื่องหนึ่งนั่นแหละครับ แต่เชื่อเถอะว่า 6 สิ่งที่เราว่ามาเนี่ย จะทำให้ LG G4 เป็นมือถือที่ดีกว่านี้นะ
1. ชิปเซ็ตที่แรงกว่านี้
ชิปเซ็ต Snapdragon 808 ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ แต่ไหนๆ LG G4 ก็เป็นมือถือเรือธงแล้วอ่ะ อย่างน้อยก็ควรเป็นชิปเซ็ตที่แรงกว่านี้หน่อย เพราะมันไม่ใช่เรื่องของ Performance เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกของผู้บริโภคล้วนๆ เลย เพราะถ้าเปรียบเทียบ LG G4 กับมือถือในระดับเดียวกันยี่ห้ออื่น จะเห็นเลยว่า CPU ของ LG G4 เป็นรุ่นที่คลาสต่ำกว่า Samsung Galaxy S6, HTC One M9 และ Huawei P8 ซะอีก
แต่มองโลกในแง่ดี Snapdragon 808 ก็น่าจะไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนเหมือนอย่าง Snapdragon 810 นะครับ
2. Ram LPDDR4
แรมแบบ LPDDR4 นั้นเป็นเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม (LPDDR3) ประมาณ 50% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก และตอนนี้ก็มีมือถือเพียงรุ่นเดียวที่ใช้ Ram LPDDR4 ซึ่งก็คือ Samsung Galaxy S6 ครับ ซึ่งมันน่าจะดีกว่านี้ถ้า LG G4 ใช้แรมแบบ LPDDR4 เช่นกัน เพราะน่าจะช่วยลบจุดบอดเรื่อง CPU Snapdragon 808 ลงได้เยอะเลย
3. พื้นที่หน้าจอที่มากกว่านี้
ตอน LG G3 เปิดตัวใหม่ๆ มันเป็นมือถือรุ่นแรกๆ ของโลกที่มีพื้นที่หน้าจอเยอะมากครับ โดยพื้นที่หน้าจอของ LG G3 กินพื้นที่ 75.22% ของพื้นที่ตัวเครื่องด้านหน้า นั่นทำให้ขนาดตัวของ LG G3 ไม่ได้ใหญ่ไปกว่ามือถือหน้าจอ 5 นิ้วเลยครับ แม้ว่ามันจะมีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วก็ตาม
สำหรับ LG G4 แทนที่พื้นที่หน้าจอจะมีมากกว่าตอน LG G3 แต่เข้าใจว่าด้วยดีไซน์ที่เน้นความโค้งเว้า ทำให้พื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่องกลายเป็น 72.46% ซึ่งมันน้อยกว่าตอน LG G3 เกือบๆ 3% เลยทีเดียว
4. เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
หนึ่งในฟีเจอร์ที่เราจะเห็นในมือถือตัวท็อปๆ มากขึ้น เพราะไม่ว่า Samsung หรือมือถือจีนอย่าง Huawei, Meizu, OPPO หรือแม้แต่ Elephone ก็ล้วนแต่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วยกันทั้งนั้น แต่ดูเหมือนว่า LG จะไม่ได้รีบร้อนอะไรครับ เพราะอย่าง LG G Flex 2 ก็ไม่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ แน่นอนว่า LG G4 ก็ไม่มีเช่นกัน
ตรงนี้บางคนอาจจะบอกว่า LG G4 ก็มี Knock Code ที่ใช้ปลดล็อกหน้าจอแล้วไง แต่ผมอยากให้มองเรื่องของฟีเจอร์ครับ มีเซนเซอร์สแกนลายมือยังไงก็ดูเพิ่มมูลค่าได้มากกว่าอยู่แล้ว ผมว่ามีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ยังไงๆ ผู้ใช้ก็ต้องแฮปปี้กว่าอยู่แล้วหล่ะ
5. Quick Charge ระบบชาร์จเร็ว
เป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกมาก เพราะตัวชิปเซ็ต Snapdragon 808 เนี่ย รองรับฟีเจอร์ชาร์จไว Qualcomm Quick Charge 2.0 แต่ทำไมก็ไม่รู้ LG G4 ที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 808 กลับปิดฟีเจอร์นี้ไปซะอย่างนั้นอ่ะ ซึ่งฟีเจอร์ชาร์จไวเนี่ย เดี๋ยวนี้มือถือเรือธงส่วนมากเขาก็มีให้ทั้งนั้นนั่นแหละ
6. หน่วยความจำภายในที่มากกว่านี้
LG G4 มาพร้อมกับหน่วยความจำภายในเพียง 32 GB และรองรับ MicroSD Card ซะด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอกครับ แต่ User บางคนก็อาจจะไม่ได้อยากซื้อ MicroSD Card มาใส่เพิ่ม เพราะมันเหมือนซื้อเครื่องไม่จบ แถม MicroSD Card ความจุสูงๆ ที่สามารถใช้งานได้รวดเร็วก็มีราคาค่อนข้างสูงซะด้วย คำถามคือ ทำไม LG G4 ถึงไม่มีเวอร์ชันความจุให้เลือกหลากหลายกว่านี้ อาจจะเป็นตัวเริ่มต้นความจุ 32GB แล้วก็มีออฟชันเพิ่มเป็น 64 GB อะไรก็ว่ากันไป ดีกว่ามัดมือชกผู้บริโภคแบบนี้ครับ
บทความดัดแปลงจาก: phonearena