หูฟังไร้สายไอโฟนคงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้ใช้ไอโฟนต้องหาซื้อกันแน่นอน เนื่องจาก Apple ไม่แถมหูฟังมาให้อีกแล้ว แถมในปัจจุบันนี้แบบไร้สายก็พัฒนาขึ้นมาเยอะมากๆ จนทำให้การเอามาใช้ในชีวิตประจำวันมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งสำหรับหูฟังไร้สายที่จะเอามาใช้กับไอโฟนก็ควรจะต้องสามารถเชื่อมต่อกับไอโฟนได้อย่างรวดเร็วด้วย วันนี้เราเลยจะมาแนะนำหูฟังไร้สายที่เหมาะกับการเอามาใช้คู่กับไอโฟน พร้อมด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อที่รวดเร็วให้กับเพื่อนๆ กัน
หูฟังไร้สายไอโฟน เชื่อมต่อเร็ว เสียงดี ใช้ได้นาน
1. AirPods 2
เปิดมาตัวแรกด้วยหูฟังไร้สายไอโฟนยอดนิยมอย่าง AirPods 2 ที่ Apple ขายมาหลายปีแล้วนั่นเอง โดยล่าสุดตัว AirPods 2 นี้ได้มีการลดราคาลงเนื่องจากการมาของ AirPods 3 นั่นเอง แต่ทว่าด้วยราคาขายและการใช้งานที่ง่ายทำให้ยังคงเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบันนี้ ด้วยดีไซน์แบบ Earbuds ทำให้สามารถใส่ได้นานโดยไม่เจ็บหู ในเรื่องของระบบเสียงนั้นด้วยการที่มีชิป Apple H1 ทำให้สามารถใช้ฟังเพลงได้ทุกแนว แถมยังเชื่อมต่อกับไอโฟนได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย นอกจากนี้ด้วยการที่ใช้ Bluetooth 5.0 ทำให้การเชื่อมต่อมีดีเลย์ที่น้อยมากๆ อีกด้วย
สำหรับในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานได้ยาวนาน 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และเมื่อรวมกับแบตเตอรี่ในเคสจะสามารถใช้งานได้รวมสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง ส่วนในเรื่องการชาร์จนั้น AirPods 2 มีให้เลือกทั้งแบบเคสชาร์จและแบบชาร์จไร้สาย โดยตัวเคสชาร์จนั้นจะใช้สายแบบ Lightning ในการชาร์จ ส่วนแบบไร้สายนั้นจะใช้มาตราฐาน Qi ในการชาร์จ ทำให้สามารถหาอุปกรณ์สำหรับชาร์จได้ค่อนข้างง่าย ทว่าหลังจากการมาของ AirPods 3 ทำให้เหลือให้เลือกซื้อเพียงแค่รุ่นเคสชาร์จเท่านั้น (ถ้าจะหารุ่นชาร์จไร้สายต้องไปหาตามร้านนอกแล้ว)
ราคา : 4,990 บาท
2. AirPods 3
ต่อกันด้วยหูฟังไรสายไอโฟนตัวใหม่่ล่าสุดที่พึ่งเปิดตัวกันไปหมาดๆ กับ AirPods 3 ที่มาพร้อมดีไซน์แบบใหม่รวมถึงได้ฟีเจอร์เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์กันน้ำ, ฟีเจอร์ Spatial Audio หรือที่เรียกง่ายๆว่าระบบเสียงรอบทิศทาง, ความสามารถในการปรับแต่ง EQ ได้ด้วยตัวเอง รวมถึงรองรับการชาร์จด้วย MagSafe อีกด้วย สำหรับเรื่องของดีไซน์นั้นถึงจะยังคงความเป็น EarPods เองไว้ ทว่าขนาดตัวหูฟังและรูปแบบเคสก็ได้ถูกเปลี่ยนให้เหมือนกับ AirPods Pro อีกด้วย จะบอกว่า AirPods 3 คือตัวตนที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง AirPods 2 และ AirPods Pro ก็ได้ ทำให้เป็นตัวที่่น่าซื้อที่สุดในตระกูล AirPods เลยก็ว่าได้
สำหรับในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานได้ยาวนาน 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และเมื่อรวมกับแบตเตอรี่ในเคสจะสามารถใช้งานได้รวมสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนในเรื่องการชาร์จนั้น AirPods 3 มีให้เลือกทั้งแบบเคสชาร์จและแบบชาร์จไร้สาย โดยตัวเคสชาร์จนั้นจะใช้สายแบบ Lightning ในการชาร์จ ส่วนแบบไร้สายนั้นจะใช้มาตราฐาน Qi และ MagSafe ในการชาร์จ ด้วยมาตราฐาน Qi ทำให้สามารถหาอุปกรณ์สำหรับชาร์จได้ค่อนข้างง่าย (แต่ถ้่าอยากชารืจเร็วๆ หน่อบก็ต้องพึ่ง MagSafe แล้ว)
ราคา : 6,790 บาท
3. AirPods Pro
AirPods Pro หูฟังไร้สายไอโฟนอีกตัวที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์กันน้ำ, ระบบเสียงรอบทิศทาง และขนาดที่กระทัดรัดแล้ว สิ่งที่มีเหนือกว่า AirPods 3 ก็คือระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก ซึ่งด้วยการออกแบบให้เป็น In-Ear ทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนออกไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว ทว่าการที่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนเพิ่มเข้ามาทำให้สามารถสร้างโลกที่มีแต่เสียงเพลงได้เลยทีเดียว
สำหรับในเรื่องของแบตเตอรี่นั้น AirPods Pro สามารถใช้งานได้ยาวนาน 5 ชั่วโมงต่อการชาณืจ 1 ครั้ง และเมื่อรวมกับแบตเตอรี่ในเคสจะสามารถใช้งานได้รวมสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง (แต่ถ้าเปิดโหมดตัดเสียงรบกวรระยะเวลาใช้งานจะสั้นลงนะ)
ราคา : บาท
4. Beats Fit Pro
Beats Fit Pro หุฟังไร้สายตัวล่าสุดของ Beats ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง ด้วยสเปคที่เหมือน AirPods Pro ไม่ว่าจะเป็นชิป Apple H1, ระบบเสียงรอบทิศทาง, โหมดตัวเสียงรบกวน และกันน้ำ IPX4 แต่ใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมงแม้เปิดระบบตัดเสียง จึงทำให้มีความน่าสนใจมากกว่า AirPods Pro ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยตัว Beats Fit Pro จะมาในทรง In-Ear ที่มีปีกสำหรับไว้ใช้ยึดเกาะใบหูทำให้มีความกระชับมากว่าจนสามารถใส่ออกกำลังกายได้อย่างสบายใจ แถมดีไซน์ตัวเคสก็นับว่าสนใจเนื่องจากมีขนาดที่เล็กและบางมากๆ ทำให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกกว่าเยอะ
ราคา : ยังไม่มีขายในไทย แต่จะตามมาภายหลัง
5. Beats Studio Buds
Beats Studio Buds หูฟังจาก Beats อีกตัวที่มาพร้อมกับฟีเจอร์เสียงรอบทิศทาง, ระบบตัดเสียงรบกวน และกันน้ำ IPX4 แบบเดียวกับ AirPods Pro แต่ด้วยราคาขายที่ถูกกว่ามากๆ รวมถึงระยะเวลาใช้งานที่ยาวนานกว่า ทำให้เป็นหนึ่งตัวที่น่าสนใจไม่น้อย โดยระยะเวลาใช้งานนนั้นจะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนเมื่อรวมกับแบตเตอรี่ในเคสจะสามารถใช้งานได้รวมสูงสุด 24 ชั่วโมงแบบเดียวกับ AirPods เรียกได้ว่าได้เปรียบแค่ราคาที่ถูกกว่าและไม่ต้องเอาไปชาร์จบ่อยเท่านั้น จึงทำให้ Beats Studio Buds เป็นหูฟังที่เหมาะกับคนที่ต้องการหูฟังมากความสามารถในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปนั่นเอง
ราคา : 5,500 บาท
6. Fender Tour
Fender Tour หูฟังไร้สายดีไซน์แข็งแกร่งดุดันจากแบรนด์ Fender ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงโดยเฉพาะ เนื่องจากตัวหูฟังนั้นสามารถแยกแยะเสียงต่างๆ ทั้งเสียงของเครื่องดนตรีและเสียงร้องได้อย่างชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นหูฟังเพื่อคนรักเสียงเพลงที่สุดในบทความนี้เลย โดยตัวหูฟังจะมีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และเมื่อรวมกับแบตเตอรี่ในเคสจะสามารถใช้งานได้รวมสูงสุด 22 ชั่วโมงเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีแอพ Fender Tour มาช่วยให้สามารถตั้งค่าหูฟังและอัพเดตเฟิร์มแวร์ให้กับตัวหูฟังง่ายๆ อีกด้วย และด้วยราคาที่ถูกกว่า AirPods พอสมควร ทำให้เป็นหนึ่งในตัวที่น่าซื้อสุดๆ เลย
ราคา : 3,690 บาท
หุฟังไร้สายทั้ง 6 ตัวที่เอามาแนะนำนี้ไม่ว่าจะเอาไปใช้ฟังเพลงหรือดูหนักก็สามารถให้เสียงที่ดีออกมาได้ แต่ทว่าที่แตกต่างกันหลักๆ เลยก็คือฟีเจอร์เสริมที่ให้มาอย่างระบบเสียงรอบทิศทางเป็นต้น ทำให้ประสบการณ์เวลาใช้งานนั้นจะมีความแตกต่างกันพอสมควร นอกจากนี้หูฟังบางตัวยังออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์บางอย่างเท่านั้น ไม่ได้อเนกประสงค์ไปซะหมด ดังนั้นเพื่อความแน่ใจก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหูฟังก้อยากให้เพื่อนๆ ไปหาร้านที่สามารถลองหูฟังได้เข้าไปลองฟังเสียงมันก่อนซะว่าชื่นชอบแนวเสียงของหูฟังตัวนั้นไหม เพราะแต่ละคนมีความชื่นชอบที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
แนะนำ 10 หูฟังไอโฟน เสียงดี น่าใช้ ปี 2021 (iPhone New Box)
รวมข้อมูลของ AirPods มีกี่รุ่น ราคาเท่าไหร่ และรุ่นใหม่ AirPods 3