จากปัญหาของ Samsung Galaxy Note 7 ที่ซัมซุงกำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายให้แก่ซัมซุงเป็นอย่างมาก จากผลกระทบที่เกิดขึ้นส่งผลให้ซัมซุงได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งราคาหุ้นที่ตกอย่างรวดเร็วทำให้มูลค่าราคาหุ้นของซัมซุงหายไปกว่า 700,000 ล้านบาท และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่นของลูกค้าก็ได้ลดลงไปด้วย จึงเป็นโอกาสให้คู่แข่งตัวสำคัญที่เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับท็อปในเวลาไล่เลี่ยกันอย่าง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สร้างยอดขายได้อย่างไม่มีคู่แข่ง และถึงแม้ว่าซัมซุงจะแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่จากการแลกเครื่องหรือคืนเงินให้เต็มจำนวน แต่ก็ดูเหมือนว่าความเชื่อใจของผู้ใช้งานได้ลดลงเรียบร้อยแล้ว
จากผลสำรวจในวันที่ 23 กันยายนหลังจากการเรียกคืนครั้งแรกของ Samsung Galaxy Note 7 พบว่า 77 % จากลูกค้าของซัมซุง จะยังคงใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของซัมซุงอยู่ โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการที่จะย้ายไปใช้แบรนด์อื่นเนื่องจากไม่ต้องการเรียนรู้การใช้งานใหม่ และให้เหตุผลอื่น ๆ แบ่งเป็นอัตราส่วนเช่น การออกแบบ (52%) ปรับแต่งการใช้งานได้ (44%) แบตเตอรี่ (39%) ค่าใช้จ่าย (35%) และไม่ชอบแบรนด์อื่น (28%)
แต่ล่าสุด จากผลสำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกาในวันที่ 12 ตุลาคมจากจำนวนทั้งหมด 1,020 คน ที่ปัจจุบันใช้โทรศัพท์มือถือของซัมซุงอยู่ ถูกถามคำถามที่เกี่ยวข้องปัญหากับ Samsung Galaxy Note 7 จะส่งผลต่อการซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ในอนาคตของตนหรือไม่ ซึ่งมีผลสำรวจที่น่าตกใจ เนื่องจาก 40 % ได้เผยว่าจะไม่ใช้โทรศัพท์มือถือของซัมซุงอีก ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจในช่วงเดือนกันยายนที่อยู่ที่ 34 % จากช่วงปัญหาของ Galaxy Note 7 เกิดขึ้นใหม่ ๆ และ 70 % ของผู้ใช้งานที่จะไม่ซื้อมือถือใหม่ของซัมซุงได้เผยว่าจะไปซื้อโทรศัพ์แบรนด์อื่นที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งมี 8 % เผยว่าจะไปซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Google นั่นก็คือ Google Pixel และอีก 30 % ที่เหลือมีแผนจะย้ายไปซื้อ iPhone รุ่นใหม่
ต้องรอดูกันว่าซัมซุงแบรนด์ยักใหญ่ที่ยังครองตลาด Android เป็นอันดับ 1 มานานแสนนาน จะมีวิธีการแก้ไขปัญหายังไงให้ความเชื่อมั่นกลับมาอีกคง ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่หลายคนจับตามองกันก็อย่าง Samsung Galaxy S8 จะสามารถแก้สถานการณืได้หรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ซัมซุงต้องจัดเต็มให้กับ Samsung Galaxy S8 อย่างแน่นอน
ที่มา Phonearena