หนึ่งในไอเทมที่จำเป็นสำหรับโปเกมอนเทรนเนอร์ในเกม Pokemon Go นอกจากโปเกบอลแล้วก็คงหนีไม่พ้น Incense หรือน้ำหอมเรียกโปเกมอน ที่มีหน้าตาเป็นกระปุก เวลาใช้งานก็จะมีควันสีชมพูออกมารอบตัวเรานั่นแหละครับ โดยเจ้า Incense เพื่อน ๆ สามารถได้รับฟรีเมื่อมีการอัพเลเวลเทรเนอร์ หรือไม่ก็ซื้อผ่าน Shop ในราคาเริ่มต้น 80 Poke Coin (ซื้อเยอะยิ่งถูก)
Incense หน้าตาแบบนี้
วิธีการใช้งาน Incense ก็คือกดใช้ตอนไหนก็ได้ เมื่อเราทำการฉีด Incense ก็จะมีโปเกมอนในเกม Pokemon Go ออกมาให้จับ แม้ว่าแถวนั้นจะไม่มี Pokemon เกิดสักตัวเลยก็ตาม แล้วก็โปเกมอนที่เกิดจากการฉีด Incense จะไม่อิงอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ หรืออะไรก็ตาม คือมันจะเป็นการสุ่มเกิดทั้งหมดครับ แล้วก็โปเกมอนที่เกิดจากการฉีด Incense คนอื่นจะไม่เห็นด้วยนะ
ราคาของ Incense ก็แพงเอาเรื่องอยู่ เท่ากับ Lucky Egg นี่แหละ
ในเมื่อ Incense มันมีน้อย หรือถ้าอยากมีเยอะ ๆ ก็ต้องใช้เงินซื้อ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะมาแนะนำเทคนิคการใช้ Incense ในเกม Pokemon Go ยังไง ให้ได้ผลคุ้มค่าที่สุด มี Pokemon ออกมาให้จับเยอะที่สุด
1. ไม่ควรยืนเฉย ๆ แล้วฉีด Incense
อันนี้มีคนลองแกะ Code ในเกม Pokemon Go ออกมาแล้วนะครับ พบว่าการฉีด Incense แล้วยืนอยู่กับที่เฉย ๆ จะมีอัตราการเกิดของ Pokemon ที่ 5 นาทีต่อ 1 ตัว แถมยังนับเวลาเมื่อเราอยู่ในหน้าปกติอีกต่างหาก คือนับเวลาหลังจากเราจับโปเกมอน เช่น ฉีด Incense ตอน 15.00 น. เจอโปเกมอนตัวแรก กว่าจะจับได้ 15.02 น. โปเกมอนตัวต่อไปจะเกิดตอน 15.07 น.
ยืนเฉย ๆ แบบนี้ไม่คุ้มแน่นอน
เพราะฉะนั้น การฉีด Incense แล้วยืนอยู่กับที่ เป็นเวลา 30 นาที จะเรียกโปเกมอนได้ประมาณ 5 ตัวเท่านั้น น้อยครั้งที่จะเรียกได้ 6 ตัว ซึ่งเป็นอะไรที่เสียของมาก ต่อให้แถวบ้านไม่มี Pokemon เลยก็ไม่ควรฉีด Incense แล้วยืนเฉย ๆ ครับ
2. ฉีด Incense แล้วเดิน + ปั่นจักรยาน
สืบเนื่องจากการแกะ Code ในเกมนั่นแหละ คนที่แกะ Code พบว่าการฉีด Incense พร้อมการเคลื่อนที่ นอกจากเราจะเจอ Pokemon ทุก ๆ 5 นาทีแล้ว ในทุก ๆ การเดิน 200 เมตร เราจะพบ Pokemon 1 ตัวด้วย ต่อให้พื้นที่ตรงนั้นจะไม่เคยมี Pokemon เกิดเลยก็ตาม
โดยเฉลี่ยแล้ว การเดิน + ฉีด Incense ในพื้นที่ที่ไม่มีโปเกมอน จะมีโปเกมอนออกมาให้จับต่อการฉีด 1 ครั้ง (30 นาที) ประมาณ 10 – 12 ตัว แต่ถ้าเป็นการปั่นจักรยาน หรือซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่ความเร็วประมาณ 20 – 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะได้ประมาณ 12 – 15 ตัวได้ครับ
3. ฉีด Incense แล้วนั่งรถ
วิธีการสุดท้ายนี่โหดสุดครับ แอดมินทดสอบด้วยการฉีด Incense แล้วขึ้นรถประจำทางที่วิ่งบนทางด่วน ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พบว่าอัตราการเกิด Pokemon สูงมากกว่าเดิมพอสมควรเลย แม้ว่าพื้นที่บนทางด่วนจะไม่มี Pokemon เกิดเลยสักตัวก็ตาม
โปรดดูน้ำหอม ฟุ้งมาก Pokemon ก็เกิดถี่มากเช่นกัน
เท่าที่ลองทดสอบฉีด Incense แล้วนั่งรถที่ความเร็วเฉลี่ย 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะพบโปเกมอนประมาณ 20 ตัวขึ้นไปเลยทีเดียว เรียกว่าออกมาแทบจะทุกนาทีเลยล่ะ แต่ข้อสังเกตคือจับยากกวาปกติครับ โผล่มาเยอะจริง แต่ก็ใช้ Poke Ball จับยากกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้ใช้พวก Great Ball กับ Ultra Ball ถ้าจะใช้ทริคนี้นะ
*ไม่แนะนำให้ขับรถแล้วจับโปเกมอนนะครับ จริง ๆ ขับรถไม่ควรทำอย่างอื่น นอกจากตั้งใจขับรถนะ*
แถมให้อีกข้อ
ไม่ควรฉีด Incense บริเวณที่มี PokeStop เปิด Lure Module หรือเสาที่มีต้นซากุระโปรยปรายเยอะ ๆ จริงอยู่ที่การฉีด Incense นั้นแยกกันกับ Lure Module แต่สุดท้ายแล้วมันจะไปวนที่ข้อ 1 คือเรายืนอยู่กับที่ เพราะฉะนั้น Pokemon จะเกิดแค่ 5 นาทีครั้งเท่านั้นเอง ส่วนตัวผมมองว่าถ้ามีการเปิด Module หลายต้นพร้อม ๆ กันอยู่แล้ว
แค่นี้ก็จับไม่ทันแล้ว จะฉีด Incense ให้เปลืองทำไมล่ะ
เรายืนฟาร์มเพื่อจับ Pokemon จาก Lure Module จะดีกว่า แอดมินเคยไปยืนที่สาทร เปิดโมดูล 3 เสานี่ก็จับไม่ทันแล้วนะครับ ยิ่งพื้นที่ ๆ คนเล่นเยอะ ๆ เนี่ย Pokemon เกิดมาให้จับนับเป็นนาทีต่อนาทีเลย แล้วเราจะฉีด Incense ให้เปลืองทำไมล่ะ
สรุป
เอาแบบง่าย ๆ เลย ระหว่าง Lure Module กับ Incense ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ฉีด Incense ต้องมีการเคลื่อนที่ ยิ่งเคลื่อนที่ได้เร็ว ก็ยิ่งมี Pokemon ออกมาให้จับเยอะ (แล้วก็จับยากด้วย) ส่วน Lure Module เอาไว้ยืนฟาร์มอยู่กับที่ 2 สิ่งนี้ ใช้คู่กันได้ แต่ไม่แนะนำครับ เพราะเราจะไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทั้ง 2 อย่างในเวลาเดียวกันนั่นเอง