26 หนังซอมบี้เกาหลี ฝรั่ง บน Netflix และที่อื่นๆ ที่ไม่ควรพลาด
ถ้าให้พูดถึงหนังต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ ก็ต้องบอกว่ามีแทบจะทุกรูปแบบ ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง หรือว่าเรื่องที่สร้างสรรค์ แต่งเติมจินตนาการได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งหนังแต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่างกันออกไปอีก ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน หนังตลก หนังรัก หนังดราม่า หนังแอคชั่น หนังผี หนังสยองขวัญ และอีกมากมาย แต่หนังอีกหนึ่งประเภทที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือหนังประเภทที่มีซอมบี้ออกมาวิ่งเกลื่อนกลาด และก็มักจะมาพร้อมกับฮีโร่ที่พร้อมจะวิ่งหนี ต่อสู้ ไปกับเหล่าคนผู้รอดชีวิตทั้งหลาย เพื่อเอาตัวรอดไปจนถึงจุดปลอดภัยให้ได้ จากแต่ก่อนที่เรามักจะเห็นหนังแบบซอมบี้เฉพาะทางฝั่งตะวันตกเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ทางฝั่งบ้านเราอย่างเกาหลีก็ได้ทำหนัง และซีรี่ย์ซอมบี้ออกมาเยอะมาก แถมมีเนื้อหาที่สนุกน่าติดตามหลายเรื่องเลย วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำ 26 หนังซอมบี้เกาหลี ฝรั่ง ทั้งบน Netflix และบนแพลทฟอร์มอื่นๆ มาฝากกัน ใครที่ชอบดูหนังซอมบี้ หรือหนังที่ต้องลุ้นไปกับพระเอกนางเอก ที่จะต้องรอดชีวิตให้ได้ ต้องไม่ควรพลาดดูให้หมดทุกเรื่องไปเลย!
26 หนังซอมบี้เกาหลี ฝรั่ง บน Netflix และที่อื่นๆ หนังซอมบี้คลั่งสนุกๆ ที่ไม่ควรพลาด
เชื่อว่าหลายคนที่ชอบดูหนัง หรือว่าจะไม่ค่อยได้ดูก็ตาม ก็คงจะไม่มีใครไม่เคยได้ยินเรื่องราวของศพเดินได้ ที่ตายแล้วฟื้นกลับขึ้นมามีชีวิต แล้วคอยวิ่งไล่เหล่ามนุษย์อย่างเรา เพื่อกัดกิน และแพร่เชื้อออกไปมากมาย ซึ่งหนังที่เกี่ยวกับซอมบี้นั้นมีมานานมากแล้ว ตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของศตวรรษที่ 19 ลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน ที่ได้มีการพัฒนาจากการตายแล้วฟื้น จนมาถึงการติดเชื้อต่างๆ นาๆ แล้วแต่คนคิดบทจะคิดได้ สำหรับหนังและซีรี่ย์ซอมบี้ ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ จะเป็นหนังจากทั้งทางของเกาหลี หรือของฝรั่ง ที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีอยู่บน Netflix และก็บนแพลทฟอร์มอื่นๆ โดยจะมีทั้งหนังเก่า และหนังใหม่ปะปนกันไป แต่เนื้อหาทั้งหมดจะเกี่ยวกับซอมบี้ทั้งหมดเลย มาดูกันเลยว่ามีเรื่องไหนน่าดูบ้าง
1. Day of the Dead 1985 : ฉีกก่อนงาบ
หนังซอมบี้เรื่องแรกที่จะไม่พูดถึงเลย ก็คงจะไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่าเป็นหนังในยุคแรกๆ ของหนังประเภทนี้ที่ทำออกมา และได้รับคงามนิยมสูงมากจากผู้กำกับ George A. Romero โดยเรื่องนี้เป็นภาคที่ 3 แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็จะมี Night of The Living Dead และ Dawn of the Dead มาก่อนแล้ว จากหนังในตระกูล of the Dead ทั้งหมดนั้น จนถึงปัจจุบันก็ยังคงมีการนำชื่อนี้มาใส่อยู่บ้างในบางเรื่อง ทั้งการรีเมค และเขียนเนื้อเรื่องใหม่ แต่สุดท้ายของต้นฉบับก็ยังดีกว่าอยู่ดี โดยเรื่องนี้ได้พูดถึงวันสิ้นโลก และเหลือเหล่าผู้คนในสัดส่วนที่น้อยกว่าซอมบี้มากๆ ทางเดียวที่จะรอดพ้นไปได้นั้น แน่นอนว่าไม่ใช่การไปไล่ยิงตูมตามอยู่แล้ว เพราะสู้ไม่ได้ แต่ต้องทำการทดลองเพื่อที่จะทำให้ซอมบี้ไม่อยากกินมนุษย์ให้ได้ แต่ถ้าการทดลองมันไปด้วยดีก็คงจะจบง่ายไป เพราะนอกจากซอมบี้แล้วยังต้องมาเจอกับความขัดแย้งกันเองอีก แถมการทดลองด้วยตัวแปรที่ผิดๆ ก็อาจจะส่งผลเลวร้ายกลับมาก็ได้ เรื่องนี้ยังคงมีความสยองขวัญ เอาใจแฟนๆ ที่ชอบหนังเลือดสาดและลุ้นระทึกเหมือนเดิม จะดูภาคก่อนๆ ก็สนุกเหมือนกันนะ
- ช่องทางการดู : ซื้อแผ่น หรือเช่าผ่าน iTunes, Google Play
- IMDB: 7.1/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 36 นาที
2. #Alive
หนังซอมบี้เกาหลี ที่มีเนื้อหาน่าติดตาม และมีเรื่องราวให้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา โดยเนื้อเรื่องไม่ได้เป็นการวิ่งหนี และไล่ฆ่าพวกซอมบี้ไปเรื่อยๆ อย่างเดียว แต่ยังมีความน่าอึดอัดใจร่วมไปกับตัวละครอย่างพระเอก ที่ติดอยู่ในห้องเพียงคนเดียว และไม่สามารถออกไปไหน หรือติดต่อใครได้เลยแม้แต่คนในครอบครัว ซึ่งการอยู่ในห้องแคบๆ ท่ามกลางพวกซอมบี้ ก็ไม่ได้ช่วยให้รอดไปได้ จนกระทั่งได้พบกับนางเอกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของตึกที่อยู่ ทั้งสองจึงได้คุยกันผ่านข้อความ และหาหนทางที่จะไปเจอกัน และช่วยกันหนีรอดไปจากที่นี่ให้ได้ แต่อุปสรรคไม่ได้มีแค่เรื่องการมาเจอกันเท่านั้น แต่เมื่อมาเจอกันแล้ว ยังต้องเจอปัญหาวุ่นวาย และต้องเอาชีวิตรอดอีกหลายอย่าง โดยรวมแล้วเป็นหนังซอมบี้แปลกใหม่ ที่มีความสนุกและน่าติดตามมากเลย
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 6.3/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 38 นาที
3. Train to Busan
หนังซอมบี้เกาหลีเรื่องต่อมา เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะไม่ได้มีแค่ความตื่นเต้นกับการหนีเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องราวของความซึ้งกินใจ โดยเรื่องนี้ได้พูดถึง ซอกวู ที่ได้ขึ้นรถไฟเพื่อตรงดิ่งไปหาภรรยาเก่าที่ปูซาน พร้อมกับลูกสาว ซูอา ที่เดิมทางไปด้วยกัน แต่การเดินทางนี้ต้องเปลี่ยนชีวิตทั้งคู่ไปตลอดกาล เพราะดันมีฝูงซอมบี้ ที่โถมกระหน่ำเข้ามาเรื่อยๆ และถึงแม้ว่าทั้งคู่และคนอื่นๆ จะอยู่บนรถไฟ ก็ไม่อาจจะหนีรอดไปจากซอมบี้พวกนี้ได้ หลังจากที่หลายๆ คนค่อยๆ โดนซอมบี้ฆ่าไปเรื่อยๆ ทั้งสองก็ต้องเอาชีวิตรอดตลอดเส้นทางกว่า 400 กิโลเมตรนี้ และเดินทางไปยังปูซานอย่างมีชีวิตให้ได้ เนื้อเรื่องมีความน่าติดตาม และมีอะไรให้ลุ้นไปกับการเอาชีวิตรอดตลอดช่วงเวลา 90 นาทีบนรถไฟแห่งนี้
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 7.6/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 57 นาที
4. Train to Busan: Peninsula
ถ้าใครที่ดูภาคแรกไปแล้วยังคงอิน และติดใจกับหนังซอมบี้เกาหลีในภาคแรกของ Train to Busan แนะนำว่าให้ดูต่อกันที่ภาคสอง ของหนังเรื่องนี้ที่พูดถึงเรื่องราวหลังจากนั้นอีก 4 ปีต่อมา ที่เหล่าซอมบี้ที่ออกมาอาละวาดยังคงเหลืออยู่ และก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหมดลงไปแต่อย่างใด หลังจากที่มีการแพร่ระบาด และกระจายไปเรื่อยๆ จนดินแดนต่างๆ กลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มีคนเหลืออยู่ จองซอก ที่หนีออกไปจากประเทศเกาหลีได้ แต่ก็ต้องใช้ชีวิตไปอย่างไม่มีจุดหมายที่ฮ่องกง จนกระทั่งได้รับข้อเสนอให้กลับมาที่เกาหลีอีกครั้ง โดยจะต้องไปช่วยกู้ซากรถบรรทุกที่จอดไว้ที่กรุงโซล ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แต่อุปสรรคก็ดันเข้ามาอีก นอกจากฝูงซอมบี้ ก็ยังมีหน่วยพิเศษ 631 ที่เข้ามาโจมตีเขา และได้ มินจอง กับครอบครัวได้เข้ามาช่วยชีวิตเอาไว้ ทำให้เขามีความหวังที่จะหนีรอดออกไปให้ได้อีกครั้ง เรื่องนี้ยังคงมีความน่าตื่นเต้น และน่าติดตามเหมือนเดิม สนุกเหมือนเดิม ใครที่ติดใจหนังเรื่องนี้ต้องดูต่อเลย
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 5.5/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 55 นาที
5. Rampant
มาต่อกันที่หนังซอมบี้เกาหลีเรื่องต่อมา ที่ต้องบอกว่าเขาสร้างมาต่อเนื่องจริงๆ สำหรับเนื้อหาที่เกี่ยวกับซอมบี้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงยุคปัจจุบันที่เราอยู่กันนี้ แต่ว่าได้เล่าย้อนเวลากลับไปในช่วงยุคโชซอน ที่มีราชวงศ์ชิงคอยดูแลอยู่ เมื่อองค์ชายรัชทายาทที่คิดจะล้มอำนาจขุนนางจากในวัง แต่ไม่สามารถทำได้ จนตัวเองนั้นต้องจบชีวิตลง ทำให้ต้องเรียกตัวน้องชาย กังลิม กลับมาที่โชซอน เพื่อช่วยกอบกู้เรื่องขัดแย้งในวัง เมื่อกังลิมกลับมาจากประเทศจีนเพื่อรับช่วงต่อ ซึ่งจุดประสงค์เดียวที่กลับมาก็เพื่อมาช่วย ตามคำขอของพี่ชายเท่านั้น แต่เขานั้นยังไม่รู้ว่าในพื้นที่แห่งนี้ นอกจากจะมีคนสนิทของจักรพรรดิที่ก่อกบฏแล้ว ยังมีกาดแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ที่ทำให้คนในเมืองกลายเป็นซอมบี้อีกด้วย!
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 6.3/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 1 นาที
6. Kingdom
มาต่อเนื่องกันที่ซีรี่ย์เกาหลี ที่เกี่ยวกับซอมบี้ย้อนยุคกันอีกเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความนิยมสูงมากอีกเช่นกัน ด้วยเนื้อหาที่แปลกใหม่ และน่าติดตามร่วมลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา และสิ้นเดือนนี้ก็จะมีภาคใหม่ออกมาพูดถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้อีกด้วย โดยเรื่องนี้ได้พูดถึงเรื่องราวของซอมบี้ที่เกิดขึ้นมาในช่วงยุคโชซอน (อีกแล้ว) แต่เรื่องของเรื่องนี้คือรัชทายาท อีชาง นั้นได้เกิดสงสัยเรื่องของพระราชา ที่มีอาการป่วยหนัก แต่ว่าพระมเหสีของพระราชากลับไม่ได้ให้ใครก็ตามเข้าไปพบ รวมไปถึงตัวเขาเองด้วย และเมื่อเขาออกไปข้างนอกวัง ก็พบว่าทุกคนในเมืองมีอาการเกี่ยวกับโรคประหลาด ที่ทำให้คนกลายเป็นผีดิบ และได้มีการแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว เขาจึงต้องร่วมมือกับ ซอบี แพทย์สาวที่คอยช่วยเหลือชาวบ้าน และยังต้องเจอกับข้อหลวงที่มีแผนลับจ้องเล่นงานเขาอยู่ด้วย ทั้งสองจึงต้องร่วมมือกันหยุดเรื่องนี้ และเอาชีวิตรอดให้ได้
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 8.4/10
- เวลา : 2 Season เวลาเฉลี่ยตอนละ 55 นาที
7. Army of the Dead
หนังซอมบี้เรื่องต่อมาเป็นเรื่องราวที่น่าสนุกมากขึ้น ด้วยเนื้อหาที่ไม่ได้จะเน้นไปแค่การไล่ยิงซอมบี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องราวของการปล้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย! โดยเรื่องนี้ได้พูดถึงเรื่องราวของโลก ที่ได้เปลี่ยนไปเป็นเมืองร้าง หลังจากที่มีการแพร่ระบาด และทำให้เมืองลาสเวกัสกลายเป็นเมืองร้างไปเลย หลังจากที่เมืองได้ถูกปิดตายลงไปแล้ว สก็อต วอร์ด อดีตทหารที่เคยผ่านการสู้รบกับฝูงซอมบี้มาแล้ว เขารู้ว่าภายใต้เมืองนี้ไม่ได้มีแค่ซอมบี้เพียงอย่างเดียว แต่ว่ายังมีสมบัติมหาศาลที่ถูกทิ้งเอาไว้ในเมืองด้วย เขาจึงได้รวบรวมทีมนักปล้น เพื่อวางแผนที่จะเข้าไปเอาสมบัติกลับออกมา แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะเอาสมบัติท่ามกลางฝูงซอมบี้แบบนั้นได้ง่ายๆ เพราะนอกจากจะต้องฝ่าฝูงซอมบี้เข้าไปแล้ว ยังต้องวางแผนกับเวลาที่มีจำกัดอีกด้วย เนื่องจากทางรัฐบาลจะยิงขีปนาวุธเข้ามาล้างเมืองนี้ทิ้ง ทั้งหมดต้องรอดเพื่อความรวยให้ได้
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 5.8/10
- เวลา : 2 ชั่วโมง 28 นาที
8. iZombie
ถึงแม้ว่าซีรี่ย์ซอมบี้เรื่องนี้จะมีออกมานานแล้ว แต่ด้วยเนื้อหาที่สนุก และแปลกแหวกแนวความเป็นซอมบี้มากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ เรื่องของเรื่องคือ โอลิเวีย มัวร์ หรือ ลิฟ มัวร์ ที่เป็นนักศึกษาแพทย์สาว ต้องมาเจอกับเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเธอได้ไปร่วมงานบนเรือลำหนึ่ง แต่เมื่อตื่นขึ้นมาเธอกลับพบว่าตัวเองได้กลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว สิ่งเดียวที่จะทำให้เธอรอดชีวิตได้ก็คือการกินสมองของคน จากนักศึกษาแพทย์ที่กำลังจะได้ดีเลยต้องผันต้องเองมาอยู่แผนกชันสูตร เพื่อทำให้เธอหาสมองมากินได้มากขึ้น ความพิเศษของเธอก็คือ เมื่อเธอได้กินสมองใครเข้าไปแล้ว เธอจะรับรู้ถึงความทรงจำของคนๆ นั้นด้วย ด้วยข้อดีตรงนี้เอง จึงทำให้เธอได้เข้ามาร่วมการสืบสวนคดี เธอต้องหาวิธีทำให้ตัวเองกลับไปเป็นเหมือนเดิม และต้องอยู่รอดด้วยการกินสมอง และช่วยไขคดีต่างๆ ต่อไปให้ได้
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 7.8/10
- เวลา : 5 Season เฉลี่ยตอนละ 40 นาที
9. BLACK SUMMER
ขอต่อกันด้วยซีรีย์ซอมบี้อีกหนึ่งเรื่อง สำหรับคนที่ชอบดูหนังซอมบี้ คิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรพลาดเด็ดขาด เพราะว่าเนื้อหาของเรื่องนี้เกี่ยวกับซอมบี้ที่มีเรื่องให้ลุ้น และความสยองมาเต็มครบถ้วนแน่นอน โดยเรื่องได้พูดถึงเหตุการณ์ที่ผู้คนกลายเป็นซอมบี้ ที่ไม่เว้นแม้แต่คนที่ตายไปแล้ว ก็ยังคงกลับมาเป็นซอมบี้ได้อีก ทำให้ทุกคนที่รอดชีวิตต้องหนีไปยังสนามกีฬา ที่หลายๆ คนในนั้นเชื่อว่าเป็นที่ปลอดภัยจากฝูงซอมบี้ โดยตัวเอกของเรื่องคือ โรส ที่พยายามออกค้นหาลูกสาวของตัวเอง ที่หลงไปขึ้นรถกับกลุ่มทหาร และคนแปลกหน้าเพื่อไปยังสนามกีฬาแห่งนั้น เธอจึงต้องเอาชีวิตรอด เพื่อตามหาและไปเจอหน้าลูกสาวให้ได้ เรื่องนี้ค่อนข้างซีเรียสและมีเนื้อหาจริงจังพอสมควรเลย ใครที่ชอบหนังแบบนี้ต้องดูเลย
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 6.5/10
- เวลา : 2 Season เฉลี่ยตอนละ 40-45 นาที
10. World War Z
หนังซอมบี้เรื่องต่อมาเรื่องนี้ ได้นักแสดงนำอย่างแบรดพิทมาร่วมเป็นนักแสดงหลักด้วย โดยเรื่องนี้ได้พูดถึง เจอร์รี่ เลน ที่กำลังเดินทางไปกับครอบครัวบนรถยนต์ แต่จู่ๆ รถที่วิ่งบนถนนก็หยุดและเกิดการจราจรติดขัดขึ้น ซึ่งตัวเขาเองเคยเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนมาก่อน จึงสังหรณ์ใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ เพราะว่ามีรถตำรวจและเฮลิคอปเตอร์บินวนไปมาเต็มไปหมด จนสุดท้ายเขาก็ได้รับรู้ว่าเรื่องนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ที่ได้แพร่กระจายออกไปทั่วเมือง ทำให้คนธรรมดากลายเป็นสัตว์ประหลาดดุร้าย หรือซอมบี้นั่นเอง เขาจึงต้องให้ครอบหนีออกไปจากเหตุการณ์อันตรายเหล่านี้ แต่ตัวเขาเองกลับต้องมาเผชิญหน้ากับเรื่องนี้เพียงลำพัง เขาต้องตามหาที่มาของรคระบาดเหล่านี้ และต้องหาหนทางที่จะทำให้ทุกคนรอดชีวิต รวมถึงตัวเขาเองที่ต้องกลับไปหาครอบครัวอีกครั้งให้ได้ กุญแจสำคัญคือสิ่งใกล้ตัวเขาเอง มาร่วมลุ้นและเอาใจช่วยไปกับหนังเรื่องนี้กันเลย
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 7.0/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 56 นาที
11. I Am Legend
หนังซอมบี้เรื่องต่อมาเรื่องนี้ อาจจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง เพราะแค่ชื่อเรื่องก็ตำนานจริงๆ แถมเจ้าตัวก็เล่นเองคนเดียวเกือบทั้งเรื่องด้วย ถึงแม้ว่าตัวละครหลักจะมีคนเดียว กับหมาอีก 1 ตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุก และความน่าตื่นเต้นของหนังน้อยลงไปเลย โดยเรื่องนี้ได้พูดถึง โรเบิร์ต เนวิลล์ ที่ตัวเขานั้นมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสกลายพันธ์ ที่ทำให้ทุกคนกลายเป็นซอมบี้กลายพันธ์อย่าง Seeker ออกมาล่าในตอนกลางคืน และเขานั้นเหลือรอดอยู่เพียงคนเดียวในนิวยอร์ค เขาจึงพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ และหนทางรักษาเรื่องเหล่านี้ จนสุดท้ายก็ได้พบกับผู้รอดชีวิตอีกคน ที่ทำให้เขามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนความตำนานของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แนะนำว่าให้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วจะพบกับความจริง
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 7.2/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 40 นาที
12. Cargo
หนังซอมบี้ที่ได้ดัดแปลงมาจากหนังสั้นในชื่อเดียวกันอีกที ถ้าใครที่เคยดูเรื่องสั้นไปแล้วก็อาจจะคิดว่ามันยืดเยื้อไปหน่อย แต่ถ้ายังไม่เคยดู เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่แฝงข้อคิดอะไรหลายๆ อย่างให้เราได้ดูกัน โดยเรื่องได้พูดถึงชายคนหนึ่งคือ แอนดี้ และเคย์ผู้เป็นภรรยาได้เดินทางไปยังพื้นที่ ที่พวกเขาเชื้อว่าจะเป็นพื้นที่ปลอดภัย ด้วยการเดินทางที่แสนอันตรายนี้ เขายังต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอีก เมื่อเคย์ภรรยาของเขาออกไปข้างนอก และกลับมาพร้อมกับแผลติดเชื้อ และตัวเขาเองก็ดันต้องติดเชื้อไปด้วย หลังจากนั้นเขาจึงต้องเดินทางไปพร้อมกับลูกสาว และต้องเอาชีวิตรอดในเวลาจำกัด ก่อนที่เขาจะกลายเป็นซอมบี้ไปอีกคน เขาจึงต้องหาหนทางรอดชีวิต พร้อมกับปกป้องลูกสาวของตัวเองให้รอดไปด้วย เรื่องนี้ค่อนข้างดราม่าหน่อย อาจจะไม่ถูกใจคนชอบซอมบี้สยองๆ เท่าไหร่นัก
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 6.3/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 44 นาที
13. Quarantine
Quarantine ที่ไม่ได้หมายถึงให้เรากักตัวอยู่ที่บ้าน เพราะเรื่องนี้เป็นหนังซอมบี้ที่ต้องกักตัวอยู่ในตึกแทน! โดยเรื่องนี้เป็นหนังที่สร้างรีเมคมาจากเรื่อง [REC] แต่หลายๆ คนบอกว่าเรื่องนี้ดูง่ายกว่า ถึงแม้ว่าทั้งเรื่องจะเล่าผ่านมุมมองของกล้อง เหมือนกับคนใช้กล้องถ่ายมาให้เราดูจริงๆ ก็ตาม เรื่องนี้เกิดขึ้นจากนักข่าวกับตากล้อง ที่ได้ทำข่าวเกี่ยวกับนักดับเพลิง และได้เข้าไปช่วยหญิงชราภายในตึกแห่งหนึ่ง แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปแล้ว ตึกนั้นก็ได้ปิดตายทันที เนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ของหญิงชราคนนั้นที่ไปกัดคอของเจ้าหน้าที่เข้า และก็แน่นอนว่ามันคือเชื้อติดต่อราวกับซอมบี้เลย แต่ด้วยสถานการ์ที่ทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถออกไปไหนได้ ทำให้พวกเขายังคงต้องเดินหน้าถ่ายข่าวกันต่อไป และเอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 5.9/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 29 นาที
14. Resident Evil
หนังซอมบี้ในตำนานที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้แน่ๆ เพราะว่าถ้าใครที่นึกถึงซอมบี้ไม่ว่าจะหนัง การ์ตูน หรือเกม ก็ต้องมีชื่อ Resident Evil อยู่ในใจกันอย่างแน่นอน และเราก็แนะนำว่าให้ดูทุกภาคไปเลย เพราะสนุกทุกภาค โดยจุดเริ่มต้นนั้นเกิดขึ้นมาจากสถานที่ลับแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า อัมเบรล่า คอร์ป ที่อยู่ลึกลงไปชั้นใต้ดินในเมือง แร็คคูน ซิตี้ ถึงแม้ว่าเบื้องหน้าจะเป็นการผลิตยา แต่เบื้องหลังพวกเขาก็ได้ทดลองเรื่องอาวุธชีวะภาพต่างๆ จนกระทั่ง T-Virus จากในบริษัทได้ถูกขโมย และทำให้เชื้อไวรัสในนั้นกระจายไปทั่ว จน เรดควีน AI ภายในตึกนั้นเริ่มทำงานและปิดตึกนี้ลง ทุกคนจึงกลายเป็ฯซอมบี้ทั้งหมด มีเพียง อลิส ที่เป็นผู้รอดชีวิต และเธอก็ยังมีดีอีกหลายอย่าง จนทำให้อลิสนั้นต้องออกไปหยุดเรื่องนี้ และยับยั้งไม่ให้ออกไปสู่โลกภายนอก ซึ่งแต่ละภาคก็ยังมีการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันออกไปอีก แต่ตัวเอกทั้งหมดยังคงเป็นอลิสคนเดิม
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 6.7/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 29 นาที
15. Zombieland Double Tap
หนังซอมบี้ที่จะเปลี่ยนความคิดในเรื่องความสยอง ให้กลายมาเป็นเรื่องราวฮาๆ โดยเรื่องนี้ได้มีภาคแรกออกมา และกำลังจะปล่อยภาคสองออกตามมาเร็วๆ นี้บน Netflix เริ่มต้นเรื่องมาจากโลกที่มีการแพร่ระบาด ทำให้ผู้คนกลายเป็นซอมบี้ ซึ่งต้นเหตุเกิดมาจากเบอร์เกอร์เนื้อเท่านั้นเอง หลังจากนั้นก็มีผู้รอดชีวิต 4 คน ที่มาอยู่รวมกัน และต้องเผชิญหน้ากับเหล่าซอมบี้ แถมยังต้องเอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้อีก ถึงแม้ว่าจะดูเป็นหนังตลก แต่ก็ยังมีฉากแอ็คชั่น ยิงกระหน่ำทั้งสองภาคเลย ใครที่อยากจะผ่อนคลายไปกับหนังเบาสมอง แต่ยังชอบเรื่องราวของซอมบี้ แนะนำว่าเรื่องนี้สนุกครบรส ทั้งฉากแอคชั่น และความตลกที่มีแทบทุกฉาก
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 7.6/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 29 นาที
16. 28 Days Later
หนังซอมบี้ที่เหมือนจะไม่ใช่ซอมบี้สักเท่าไหร่นัก เพราะผู้ติดเชื้อนั้นราวกับผู้บ้าคลั่งมากกว่า แต่ถ้ามองอีกมุมมันก็ซอมบี้ติดเชื้อดีๆ นี่แหละ โดยเรื่องนี้ได้พูดถึง จิม หนุ่มปั่นจักรยานส่งเอกสารที่เกิดอาการโคม่า และตื่นขึ้นมาหลังจากนั้น 28 วันและพบว่าทั้งโรงพยาบาลที่เขาอยู่นั้น ไม่มีคนอยู่เลย แต่กลายเป็นผู้ติดเชื้ออยู่แทน และเมื่อออกมาจากโรงพยาบาล ก็ยิ่งพบกับความจริงที่สยองยิ่งกว่า เพราะมีทั้งศพ และผู้ติดเชื้อมากมาย ที่พยายามจะวิ่งเข้ามาทำร้ายเขา สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือการวิ่งหนี เพื่อเอาตัวรอดไปจากตรงนี้ให้ได้ ถึงแม้ว่าเรื่องเปิดมาอาจจะดูเนือยๆ นิดหน่อย แต่ถ้าดูไปให้จบก็จะพบว่าเป็นหนังที่ให้แง่คิดหลายอย่าง และมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามไม่น้อยเลยเช่นกัน
- ช่องทางการดู : iTunes, Google Play
- IMDB: 7.6/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 57 นาที
17. Warm Bodies
หนังซอมบี้ที่ฉีกกฎความสยองออกไปเป็นหนังรักโรแมนติกเฉยเลย และไม่ได้รักกันธรรมดา แต่ยังมีเรื่องเซอร์ไพรซ์ในหนังอีกด้วย โดยเรื่องนี้ได้เล่าถึง จูลี่ ลูกสาวของผู้คุมแคมป์ใหญ่ จากที่กักกันฝูงซอมบี้ทั้งหลาย แต่เมื่อเธอนั้นได้รับภารกิจให้ออกไปหาเสบียง เธอก็ได้ไปพบกับซอมบี้ตัวหนึ่ง ที่ชื่อว่า R ซึ่งเขานั้นมีความแตกต่างจากตัวอื่นๆ ที่ดันมีจิตใจ และยังจะมีความทรงจำอยู่บ้างนิดหน่อย ก็คือชื่อของตัวเองนี่แหละ และเขาก็ดันไปหลงรักจูลี่เข้า จากศพที่ไม่มีหัวใจ เธอก็ได้ทำให้ซอมบี้ตัวมีกลับมามีหัวใจอีกครั้ง และยังช่วยเธอให้รอดพ้นจากซอมบี้ตัวอื่นๆ อีกด้วย เรื่องราวความรักจากทั้งคู่ที่แตกต่างนี้จะจบลงอย่างไร ทั้งสองจะได้รักกันหรือไม่ ต้องตามไปดูกันเลย
- ช่องทางการดู : iTunes, Google Play
- IMDB: 6.8/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 37 นาที
18. Shaun of the Dead
หนังซอมบี้สายฮาอีกหนึ่งเรื่อง ที่ตีแผ่ความเป็นซอมบี้ออกมาในรูปแบบของหนังตลกคลายเครียดได้เป็นอย่างดี โดยเรื่องนี้ได้พูดถึง ชอว์น ชายคนหนึ่งที่ชีวิตแต่ละวันหมดไปกับการเมา ไม่ว่าจะดื่มเบียร์ที่บ้าน หรือว่าจะไปที่ผับก็ตาม ซึ่งเขานั้นอยู่กับเพื่อนอีกคนคือ เอ็ด ที่ใช้ชีวิตไม่ต่างกันมากนัก จนกระทั่งวันหนึ่งที่แฟนสาวของเขาคือ ลิซ รู้สึกเบื่อหน่ายกับตัวเขา จนสุดท้ายก็ทนไม่ไหวและบอกเลิกจากเขาไป ทำให้เขาเริ่มอยากจะเปลี่ยนตัวเอง เพื่อกลับไปง้อขอคืนดีกับแฟนสาวอีกครั้ง แต่ความคิดผิดจังหวะไปหน่อย ก็ทั้งเมืองดันกลายเป็นเมืองซอมบี้ซะอย่างงั้น ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเขาเองนี่แหละ ที่จะเป็นฮีโร่ช่วยทั้งแฟนและครอบครัว ให้พ้นจากเงื้อมมือจากฝูงซอมบี้ให้ได้
- ช่องทางการดู : iTunes, Google Play
- IMDB: 7.9/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 39 นาที
19. Little Monsters
หนังซอมบี้ชื่อไทยสุดน่ารักคือ “ซอมบี้มาแล้วงับ” ใช่ครับ ชื่อนี้จริงๆ แค่ชื่อเรื่องก็อาจจะพอรู้แล้วว่าหนังเรื่องนี้ เป็นหนังคอมเมดี้ที่เกี่ยวกับซอมบี้นั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ตลกจนถึงขั้นชอว์นแบบด้านบนนะ แต่เรื่องนี้จะมีความน่ารักๆ ผสมกับความดราม่าของตัวละครไปด้วย โดยเรื่องนี้ได้พูดถึงคุณครู แคโรไลน์ ที่ต้องพานักเรียนอนุบาลไปทัศนศึกษานอกสถานที่ ที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าที่นั่นไม่ได้เป็นฟาร์มปกติ แต่มันเต็มไปด้วยซอมบี้เต็มไปหมด แต่ด้วยความเป็นครู และต้องปกป้องนักเรียนเอาไว้ให้รอดพ้นจากเหตุการณ์นี้ เธอจึงต้องทำทุกทางเพื่อเอาชีวิตรอด และต้องไม่ให้เด็กๆ รู้เรื่องนี้อีก ว่ากำลังเจอกับอะไรอยู่ ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้ก็คือ การเอาชีวิตรอดไปด้วย และต้องทำให้เหมือนเป็นการทัศนศึกษาที่แสนสนุกไปด้วย! ใครอยากจะพักผ่อนสมองแต่ยังชอบแนวซอมบี้ แนะนำว่าเรื่องนี้สนุกและน่ารักแน่นอน
- ช่องทางการดู : iTunes, Google Play
- IMDB: 6.3/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 33 นาที
20. One Cut of the Dead
หนังซอมบี้สุดแปลกอีกเรื่อง ที่เป็นหนังจากประเทศญี่ปุ่น โดยเรื่องนี้เป็นหนังทุนต่ำที่ทำรายได้สูงมากๆ ด้วยเนื้อหาที่แปลกแหวกแนวของเรื่องนั่นแหละ โดยช่วงแรกๆ คือช่วง 37 นาทีแรกนั้น ตัวเรื่องจะค่อนข้างไม่มีอะไรมากนัก เพราะเหมือนเป็นการถ่ายทำอะไรกันเล่นๆ มากกว่า แต่หลังจากนั้นเนื้อเรื่องก็จะค่อยๆ ต่อเข้าหากันและทำให้เราเข้าใจอะไรได้มากขึ้น ซึ่งช่วงแรกจะเป็นการเล่าถึงการถ่ายทำแบบลองเทค ที่ถ่ายทำเกี่ยวกับซอมบี้ แต่แล้วก็ได้ตัดไปเป็นพาร์ทหลัง ที่เล่าถึงการถ่ายทำเบื้องหลัง ที่มีเรื่องราวสุดป่วนและความสนุกมาให้เราได้ดูกัน เอาจริงๆ หนังเรื่องนี้ถ้าคนที่ดูแล้วเบื่อง่ายก็อาจจะไม่อินกับหนังได้เลย แต่ถ้ารู้สึกว่ามันน่าสนใจตรงความแหวกแนวของหนัง และหนังที่ซ้อนหนังอีกที ก็คิดว่าเป็นหนังที่สนุกใช้ได้เลยเหมือนกันนะ
- ช่องทางการดู : iTunes, Google Play
- IMDB: 7.7/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 36 นาที
21. Ravenous
หนังซอมบี้ชวนให้อึดอัดจากการดูไปให้จบทั้งเรื่องให้ได้ ไม่ใช่ว่าเรื่องมันสยองจนอึดอัด แต่มันเงียบทั้งเรื่องเลย เนื่องจากซอมบี้ในเรื่องนี้จะวิ่งตามเสียงเท่านั้น โดยเรื่องนี้ได้เล่าถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเมืองของรัฐ ควิเบก ประเทศแคนาดา ซึ่งเมืองนี้ได้ถูกปิดตายลง เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้ทุกคนในนั้นเป็นซอมบี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีผู้รอดชีวิตเลย เพราะยังมีบางคนที่ยังอยู่ได้ อย่าง โบนิน ชายคนหนึ่งที่พยายามจะหาครอบครัวของตัวเอง จนได้ไปเจอกับคู่แม่ลูก ที่หนีซอมบี้ขึ้นรถไปด้วยกัน ทั้งสามคนเลยต้องมาร่วมชะตาหนีซอมบี้ไปด้วยกัน และหาทางกลับบ้านของตัวเองให้ได้ ถึงแม้ว่าซอมบี้จะมีอยู่เต็มพื้นที่ แต่มันก็ไม่ได้วิ่งเข้าใส่ตลอดเวลา ถ้าไม่มีเสียงอะไรก็ไม่วิ่งมาเลย จึงทำให้ทั้งเรื่องมีบรรยากาศที่ชวนง่วงไปบ้าง ใครที่ไม่ชอบแนวแบบนี้ข้ามไปได้เลย
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 5.9/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 43 นาที
22. Cooties
คุณครูฮะ พวกผมเป็นซอมบี้ ชื่อเรื่องไทยมาแบบน่ารักๆ กันอีกแล้ว และก็แน่นอนว่าหนังแนวซอมบี้เรื่องนี้ เป็นหนังตลกที่แทบจะไม่มีอะไรเลย นอกจากความตลกและความบ้าของตัวละครแต่ละคน และซอมบี้แต่ละตัวในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ก็คือซอมบี้เด็กนักเรียนในโรงเรียนนี้นั่นเอง เรื่องเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัส ที่ปนเข้ามาอยู่ในนักเก็ตไก่ หลังจากการติดเชื้อด้วยการกัดของนักเรียนไปทั่วทั้งโรงเรียน ทำให้ครูทั้งหลายรวมไปถึงนักเรียนที่รอดชีวิต ต้องพยายามเอาตัวรอดออกมาจากโรงเรียนให้ได้ ใครที่อยากดูหนังเบาสมองในช่วงวันหยุด หรือไม่ได้คิดอยากจะรับเนื้อหาที่มีสาระมากนัก แนะนำว่าให้ดูหนังเรื่องนี้เลย เพราะทั้งเรื่องมีแต่ความตลกของการเอาตัวรอด แต่เรื่องนี้ก็มีมุมน่ารักซึ้งๆ อยู่ในเรื่องด้วยนะ
- ช่องทางการดู : iTunes, Google Play
- IMDB: 5.7/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 28 นาที
23. Seoul Station
อนิเมชันของเกาหลี ที่เป็นเรื่องราวก่อนการเกิดเรื่องของหนังแนวซอมบี้เกาหลีเรื่อง Train to Busan ที่โด่งดังนั่นเอง สำหรับคนที่อยากดูเรื่องนี้แบบรู้เรื่องที่มาที่ไป และครบจบทุกตอนแนะนำให้ดูเรื่องนี้ก่อนเลย ซึ่งเล่าถึง ซุกคิว ชายคนหนึ่งที่พยายามจะตามหาลูกสาวคือ ฮเยซัน ที่หายตัวไปหลังจากที่เธอหนีออกจากบ้านไป และได้รู้ความจริงที่ว่าเธอนั้นได้ไปทำอาชีพบริการที่โซล แต่เรื่องราวกลับวุ่นวายมากขึ้น เมื่อเกิดไวรัสเปลี่ยนคนให้กลายเป็นซอมบี้ และแพร่ระบาดออกไปทั่วเมือง ทำให้รัฐบาลต้องทำการปิดเมืองนี้ลง เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดให้ได้ ทั้งสองคน พร้อมกับแฟนหนุ่มของ ฮเยซัน จึงต้องเอาชีวิตรอด และหนีออกจากเมืองนี้ให้ได้ และนำไปสู่จุดเริ่มต้นของเรื่อง Train to Busan นั่นเอง ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นอนิเมชัน แต่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ดูน่ารัก แต่มีความดาร์คเต็มไปหมด แนะนำให้ดูเลยเรื่องนี้
- ช่องทางการดู : Mono Max
- IMDB: 6.2/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 28 นาที
24. Dawn of the Dead 2004
หนังแนวซอมบี้เรื่องต่อมานี้ เป็นหนังจากการรีเมคภาคหลักในปี 1978 โดยเนื้อเรื่องยังคงพูดถึงซอมบี้ ที่แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งเมือง เอน่า คลาร์ก ที่หลบหนีออกมาจากเมืองวิสคอนซิน ได้พบกับผู้รอดชีวิตอีกกลุ่มคือ เคนเน็ธ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไมเคิล คนขายเครื่องไฟฟ้า อังเดร คนไร้บ้าน และภรรยาของเขา ทั้งหมดนี้ต้องหาที่ซ่อนตัว นั่นก็คือห้างสรรพสินค้าร้าง และก็แน่นอนว่าเมื่อเหล่าซอมบี้รู้ว่ามีคนอยู่ในห้างนี้ พวกมันก็โหมกระหน่ำเพื่อที่จะเข้ามากัดกินทุกคน ทั้งหมดไม่เพียงแต่ต้องป้องกันและต่อสู้กับซอมบี้เท่านั้น แต่ยังต้องคอยต่อสู้กับความกลัวของตัวเอง และความหวาดระแวงจากคนแปลกหน้า ที่มารวมตัวกันในที่แห่งนี้ สุดท้ายแล้วทั้งหมดจะร่วมมือกันเพื่อรอดไปได้หรือไม่ ต้องไปติดตามชมกันเอาเองนะ
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 7.3/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 40 นาที
25. Pet Sematary 2019
หนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ สตีเฟ่น คิง ที่เคยทำเป็นหนังออกมาแล้ว และได้มีการรีเมคพร้อมปรุงแต่งเรื่องใหม่บางส่วน ซึ่งความจริงแล้วจะบอกว่าเป็นซอมบี้เต็มๆ ก็คงไม่ใช่ แต่ในเมื่อสัตว์ที่ตายไปแล้ว กลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง โดยเรื่องได้เล่าถึงนายแพทย์ หลุยส์ ครีด ที่ได้พาครอบครัวคือ เรเชล ภรรยาพร้อมกับลูกสองคนย้ายบ้านจากบอสตัน ไปยังเมืองชนบทแห่งหนึ่ง หลังจากที่ได้ลงหลักปักฐาน เขาก็พบว่าในที่แห่งนี้มีที่ฝังศพอยู่ในป่า ใกล้ๆ กับบ้านของพวกเขาเอง เรื่องราวเกิดจากแมวของลูกสาวได้ตายลงไป และเขาก็นำศพไปฝังในป่านั้น แต่มันดันกลับมามีชีวิตใหม่ พร้อมกับความสยกสยองที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จนกลายมาเป็นความสยองที่ส่งผลกับครอบครัวของเขาเอง
- ช่องทางการดู : Netflix
- IMDB: 5.7/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 41 นาที
26. Scouts Guide to the Zombie Apocalypse
ขอปิดท้ายกันด้วยหนังแนวซอมบี้แนวตลกอีกหนึ่งเรื่อง ที่เล่าถึง เบ็น พร้อมกับผองเพื่อนคือ คาร์เตอร์ และเพื่อนอีกคน ที่ยังคงอินกับความเป็นลูกเสืออยู่ จนคนในโรงเรียนนั้นไม่มีใครอยากจะยุ่งด้วย แต่สุดท้ายเบ็นก็คิดขึ้นได้ว่าอยากจะเดินเส้นทางใหม่ และละทิ้งความเป็นลูกเสือออกไป ในค่ำคืนของปาร์ตี้ลับที่กำลังจะมาถึงนี้ และทิ้งเพื่อนอีกคนเอาไว้ เพื่อที่เขานั้นอยากจะไปพบพี่สาวของเบ็นคือ เคนดัล ที่เขาแอบชอบมานานแล้ว แต่เมื่อเขาออกมาจากป่า ก็พบว่าทั้งเมืองนั้นกลายเป็นเมืองซอมบี้ไปแล้ว ทั้งหมดจึงต้องช่วยกันเอาตัวรอด พร้อมกับช่วยพี่สาวสุดสวยให้รอดพ้นไปด้วยให้ได้ ถึงแม้ว่าทุกคนจะทำท่าจริงจังแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็คือเรื่องตลกอยู่ดี
- ช่องทางการดู : iTunes, Google Play
- IMDB: 6.3/10
- เวลา : 1 ชั่วโมง 33 นาที
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นหนังแนวซอมบี้เกาหลี และซอมบี้ฝรั่งทั้ง 26 เรื่องที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งเนื้อหาของแต่ละเรื่องก็จะมีความแหวกแนว และมีเนื้อหาจริงจัง หรือตลก แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงบางเรื่องที่อาจจะไม่ใช่ซอบบี้จริงจัง แต่ก็เป็นตัวที่ลุกออกมาไล่ล่าคนเป็นอย่างเรา เพื่อหวังเอาชีวิต หรือแพร่เชื้อออกไป ทางเดียวที่จะรอดได้ก็คือหนี หรือต่อสู้เท่านั้น ใครที่ชอบดูหนังแนวนี้ แนะนำว่าให้ลองเลือกดูได้เลย ว่าอยากดูแบบเบาสมอง หรือว่าจะดูหนังสยองเลือดพุ่ง และสุดท้ายก็คือแนะนำว่าให้ดูหนังถูกลิขสิทธิ์กันด้วยนะ เพราะหลายๆ เรื่องสามารถดูบน Netflix ได้ หรือว่าดูผ่าน Google Play (Movies) และ iTunes ได้เลย จะเช่าหรือซื้อมาดูเลยก็ได้ แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ