เข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ หลายท่านก็คงมีความตั้งใจที่จะซื้อมือถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับเด็กหรือผู้สูงอายุในครอบครัว ซึ่งช่วงงบที่ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ก็คือราคาประมาณ 10,000 บาท เพราะเป็นช่วงที่ได้มือถือสเปคดี ความสามารถค่อนข้างครบถ้วน สามารถใช้งานได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะใช้เป็นเครื่องสแตนด์บายที่ใช้เป็นเครื่องสำรองได้คล่องตัว ใช้คุยไลน์ ถ่ายรูป เล่นเกมก็ทำได้สบาย ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทที่น่าซื้อเป็นของขวัญในช่วงปีใหม่ 2024 – 2025 นี้
POCO X6 Pro 5G – มือถือราคาไม่เกิน 10,000 รุ่นสุดคุ้ม
เริ่มต้นด้วยรุ่นแรกอย่าง POCO X6 Pro 5G หนึ่งในมือถืองบ 10,000 บาทที่ให้สเปคมาจัดเต็มมาก ๆ เมื่อเทียบกับราคา ด้วยการให้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8300-Ultra ที่มีประสิทธิภาพสูงระดับรองของชิปรุ่นเรือธงเล็กน้อย รองรับการเล่นเกมมือถือในปัจจุบันได้สบายมาก รวมถึงยังมีการออกแบบชุดระบายความร้อนที่จะช่วยให้เล่นเกมต่อเนื่องได้อย่างไหลลื่น จึงเหมาะกับการซื้อเป็นของขวัญให้กับผู้รับทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะให้เด็ก ๆ ก็ใช้เล่นเกมได้สนุก ให้ผู้ใหญ่ก็สามารถใช้คุยไลน์ ส่งรูปสวัสดีวันจันทร์ รองรับการอัปเดตแอปไปได้อีกหลายปี
ส่วนหน้าจอก็จะให้มาเป็นไซซ์ยอดนิยมคือขนาด 6.67″ พาเนล AMOLED ความละเอียดระดับ 1.5K (2712×1220) รีเฟรชเรต 120Hz รองรับการแสดงสีได้ระดับ DCI-P3 จึงทำให้ภาพบนจอมีความสวยงาม สีสันสดใส มีมิติ ในขณะเดียวกันก็ยังจัดว่าอยู่ในระดับที่พกพาได้สะดวก ส่วนแบตเตอรี่จะให้มา 5000 mAh ที่จัดว่าอยู่ในระดับทั่วไปสำหรับมือถือ Android ในปัจจุบัน แต่จะได้ชาร์จเร็วระดับ 67W ที่จัดว่าค่อนข้างสูงมาก และยังมีความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 ทำให้สามารถใช้งานทั่วไปได้สบาย โดนน้ำนิดหน่อยก็ไม่มีปัญหา กล้องหลังก็ได้ความละเอียดสูง มีระบบกันสั่น OIS มาให้ด้วย
สำหรับรุ่นความจุที่จะแนะนำก็คงเป็นแรม 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 512GB ไปเลย เพราะสามารถหาซื้อออนไลน์ได้ในราคาไม่ถึง 10,000 บาท
ข้อมูล POCO X6 Pro 5G / รีวิวรุ่นใกล้เคียง
Samsung Galaxy A25 5G – สเปคกำลังดี ใช้งานแบบสบายใจ
มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นถัดมาที่น่าซื้อก็จะเป็น Samsung Galaxy A25 5G ที่สามารถหาซื้อได้ในราคาสิบใบเทาทอน 1 บาท สเปคโดยรวมก็จัดว่าให้มาไล่เลี่ยกันกับรุ่นอื่น ๆ ในช่วงราคาใกล้กัน คือได้จอ Super AMOLED ขนาด 6.5″ ความละเอียดระดับ Full HD+ รีเฟรชเรต 120Hz ที่ใช้งานทั่วไปได้อย่างไหลลื่น ประมวลผลโดยชิป Exynos 1280 ที่มี 8 คอร์ รองรับการเชื่อมต่อ 5G และมี NPU สำหรับประมวลผล AI ในตัว มาพร้อมแรม 8GB พื้นที่เก็บข้อมูล 256GB ก็จัดว่าให้มาในระดับที่ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้ดี กล้องหลังก็ให้มาสามเลนส์คือเลนส์ไวด์ปกติ เลนส์อัลตร้าไวด์และเลนส์มาโคร โดยที่มีระบบกันสั่น OIS มาให้ด้วย จึงช่วยให้สามารถถ่ายภาพให้คมชัดได้ง่ายขึ้น ไม่เบลออันเกิดจากการสั่นไหว
หนึ่งในฟีเจอร์เสริมที่ Samsung ทำออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานในไทยได้ค่อนข้างดีกว่ามือถือ Android แบรนด์อื่น ๆ ก็คือฟังก์ชันในการช่วยบล็อกและป้องกันสแปม ซึ่งก็จะช่วยคัดกรองเบอร์โทรที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นเบอร์คอลเซ็นเตอร์ได้ในระดับหนึ่ง ประกอบกับ Samsung ก็มีนโยบายที่จะปล่อยอัปเดตให้กับ Galaxy A25 ทั้งในด้านของการอัปเกรด OS ได้นานสุด 4 ปี และอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยได้นานสุด 5 ปี ทำให้น่าจะเหมาะกับการซื้อเป็นมือถือให้กับผู้ใหญ่ในครอบครัว ที่ต้องการมือถือที่ใช้งานได้นาน ๆ ในราคาไม่เกิน 10,000 บาท เพราะน่าจะสามารถอัปเดต OS ให้เหมาะกับความต้องการขั้นต่ำของแอปพลิเคชันไปได้อีกหลายปี ป้องกันการเกิดปัญหาไม่สามารถใช้ Line หรือใช้แอปธนาคารได้ อันเนื่องมาจากเวอร์ชันระบบปฏิบัติการเก่าเกินไปจนแอปต่าง ๆ ไม่รองรับ
CMF Phone 1 by Nothing – ดีไซน์แหวกแนว สเปคลงตัวกับคน Gen ใหม่
ส่วนถ้าต้องการซื้อมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทเป็นของขวัญให้กับผู้รับที่เป็นวัยเด็กลงมานิดนึง วัยรุ่นตอนโตหน่อย หรือรวมไปถึงผู้ที่ต้องการมือถือที่ดีไซน์ไม่ค่อยซ้ำใคร ปรับเปลี่ยน ตกแต่งหน้าตาได้แหวกแนวนิดนึง รุ่นที่น่าสนใจก็จะเป็น CMF Phone 1 ที่เป็นแบรนด์ย่อยจาก Nothing Phone ที่มีจุดเด่นคือตัวเครื่องที่ได้รับการออกแบบให้สามารถถอดเปลี่ยนบางชิ้นส่วนได้ เช่น เปลี่ยนฝาหลัง ติดตั้งซองใส่บัตร สายคล้องคอและขาตั้งเพิ่มเข้าไปได้ตามต้องการ ทำให้เป็นหนึ่งในมือถือที่เพิ่มความอิสระให้กับผู้ใช้ในการตกแต่งเครื่องให้เหมาะกับการใช้งานและสไตล์ที่ต้องการได้
ในขณะที่สเปคเครื่องก็จะให้มาในระดับพื้นฐานของมือถือช่วงราคา 5,000 – 10,000 บาท นำมาโดยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7300 5G ที่ให้ประสิทธิภาพระดับกลาง ๆ ใช้ทำงาน ใช้เล่นเกมได้ แรม 8GB พื้นที่เก็บข้อมูล 256GB ส่วนหน้าจอจะให้มาเป็นจอ Super AMOLED ขนาด 6.67″ ความละเอียดระดับ Full HD+ รีเฟรชเรต 120Hz ซึ่งเป็นสเปคที่กำลังดีสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน ทั้งยังไม่กินสเปคมากเกินไปด้วย จะมีนิดนึงก็ตรงกล้องหลังที่ให้เลนส์หลักมาแค่เลนส์เดียว ส่วนอีกเลนส์จะเป็นเซ็นเซอร์ที่ใช้ช่วยในการถ่ายภาพบุคคลเพื่อให้ภาพดูมีมิติ มีการเบลอฉากหลังได้โดยอาศัยการประมวลผลภาพช่วย จึงอาจจะเป็นมือถือที่เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่เน้นเรื่องกล้องมากนัก ส่วนราคาก็จะอยู่ที่ราว 8,000 กลาง ๆ ไม่เกิน 9,000 บาท
TECNO Pova 6 Pro 5G – มือถือเน้นสเปคสายเล่นเกม แบตอึด ชาร์จไว
ด้านของมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาทสำหรับการเล่นเกมที่น่าซื้อเป็นของขวัญปีใหม่ รุ่นที่น่าสนใจก็จะเป็น TECNO Pova 6 Pro 5G ที่แม้จะเป็นแบรนด์รองลงมาหน่อย แต่มีสเปคและฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาก เริ่มด้วยชิป MediaTek Dimensity 6080 5G ที่ก็อยู่ในระดับใช้เล่นเกมในปัจจุบันได้สบาย แม้อาจจะปรับกราฟิกได้แบบไม่จัดเต็มมากนัก มาพร้อมแรม 12GB แบบไม่จำเป็นต้องใช้ฟังก์ชันเพิ่มแรมเสมือนก็ยังได้ หรือถ้าใช้ก็สามารถเพิ่มเป็นแรมได้สูงสุดเป็น 24GB เลย ส่วนหน้าจอก็ได้ไซซ์ยอดนิยมคือ 6.78″ AMOLED ความละเอียดระดับ Full HD+ 120Hz สีสันสวยงามสมจริง กล้องหลังก็ได้มา 108MP กล้องหน้า 32MP กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP53
แต่ที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือสเปคด้านแบตและการชาร์จ เพราะได้แบตเตอรี่ 6000 mAh รองรับการชาร์จเร็วสูงสุดถึง 70W โดยที่มีระบบจัดการการชาร์จให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงเปอร์เซ็นต์แบต เพื่อช่วยถนอมสุขภาพแบตเตอรี่ในระยะยาว ที่สำคัญเลยคือมีระบบ Bypass charge ที่ถ้าหากเป็นการเสียบสายชาร์จในระหว่างการเล่นเกม ระบบจะปรับให้ไฟวิ่งจากพอร์ตชาร์จเข้าไปที่บอร์ดโดยตรง ไม่ผ่านแบตเตอรี่เหมือนในมือถือทั่วไป ซึ่งจะช่วยถนอมสุขภาพ ลดความร้อนสะสม ยืดอายุการใช้งานแบต ทำให้เหมาะมากสำหรับการเล่นเกมแบบมาราธอนที่ต้องเสียบสายชาร์จขณะเล่นอยู่ตลอดเวลา ส่วนราคาก็สามารถหาซื้อได้ในราคาประมาณ 8,000 ต้น ๆ เท่านั้น
realme 12+ 5G – เน้นถ่ายภาพ ดีไซน์ดูพรีเมียม
ปิดท้ายมือถือราคาไม่เกิน 10000 ด้วย realme 12+ 5G ที่แม้จะไม่ใช่สเปคใหม่ล่าสุด แต่เป็นรุ่นที่ให้มาแบบลงตัวดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเรื่องดีไซน์ที่มีความเรียบหรู ดูพรีเมียม งานประกอบทำได้ดีเกินราคา ส่วนฮาร์ดแวร์ภายในก็ให้มาในระดับมาตรฐานคือได้เป็นชิป MediaTek Dimensity 7050 5G รองรับการเล่นเกม การประมวลผลต่าง ๆ ในมือถือได้ดีและครบถ้วน หน้าจอ 6.67″ ที่มีการอัปเกรดจาก realme 12 มาใช้พาเนล AMOLED แล้ว รีเฟรชเรต 120Hz พื้นที่เก็บข้อมูล 256GB เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว SuperVOOC สูงสุดถึง 67W และกันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับ IP54
จุดที่น่าสนใจของ realme 12+ 5G ก็คือความสามารถของกล้องหลังที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony LYT-600 คุณภาพสูง พร้อมมีระบบกันสั่น OIS สามารถถ่ายภาพ portrait ได้ง่ายโดยใช้การ crop เซ็นเซอร์รับภาพ มีโหมดสตรีทสำหรับการถ่ายภาพที่ได้สีสันดูมีสไตล์ มีความจัดจ้าน รวมถึงยังมีฟิลเตอร์ในแบบ cinematic ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง realme กับช่างภาพระดับฮอลลีวูด ทำให้การแต่งภาพกลายเป็นเรื่องสนุกและสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนราคาของรุ่นแรม 12GB ก็จะอยู่ที่ประมาณ 9,000 บาท