แบตมือถือหมดไวคือปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้มือถือจะต้องเจอกันทุกคน ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะเจอกันแบบไหน โดยในปัจจุบันนี้ผู้ผลิตมือถือต่างก็พยายามหาทางทำให้มือถือของตัวเองสามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเพิ่มปริมาณแบตเตอรี่หรือแม้กระทั่งปรับแต่ระบบปฏิบัติการให้ใช้พลังงานน้อยลง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้แบตมือถือหมดไว ซึ่งวันนี้ทีมงาน Specphone เราจะมาบอกสาเหตุพร้อมวิธีแก้แบบง่าย ๆ ให้เพื่อน ๆ กัน
10 วิธีแก้แบตมือถือหมดไว
1. โหลดเฉพาะแอปที่ใช้จริง ๆ เท่านั้น
การที่เรามีแอปเยอะ ๆ ในเครื่องมันช่วยเรื่องเวลาเราจะใช้แอปแบบไหนก็สามารถเปิดขึ้นมาใช้ได้ทันที ถึงแม้ว่าแอปนั้นจะไม่ได้ใช้บ่อย ๆ ก็ตาม แต่หารู้ไม่ว่าแอปทุกตัวนั้นจะมีการทำงานเบื้องหลังอยู่ตลอดเวลาทำให้ใช้แบตเตอรี่อย่างมากซึ่งมันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย ดังนั้นในมือถือเราควรจะมีเพียงแค่แอปที่เราจะใช้จริง ๆ หรือใช้บ่อย ๆ เท่านั้น ส่วนแอปไหนไม่ค่อยได้ใช้หรือไม่จำเป็นก็ควรจะถอนทิ้งไปซะ
2. ลดความสว่างหน้าจอ
ในปัจจุบันนี้มือถือทุกเครื่อง-ทุกยี่ห้อสามารถปรับความสว่างหน้าจอได้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลายคนที่ชอบปรับความสว่างให้สุงสุดเวลาใช้งาน ซึ่งแบบนั้นจะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว แถมยังทำให้หน้าจอเสียเร็วขึ้นอีกด้วย หากไม่อยากมาคอยปรับความสว่างบ่อย ๆ ขอให้เปิดฟีเจอร์ปรับความสว่างแบบอัตโนมัติไว้ตลอดเวลาจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้เยอะเลย หรือถ้าไม่อย่างให้มันทำงานเองก็สามารถปรับความเองก็ได้ ถึงแม้ว่าจะช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้เยอะกว่า แต่ว่าบางครั้งอาจจะลืมปรับก็เป็นได้
3. ปรับ Screen Timeout ให้สั้น
เวลาไม่ได้ใช้งานมือถือตัวระบบจะมีการหมดเวลาแล้วจะดับหน้าจอลงเพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งถึงแม้มันจะช่วยประหยัดพลังงานได้แต่หากเราปรับลดเวลาลงไปอีกก็จะช่วยให้เสียพลังงานไปกับหน้าจอน้อยลงยิ่งขึ้น ดังนั้นทางที่ดีควรตั้ง Screen Timeout ให้น้อยกว่า 1 นาทีจะดีที่สุด (30 วินาทีกำลังดี)
4. ปิดใช้ Dark Mode
ในปัจจุบันมือถือต่าง ๆ ได้มีโหมดสีเข้มอยู่ในเครื่องอยู่แล้ว แถมแอปต่าง ๆ ก็เริ่มที่จะใส่โหมดสีเข้มเข้ามาให้ใช้ด้วย ซึ่งโหมดสีเข้มนี้นอกจากจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ทำให้ใช้งานมือถือได้ยาวนานขึ้นแล้ว ยังช่วยถนอมสายตา และทำให้การมองเห็นแอปต่าง ๆ ได้ชัดมากขึ้นด้วย
5. ปิดทุกการเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็น
การเชื่อมต่ออย่างเช่น GPS , BLUETOOTH , Wi-Fi เพราะการที่แอปเชื่อมต่อเน็ตทำงานอยู่ตลอดเวลาก็ต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่มือถือมากขึ้นเหมือนกัน โดยเฉพาะแอปที่ขอสิทธิเข้าถึง Location หรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth ส่งผลให้มีการใช้แบตมากขึ้น ดังนั้นหากไม่จำเป็นต้องใช้ควรปิดเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่มือถือคุณ และเปิดใช้งานเมื่อจำเป็นต้องใช้
6. ปิดการอัพเดตแอปพลิเคชั่นโดยอัตโนมัติ
การอัพเดตแอปพลิเคชั่นโดยอัตโนมัติเป็นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเพราะเมื่อตัวแอปทำการอัพเดตจะทำให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูลตลอดเวลา และหากการเชื่อมต่อสัญญาณของผู้ใช้งานต่ำแต่มีการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่แล้วนั่นยิ่งทำให้ใช้เวลานานขึ้นไปอีก ส่งผลให้แบตเตอรี่ถูกใช้งานไปกับส่วนนี้ค่อนข้างมาก ดังนั้นสิ่งที่ผู้ใช้งานควรทำคือการปิดอัพเดตแอปอัตโนมัติจาก Google Play Store ซึ่งคุณสามารถเช็คการอัพเดตได้เองเมื่อคุณพร้อม โดยให้ไปที่ Google play store เลือก Settings > Auto-update apps และเลือกที่ไม่ต้องอัพเดตแอปอัตโนมัติ
7. ปิดเสียงแจ้งเตือนและการสั่นที่ไม่ต้องการให้เรียบร้อย
เวลาใช้มือถือมักจะมีการแจ้งเตือนต่าง ๆ มากมายตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นแบบเสียงหรือแบบสั่น โดยการสั่นหรือเสียงเตือนมักจะมาพร้อมกับการกดหมายเลขโทรศัพท์, การแจ้งเตือนแอปต่าง ๆ รวมไปถึงเสียงล็อกหน้าจอเป็นต้น ซึ่งพวกนี้ส่งผลให้แบตเตอรี่ลดลงได้ทีละเล็กละน้อย ดังนั้นผู้ใช้งานก็ควรที่จะปิดสิ่งแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นนี้ให้หมดปัญหาไป
8. ใช้วอลเปเปอร์ที่เรียบและงดการใช้วอลเปเปอร์ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว
วอลเปเปอร์แบบเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ดูสวยแต่ก็ใช้งานแบตเตอรี่ไปไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งผู้ใช้งานควรใช้งานวอลเปเปอร์แบบเรียบ ๆ มากกว่า นอกจากนี้มือถือที่มีหน้าจอแบบ AMOLED เราแนะนำให้ใช้วอลเปเปอร์ที่เป็นสีดำเพื่อรักษาแบตฯ ให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้นไปอีกขั้น
9. เปิด Airplane Mode
ถ้าเราต้องไปอยู่ในที่ ๆ สัญญาณอ่อนหรืออับสัญญาณเป็นเวลานาน ๆ สมควรเปิด Airplane Mode ไว้จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้ดีที่สุด เพราะเมื่อเราไปอยู่ในที่ ๆ สัญญาณอ่อนหรืออับสัญญาณตัวระบบจะพยายามค้นหาและจะพยายยามจับคลื่นบ่อย ๆ ส่งผมให้ใช้แบตเตอรี่ไปอย่างมากเลย
10. เปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน
โหมดประหยัดพลังงานเป็นฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้ใช้งานกัน ซึ่งคุณสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้เพื่อประหยัดแบตแบบขั้นสูงแต่จะลดความสามารถในการทำงานของสมาร์ทโฟนบางอย่างไป โดยโหมดนี้จะทำการปิดการทำงานเบื้องหลังและเอฟเฟคต่าง ๆ นอกจากนี้ในสมาร์ทโฟนหลาย ๆ รุ่นยังมีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงเพื่อช่วยให้สมาร์ทโฟนของผู้ใช้งานทำงานได้นานขึ้นอย่างมาก
นอกจากทั้ง 10 ข้อที่กล่าวไปแล้วยังมีอีกสิ่งที่ทำให้แบตเตอรี่ลดลงเร็ว แถมยังเร็วมากกว่าทั้ง 10 ข้อด้านบนอีก นั่นก็คืือการเล่นเกมครับ อันเนื่องมาจากเกมต่าง ๆ ต้องใช้การประมวลผลที่ค่อนข้างหนัก แถมหากเราไปปรับการแสดงผมให้มีความละเอียดสูง ๆ ก็ยิ่งต้องใช้พลังงานเยอะด้วย ดังนั้นการเล่นเกมให้พอเหมาะ ปรับการฟิกแบบต่ำและใช้เวลาเล่นไม่นานก็ช่วยให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นมากแล้ว