วันนี้เรามีเกมมือถือที่น่าเล่นในปี 2018 มาแนะนำ หลัก ๆ จะเป็นเกมฟรีทั้งหมด และบางเกมผู้เขียนก็เล่นเป็นประจำ มาดูกันดีกว่าว่าจะมีเกมอะไรที่น่าสนใจในปี 2018 นี้บ้าง โดยในปี 2018 เนี่ย เป็นปีที่เกมบนสมาร์ทโฟนโหดขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในแง่ของเกมเพลย์ ไปจนถึงกราฟฟิคที่เริ่มจะใกล้เคียงกับเกมบนคอมพิวเตอร์ จึงไม่แปลกที่บางเกมจะได้รับความนิยมกันแบบสุด ๆ เลยล่ะครับ
1. PUBG Mobile – ประเภท Battle Royal
อีกหนึ่งเกมที่มาแรงมากในปี 2018 นี้ จากเกมบน PC ต่อยอดสู่เกมบนมือถือทำให้ PUBG ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไปอีก PUBG Mobile เป็นเกมแนว Battle Royale หรือเกมแนวที่จะให้ผู้เล่นต่อสู้กันบนพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยที่แต่ละคนจะมีจุดเริ่มต้นที่เหมือนกัน และต้องเอาชีวิตรอดให้เหลือเป็นคนสุดท้ายบนสนามรบ
ด้าน Gameplay คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากเพราะเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้ว เกมแนวนี้จะให้ความอิสระแก่ผู้เล่นที่จะสามารถทำอะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญคือจะต้องเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์เรียกได้ว่าเหมือนกับบน PC เลย ในภาพรวมแล้วตัวเกมทำออกมาได้ใกล้เคียงกับบน PC แต่จะแตกต่างในด้านระบบช่วยเหลือบางอย่างและกราฟฟิกในฉบับเกมมือถือ
สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ลองเล่น PUBG Mobile ควรที่จะลองเล่นดูสักครั้ง และสำหรับใครที่เล่นเป็นประจำอยู่แล้วคงจะทราบดีว่ามันสนุกขนาดไหน
2. The Sims Mobile – ประเภท Casual
หนึ่งในเกมอมตะของค่าย EA ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี มาคราวนี้ได้ทำเป็นเวอร์ชั่นบนมือถือให้เราได้เล่นกันแล้ว ต้องขอบอกก่อนเลยว่ามีความคลายกับบน PC ไม่น้อยเลยทีเดียว
Gameplay ส่วนหลักๆ จะเหมือน The Sims 4 บน PC (สร้างตัวละคร แต่งบ้าน เติมหลอดความต้องการ) แต่จะมีส่วนที่แตกต่างออกไปบ้างในเรื่องของกิจกรรมที่ให้ทำ เช่นไปทำงานก็จะมีมินิเกมให้เล่นระหว่างทำงานด้วย และปฏิสัมพันธ์กับผู้คน เหมือนกับว่าเขาเน้นให้ออกไปใช้ชีวิตมากกว่าที่จะมัวขลุกอยู่กับบ้าน
ด้านกราฟฟิกจัดว่าแจ่ม การปั้นโมเดลตัวละครทำมาได้ดี ไม่รู้สึกเลยว่าภาพแย่ ถึงจะไม่ได้เนียนกริ๊บเท่าบน PC ได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว ด้านเนื้อเรื่องอันนี้คุณต้องเป็นคนกำหนดเอง ตัวเกมออกแบบมาให้เล่นส่วนนี้ได้อย่างอิสระ ด้านเสียงประกอบก็ยังคงเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์ The Sims ทั้งเพลงประกอบที่นุ่มนวล และภาษาของตัวละครที่ฟังไม่รู้เรื่อง (ภาษาซิม)
โดยสรุปแล้ว The Sims Mobile ทำได้ดีและมีความหลากหลาย มีความใกล้เคียงกับ The Sims 4 บน PC ภาคหลังๆ เลยก็ว่าได้
3. Fate/Grand Order – ประเภท Turn Base RPG
สำหรับใครที่ชื่นชอบอนิเมะหรือมังงะสายญี่ปุ่นแล้วคงเคยเห็น หรือรู้จักตัวละครซีรี่ย์นี้แน่นอน ด้วยเอกลักษณ์ของ Saber Face ที่ติดตาตรึงใจใครหลายๆคน และ Fan Art ที่ออกมาเยอะมากๆ จริงๆแล้วเกมนี้ได้ออกมาให้เล่นกันนานแล้ว แต่อยู่ในเซิร์ฟญี่ปุ่น และตัวเกมเองก็เป็นภาษาญี่ปุ่น และทางผู้พัฒนาก็มิได้รอนาน ปล่อยตัวเกมภาษาอังกฤษ เซิร์ฟเวอร์อเมริกา หรือเรียกกันว่า”เซิร์ฟอิ้ง” ให้ออกมาเล่นกันในภายหลัง แต่ดันไม่ได้เข้า Store ไทย
จนในที่สุดในปี 2018 เกมนี้ก็ได้เข้า Store ไทย แล้วอย่างเป็นทางการ ตัวเกมเป็นเกมแนว Turn Base ที่จะใช้การ์ดคำสั่งให้ตัวละครโจมตีตามการ์ด และยังมีสกิลพิเศษอีกมามาย โดยตัว Gameplay แล้วไม่ได้โดดเด่นอะไร มีระบบต่อสู้ และระบบอัพเกรดตัวละคร เหมือนเกมอื่น แต่จะไปโดดเด่นในเรื่องของเนื้อเรื่องที่เข้มข้นตามสไลต์ Fate Series, ภาพวาดตัวละครที่สวย และระบบเสียงพากย์เหมือนกับในอนิเมะ ต้องขอบอกเลยว่าใครที่ชื่นชอบเกมแนว Visual Novel คงจะชอบเกมแนวนี้แน่นอน
สำหรับใครที่สนใจจะเล่นเกมนี้ก็ขอเตือนไว้ก่อนว่าเกมนี้เป็นเกมแนวกาชา ดังนั้นการเติมเงินอันแสนแพงอาจไม่ช่วยให้ได้ดังที่หวัง และเกมนี้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดของตู้กาชาที่เกลือขั้นเทพ แต่ยังไงคนสายนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง โดยสามารถ Download จาก Store ไทยได้แล้ววันนี้
4. Onmyoji – ประเภท Turn Base RPG
Onmyoji เป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้เปิดให้บริการเซิร์ฟเวอร์ไทยโดยผู้ให้บริการที่คุ้นเคยกันดีอย่าง Garena สำหรับใครที่เป็นสายอนิเมะ หรือสายญี่ปุ่นแล้วพลาดไม่ได้เลย Onmyoji เป็นเกมแนว Turn Base RPG + Action ที่เอาตัวละครมาตั้งแล้วหวดกันให้ตายกันไปข้างตามสไตล์เกม Action และระบบอัพเกรดอย่างเกม RPG
ด้าน Gameplay มีให้เล่นหลากหลายแนว ชนิดที่ว่าเล่นได้เดือนนึงโดยไม่เบื่อ หลักๆเกมนี้จะต้องจัดทีม จัดลำดับคอมโบ และอัพเลเวลตัวละครเหมือนเกมแนว Turn Base RPG ทั่วๆไป แต่ก็มีความเป็น Action ในส่วนของการเคลื่อนไหวของตัวละคร ด้านภาพเรียกได้ว่าทำมาได้สวย และมีความเป็นญี่ปุ่นในแบบฉบับเกมบนมือถือ
ด้านเสียงประกอบที่ทำได้ดูย้อนยุคมีเสน่ห์ ด้านเสียงพากย์ทำได้ดี เหมือนกับเรากำลังดูอนิเมะดีๆ เรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ด้านเนื้อเรื่อง ตัวละครแต่ละตัวจะมีที่มาที่อิงจากตำนานต่างๆ และตัวเกมเองก็มีบทเนื้อเรื่องให้ได้เล่นกันด้วย แต่ส่วนตัวคิดว่ามันสั้นไปหน่อย
สุดท้ายนี้เกมนี้เป็นเกมแนวกาชา ที่สำคัญคือเป็นแนวกาซาของ Garena ซะด้วย ดังนั้นการลงทุนมีความเสี่ยง สำหรับใครที่เป็นสายอนิเมะ หรือสายญี่ปุ่นอย่าลืมไปหามาเล่นกันได้
5. Onmyoji Arena – ประเภท MOBA
สำหรับใครที่เริ่มเบื่อ ROV แล้วลองมาเล่นเกมนี้ดูครับ Onmyoji Arena เป็นเกมแนวเดียวกับ ROV หรือ Moba โดยที่เกมนี้เหมือนเป็นส่วนผสมของ ROV + LoL (League of Legends) โดยตัวเกมจะมีภาพที่ออกไปทางการ์ตูนหน่อย ดูมีความความเป็นญี่ปุ่น
ในเรื่องของโมเดลตัวละครถือว่าปั้นมาดี เมื่อเทียบจากเกมต้นฉบับอย่าง Onmyoji ที่เป็นเกมแนว Turn Base ซึ่งใช้ภาพแบบ 2D พอเป็นเกมนี้ได้นำตัวละครเหล่านั้นมาทำเป็น 3D ก็ถือว่าแกะงานต้นฉบับมาได้เนียน แต่โดยส่วนตัวคิดว่าในด้านความพริ้วไหวของลายเส้นอาจจะยังไม่พริ้วไหวเท่าที่ควร มันเลยดูทื่อๆ ไปหน่อย
เนื้อเรื่องคิดสะว่าไม่มีละกัน ก็เลือกตัวมาบวกกันอย่างเดียวนิ = =a ด้าน Gameplay ก็ไม่ได้ต่างจากเกม Moba เกมอื่น (ทลายฐานของศัตรู ฟาร์ม บวก All บลาๆ) แต่เกมนี้จะทำการปรับสิ่งเหล่านั้นให้เป็นสไตล์ของตัวเองมากกว่า ด้านเสียงพากย์มีให้เลือกหลายภาษา จริงๆ แนะนำว่าเล่นเสียงญี่ปุ่นจะได้อรรถรสมากกว่า
โดยรวมถือว่าเล่นแก้เบื่อได้สนุกเลยทีเดียว ทิ้งท้ายว่าเกมนี้สำหรับสายเติม ไม่ได้เติมแพงมากเวอร์เหมือนเกมอื่นด้วย
6. Roller Coaster Tycoon Touch – ประเภท Casual
มาถึงเกมแนวสบายๆกันบ้างกับเกม Roller Coaster Tycoon Touch สำหรับใครที่เคยเล่นเกมสร้างสวนสนุกใน PC มาก่อนคงจะคุ้นกับชื่อนี้แน่นอน โดยเกมนี้ได้ช่วยรื้อฟื้นจินตนาการในวัยเด็กของผมอีกครั้งก็ว่าได้
ด้าน Gameplay เป็นเกมแนว Causal หรือเกมเล่นง่ายๆ ชิลๆ ตัวเกมจะให้เรารับบทเป็นเจ้าของสวนสนุกแห่งหนึ่งที่ต้องคอยพัฒนาสวนสนุกด้วยวิธีการต่างๆ เช่นการสร้างเครื่องเล่นที่ดึงดูดใจ การบริหารจัดการทรัพยากร และอีกมากมาย ด้านภาพทำออกมาได้สวย โมเดล 3D ทำออกมาได้ดูสบายตา แสง เงา เนียนใช้ได้
ด้านเสียงประกอบขอไม่พูดถึงละกันเพราะมันไม่ใช่จุดเด่นของเกมนี้ และอีกหนึ่งจุดเด่นคือตัวเกมไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก (300 MB) สรุปแล้วสำหรับใครที่กำลังหาเกมที่เล่นง่ายๆ ภาพสวย ไว้แก้เบื่ออย่าลืมไปลองเล่นกันได้
7. Honkai Impact 3 – ประเภท Action
เกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีภาพสวยมาก ตัวละครเคลื่อนไหวลื่นไหล Honkai Impact 3 เป็นเกมที่มีความเป็นอนิเมะอยู่มาก โดยตัวเกมจะเป็นแนว Action เดินหน้าฆ่ามัน ปั่นคอมโบหลุดโลกแบบที่เห็นได้ในเกมเช่น Devil May Cry อะไรทำนองนั้นเลย
ด้าน Gameplay จะเป็นเกมแนว Action ที่เดินเข้าไปบวกศัตรู ทำคอมโบ และหลบการโจมตีให้ถูกจังหวะ นอกจากนี้ตัวเกมยังเสริมความเป็น RPG เข้าไปด้วยการเพิ่มระบบอัพเกรดตัวละคร และฐานทัพ ทำให้เกมมีความสมบูรณ์มากขึ้น และที่เป็นทีเด็ดของเกมแนวนี้ที่หาได้ยากคือระบบ Co-op เล่นกับเพื้อน จึงเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของเกมนี้เลยก็ว่าได้
ด้านกราฟฟิกทำได้ลื่นไหล เนียน ยิ่งถ้าเล่นโหมดเฟมเรทสูงและปรับภาพสูงสุด เรียกได้ว่าแทบจะหาข้อติไม่เจอ แต่ถ้าจะให้ติคงจะมีในเรื่องของฉากที่ทำมาดูเป็น 2D ไปหน่อย พอเอาตัวละครที่เป็น 3D มาวาง แล้วจะรู้สึกว่าตัวละครจะดูลอยๆ ออกจากฉากไปนิด
ในเรื่องตัวละครทำมาได้ดีมาก การปั้นตัวละครทำได้ดูเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าพูดถึงข้อติคงจะเป็นเรื่องของการแสดงสีหน้า และการขยับปากของตัวละครยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ คือดูเหมือนเป็นหุ่นยนต์ทื่อๆ มากกว่า ด้านเสียงประกอบและการพากย์ไม่ได้โดดเด่น ทำได้ดีตามมาตรฐานเกมแนวอนิเมะญี่ปุ่น และสิ่งที่ตามมาในเกมแนวนี้คือระบบกาชา การลงทุนมีความเสี่ยง
สำหรับข้อสังเกตของเกมนี้ก็มีอยู่บ้าง ในเรื่องของฉากการต่อสู่ที่ไม่ได้กว้างมากและไม่ได้อิสระเท่าไหร่ตามสไตล์เกมมือถือ ใครที่หวังว่าจะได้โลดแล่นในฉากใหญ่ๆลืมไปได้เลย ต่อมาขนาดของเกมที่ใหญ่มาก ประมาณ 2-3 GB เครื่องใครที่พื้นที่เก็บข้อมูลน้อยอาจจะมีปัญหาได้ และเกมนี้ใช้ทรัพยากรเครื่องค่อนข้างมาก สังเกตุได้จากตอนที่เล่นเกมไปสักพักนึง เครื่องจะร้อนมากกว่าเกมอื่นๆ
สรุป Honkai Impact 3 เป็นเกมที่สนุก สำหรับใครที่ชอบเกม Action ภาพสวยๆ เกมนี้เรียกได้ว่าพลาดไม่ได้เลยทีเดียว
8. Tekken – ประเภท Arcade Fighting
มาถึงเกมแนวต่อสู้ Arcade ชื่อดังกันบ้างกับ Tekken เกมต่อสู้ชื่อดังที่โด่งดังบนตู้เกมหยอดเหรียญ บนเครื่อง Console และไม่เว้นแต่ PC สุดท้ายก็ไม่ลืมที่จะทำเป็นเวอร์ชั่นเกมมือถือให้ได้เล่นกันด้วย สำหรับใครที่ชื่นชอบเกมแนวนี้คงจะได้เวลาไปจัดกันสักหน่อยแล้ว
สำหรับ Gameplay จะเป็นแนว Fighting Arcade ที่หลายคนคุ้นเคย คือหันหน้าชนกัน และใช้หน้าจอการต่อสู้เป็นแนวนอน มุมกล้องเดียว การบังคับควบคุมจะเป็นแบบเกมแนวเดียวกันสมัยใหม่ คือไม่มีปุ่น Controller บนหน้าจอให้กวนใจ แต่จะใช้เป็นการลากนิ้วแทน รวมไปถึงเพิ่มระบบการ์ดคอมโบที่มีมาให้กดกันด้วย ด้านฟราฟฟิกทำออกมาได้ดี เรียกได้ว่าไม่รู้สึกถึงความแตกต่างกับตัวเกมที่ได้ออกก่อนหน้าในบนแพลตฟอร์มอื่นๆ เลยก็ว่าได้
ด้านของเนื้อเรื่องในส่วนนี้เนื่องจากยังไม่ได้เล่นไปไกลมากจึงยังไม่มีข้อมูลเท่าที่ควร สำหรับข้อสังเกตก็จะมีในเรื่องของรูปแบบเกมเนื่องจากเกมนี้เป็นเกมฟรี จึงทำให้ผู้พัฒนาเกมต้องหารายได้จากเราในทางอื่นตามรูปแบบของเกมมือถือทั่วไป ซึ่งจะไม่เหมือนกับบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่จะไม่มีเรื่องนี้ (ก็เสียเงินซื้อเกมมาแล้วนิ)
สรุปสำหรับใครที่กำลังหาเกมแนวต่อสู้อยู่อย่าลืมไปโหลดมาเล่นกันได้นะครับ
9. Yulgang Mobile – ประเภท MMORPG
หนึ่งในเกมเก็บเวลที่เป็นตำนานของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่เคยเล่นเกมนี้บน PC สมัยที่ยังเปิดใหม่ๆ Yulgang Online แสดงว่าคุณเองก็ผ่านช่วงเวลามาไม่น้อยเลย กับมาอีกครั้งกับ Yulgang Mobile ที่ทำมาให้เล่นได้ง่ายมากขึ้น บนมือถือ และยังคงกลิ่นอายของเกมไว้เหมือนเดิม
ด้าน Gameplay จะเหมือนกับเกมออนไลน์เก็บเลเวลทั่วไป คือตีมอน ทำเควส อัพเลเวล ตีบวกอาวุธ และอีกมากมาย ที่สำคัญคือรู้สึกว่าเกมนี้มีความอิสระกว่าเกมอื่นๆ ที่เคยเล่นมา ในส่วนนี้ไม่มีได้มีจุดเด่นอะไรมาก ด้านกราฟฟิกทำมาได้ดูสบายตา เล่นแล้วไม่เครียด ตามสไตล์ภาพที่ดูเป็นแนวการ์ตูน 2D
ด้านเนื้อเรื่องสำหรับใครที่เล่นเกมแนวนี้โดยปกติคงจะไม่ได้สนใจเนื้อเรื่องกันสักเท่าไหร่ ด้านเสียงประกอบทำมาได้โอเค ไม่ได้โด่ดเด่นอะไรมาก จะมีตรงเสียงพากย์ที่อาจจะดูสับสนไปบ้าง บางทีเป็นเสียงเกาหลี บางทีก็เป็นเสียงไทย เอาเป็นว่าอ่านซับแก้ขัดแทนน่าจะพอได้
สรุปสำหรับใครที่กำลังหาเกมเก็บเวลเล่นแก้เบื่อชิลๆ และย้อนความหลัง Yulgang Mobile ก็เป็นเกมที่ไม่ควรที่จะพลาดเลยก็ว่าได้
10. Dragon Nest M – ประเภท MMORPG
เกมนี้เป็นอีกหนึ่งในเกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมของ PC เมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้ได้มาเปิดให้เล่นบนมือถือแล้วในปี 2018 เรียกได้ว่าเป็นเกมมาใหม่แบบร้อนๆ เลย
ด้าน Gameplay โดยภาพรวมจะเหมือนกับเกมออนไลน์เก็บเวลทั่วไป แต่จะเพิ่มความเป็น Action เข้ามา เช่นการกดปุ่มตีแบบรัวๆ การทำคอมโบ การใช้สกิล ทำให้เป็นอีกจุดเด่นของเกมเลยก็ว่าได้ สิ่งหนึ่งที่เกมนี้ไม่มีเหนือกับเกมอื่นคือ ด้านความอิสระที่ดูน้อยกว่าเกมอื่น เช่นตัวละครที่ไม่สามารถปรั้บแต่งได้แบบละเอียด แผนที่ไม่ได้เป็น Open world แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ดี การทำแบบนีมีข้อดี คือเล่นง่าย ไม่นอกลู่นอกทางเยอะ
ด้านกราฟฟิกตัวเกมทำกราฟฟิกมาแบบ 3D ตัวละคร ฉาก จะเป็น 3 มิติหมด ถึงจะยังสู้ฝั่งญี่ปุ่นในเรื่องของความเนียนไม่ได้ก็ตาม ด้านเนื้อเรื่องก็ขอไม่พูดถึงเหมือนเดิม ด้านการบังคับควบคุมรู้สึกว่าจะยังได้ไม่ดีนัก ส่วนหนึ่งมาจากปุ่มปนหน้าจอดูเยอะ ทำให้การจัดวางตำแหน่งยังไม่ดี จนบางครั้งจะกดปุ่มสักปุ่มต้องเล็งดีๆ ถึงจะกดโดน
ข้อสังเกตเกมนี้คือการเคลื่อนไหวของตัวละครยังรู้สึกว่าขาดความต่อเนื่องไปบ้าง ทำให้เวลาต่อคอมโบ หรือหลบหลีก ไม่พริ้วเท่าที่ควร
สรุปสำหรับใครที่กำลังหาเกมมือถือใหม่เล่น ภาพสวย คอมโบมันส์ๆ อย่าลืมไปจัดกันได้
และก็ครบ 10 เกมมือถือน่าเล่นในปี 2018 เชื่อว่าหลายคนคงเคยเล่นเกมเหล่านี้แล้ว หรือเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว เกมที่นำมาวันนี้บางเกมก็เปิดมาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว เหมือนกับว่าเป็นการมาย้ำเตือนอีกครั้งมากกว่า เผื่อบางคนหลงลืมบางเกมไป หวังว่าเพื่อนๆ คงจะได้เกมใหม่ไปลองเล่นกันแก้เบื่อกันนะครับ