ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระแสของ iOS 7 ก็เริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องด้วยทาง Apple ปล่อย iOS 7 Beta 1 สำหรับนักพัฒนาแอพที่มี Apple Developer ID ได้ติดตั้งเพื่อทดสอบแอพของตน แต่ก็ด้วยเพราะความอยากลองของใหม่ของหลายๆ คน ทำให้การติดตั้ง iOS 7 Beta กลายเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมขึ้นมา ถึงขนาดมีเปิดรับลงทะเบียน UDID ของเครื่องให้เป็นเครื่องที่ใช้บัญชีนักพัฒนา (Developer Account) เพ่ือจะได้ติดตั้ง iOS 7 Beta ได้ด้วยก็มี โดยผู้รับบริการก็เสียเงินนิดหน่อย แต่ก็ยังถูกกว่าไปสมัคร Developer Account กับ Apple โดยตรงอยู่หลายเท่าตัว
แล้วทีนี้ปัญหาก็ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นบั๊กจากตัวระบบปฏิบัติการที่ยังทำงานได้ไม่ดี บั๊กจากแอพหลายๆ ตัวที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ เป็นต้น ทำให้มีเสียงบ่นตัว iOS 7 Beta ออกมาอย่างมากมาย
ซึ่งอันที่จริงแล้ว ถ้าอัพเดต iOS 7 Beta แล้ว พบว่าเครื่องใช้งานได้ไม่ดีเท่าเดิม จะว่าเป็นความผิดของ Apple ก็คงจะไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะครับ ส่วนหนึ่งก็ผิดที่ตัวของผู้ใช้ทั่วไปที่ติดตั้ง iOS 7 Beta ด้วย เพราะอะไรน่ะหรือ ?? ก็เพราะว่ามันยังเป็นเวอร์ชัน Beta อยู่เลย เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักกับคำว่า Beta กันก่อนแล้วกันครับ ว่ามันคืออะไร
Beta คือ ?
ในขั้นตอนการพัฒนาแอพพลิเคชัน/โปรแกรมนั้น ไม่ใช่ว่าพอเขียนโปรแกรมเสร็จ ก็สามารถปล่อยออกมาให้ใช้งานได้เลย หากแต่ต้องมีการทดสอบการทำงานและแก้ไขโปรแกรมจนกว่าจะแน่ใจได้ว่าสามารถปล่อยออกมาให้ใช้งานได้ โดยในปัจจุบัน ขั้นตอนการทดสอบและแก้ไขโปรแกรมส่วนใหญ่จะมีเฟสการดำเนินงานตามแผนภาพด้านล่างนี้
เริ่มต้นจาก Pre-Alpha ที่ตัวโปรแกรมได้รับการพัฒนาขึ้นมาจนสามารถใช้งานได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่อาจจะยังมีฟังก์ชันที่ไม่สมบูรณ์ ทำงานได้ไม่เต็ม 100% และส่วนใหญ่จะเป็นการทดสอบแบบปิด คือทดสอบกันเฉพาะในทีมพัฒนาเท่านั้น เรื่อยมาจนถึงเวอร์ชัน Alpha ที่เรามักเห็นบริษัทพัฒนาโปรแกรม/เกมหลายๆ รายเริ่มมีการเปิดให้ทดลองใช้งานกันในปัจจุบัน ซึ่งวัตถุประสงค์ของการเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานก็คือเพื่อให้ช่วยกันทดสอบและหาจุดบกพร่องของโปรแกรม เพื่อที่ทางทีมพัฒนาจะได้นำไปแก้ไขต่อไป โดยอาจจะมีการย้อนกระบวนการจากบางขั้นของในกราฟขึ้นไปก็ได้
ส่วนเวอร์ชัน Beta น่าจะเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาที่สุด เพราะมักเป็นเฟสที่ทีมพัฒนาปล่อยโปรแกรมออกมาให้ลองใช้งานมากที่สุด เนื่องจากเป็นเวอร์ชันที่ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ถูกพัฒนามาครบถ้วนแล้ว แต่อาจยังใช้งานได้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งก็พอจะสามารถปล่อยออกมาให้ผู้อื่นทดสอบได้แล้ว โดยตามปกติ Apple จะปล่อย iOS เวอร์ชัน Beta ออกมาให้นักพัฒนาที่ลงทะเบียน Developer ID เอาไว้ได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เพื่อจุดประสงค์หลักๆ เช่น
- เพื่อทดสอบแอพพลิเคชันของตนเอง ว่าสามารถใช้งานบน iOS เวอร์ชันใหม่ได้สมบูรณ์หรือไม่
- เพื่อเผยแพร่ฟีเจอร์ใหม่ๆ ในตัวระบบปฏิบัติการ
- เพื่อให้ developer ได้เรียนรู้ API, ชุดคำสั่งใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา จะได้นำไปใช้สร้างแอพใหม่ๆ หรือฟีเจอร์ใหม่ให้กับแอพของตน
- เพื่อให้เป็นข่าว (อันนี้ความเห็นส่วนตัว)
หลังจากผ่านเวอร์ชัน Beta ไป Apple ก็มักจะข้ามไปเป็นเวอร์ชัน Golden Master (เรียกย่อๆ ว่า GM) เลย เนื่องจาก Apple ไม่จำเป็นต้องแจกจ่ายตัว iOS ไปให้ผู้ผลิตแบรนด์อื่นๆ เหมือนฝั่ง Microsoft ที่ต้องแจกจ่าย Windows ไปให้ผู้ผลิต PC แต่ละรายติดตั้งในเครื่องของตนที่จะวางจำหน่าย โดยเวอร์ชัน GM นี้ เป็นเวอร์ชันที่ฟีเจอร์ทุกตัวพร้อมใช้งาน และไม่น่าจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขโปรแกรมอีกแล้ว ซึ่งส่วนมากแล้วก็จะเป็นตัวเดียวกับเวอร์ชันสมบูรณ์ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปอัพเดตไปใช้งานนั่นเอง
กลับมาที่เวอร์ชัน Beta ครับ โดยปกติแล้ว Apple จะปล่อย iOS เวอร์ชัน Beta ย่อยๆ ออกมาหลายครั้ง เรียงตามเลขไป เช่น Beta 1, Beta 2, Beta 3 ซึ่งในแต่ละเวอร์ชันก็จะถูกปรับแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ ตามที่มีผู้ส่งข้อมูลขึ้นไป แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังไม่เหมาะที่จะนำมาใช้งานจริงในชีวิตประจำวันอยู่ดี
บั๊กและอาการผิดปกติ
อย่างที่ทราบไปแล้วว่า iOS เวอร์ชัน Beta นั้น ยังไม่สมบูรณ์ที่จะใช้งานจริง? ซึ่งตัวของ iOS 7 Beta ที่ออกมาในขณะนี้ ถ้าให้ยกตัวอย่างบั๊กที่ผมพบขณะใช้งานเองก็เช่น
- เครื่องทำงานช้าลงเล็กน้อย
- อนิเมชันต่างๆ ดูไม่ไหลลื่นอย่างที่ควรจะเป็น
- มีการเรนเดอร์ภาพออกมาผิดพลาด
- บางฟีเจอร์ยังใช้งานไม่ได้ เช่น AirDrop หรือบางฟีเจอร์ก็ใช้งานได้บ้างไม่ได้บ้าง
- บางแอพไม่สามารถใช้งานได้เลย เช่น Facebook Messenger
- บางแอพทำงานได้ แต่ช้ามาก บางทีใช้งานอยู่ก็เด้งออกจากแอพเลย เช่น Twitter
- แอพ GoodReader (สำหรับอ่านไฟล์ PDF) บางครั้งก็ไม่เรนเดอร์หน้า PDF ขึ้นมาให้อ่าน ต้องขยายภาพแล้วย่อลงไป จึงจะสามารถอ่านได้
- เรียกใช้งานปุ่ม Assistive Touch แล้วจอไม่ตอบสนอง นอกจากจะกดปุ่มดังกล่าวเท่านั้น
- ชื่อเพลงใน Control Center แสดงผลทับปุ่มสั่งเล่นเพลง
โดยบั๊กต่างๆ เหล่านี้ เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของเท่าที่มีคนรวบรวมมาได้ครับ ยังมีบั๊กอื่นที่เป็นปัญหาใหญ่อีก เช่น อัตราการกินแบตเตอรี่ที่สูงมาก เครื่องค้าง เครื่อง restart เอง เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าคงจะไม่สะดวกสำหรับการใช้งานจริงเท่าไรนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเครื่องที่ตนเองจำเป็นต้องใช้งานเป็นประจำ เช่น iPhone ในการติดต่อสื่อสาร ดังนั้นผมจึงไม่แนะนำให้ติดตั้ง iOS 7 Beta ครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าใช้เครื่องไม่ได้ไปซะ
สำหรับ Developer เท่านั้น ?
ด้วยจุดประสงค์ของ Apple ที่ต้องการใช้ iOS 7 Beta สำหรับให้นักพัฒนาแอพได้นำไปทดสอบ ทำให้นักพัฒนาจำเป็นต้องสมัครบัญชี Apple Developer Account ด้วย ซึ่งสำหรับบัญชีทั่วไปจะมีค่าใช้จ่าย $99 ต่อปี หรือราวๆ 3,000 กว่าบาทต่อปี และในการติดตั้ง iOS 7 Beta แบบปกตินั้น ก็จำเป็นจะต้องลงทะเบียนหมายเลข UDID (รหัสประจำตัวเครื่อง) เข้ากับ Apple Developer ID ด้วย จึงจะสามารถ activate เพื่อใช้งานเครื่องได้ ทำให้หลายคนที่ทดลองติดตั้ง iOS 7 Beta ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะติดขัดอยู่ตรงขั้นตอนการ activate ดังกล่าว
ซึ่งก็ทำให้เกิดบริการขึ้นมาอีกประเภทหนึ่ง นั่นคือการรับลงทะเบียนรหัส UDID ของเครื่องเข้าไปในบัญชี Developer Account เพื่อที่เครื่องจะได้สามารถทำการ activate และใช้งาน iOS 7 Beta ได้ และแน่นอนว่าบริการดังกล่าวย่อมต้องมีค่าใช้จ่าย โดยจะนิยมคิดกันที่หลักร้อยบาท แล้วแต่ผู้ให้บริการ ซึ่งอาจจะดูไม่แพงเมื่อเทียบกับการลงทะเบียนเป็น Developer Account จริงๆ
แต่อันที่จริงแล้ว ผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถติดตั้งและใช้งาน iOS 7 Beta ได้ด้วยตนเอง ด้วยการอัพเดตไฟล์เฟิร์มแวร์ผ่านทางโปรแกรม iTunes ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนตัวผมเองก็ใช้วิธีนี้ในการทดลองติดตั้ง และไม่จำเป็นต้อง activate เครื่องด้วย (ขอไม่ยกวิธีการติดตั้งลงมาในบทความนี้นะครับ) ดังนั้นจึงไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น Developer Account เท่านั้นถึงจะติดตั้ง iOS 7 Beta ได้ ผู้ใช้ทั่วไปอย่างเราๆ ก็สามารถติดตั้งเพื่อทดสอบได้เองเหมือนกัน แถมฟรีด้วย
การรอ คือวิธีที่ดีที่สุด
ดังจากเหตุผลต่างๆ ข้างต้น ทางเราจึงขอแนะนำว่า อย่าเพิ่งติดตั้ง iOS 7 Beta จะดีที่สุดครับ โดยเฉพาะกับเครื่องที่จำเป็นต้องใช้งานในชีวิตประจำวัน เพราะตัว iOS 7 Beta ยังไม่ใช่เวอร์ชันสมบูรณ์? อาจเกิดข้อผิดพลาดในการทำงานที่ส่งผลให้ไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างปกติ โชคร้ายหน่อยก็อาจทำให้ข้อมูลสูญหายไปได้เลยก็มีเหมือนกัน ทางที่ดีคือรอ Apple ประกาศเปิดตัว iOS 7 เวอร์ชันสมบูรณ์ที่พร้อมให้ผู้ใช้งานทั่วไปอัพเดตจะดีที่สุด ซึ่งก็น่าจะเป็นช่วงหลังเปิดตัว iPhone 5S นั่นคือราวๆ เดือนกันยายน-ตุลาคมนี้
สรุปบทความสั้นๆ
- iOS 7 Beta ยังไม่ใช่รุ่นสมบูรณ์ แนะนำว่าอย่าเพิ่งหามาลอง
- iOS 7 Beta ยังเต็มไปด้วยบั๊ก และปัญหาที่ส่งผลถึงการทำงาน สำหรับใครที่ตั้งใจจะติดตั้ง ต้องยอมรับในเงื่อนไขข้อนี้
- ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป แล้วเกิดปัญหากับ iOS 7 Beta จะว่าเป็นความผิดของ Apple ก็ไม่ถูกทั้งหมด เพราะยังเป็นซอฟต์แวร์เวอร์ชันทดสอบ ซึ่งมีความเสี่ยงในการใช้งานอยู่แล้ว
- รอ iOS 7 เวอร์ชันสมบูรณ์จาก Apple จะดีกว่าครับ