หลังจากที่มีข่าวหลุดแล้วหลุดอีก ในที่สุด Xiaomi Mi5 มือถือเรือธงรุ่นท็อปสุดของ Xiaomi ประจำปี 2016 ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับ แต่รอบนี้ไม่ได้มาแค่ 1 แต่มีด้วยกันถึง 2 รุ่นให้เลือก ได้แก่ Xiaomi Mi5 และ Xiaomi Mi5 Pro โดยมือถือทั้งสองรุ่น จะแตกต่างกันที่สเปคภายใน และวัสดุฝาหลัง
สเปค Xiaomi Mi5 Pro
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 7 (Android 6.0 Marshmallow)
- หน้าจอ IPS ขนาก 5.15 นิ้ว ความละเอียด Full HD
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 820
- GPU Adreno 530
- Ram 4 GB
- ความจุ 128 GB ไม่รองรับ Micro SD Card
- รองรับ 4G LTE และรองรับ 2 ซิม
- กล้องหน้าความละเอียด 4 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 2 ไมครอน
- กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล PDAF
- ฝาหลังเป็นแบบ 3D Ceramic
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ 3000 mAh
- ราคาประมาณ 14,900 บาท
สเปค Xiaomi Mi5
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 7 (Android 6.0 Marshmallow)
- หน้าจอ IPS ขนาก 5.15 นิ้ว ความละเอียด Full HD
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 820
- GPU Adreno 530
- Ram 3 GB
- ความจุ 32 /64 GB
- รองรับ 4G LTE และรองรับ 2 ซิม
- กล้องหน้าความละเอียด 4 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 2 ไมครอน
- กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล PDAF
- ฝาหลังเป็นแบบ 3D Glass
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ 3000 mAh
- ราคาประมาณ 11,900 บาท สำหรับรุ่น 32 GB
- ราคาประมาณ 12,700 บาทสำหรับรุ่น 64 GB
** Xiaomi Mi5 รุ่นความจุ 32 GB จะใช้ Snapdragon 820 ที่มีความเร็ว 1.8 GHz ส่วนรุ่น 64 GB จะใช้ Snapdragon 820 ความเร็ว 2.15 GHz เท่ากับ Xiaomi Mi5 Pro**
ชิปเซ็ต Snapdragon 820 อันนี้ก็ตามข่าวลือเป๊ะๆ งั้นต้องเจอนี่ ข่มด้วยคะแนน AnTuTu ก่อนเลย Xiaomi Mi5 มีคะแนน Benchmark อยู่ที่ 142,084 คะแนน แรงทะลุโลกเลยไหมล่ะเธออ
ความแรงของ Xiaomi Mi5 เมื่อเทียบกับมือถือที่ใช้ชิปรุ่นก่อนอย่าง Snapdragon 810 แรงกว่าเยอะเลยแหะ
ในด้านดีไซน์ของ Xiaomi Mi5 ก็มีการดีไซน์ที่พัฒนาต่อยอดไปจากตอน Xiaomi Mi4 เป็นอย่างมาก ตัวเครื่องมีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีทอง และสีดำ
ด้านหลังของ Xiaomi Mi5 Pro จะใช้ฝาหลังแบบ 3D Ceramic ความแข็งระดับ 8H และยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย ความหรูหรานี่ไม่ต้องพูดถึง เอาแค่ความแพง 3D Ceramic Glass ก็แพงกว่า 3D Glass ถึง 75% เพราะว่ามีกรรมวิธีการผลิตที่ยากกว่ามาก แล้วก็กล้องหลังไม่นูนออกมาด้วยนะเออ ส่วน Xiaomi Mi5 รุ่นปกติก็จะมาพร้อมกับฝาหลังแบบ 3D Glass ครับ
ด้านข้างของ Xiaomi Mi5 ออกแบบตามหลัก Ergonomic มีการโค้งให้เข้ากับรูปมือมากที่สุด แน่นอนว่ามันเจ๋งกว่าบน Xiaomi Mi Note เยอะ ความบางอยู่ที่ 7.25 มิลลิเมตร น้ำหนัก 129 กรัมเท่านั้น เบากว่า iPhone 6s ถึง 14 กรัม
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็มาเช่นกัน ของ Xiaomi Mi5 จะอยู่ทางด้านหน้าของตัวเครื่อง โดยความยากของการวางปุ่มสแกนนิ้วไว้ด้านหน้าคือทำอย่างไรให้มันใช้งานได้ง่ายที่สุด
ดีไซน์ด้านหน้าของ Xiaomi Mi5 มีความละเมียดละไมมากๆ จะเห็นเลยว่ากล้องหน้า, ลำโพงสำหรับสนทนา และเซนเซอร์อยู่ในระนาบเดียวกันทั้งหมด ไม่ได้กระโดกกระเดกเหมือนมือถือบางรุ่น
แบตเตอรี่ให้มาที่ความจุ 3000 mAh เมื่อเทียบกับมือถือเรือธงรุ่นอื่นที่ให้แบตเตอรี่มาพอๆ กัน Xiaomi Mi5 จะเบากว่ามาก
มาพร้อมกับ Quick Charge 3.0 ชาร์จไฟแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ที่ 80 – 90% ได้ภายใน 1 ชั่วโมง
กล้องของ Xiaomi Mi5 ก็มาเต็มไม่แพ้สเปคและดีไซน์ กระจกเลนส์ใช้วัสดุเป็น Sapphire มีกันสั่น OIS จำนวน 4 แกน ใช้เซนเซอร์ Sony IMX298 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โฟกัสแบบ PDAF และ DTI (pixel-to-pixel isolation)
กันสั่น 4 แกนดีอย่างไร ก็ช่วยให้ใช้สปีดชัตเตอร์ได้ต่ำมากขึ้น ผลก็คือถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และช่วยได้มากในการถ่ายวีดีโอ
ไฟล์ภาพจากกล้องหลังของ Xiaomi Mi5 ก็ประมาณนี้ครับ (ภาพจริงน่าจะดีกว่านี้อีก อันนี้แอดมินแคปมาจากวีดีโอเปิดตัว)
ส่วนกล้องหน้าของ Xiaomi Mi5 มีความละเอียดที่ 4 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซลอยู่ที่ 2 ไมครอน
หน้าจอของ Xiaomi MI5 มีจุดเด่นแรกอยู่ที่ขอบจอบางเฉียบ
เจอแสงมากก็สู้ได้สบายๆ ด้วย Sunlight Display
ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ของ Xiaomi Mi5 ที่ผมว่าแจ่มก็คือแอปพลิเคชัน Mi Video Call ที่สามารถเปิดโหมด Beauty ในการวีดีโอคอลได้ด้วย บ้าจริงพี่ชาย
มีลูกเล่นอื่นๆ อีก เช่นการวีดีโอคอลพร้อมกันได้สูงสุด 4 คน
มาถึงราคาของ Xiaomi Mi5 กันบ้าง เริ่มจากราคาของ Xiaomi Mi5 Pro รุ่นท็อปสุดก่อน ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 820 + Ram 4GB และรอม 128 GB ราคาจะอยู่ที่ 2699 หยวน หรือประมาณ 14,900 บาท
ส่วน Xiaomi Mi5 เฉยๆ ก็มีราคาอยู่ที่ 1999 หยวน ตีเป็นเงินไทยก็ 11,000 บาท