ในที่สุด dtac ก็ได้ฤกษ์เปิดให้ใช้งาน 3G เสียที ด้วยการอัพเกรดให้ผู้ใช้แพจเกจอินเทอร์เน็ตทุกแพคเกจสามารถใช้งานระบบ 3G สำหรับผู้ที่ใช้แพคเกจอินเทอร์เน็ตแบบไม่จำกัดสามารถใช้งานได้ทันที ส่วนแพคเกจอื่นๆ ต้องปรับสัญญาณด้วยการกด *3000# แล้วโทรออกก่อนครับ
เกริ่นมาซะยาว เรามาดูกันดีกว่าว่าแพคเกจของ dtac 3G มีแบบไหนบ้าง รายละเอียดเป็นอย่างไร
แพคเกจสมาร์ทโฟน
แพคเกจสมาร์ทโฟนจะแบ่งออกเป็น 3 แพคเกจนั่นคือ internet lite, smartphone combo และ smartphone inFinite ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งาน dtac 3G ต่างกันดังนี้
- แพคเกจน้องเล็ก internet lite สามารถใช้งาน dtac 3G ได้ความเร็วสูงสุด 384 Kbps เป็นระยะเวลา 20 ชั่วโมง
- เพคเกจชายกลาง smartphone combo สามารถใช้งาน dtac 3G ได้ความเร็วสูงสุด 42 Mbps โดยใช้ปริมาณการรับส่งข้อมูลได้ทั้งหมด 200 MB
- แพคเกจพี่ใหญ่ smartphone inFinite สามารถใช้งาน dtac 3G ได้ไม่จำกัด แต่จะได้ความเร็วสูงสุด 42 Mbps เป็นจำนวนการรับส่งข้อมูล 1 GB หลังจากใช้หมด 1GB ความเร็วจะปรับลดลงเหลือ 384 Kbps
สำหรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมถ้ามีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเกินกว่าแพคเกจ internet lite จะคิดนาทีละ 25 สต. ส่วน smartphone combo จะคิด MB ละ 1 บาท
แพคเกจแท็บเล็ต และแอร์การ์ด
แพคเกจแท็บเล็ต และแอร์การ์ด สำหรับคนที่เน้นใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก แบ่งแพคเกจออกเป็นสามประเภทคือ แบบใช้ไม่ได้ไม่จำกัด แบบคิดตามปริมาณการใช้งาน และแบบคิดตามเวลาที่ใช้งาน
- แพคเกจแบบใช้ไม่ได้ไม่จำกัดแบ่งเป็น 3 แพคเกจต่างกันตรงจำนวนการรับส่งข้อมูลแบบเต็มความเร็ว 42 Mbps หลังจากนั้นสามารถใช้งาน dtac 3G ได้ไม่จำกัดด้วยความเร็ว 384 Kbps
- 650 บาท/เดือน ใช้ dtac 3G ได้เต็มความเร็ว 42 Mbps เป็นจำนวน 3 GB
- 790 บาท/เดือน ใช้ dtac 3G ได้เต็มความเร็ว 42 Mbps เป็นจำนวน 5 GB
- 990 บาท/เดือน ใช้ dtac 3G ได้เต็มความเร็ว 42 Mbps เป็นจำนวน 7 GB
- แพคเกจแบบคิดตามปริมาณการใช้งาน สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตเต็มความเร็ว 42 Mbps ตามปริมาณที่กำหนด
- 299 บาท/เดือน ใช้งาน dtac 3G ได้ 500 MB
- 399 บาท/เดือน ใช้งาน dtac 3G ได้ 1.5 GB
- แพคเกจแบบคิดตามระยะเวลาการใช้งาน สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตเต็มความเร็ว 42 Mbps ในระยะเวลาที่กำหนด
- 149 บาท/เดือน ใช้งาน dtac 3G ได้ 50 ชั่วโมง
- 299 บาท/เดือน ใช้งาน dtac 3G ได้ 100 ชั่วโมง
ถ้ามีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเกินแพคเกจจะถูกคิดเงิน 90 สต. ต่อนาที และ 1.50 บาทต่อ MB
แพคเกจ iPhone
แพคเกจของสมาร์ทโฟนยอดฮิตอย่าง iPhone ก็ยังคงแบ่งเป็น 3 แพคเกจเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือแพคเกจอินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัด สามารถใช้งาน dtac 3G ได้เต็มความเร็ว 42 Mbps จำนวน 1GB หลังจากนั้นจะถูกปรับความเร็วเหลือ 384 Kbps
แพคเกจ BlackBerry
แพคเกจของสมาร์ทโฟนชาวแชทอย่าง BlackBerry ได้รับสิทธิ์ในการใช้ dtac 3G เช่นกัน สำหรับแพคเกจใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดจะสามารถใช้งานได้เต็มความเร็ว 42 Mbps จำนวน 2 GB หลังจากนั้นจะถูกปรับเหลือ 384 Kbps
แพคเกจเติมเงิน
เรียกได้ว่าปล่อยแพคเกจให้ผู้ใช้งานรายเดือนกันแล้ว dtac ก็ยังไม่ทิ้งผู้ใช้งานเติมเงิน โดยแพคเกจแบ่งออกเป็นสามประเภทคล้ายกับของแท็บเล็ต และแอร์การ์ด ดังนี้
- แพคเกจใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด จะมีการปรับความเร็วลงหลังจากใช้งานไปได้ตามปริมาณที่กำหนดไว้
- 49 บาท/วัน ใช้งาน dtac 3G ได้ไม่จำกัด โดยสามารถใช้งานเต็มความเร็ว 42 Mbps ได้จำนวน 250 MB หลังจากนั้นปรับลงเหลือ 384 Kbps
- 299 บาท/สัปดาห์ ใช้งาน dtac 3G ได้ไม่จำกัด โดยสามารถใช้งานเต็มความเร็ว 42 Mbps ได้จำนวน 1 GB หลังจากนั้นปรับลงเหลือ 384 Kbps
- 790 บาท/เดือน ใช้งาน dtac 3G ได้ไม่จำกัด โดยสามารถใช้งานเต็มความเร็ว 42 Mbps ได้จำนวน 5 GB หลังจากนั้นปรับลงเหลือ 384 Kbps
- แพคเกจคิดตามปริมาณการใช้งาน สามารถใช้งานได้เต็มความเร็ว 42 Mbps ทุกแพคเกจ
- 99 บาท ใช้งานได้ 75 MB
- 199 บาท ใช้งานได้ 250 MB
- 349 บาท ใช้งานได้ 1 GB
- 650 บาท ใช้งานได้ 3 GB
- แพคเกจคิดตามระยะเวลาการใช้งาน จะถูกบีบความเร็วเหลือ 384 Kbps ทุกแพคเกจ
- 9 บาท/วัน ใช้งานได้ 2 ชั่วโมง
- 50 บาท/ครั้ง ใช้งานได้ 5 ชั่วโมง
- 99 บาท/เดือน ใช้งานได้ 20 ชั่วโมง
- 199 บาท/เดือน ใช้งานได้ 70 ชั่วโมง
หากมีการใช้งานเกินแพคเกจ จะคิดตามโปรโมชันปัจจุบันที่ใช้งานอยู่
พื้นที่ให้บริการ dtac 3G
สำหรับพื้นที่เปิดให้บริการ 3G เรียกได้ว่าค่อนข้างครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑลพอสมควร กินพื้นที่ไปไกลถึงนนทบุรี และสมุทรปราการเลยทีเดียว
งานนี้จุดเด่นของ dtac 3G คงหนีไม่พ้นการออกแพคเกจที่หลากหลาย ให้ผู้ใช้งานได้ตัดสินใจง่ายขึ้น รวมถึงพื้นที่ให้บริการที่ค่อนข้างครอบคลุมโซนกรุงเทพฯ แม้ว่าปริมาณข้อมูลที่สามารถใช้ความเร็วสูงสุด 42 Mbps จะค่อนข้างน้อยกว่าเจ้าอื่น โดยให้มาเพียง 1 GB ในขณะที่คู่แข่งอยู่ที่ราว 3-4 GB แต่ด้วยความถี่สัญญาณที่มากกว่า สามารถทำความเร็วได้สูงกว่าคู่แข่ง น่าจะเป็นจุดเด่นที่ผู้ใช้ให้ความสนใจกันมาก