*Transformer Prime จำหน่ายเเล้วตั้งเเต่วันนี้ (24 มกราคม 2555) นะครับ
Eee Pad Tranasformer Prime ถือเป็นเเท็บเล็ตที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้า อย่าง Asus Eee Pad Transformer ที่เป็นเเท็บเล็ตไม่กี่ตัวที่มีออกเเบบพร้อมคีย์บอร์ดดอคกิ้งมาให้ด้วย จุดเด่นของมันนั้นสำหรับคนที่ติดตามข่าวสารก็คงจะทราบกันดีว่ามันเป็นเเท็บเล็ตที่ใช้ตัวประมวลผลของ NVIDIA Tegra 3 ที่เป็นเเบบ Quad Core ที่เรียกว่าน่าจะเป็นตมาตรฐานของเเท็บเล็ตไฮเอนด์ปีนี้เเบบปีที่เเล้วที่เป็นตัว NVIDIA Tegra 2 Dual Core นั่นเอง ส่วนราคานั้นเปิดมา 20,900 บาทเป็นชุดพร้อมคีย์บอร์ดเเละเป็นรุ่น Wi-Fi เท่านั้น
ลักษณะของเเท็บเล็ตเมื่อต่อคูู่กับดอคนั้นยังคงใช้ดีไซน์เเบบเดิมที่เป็นเเกนต่อ เเต่ลักษณะภายนอกนั้นดีไซน์เเละวัสดุเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะทีเดียว สิ่งเเรกที่เห็นได้ชัดคือคีย์บอร์ดที่มีตัวอักษรภาษาไทยเเล้ว เหมือนกับ Eee Pad Slider อีกทั้งตัว Transformer Prime นี้ยังติดมากับ Android 4.0 Ice Crean Sandwich เลยอีกด้วย
คีย์บอร์ดดอคนั้นทำหน้าที่เป็นที่ชาร์จเเบตเตอรี่ในตัว เมื่อต่อเเบตเตอรี่เเล้วจะชาร์จไฟเข้าไปในเเท็บเล็ต ทำให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเเท็บเล็ตทั่วไปเนื่องจากมีเเบตเตอรี่สองที่นั่นเอง ส่วนตัวทัชเเพดนั้นคิดว่าไม่จำเป็นสำหรับตัวเเท็บเล็ตเท่าไหร่ หลายๆ ครั้งที่ใช้งานเเล้วรู้สึกว่าเอามือสัมผัสที่หน้าจอเลยดีกว่า
อย่างที่บอกว่าว่าวัสดุนั้นเปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งจะเปลี่ยนมาเป็นอลูมิเนียมเมทัลลิกทั้งตัวให้ความรู้สึกหรูหรามากขึ้น เเทนของเก่าที่เป็นพลาสติกเสียส่วนใหญ่ เเน่นอนว่าตัวที่จำหน่ายนี้เป็นตัวเดียวกับที่เคยมีข่าวไปว่ามีปัญหาเรื่อง GPS เเต่เนื่องจากเวลาทดสอบจำกัดเลยไม่ได้ลองอะไรมาก ต้องบอกว่า GPS นั้นพอใช้งานได้เเต่อาจจะช้าหรือไม่เเม่นยำเท่าที่ควรนัก (ตอนคุยกับผู้บริหารของไทยยังไม่ทราบเรื่องด้วยว่ามีปัญหา เเต่ตอนนี้รับทราบเเละบอกว่าจะตรวจสอบดูเเล้ว) อารมณ์คล้ายๆ กับปัญหา Death Grip ในสมัย iPhone 4 หรือปัญหาเรื่องสัญญาณใน HTC Sensation นั่นเอง
บริเวณหน้าจอจะเห็นว่ามีโหมด Super IPS+ ซึ่งสามารถเปิด / ปิด ด้พอกดเเล้วจะทำให้เเบคไลท์ด้านหลังสว่างขึ้น สู้กับเเสงเเดดภายนอกได้มากกว่าเดิม ยังรู้สึกว่าจอของ Asus สวยเหมือนเดิม สีไม่เกินจริงหรือสดจนเกินไป คมชัด เเสดงสีขาวได้ดี เหมือนกับตัว Asus Transformer ตัวเก่า
ในส่วนของกล้องนั้นเป็นความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash ซึ่งงานประกอบค่อนข้างดีมากเเละไม่ต้องกังวลว่าเลนส์จะเป็นรอยเนื่องจากตำเเหน่งนั้นอยู่ลึกเข้าไป
ตัวอย่างรูปกล้อง อันนี้ถ่ายมาเลยเเบบไม่ได้ตระเตรียมอะไร ตัวของโฟกัสเเละชัตเตอร์นั้นเมื่อกดเเล้วรวมเวลากันประมาณ 1-2 วิ ถือว่าค่อนข้างช้าเหมือนกัน เเต่รูปภาพที่ได้ถือว่าสวยพอในระดับต้นๆ ของเเท็บเล็ตเเล้ว
รูปมุมอื่นๆ
สรุป
Transformer Prime นั้นถ้ามองในเเง่ของการพัฒนาจากรุ่นเก่าถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเเละน่าพอใจในเเง่ของคุณภาพยังรักษาเอาไว้ได้เหมือนเดิม เเต่เเท็บเล็ตนั้นเมื่อถือเเล้วมีความรู้สึกว่าหนักว่าตัวเก่า อาจจะเป็นเพราะจากวัสดุเองที่เป็นเมทัลลิกด้วย เเต่จากที่ลองถือไปมาคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอาการล้า ส่วนตัวความเร็วที่เป็นจุดอ่อนของ Honeycomb นั้นพบว่าปัญหานี้บน Transformer Prime กับ Ice Cream Sandwich นั้นเเทบจะทำให้อาการหน่วงหมดไปได้กับการใช้งานทั่วไป อาการหน่วงระหว่างการเลื่อนหน้าจอหายไปหมดเเล้ว เนื่องจากตัวที่ทดสอบรันบน Ice Cream Sandwich ที่พบบั๊กอยู่บ้างเเต่รวมๆ เเล้วค่อนข้างพอใจกับความเร็วที่ได้ ดีกว่าบน Transformer ตัวเเรกที่ใช้ Tegra 2 เเบบเห็นได้ด้วยตาเปล่า ลองเปิดเว็บที่ใช้ Flash เป็นจำนวนมากก็พอว่าค่อนข้างพอใจกับการใช้งาน ถ้าเปรียบเทียบก็คิดว่าอยู่ในระดับของ iPhone 4S ก็คงดูไม่เกินความจริงไปนัก เเต่การรันอะไรหนักๆ อย่างไฟล์ PDF (ลองด้วย Adobe Reader เเละ Polaris Office) ก็ยังเเสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดอยู่
เเต่ตัว Transformer Prime ตัวนี้เปิดราคามาที่ 20,900 บาท (รวมเเว็ตเเล้ว) ซึ่งรุ่นที่จำหน่ายเป็นเพียง Wi-Fi เท่านั้น ถือว่าราคาเปิดมาเเรงพอสมควรสำหรับตัวนี้ ถ้าใครชอบเเท็บเล็ต Android ที่หน้าจอคมชัดสวยงาม เเละความเร็วที่ดีที่สุดในเวลานี้ก็คงไม่มีตัวเลือกอันอื่น เเต่ถ้ายังอยากได้ตัวเลือกจากเเบรนด์อื่นๆ (อย่างน้อยในต้นปีนี้ก็มี Acer ด้วยเเน่นอนสำหรับเเท็บเล็ต Tegra 3) อาจจะรอดูท่าทีไปก่อนได้ เเต่ใครที่คิดว่าเเท็บเล็ตส่วนใหญ่มีรูปทรงที่คล้ายกันไปหมดหรือรู้สึกไม่เเตกต่างกันนัก Transformer Prime เป็นตัวเลือกที่ดี โดดเด่น เเละไม่เหมือนใคร ถือเป็นเเท็บเล็ต Android ที่ใกล้เคียงกับคำว่า ?สมบูรณ์เเบบ? ที่สุดในท้องตลาดตอนนี้
ปิดท้ายด้วยรูปสาวๆ ประจำงาน จบเเล้วจ้า