ก็เปิดตัวออกมาแล้วนะครับ สำหรับ iPhone 6 ทั้งรุ่น 4.7 นิ้ว และ iPhone 6 Plus รุ่น 5.5 นิ้ว น่าจะโดนใจหลายๆ ท่านพอสมควรทีเดียว และก็ส่งผลให้ iPhone 5s กับ iPhone 5c กลายเป็นรุ่นเก่าไปโดยปริยาย ในบทความนี้เราจะมาเทียบสเปคเด่นให้เห็นกันชัดๆ ไปเลยว่า iPhone 6 มีสเปคจุดใดบ้างที่เหนือกว่า iPhone รุ่นเก่า มาชมกันเลยครับ
* ข้อมูลจากเว็บ Apple
ชิปประมวลผลและแรม
เริ่มแรกที่ชัดสุดก็คงเป็นเรื่องชิปประมวลผล ซึ่งเปลี่ยนจากชิป Apple A7 มาเป็น A8 แน่นอนว่าเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานต้องสูงขึ้น รวมถึงยังคงทำงานที่ 64 บิทด้วยเช่นกัน ทำให้การทำงาน ความไหลลื่นที่แต่เดิมใน iPhone 5s ก็ดีอยู่แล้ว ยิ่งดีขึ้นไปอีก ไฮไลท์อีกจุดก็คงเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงาน แต่อันนี้ก็คงต้องมาวัดกันตอนใช้จริงอีกทีครับ เนื่องด้วยปริมาณแบตเตอรี่ที่ไม่สูงมากนักใน iPhone 6 นั่นเอง ส่วนของ iPhone 6 Plus นั้น แม้จะให้แบตเตอรี่มาค่อนข้างสูง แต่ก็มีปัจจ้ยเรื่องหน้าจอที่ใหญ่กว่า ความละเอียดสูงกว่ามาเป็นตัวกินแบตเตอรี่อยู่เหมือนกัน
สำหรับแรม ก็เป็นไปตามที่หลายสื่อรายงานไว้ คือ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกับแรม 2 GB เสียที หลังจากปล่อยให้ฝั่ง Android ใช้แรม 2 GB กันมาเป็นปีๆ แล้ว สำหรับเรื่องของแรมที่เพิ่มขึ้น ก็จะได้ประโยชน์ตรงที่สามารถเก็บแอพไว้ในแรมได้มากขึ้น ทำให้การสลับแอพทำได้สะดวกกว่าเดิม น่าจะช่วยให้การทำงานโดยรวมดูไหลลื่นขึ้น แต่อาจไม่เห็นได้ชัดนัก
สเปค iPhone 6:?https://specphone.com/Apple-iPhone-6.html
สเปค iPhone 6 Plus:?https://specphone.com/Apple-iPhone-6-Plus.html
ชิปกราฟิก
ก็เป็นอีกปีที่ Apple โฆษณาว่าการประมวลผลกราฟิกของตนใน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus สูงกว่ารุ่นเก่าอีกตามเคย แน่นอนว่าสามารถเล่นเกมในปัจจุบันได้แทบจะเทียบเท่ากับเครื่องเกมคอนโซลเลยก็ว่าได้ รับรองว่าเล่นเกมได้สบายทั้งปีนี้และในอีกหลายปีแน่นอน
หน้าจอ
เป็นจุดที่ถือเป็นไฮไลท์ประจำปีนี้เลยทีเดียว กับการเพิ่มขนาดหน้าจอจาก 4 นิ้วมาเป็น 4.7 นิ้วใน iPhone 6 และ 5.5 นิ้วใน iPhone 6 Plus ทำให้สามารถใช้งานได้สบายตามากยิ่งขึ้นกว่าเก่า เรื่องของสีสันต้องยอมรับว่ายังคงเป็นจุดที่ Apple นำมาใช้โฆษณาและทำได้ดีจริงๆ อยู่เช่นเคย แต่แค่เรื่องขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น เพียงแค่นี้ก็น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คนหันมาใช้งาน iPhone 6 / iPhone 6 Plus กันมากขึ้นแน่ๆ ทั้งจากผู้ใช้มือถือ Android ที่อยากเปลี่ยนมา iOS และทั้งจากผู้ที่ใช้งาน iPhone อยู่ก่อนแล้ว ส่วนเรื่องความละเอียดหน้าจอก็เพิ่มขึ้นจาก 1136 x 640 ใน iPhone 5s และ iPhoen 5c มาเป็น 1334 x 750 ใน iPhone 6 และ 1920 x 1080 ใน iPhone 6 Plus
ความจุ
รอบนี้ Apple ได้เพิ่มตัวเลือกความจุ 128 GB เข้ามาใน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ด้วย ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือความจุสูงๆ เนื่องจาก iPhone ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD ในตัวได้ แต่ราคาที่เปิดออกมาก็สูงเอาเรื่องเลย ดูแล้วน่าจะเป็นรุ่นที่ขายออกยากซักหน่อยล่ะนะ ส่วนความจุ 32 GB ก็ตัดออกไปเลย เหลืออยู่แค่ 16, 64 และ 128 GB เท่านั้น
กล้องหลังและกล้องหน้า
สำหรับกล้องถ่ายรูป ก็ยังคงเป็นอีกปีที่ Apple ไม่เน้นเพิ่มความละเอียดกล้องเท่าไรนัก แต่เน้นปรับฮาร์ดแวร์ภายในให้ดีขึ้น ส่งผลให้ภาพถ่ายที่ออกมาดีขึ้น คมชัดขึ้น สีสันสดใสกว่าเดิม ทั้งในเรื่องของการปรับเซ็นเซอร์รับภาพ ปรับชุดเลนส์ รวมถึงการปรับแต่งทางด้านการประมวลผลภาพให้ดีขึ้น เร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันกล้องของ iPhone 5s ก็ถือว่าทำได้ดีอยู่แล้ว แต่เชื่อได้ว่าใน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus น่าจะทำได้ดีกว่าเดิมขึ้นไปอีกแน่ๆ ยังไงก็รอตามกันในรีวิวอีกทีนะครับ ส่วนกล้องหน้านี่ก็น่าจะถูกใจคนชอบถ่าย selfie แน่ๆ เพราะเพิ่มความละเอียด ทั้งยังเพิ่มคุณภาพของภาพและความสว่างเข้าไปอีก
แบตเตอรี่
เรื่องแบตเตอรี่ Apple ก็ยังคงไม่ได้พูดเรื่องความจุอีกเช่นกัน บอกแต่เพียงว่าสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน LTE ได้นาน 10 ชั่วโมงใน iPhone 6 (เท่าๆ กับ iPhone 5s) และ 12 ชั่วโมงใน iPhone 6 Plus
ระบบ Touch ID
ระบบ Touch ID เราอาจจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงในด้านฮาร์ดแวร์มากนัก แต่ในเรื่องของการทำงาน ซอฟต์แวร์ ต้องบอกว่าได้รับการเพิ่มฟีเจอร์ขึ้นมามากทีเดียว ที่ชัดเจนสุดก็คือสามารถใช้ร่วมกับระบบจ่ายเงินต่างๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้นกว่าใน iPhone 5s นั่นก็คือระบบ Apple Pay ที่ผสมผสาน NFC เข้ามาร่วมการทำงานด้วย ทำให้สามารถจ่ายเงินซื้อสินค้าหน้าร้าน (ที่รองรับ) ผ่าน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ได้โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิตหรือเงินจริงเลย เพียงแค่ยื่นเครื่องไปใกล้ๆ เซ็นเซอร์ แล้วแตะนิ้วบนปุ่ม Touch ID เท่านั้นเอง
ราคา
สำหรับราคาของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ทาง Apple ประกาศแต่ราคาสำหรับเครื่องติดสัญญาในสหรัฐฯ เท่านั้น ได้แก่
ราคา iPhone 6
- iPhone 6 16 GB ราคา $199 (ประมาณ 23,900 บาท)
- iPhone 6 64 GB ราคา?$299 (ประมาณ 27,900 บาท)
- iPhone 6 128 GB ราคา?$399 (ประมาณ 31,900 บาท)
ราคา iPhone 6 Plus
- iPhone 6 Plus 16 GB ราคา?$299 (ประมาณ 27,900 บาท)
- iPhone 6 Plus 64 GB ราคา?$399 (ประมาณ 31,900 บาท)
- iPhone 6 Plus 128 GB ราคา?$499 (ประมาณ 34,900 บาท)
ถ้าให้เทียบราคาแล้ว ราคา iPhone 6 ที่เปิดมาก็เท่าๆ กับราคา iPhone 5s ที่เปิดมาเมื่อปีก่อนเลยก็ว่าได้ ดังนั้นราคา iPhone 6 ในไทยเองก็น่าจะไม่แตกต่างจากราคา iPhone 5s เท่าไรนัก ส่วนราคา iPhone 6 Plus นั้นน่าจะบวกขึ้นไปอีกเล็กน้อย (แต่ก็หลักพันอยู่นะ)