ส่วนของ iPad 4th Generation หรือ iPad 4 นั้นก็ได้รับการรีวิวไปแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งผลส่วนใหญ่ก็ออกมาในแนวพึงพอใจกับตัว iPad 4 ครับ มาดูกันว่าสื่อต่างประเทศแต่ละสำนักพูดถึง iPad 4 กันอย่างไรบ้าง
The Verge
หลังจากลองใช้งาน ก็พบความแตกต่างระหว่าง iPad 3 และ iPad 4 ที่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะความเร็วในการเปิดใช้งานแอพ ซึ่งทั้งนี้ก็เป็นเพราะประสิทธิภาพของชิป Apple A6X นั่นเอง ทำให้สามารถเรียกใช้งานแอพได้เร็วทันใจกว่าเดิมมาก
CNET
ด้วยพลังของชิป A6X ทำให้มันเป็น iPad ที่ทำงานได้ดียิ่งขึ้น สามารถเรียกใช้งานประสิทธิภาพของจอ Retina Display ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจะเรียก iPad 4 ว่า iPad 3S ก็ไม่ผิดนัก
กล้องหน้า (FaceTime) นั้นไม่ได้ให้ภาพที่ดีเท่ากับกล้องหน้าของ iPhone 5 หรือของ iPod Touch Gen 5 ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะจอที่มีขนาดและความละเอียดสูงกว่ามาก (ความละเอียดของจออยู่ที่สามล้านกว่าพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดเพียง 1.2 ล้านพิกเซล) ทำให้ภาพถ่ายที่ปรากฏบนจอมันดูไม่สวยงามเท่ากับใน iPhone 5 (ความละเอียดจอแค่เจ็ดแสนกว่าพิกเซล) แต่ทั้งนี้ก็นับว่าดีกว่า iPad รุ่นเก่าอยู่มาก ส่วนกล้องหลังนั้นให้ภาพขึ้นจอที่คมชัดดี ไม่ต่างจากเก่ามากนัก
TechCrunch
สรุปง่ายๆ iPad 4 มีกล้องหน้าที่ดีกว่า iPad รุ่นก่อนๆ ส่วนเหตุผลที่ Apple รีบส่ง iPad 4 ออกมาทำตลาดก็น่าจะเป็นเพราะความต้องการขายสินค้าในช่วงวันหยุดที่จะมาถึงนี้ และอีกอย่างคือต้องการเร่งขยายฐานผู้ใช้งานพอร์ต Lightning เพิ่มขึ้นโดยเร็วเท่านั้นเอง
SlashGear
ด้านของสเปกนั้น ดูเหมือนว่าบรรดาแอพทั้งหลายจะยังไม่สามารถรีดพลังจากชิป Apple A6X ได้อย่างเต็มที่นัก จึงแทบจะไม่เห็นผลด้านความแตกต่างเมื่อเทียบกับ iPad 3 เท่าไร แต่สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมที่สุดก็คือพอร์ตเชื่อมต่อที่เปลี่ยนมาใช้เป็นพอร์ต Lightning และอนาคตของตัวเครื่องที่จะต้องมีนักพัฒนาสร้างแอพขึ้นมารองรับแน่นอน ดังนั้นซื้อ iPad 4 ไปก็น่าจะสามารถเก็บไว้ใช้ได้อีกนาน (ถ้าไม่โดนเปลี่ยนรุ่นเร็วเกินไป)
แต่ก็น่าเสียดายกับ iPad 3 ที่ถูกปรับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยทาง SlashGear เชื่อว่าถ้าไม่ติดเรื่องพอร์ต Lightning เราก็คงได้เห็นการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ในช่วงต้นปีหน้าตามปกติ
ส่วนรายละเอียดที่น่าสนใจของ iPad 4 ก็ได้แก่ผลการทดสอบจาก GeekBench ครับ
ที่น่าสนใจก็คือสเปกของเครื่องที่พบว่าชิป A6X ทำงานที่ความเร็วสูงสุดคือประมาณ 1.4 GHz และมีแรมในตัว 1 GB ครับ ส่วนคะแนนนั้นก็สูงถึง 1,757 คะแนน เทียบกับ iDevice รุ่นอื่นๆ ได้ดังนี้
ทำให้ในขณะนี้ iPad 4 เป็นอุปกรณ์ iDevice ที่มีประสิทธิภาพ (จากการทดสอบ GeekBench) สูงที่สุด โดยมีคะแนนสูงกว่า iPad 3 อยู่สองเท่านิดๆ เลยทีเดียว และยังสูงกว่า iPhone 5 อยู่ประมาณ 10% ด้วย
ด้านของระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ จากการทดสอบของ Engadget โดยการเปิดวิดีโอแบบวนลูป, เชื่อมต่อ WiFi และควบคุมระดับความสว่างจอ พบว่าสามารถใช้งานได้กว่า 11 ชั่วโมง 8 นาที (รุ่น WiFi)
ที่มา : Apple Insider, The Verge, Engadget