สปริงเปิดตัวประกาศชัดขอเป็นมือถือโซเชียลเน็ตเวิร์ค เชื่อปีแรกคนไทยใช้แชทผ่านแพลตฟอร์มสปริงแสนราย พร้อมดันเครื่องรุ่น Smile จับตลาดคนทันสมัย เน้นราคาคุ้มค่าสมเหตุผล เชื่อภายใน 3 ปีครองตลาดโซเชียลแพลตฟอร์มเบอร์หนึ่งในเอเชีย เตรียมอัดงบวิจัยต่อเนื่องชูฝีมือคนไทยสู่เวทีโลก
นายชวัล บุญประกอบศักดิ์ รองประธานบริษัท สปริง เทเลคอม เปิดเผยว่า สปริงถือเป็นบริษัทคนไทยรายแรกที่เข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย โดยจะเน้นแพลตฟอร์มมากกว่าการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ โดยคาดว่าในปีนี้จะมีผู้ที่ใช้แพลตฟอร์มสปริงประมาณ 1 แสนราย แบ่งเป็นการติดตั้งผ่านโทรศัพท์มือถือของสปริงเองประมาณ 15% และใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถืออื่นๆ อีก 85% และจะมีการเพิ่มคุณสมบัติการใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้สปริงกลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมต่อกับ Social Network อย่างสมบูรณ์แบบตลอดเวลา
กลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้แพลตฟอร์มสปริงจะเริ่มจากกลุ่มคนทันสมัย นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่เริ่มทำงาน เนื่องจากโทรศัพท์มือถือของสปริงจะไม่เน้นเครื่องราคาสูง ขณะที่ซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มสปริงก็เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีแบบไม่มีข้อจำกัด ซึ่งจะทำให้กลุ่มสังคมสปริงบนโทรศัพท์มือถือจะเริ่มแข็งแรงและขยายตัวจนไปทับกลุ่มที่มีอยู่เดิม โดยนโยบายของสปริงในการสร้าง Social Network บนแพลตฟอร์มนี้คือตัวโปรแกรมจะเน้นความคุ้นเคย แต่เพิ่มความสามารถอื่นที่สนุกสนานเข้าไป
?แนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์ม และการสร้างตลาดโดยรวมของสปริงจะเน้นกลยุทธ์ Blue Ocean และเน้นการเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็เน้นสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคมากที่สุด? นายชวัลกล่าว
สำหรับตลาดโทรศัพท์มือถือในรุ่นแรกคือ รุ่น Smile ทางสปริงจะเน้นตัวเครื่องที่เป็นระบบเปิด คือ android 2.1 และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทั่วไปอย่างไม่ปิดกั้น โดยเน้นคุณสมบัติด้านการ Chat ซึ่งเป็นจุดเด่นของแพลตฟอร์มสปริง โดยในช่วงทดลองจำหน่ายก่อนเปิดตัวก็ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากโลกออนไลน์จนนำไปสู่ยอดขายที่ดีในช่วงแรกอย่างมาก และหลังจากนี้จะมีการออกโทรศัพท์มือถือของสปริงไม่เกิน 3 รุ่นต่อปี โดยแต่ละรุ่นจะมีคุณลักษณะและจับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งโทรศัพท์รุ่นต่อไปของสปริงจะมีคุณสมบัติที่สูงขึ้น แต่ราคาจะสมเหตุสมผลอย่างมาก
เป้าหมายของสปริงใน 3 ปีนี้ คือการเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มทางด้าน Social Network ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในเอเชีย โดยเริ่มสร้างฐานจากในประเทศไทยไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน คาดว่าภายในปีนี้จะมีหลายประเทศในอาเซียนได้เริ่มทดลองใช้และเปิดให้บริการ จากโทรศัพท์มือถือหลากรุ่นและหลายระบบปฏิบัติการ โดยจะมีการปรับภาษาและบริการตามท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
ส่วนการลงทุนของบริษัทในปัจจุบันจะเป็นด้านค้นคว้าและพัฒนาประมาณ 70% และ 30% เป็นส่วนของการตลาด โดยในปีแรกจะใช้งบประมาณด้านการลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท สิ่งที่สปริงเน้นในขณะนี้คือการพัฒนาแพลตฟอร์มของสปริงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ชุมชนผู้ใช้สามารถใช้ซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย และมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับซอฟต์แวร์ระดับโลกแต่มีลูกเล่นที่สนุกสนานมากกว่า และยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั้งด้านซอฟต์แวร์และบริการอินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาต่อเชื่อมแพลตฟอร์มของสปริง จนเกิดบริการใหม่ๆ เพื่อให้กับลูกค้าอย่างไม่จำกัด
นายยุคลอาจ ชาญพานิชกิจการ รองประธานฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท สปริง เทเลคอม เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราการเติบโตของ Smart Phone มีมากกว่า 10% ต่อปี ขณะที่จำนวนรุ่นของการจำหน่ายจะไม่มาก และจำเป็นต้องสร้างเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของเครื่องและแบรนด์มากขึ้น จะเห็นว่าการมุ่งแต่จำหน่ายเครื่องอย่างเดียวจะไม่ใช่หนทางที่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด การที่สปริงเลือกสร้างแพลตฟอร์มบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นระบบเปิดจะทำให้แนวทางการต่อยอดของสปริงไม่หยุดยั้ง และยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักพัฒนาอื่นๆ เข้าถึงสปริงแพลตฟอร์มด้วยในอนาคต
ปัจจุบันการใช้งานหลักของสปริงคือระบบ Chat ที่ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสามารถส่งข้อความถึงกันแบบไม่จำกัด และมีลูกเล่นที่มากกว่าเช่น emoticon และ wink สามารถส่งไฟล์ ทั้งเอกสาร ภาพนิ่ง ไฟล์เสียง ไฟล์ภาพเคลื่อนไหว ถึงกันได้โดยตรง สามารถคุยพร้อมกันในกลุ่มมากถึง 200 คน และสามารถหาเพื่อนคุยจากสถานที่ต่างๆได้ เมื่อถูกใจก็สามารถชวนเป็นเพื่อนได้ทันที นอกจากนั้นยังมีระบบ Notification สามารถให้ความเห็นสำหรับทุกการเปลี่ยนแปลงของเพื่อนๆ ในกลุ่มได้
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบ Info Feed สามารถส่งข่าวสารด่วนให้กับผู้ใช้แพลตฟอร์มสปริงโดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าบริการข่าวเพิ่ม และมีช่องทางได้รับข่าวสารอย่างไม่จำกัด รวมถึงการมีระบบ Promotion ที่ทำให้เกิดบริการใหม่ที่เคยได้รับความนิยมบนโลกออนไลน์ เช่น group on เป็นต้น สามารถนำมาใช้กับโทรศัพท์มือถือได้ทันที โดยสปริงจะเลือกบริการที่ได้รับความนิยมมาปรับให้เป็นแบบท้องถิ่นและเพิ่มความสนุกสนานเข้าไป โดยใช้ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ของไทยทั้งหมด
เป้าหมายในการพัฒนาเชิงเทคนิคของสปริงก็คือ ทำให้ผู้บริโภคจดจำในเอกลักษณ์ของแบรนด์คือ การเป็นโทรศัพท์มือถือด้าน Social Network ตัวจริง และถูกปรับให้รองรับกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละประเทศ ส่วนกลุ่มลูกค้าองค์กรจะสามารถติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ของสปริงได้ด้วยต้นทุนที่ไม่สูงมากนัก และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ตลอดอายุการใช้งาน และสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชันขององค์กรได้อย่างเสถียร
สำหรับแนวทางการพัฒนาในขณะนี้ นอกจากการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มสปริงในระบบปฏิบัติการอื่นๆ แล้ว จะมีการนำระบบ instant messaging หรือ IM ที่ได้รับความนิยม เช่น MSN, Facebook Chat เป็นต้น มาอยู่ใต้แพลตฟอร์มสปริงเพื่อลดความยุ่งยากในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์มือถือสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ทันทีในแพลตฟอร์มและค่าบริการเหมาจ่ายพร้อมกัน
นายธนินทร์ รัตนศิริวิไล รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท สปริง เทเลคอม เปิดเผยว่า การตลาดของสปริงจะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือในส่วนของเครื่องโทรศัพท์มือถือ และส่วนที่เป็นซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มของสปริง สำหรับเครื่องรุ่น Smile นั้น สปริงตั้งราคาขายพิเศษอยู่ที่ 5,990 บาท ในช่วงแรก ซึ่งทางร้านเทเลวิซจะเป็นร้านค้าหลักในการจัดจำหน่าย ขณะที่ทางบริษัท WDS จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหลักและดูแลบริการหลังการขายทั้งหมด โดยช่องทางจัดจำหน่ายอื่นๆ จะมีการเพิ่มมากขึ้นในระยะเวลาอันใกล้
สำหรับช่องทางการขายทางเลือกนั้น หลังจากที่สปริงได้รับการตอบรับที่ดีจากโลกออนไลน์อย่างมาก ทำให้สปริงต้องเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทางอินเทอร์เน็ตรองรับไว้ด้วย ซึ่งขณะนี้ทางตลาดดอทคอมได้เข้ามาเป็นหน้าร้านให้กับสปริงแล้ว โดยจะมีการใช้ระบบ Viral Marketing เป็นส่วนเสริมทางด้านการตลาดอย่างไม่หยุดยั้ง เนื่องจากระบบการขยายสังคมของสปริงจะขยายตัวมากขึ้นจากการใช้งานนั่นเอง
ส่วนแพคเกจดาต้าหรืออินเทอร์เน็ต จากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือซึ่งจะใช้กับระบบสปริงนั้น ขณะนี้ทางสปริงได้ทำข้อตกลงกับทางเอไอเอสเพื่อออกแพคเกจการใช้ที่ราคา 29 บาทต่อสัปดาห์ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้สปริงในช่วงแรก และคาดว่าในเดือนหน้าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเครือข่ายของทรูมูฟ จะสามารถใช้แพคเกจในลักษณะนี้ได้เช่นกัน ส่วนรายอื่นนั้นจะสามารถใช้แพลตฟอร์มสปริงได้ทันที หากใช้แพคเกจอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการแต่ละรายที่มีราคาเฉพาะอยู่แล้ว
ด้านกลุ่มเป้าหมายในการจัดจำหน่ายช่วงแรกที่วางไว้เป็นกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มที่เริ่มทำงานนั้น ทำให้แนวทางการทำตลาดของสปริงจะเข้าไปยังกลุ่มโรงเรียน และกลุ่มสังคมต่างๆ ทั้งในรูปแบบของ Road Show และการใช้สื่อในรูปแบบต่างๆ ขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีศักยภาพนั้น ขณะนี้มีการติดต่อและความต้องการมายังสปริงแล้ว โดยทางสปริงจะมีฝ่ายขายลูกค้าองค์กรรองรับโดยตรง
ส่วนทางด้านการตลาดแพลตฟอร์มนั้น สปริงจะเปิดให้ดาวน์โหลดผ่านช่องทางของระบบปฏิบัติการนั้นๆ เช่น เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีผ่านแอนดรอยด์มาร์เก็ต สำหรับลูกค้าที่ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ผ่านแอปสโตร์ของลูกค้ากลุ่มผู้ใช้เครื่องไอโฟนของแอปเปิ้ล ผ่านแอปเวิร์ลจากลูกค้ากลุ่มผู้ใช้บีบี และอื่นๆ ซึ่งกลุ่มผู้ใช้ในไทยสามารถดาวน์โหลดพร้อมกับมีบริการเสริมต่างๆ ให้ในทันที