อย่างที่ได้ทราบกันว่า iPhone 6 จะมีด้วยกัน 2 ขนาดหน้าจอ คือหน้าจอ 4.7 นิ้ว กับหน้าจอ 5.5 นิ้ว โดยตัวหน้าจอ 4.7 นิ้วจะใช้ชื่อว่า iPhone 6 ส่วนรุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้ว ที่ตอนแรกเก็งกันว่าจะใช้ชื่อ iPhone 6 Air, iPhone 6L แต่ท้ายที่สุดแล้ว Apple ก็ประกาศว่า iPhone 6 หน้าจอ 5.5 นิ้วของพวกเขาจะใช้ชื่อว่า iPhone 6 Plus ที่มาพร้อมกับสโลแกน “Bigger than bigger”
ราคา iPhone 6 Plus ในประเทศไทย
iPhone 6 | iPhone 6 Plus | |||||
16GB | 64GB | 128GB | 16GB | 64GB | 128GB | |
AIS | 25,500 24,800* |
29,400 28,650* |
33,400 32,350* |
29,400 28,650* |
33,400 32,350* |
37,300 35,950* |
DTAC | 25,500 24,600* |
29,450 28,550* |
33,400 32,400* |
29,450 28,550* |
33,400 32,400* |
37,300 36,300* |
Truemove H | 25,500 24,600* |
29,450 28,550* |
33,400 32,400* |
29,450 28,550* |
33,400 32,400* |
37,300 36,300* |
Apple | 24,900 | 28,900 | 32,900 | 28,900 | 32,900 | 36,900 |
www.facebook.com/SpecPhone | * ราคาเครื่องพร้อมแพคเกจของแต่ละผู้ให้บริการ |
สำหรับราคา iPhone 6 Plus ก็มีราคาเปิดตัวไม่ได้หลุดไปจากที่ได้เก็งกันเอาไว้ คือ iPhone 6 Plus จะมีราคาแพงกว่า iPhone 6 รุ่นหน้าจอ 4.7 นิ้ว $100 ตีเป็นเงินไทยก็?4,000?บาท สำหรับราคา iPhone 6 Plus ในประเทศไทยถ้าเป็นราคาจากโอเปอร์เรเตอร์ก็จะเป็นราคาหนึ่ง แต่ละเจ้าก็จะมีราคาไม่เท่ากันอีกต่างหาก โดยในตอนนี้ Truemove-H, AIS และ Dtac ก็เปิดราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ออกมาเป็นที่เรียบร้อย
ราคา iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว Truemove-H (เครื่องเปล่า/ ติดสัญญา)
- iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคา?29,450/ 28,550 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคา?33,400/ 32,400 บาท
- iPhone 6 Plusความจุ 128 GB ราคา?37,300/ 36,300 บาท
ราคา iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว?Dtac?(เครื่องเปล่า/ติดสัญญา)
- iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคา?29,450/ 28,550 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคา?33,400/ 32,400 บาท
- iPhone 6 Plusความจุ 128 GB ราคา?37,300/ 36,300 บาท
ราคา iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว?AIS?(เครื่องเปล่า/ติดสัญญา)
- iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคา?29,400/ 28,650 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคา?33,400/ 32,350 บาท
- iPhone 6 Plusความจุ 128 GB ราคา?37,300/ 35,950 บาท
ราคา iPhone 6 Plus ในไทย เครื่องเปล่า?จาก Apple Store
สำหรับราคาเครื่องเปล่า iPhone 6 Plus จาก Apple Online Store โดยตรงที่ Apple วางขายนั้นจะมีราคาถูกกว่าเครื่องเปล่าของทางโอเปอเรเตอร์นิดหน่อยครับ และจะมีข้อดีตรงที่สามารถส่งเคลมได้ง่ายกว่ามาก แต่ข้อเสียคือเราไม่มีทางเห็นเครื่องจริงเลย เพราะว่า Apple Store Thailand ไม่มีหน้าร้านนั่นเอง จะเป็นในรูปแบบของร้านออนไลน์ ที่สั่งผ่านเว็บไซต์ และชำระเงินด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น ส่วนมาตรฐานการส่งของนั้นชั้นหนึ่งเลยครับ เพราะ Apple Online Store ใช้บริการของบริษัทขนส่งระดับโลกอย่าง DHL/ Fedex (เป็นส่วนน้อย) รับประกันว่าไม่มีของบุบสลาย หรือส่งช้าแน่นอน
ราคา iPhone 6 Plus?เครื่องศูนย์ Apple Store?(เครื่องเปล่าเท่านั้น)
- iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคา 28,900?บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB?ราคา 32,900 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 128 GB ราคา?34,900 บาท
ราคา iPhone 6 Plus เครื่องหิ้วที่ MBK มาบุญครอง อัพเดตล่าสุด
ในระยะแรกนั้นประเทศไทยจะยังไม่ได้วางขาย iPhone 6 Plus ครับ การหาซื้อ iPhone 6 Plus เครื่องหิ้วนั้นสามารถหาซื้อได้ตามมาบุญครอง (MBK) หรือตามเว็บไซต์ที่ขายมือถือทั่วไป สำหรับราคาเครื่องหิ้ว iPhone 6 Plus ก็ตามนี้เลย และถึงแม้ว่าประเทศไทยจะวางขาย iPhone 6 Plus อย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม เครื่องหิ้ว MBK ก็ยังเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากไปต่อคิวแย่งชิงกับผู้อื่นครับ เพราะตอนนี้ราคาเครื่องหิ้วกับเครื่องศูนย์ก็ออกมาใกล้เคียงกันมากแล้ว
ราคา iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว?เครื่องหิ้ว MBK?(ราคาเฉลี่ย)
- iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคาประมาณ 28,700 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคาประมาณ 33,900 บาท
- iPhone 6 Plus ความจุ 128 GB ราคาประมาณ 38,300 บาท
iPhone 6 Plus วางขายเมื่อไหร่ ที่ไหนบ้าง (เครื่องศูนย์ไทย)
ตอนแรกมีข่าวออกมาว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศกลุ่มแรกๆ ที่ Apple จะวางขาย iPhone 6 Plus แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ตอนนี้ประเทศไทยหลุดโผประเทศกลุ่มที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เอาเป็นว่าความหวังที่จะได้ซื้อ iPhone 6 Plus เครื่องศูนย์ไทยภายในเดือนกันยายน 2014 นี่ปิดประตูไปได้เลย แต่สำหรับประเทศกลุ่ม 3 อย่างประเทศไทยก็จะหาซื้อ iPhone 6 Plus ได้ในวันที่ 31 ตุลาคมที่จะถึงนี้ครับ ส่วนคำถามที่ว่าจะซื้อ iPhone 6 Plus ได้ที่ไหนบ้างนั้น ในระยะแรก iPhone 6 Plus จะวางขายกับโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง 3 อย่าง Dtac, AIS และ Truemove H โดยจะต้องเป็นการซื้อ iPhone 6 Plus พร้อมกับติดสัญญาล่วงหน้า 3 เดือน (ขั้นต่ำเป็นแพคเกจ 399 บาท) หรืออาจจะหาซื้อได้ตามร้านมือถืออย่าง Jaymart, TG-Fone แต่ก็จะเป็นเครื่อง iPhone 6 Plus ที่ไปตัดมาจากโอเปอเรเตอร์ที่ต้องซื้อเครื่องพร้อมแพคเกจอยู่ดี
แต่ถ้าใครไม่อยากเสียค่าแพคเกจให้กับค่ายมือถือ และสามารถรอได้ ให้สั่ง iPhone 6 Plus ผ่านทาง Apple Store Thailand จะได้เป็น iPhone 6 Plus เครื่องเปล่า ไม่ติดสัญญา สามารถใส่ซิมอะไรก็ได้ ที่สำคัญคือประกันจะขึ้นตรงกับทาง Apple ไม่ต้องเคลม iPhone 6 Plus ผ่านโอเปอเรเตอร์
หน้าตา iPhone 6 Plus
สรุปสั้นๆ ง่ายๆ iPhone 6 Plus จะมีหน้าตาเหมือนกับ iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้วขยายร่าง เพราะนอกจากหน้าจอกับความหนาแล้ว iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus ภายนอกแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย และถึงแม้ว่า iPhone 6 Plus จะมีขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่กว่า iPhone 5s (รุ่นเก่า) แต่มันกลับมีความบางกว่า iPhone 5s ที่ 7.1 มิลลิเมตร ส่วนปุ่มควบคุมต่างๆ ยังคงวางอยู่ในตำแหน่งเดิม เว้นแต่ปุ่ม Sleep/Wake ของ iPhone 6 Plus จะย้ายไปอยู่บริเวณด้านขวาของตัวเครื่อง (ถือ iPhone 6 Plus หันหน้าจอเข้าหาตัว) วัสดุของ iPhone 6 Plus ก็ยังทำจากโลหะขึ้นรูปแบบ Unibody เช่นเคย เพราะฉะนั้นเรื่องงานประกอบนั้นหายห่วง แข็งแรง ทนทานแน่นอน
แต่ iPhone 6 Plus จะมีข้อจำกัดเล็กน้อยคือมันไม่สามารถใช้งานได้ด้วยมือข้างเดียวเหมือนอย่างเคย ด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น ทำให้การใช้งาน iPhone 6 Plus ทำได้ลำบาก ซึ่งในจุดนี้เองคาดว่า Apple น่าจะมีโหมดพิเศษใน iPhone 6 Plus ที่ทำให้มันใช้งานได้สะดวกด้วยมือข้างเดียวออกมารองรับ
สเปค iPhone 6 Plus
iPhone 6 Plus จะมาพร้อมกับสเปคที่มีความใกล้เคียงกับ iPhone 6?มากๆ โดยความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็นเรื่องของขนาดหน้าจอ, มิติตัวเครื่อง,น้ำหนัก และแบตเตอรี่ สำหรับสเปคของ iPhone 6 Plus ก็ตามนี้เลย
สเปค iPhone 6 Plus
- iPhone 6 หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920x 1080 พิกเซล 404 ppi
- CPU Apple A8 เทคโนโลยีแบบ 64 Bit
- Ram 2 GB
- หน่วยความจำภายใน 16/64/128 GB
- มาพร้อมกับ iOS 8.0 ตัวเต็ม
- มี UI ใกล้เคียงกับใน iPad สามารถเปิดใช้งานพร้อมกัน 2 แอพได้
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล Auto Focus พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว OIS และ True-Tone Flash
- กล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล f/2.2
- รองรับการใช้งาน 4G LTE
- รองรับ VoLTE สามารถสนทนาโทรศัพท์ผ่านคลื่น LTE ได้เลย
- iPhone 6 Plus หนา?7.1 มิลลิเมตร
- มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีดำ, เงิน และสีทอง
- iPhone 6 Plus ราคาเริ่มต้น $299 เป็นราคาติดสัญญา 2 ปีที่ต่างประเทศ
- iPhone 6 Plus ราคาจากฮ่องกง แบบเครื่องไม่ติดสัญญาจะเริ่มต้นที่ 26,900 บาท
- สเปค iPhone 6 Plus แบบเต็มๆ
เรื่องความแรงของ iPhone 6 Plus ถ้าดูจากกราฟ จะเห็นว่ามันไม่ได้แรงมากกว่า iPhone 5s แบบรู้สึกได้ (คาดว่าแรงกว่า iPhone 5s ไม่เกิน 20%) เพราะจำนวนคล็อกของ CPU Apple A8 ก็ยังอยู่ที่ 1.4 GHz และเป็น CPU Dual Core เหมือนใน iPhone 5s แต่สิ่งที่พัฒนาขึ้นคงจะเป็นเรื่องของ GPU ที่น่าจะรันกราฟฟิคได้ดียิ่งขึ้น และชิป Apple M8 ที่คอยตรวจจับการเคลื่อนไหว ในตอนนี้สามารถใช้วัดระดับความสูงและความดันอากาศได้แล้วด้วย โดยชิป Apple A8 จะทำงานอยู่บน iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6 Plus
แต่ดูเหมือน Apple จะทำให้ผู้ใช้เลือกได้ง่ายขึ้นว่าจะซื้อ iPhone 6 หรือ iPhone 6 Plus มาใช้งาน เพราะเอาจริงๆ สเปคของ iPhone 6 Plus มีหลายจุดที่เหนือกว่า iPhone 6 มาก เริ่มจากหน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่า, ความละเอียดจอมากกว่าที่ Full HD, รวมถึงสเปคภายใน มีข่าวลือว่า iPhone 6 Plus จะมาพร้อมกับ Ram 2 GB เพราะต้องรองรับการเปิดแอพพลิเคชัน 2 แอพพร้อมกัน อีกทั้งกล้องหลังของ iPhone 6 Plus ยังมาพร้อมกับระบบกันสั่นแบบออฟติคอล OIS ที่ช่วยให้ถ่ายวีดีโอได้ รวมถึงถ่ายภาพในที่แสงน้อยดีกว่า iPhone 6 อีกด้วย
iPhone 6 Plus ทำอะไรได้บ้าง
ความสามารถที่เหนือกว่าของ iPhone 6 Plus คือ UI ของ iPhone 6 Plus จะมีความใกล้เคียงกับ UI ของ iPad ทำให้มันรองรับการใช้งานแบบแนวนอนในหน้าโฮมได้ด้วย และที่สำคัญคือ iPhone 6 Plus สามารถเปิดใช้งานแอพพลิเคชันพร้อมกันได้ 2 แอพ (เช่นเดียวกับ Multi Window บน Samsung Galaxy Note 4) รวมถึงกล้องหลังก็ให้ OIS มาด้วย ส่วน Ram ของ iPhone 6 Plus ก็น่าจะให้มาที่ 2 GB ซึ่งเยอะกว่า iPhone 6 อย่างชัดเจน
หน้าจอ iPhone 6 Plus
หน้าจอของ iPhone 6 Plus มีการหักปากกาเซียนเล็กน้อย เพราะมันไม่ได้ทำมาจาก Sapphire อย่างที่ได้เข้าใจกัน และคงเป็นหน้าจอ IPS เช่นเดิมครับ เป็นหน้าจอ Retina HD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 401 ppi เรียกว่าหน้าจอละเอียดแบบสุดๆ ละเอียดชนิดที่ว่าสายตามนุษย์ทั่วไปไม่น่าจะแยกแยะเม็ดพิกเซลได้ และกระจกบน iPhone 6 Plus ยังใช้ ion-strengthened glass ที่แข็งแรงทนทานกว่า iPhone 6 อีกต่างหาก
แบตเตอรี่ iPhone 6 Plus
ความจุแบตเตอรี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ iPhone 6 Plus เหนือกว่า iPhone 6 เพราะแบตเตอรี่ของ iPhone 6 Plus ให้มามากถึง 2,900 mAh ส่งผลให้การใช้งานโดยรวมทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก เมื่อดูจากชาร์ทจะพบว่า iPhone 6 ไม่ได้มีแบตเตอรี่ที่อึดกว่า iPhone 5s มากเท่าไหร่นัก แต่สำหรับแบตเตอรี่ของ iPhone 6 Plus มันเจ๋งกว่านั้น เพราะ iPhone 6 Plus สามารถเปิดเครื่องสแตนบายได้นานถึง 16 วัน และถ้าเป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน LTE จะสามารถใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมง ความน่าสนใจของ iPhone 6 Plus อยู่ที่การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน LTE กับ Wifi สามารถใช้งานได้ยาวนานเท่ากันซะอย่างนั้น
กล้องหลัง iPhone 6 Plus, กล้องหน้า iPhone 6 Plus
iPhone 6 Plus ยังคงใช้กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 เท่ากับกล้อง iPhone 5s?แต่มีการเปลี่ยนเซนเซอร์ใหม่ยกชุด ทำให้การจับโฟกัสทำได้รวดเร็วขึ้นด้วย Focus Pixels (การโฟกัสด้วยพิกเซลเช่นเดียวกับกล้อง DSLR) รวมถึงที่ Noise ลดลงตอนถ่ายรูปกลางคืน ระบบประมวลผลกล้องก็เป็นรุ่นใหม่ และที่สำคัญคือกล้องหลังของ iPhone 6 Plus ยังมาพร้อมกับระบบกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (ไม่มีใน iPhone 6) แฟลชใช้เป็นแบบ True-Tone ที่มีการลดขนาดลงมา ตรงนี้เป็นจุดเด่นไปเต็มๆ สำหรับกล้องหลัง iPhone 6 Plus ส่วนการถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหลังของ iPhone 6 Plus จะสามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 fps หรือ 60 fps และถ่ายวีดีโอ Slo-Mo ได้ที่ 120 fps หรือ 240 fps (สโลวยิ่งกว่าเดิม) ที่ความละเอียด 720p
กล้องหน้า Facetime ของ iPhone 6 Plus เป็นกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล?f/2.2 ใช้เซนเซอร์ใหม่ยกชุด สามารถรองรับการถ่าย Burst-Shot และถ่ายรูปได้สว่างกว่าเดิมถึง 81% (เซลฟี่กันฟรุ้งฟริ้งทีเดียว) บอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับกล้อง iPhone 6 Plus ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้าและกล้องหลัง
iPhone 6 Plus มาพร้อมกับ NFC สำหรับระบบ Apple Pay
NFC ใน iPhone 6 Plus ออกแบบมารองรับ Apple Pay หรือระบบการจ่ายเงินอัจฉริยะจาก Apple ที่ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน Passbook สำหรับการสแกนบัตรเครดิตก็ง่ายมากๆ เพียงถ่ายรูปบัตรเครดิตไว้ก็เป็นอันเรียบร้อย และยังสามารถใช้แอพฯ Find my iPhone ระงับการจ่ายเงินผ่าน NFC ได้อีกด้วย โดยทาง Apple การันตีว่าระบบดังกล่าวมีความรวดเร็ว และปลอดภัยสูงกว่าการรูดบัตรเครดิตซะอีก ปัญหาคือมันเริ่มใช้ที่สหรัฐอเมริกาเป็นที่แรกนี่แหละครับ ประเทศไทยก็รอไปก่อนตามระเบียบ?แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะทาง Apple บอกว่าจะพยายามผลักดัน Apple Pay ให้ใช้งานได้ทั่วโลกด้วย ต่อไปนี้เวลาที่เราไปซื้อของก็แค่ใช้ iPhone + TouchID แล้วแตะที่เครื่องจ่ายเงินเท่านั้นเอง