ชื่อของแท็บเล็ต Sony Xperia Tablet S อาจจะพอคุ้นหูคุ้นตาหลายๆ ท่านมาพอสมควร เนื่องจากมีการเปิดวางจำหน่ายในต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว แต่น่าเสียดายที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าที่จะเริ่มวางจำหน่ายในไทย จนหลายๆ คนหันไปมองแท็บเล็ตตัวอื่นในตลาดแทนกันหมด แต่ทางเราก็เชื่อว่าน่าจะยังมีหลายๆ ท่านให้ความสนใจใน Sony Xperia Tablet S กันอยู่อย่างแน่นอน ด้วยเรื่องของดีไซน์ที่แปลกตากว่ารุ่นอื่นๆ ในตลาด ดังนั้น SpecPhone เราจึงขอหยิบมาพรีวิวให้ชมกันครับ ไปดูกันเลยดีกว่า
Sony Xperia Tablet S เครื่องนี้ จัดว่าเป็นแท็บเล็ต Android รุ่นที่สองของ Sony สืบทอดมาจากรุ่นพี่อย่าง Sony Tablet S (และกำลังจะมี Sony Xperia Tablet Z ต่อคิวเข้ามาอีก) ก่อนอื่นเรามาดูสเปกกันก่อนครับ
สเปก Sony Xperia Tablet S
- ชิปประมวลผล NVIDIA Tegra 3 ความเร็ว 1.3 GHz
- RAM 1 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูลมีให้เลือกทั้ง 16, 32 และ 64 GB (ในไทยมีขายเพียงรุ่น 16 GB)
- รองรับการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วย SD Card
- หน้าจอขนาด 9.4 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 มาพร้อม BRAVIA Engine
- กล้องหลังความละเอียด 8 MP กล้องหน้าความละเอียด 1 MP
- แบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh
- กันน้ำ/กันฝุ่นได้ ตามมาตรฐาน IPX-4
- รุ่นที่จำหน่ายในไทยรองรับการใช้งาน 3G
- น้ำหนักเครื่อง 585 กรัม
- ราคา 17,500 บาท
รูปร่างหน้าตาของตัวเครื่องด้านหน้าดูเรียบหรู ใช้ผิวหน้าเป็นกระจกทั้งแผ่น ตัวกระจกมีแสงสะท้อนค่อนข้างมากพอสมควร บนผิวหน้าเครื่องไม่มีปุ่มกดใดๆ เนื่องจากใช้งานปุ่มสั่งการเป็นแบบ capacitive บนจอไปทั้งหมดนั่นเอง ซึ่งด้วยการที่ขอบจอไม่มีปุ่มสั่งงาน มีแต่แถบสีดำเช่นนี้ ทำให้หน้าตาของ Sony Xperia Tablet S ดูคล้ายกับกรอบรูปดิจิตอลไม่น้อยเลยทีเดียว
การแสดงผลบนจอของ Sony Xperia Tablet S นี้ใช้พลังการประมวลผลของ BRAVIA Engine ช่วยทำให้ภาพสวยงามยิ่งขึ้น ซึ่งจากการที่ใช้งานมาก็พบว่าภาพที่ได้จากจอนั้นสวยงามตามสไตล์ Sony จริงๆ สีสันต่างๆ ค่อนข้างนวลตา ใช้งานได้ดี จะมีก็แต่โทนสีที่เพี้ยนเล็กน้อย เช่นเดียวกับความสว่างของจอที่แม้จะเร่งสูงสุด ก็ยังไม่ถึงกับสว่างมากนัก ส่งผลให้มีปัญหาเมื่อต้องใช้งานกลางแจ้ง เพราะนอกจากตัวจอเองจะไม่สว่างมากแล้ว กระจกของจอยังสะท้อนแสงอีก ทำให้เป็นอุปสรรคกับการใช้งานกลางแจ้งไม่น้อยเลย เรียกว่าน่าเสียดายจริงๆ ครับสำหรับจุดนี้
ด้านหลังของ Sony Xperia Tablet S นี้เป็นจุดที่แตกต่างไปจากแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่างแท้จริง ที่เห็นได้ชัดก็คือแถบสีดำด้านบนของตัวเครื่อง ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการทำลวดลายเป็นช่องๆ เหมือนจะเป็นช่องลำโพงก็ตาม แต่ในการใช้งานจริงพบว่ามันไม่ได้ช่วยขับเสียงออกมาแต่อย่างใด แต่จะช่วยให้การจับเครื่องในแนวตั้งทำได้สะดวกและถนัดมือขึ้นมากกว่า อีกทั้งตรงกลางยังเป็นตำแหน่งของกล้องหลังด้วย ซึ่งคุณภาพของภาพที่ได้ก็จัดว่าอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางดีครับ
ส่วนตำแหน่งที่เป็นช่องลำโพงจริงๆ นั้นจะอยู่ตรงด้านล่างของตัวเครื่อง ซึ่งมีตะแกรงติดตั้งอยู่ โดยเสียงที่ออกจากลำโพงนั้นถ้าเปิดการใช้งานของฟีเจอร์ xLOUD เสียงที่ออกมาจัดว่าดีเลยทีเดียว ทั้งน้ำหนักและมิติของเสียงที่ทำออกมาได้ดีเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ
พอร์ตการเชื่อมต่อสำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์นั้น เป็นพอร์ตเฉพาะของทาง Sony เอง รวมไปถึงอะแดปเตอร์ที่ออกแบบมาคล้ายกับอะแดปเตอร์ของโน้ตบุ๊ก
มาดูขอบข้างของเครื่องกันบ้าง ด้านบนราบเรียบ มีช่องรับเสียงของไมค์เพียงอย่างเดียว ส่วนด้านล่างก็มีช่องสำหรับเสียบสายชาร์จและช่องลำโพงอย่างที่แนะนำไปแล้วในข้างต้น ด้านขวามีปุ่มล็อคหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ส่วนด้านซ้ายมีช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ใกล้ๆ กันนั้นเป็นฝาที่ต้องใช้การแงะเพื่อเปิดขึ้นมาครับ
เมื่อเปิดฝาออกมาก็จะพบกับช่องใส่ SD Card และช่องใส่ซิมการ์ดขนาดปกติอยู่อย่างละหนึ่งช่องด้วยกัน
เมื่อลองชั่งน้ำหนักดู พบว่าเราชั่งได้เพียง 560 กรัมเท่านั้นเอง เบากว่า iPad 4 ที่จอขนาด 9.7 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 650 กรัม
สรุปพรีวิว Sony Xperia Tablet S
น่าเสียดายที่?Sony Xperia Tablet S เป็นแท็บเล็ตที่เปิดจำหน่ายในไทยช้าเกินไป จนมีแท็บเล็ตตัวอื่นเข้ามาทำตลาดกันไปหมดแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวฮาร์ดแวร์เองจัดว่าทำออกมาได้ดีมาก ไม่ว่าจะเรื่องดีไซน์ที่ไม่ซ้ำแบบใคร งานประกอบที่ทำออกมาได้ดีตามฉบับของ Sony น้ำหนักตัวเครื่องที่ค่อนข้างเบา ระบบเสียงที่ยอดเยี่ยมในกลุ่มแท็บเล็ตด้วยกัน ด้านของซอฟต์แวร์ก็ไม่ได้ด้อยกว่าคู่แข่งที่เป็นแท็บเล็ต Android ในตลาดเท่าไรนัก ถ้าให้โดยรวมแล้ว Sony Xperia Tablet S ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของแท็บเล็ต Android ที่ดีตัวหนึ่งเลยทีเดียว แต่สำหรับใครที่ตั้งใจจะใช้งานนานๆ เน้นเล่นเกมเป็นหลัก แนะนำว่าอาจจะรอไปอีกซักพัก แล้วมองหาแท็บเล็ตที่มาพร้อมชิปใหม่ๆ อย่างพวก Tegra 4 หรือ Exynos 5 ไปเลยจะดีกว่าครับ เพราะประสิทธิภาพนั้นสูงกว่า Tegra 3 แน่นอน
ข้อดี
- ดีไซน์ไม่เหมือนใคร
- น้ำหนักค่อนข้างเบา ถือสบายมือ
- ภาพจากจอสวยงาม
- รองรับ SD Card โดยตรง
- ลำโพงให้เสียงที่ดี
ข้อสังเกต
- ใช้เวลานาน กว่าจะนำเข้ามาขายในไทย
- จอให้แสงสว่างน้อยประกอบกับกระจกจอสะท้อนแสงมาก ทำให้ไม่สะดวกกับการใช้งานในที่มีแสงเยอะ เช่น กลางแจ้ง
- สายเชื่อมต่อเลือกใช้พอร์ตเฉพาะของตนเอง