เมื่อมองดู Apple เชื่อว่าหลายท่านอาจจะคิดว่าตำแหน่งที่ได้ค่าจ้างมากที่สุดน่าจะเป็นพวกผู้บริหารระดับสูงๆ หรือพวกกลุ่มวิศวกรต่างๆ หรืออาจะเป็นฝ่ายออกแบบเมื่อดูจากผลงาน ทั้งนี้ต้องขอบอกว่าไม่ใช่ทั้งนั้นครับ เพราะมีการสำรวจข้อมูลและจัดอันดับออกมาโดย Glassdoor ของสหรัฐอเมริกาแล้วพบว่าตำแหน่งที่ได้ค่าจ้างสูงสุดของ Apple นั้นเป็นตำแหน่ง Art Director ซึ่งมีหน้าที่ในการกำกับและควบคุมแนวทางของงานสายศิลป์ให้กับ Apple ทั้งนี้ก็เนื่องจากหัวใจหลักของผลิตภัณฑ์ Apple ก็คือความสวยงามของผลิตภัณฑ์ผสมผสานกับอรรถประโยชน์และความเอิ้ออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้กับผู้ใช้อย่างดีที่สุด ทำให้ตำแหน่งงานนี้จะต้องใช้ผู้ที่มีความเข้าใจในตัวตนของ Apple เป็นอย่างดี ดังจะเห็นได้จากความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ Apple ในท้องตลาดที่ไม่มีใครเหมือน แถมยังมีหลายๆ คนคอยลอกไปใช้กับของตนเองอีกต่างหาก
โดยค่าจ้างเฉลี่ยของพนักงานในตำแหน่ง Art Director นั้นสูงถึง $133,664 ตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 4,100,000 บาท !!! ซึ่งตัวแทนของตำแหน่งนี้ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ Jony Ive (Sir Jonathan Ive) ที่เรียกได้ว่าสืบทอดจิตวิญญาณมาจาก Steve Jobs แบบเต็มๆ (แต่ค่าจ้างที่ Ive ได้นั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยอยู่พอสมควรเลย)? ซึ่งสาเหตุที่ต้องจ้างด้วยเงินที่สูงขนาดนี้ ก็เพราะคนที่จะมีความเข้าใจใน Apple และสามารถทำงานให้กับ Apple ได้ไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ ทำให้ต้องยอมทุ่มซักเล็กน้อยเพื่อรั้งคนเหล่านี้เอาไว้
ส่วนอันดับรองลงมาก็ได้แก่
- Senior software engineer : $126,325
- Senior hardware engineer : $124,893
- Product manager : $118,556
- Product design engineer : $116,019
- Database administrator : $105,382
- Hardware engineer : $105,316
- Test engineer : $104,926
- Firmware engineer : $103,985
- Software engineer : $103,883
- Senior system engineer : $101,794
- Mechanical engineer : $99,900
- Project manager : $94,652
- Systems engineer : $94,119
- Business analyst : $87,768
- Software quality assurance engineer : $87,651
- Financial analyst : $81,253
- Account executive : $75,324
- Software engineering intern : $61,152
- Assistant Apple Store manager : $49,176
- Lead Mac genius : $48,353
- Mac genius : $38,937
เห็นแล้วอยากไปทำเองซะจริงๆ
ที่มา : Glassdoor, Business Insider