ผลประกอบการไตรมาสสามล่าสุดของ Samsung ออกมาเเล้ว โดยพบว่าหน่วยธุรกิจอื่นๆ ของ Samsung มียอดขายที่ลดลง ยกเว้นยอดขายสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นมากจนพอที่จะชดเชยยอดขายของฝ่ายอื่นๆ ได้
ในส่วนของยอดขายสรุปได้ดังนี้ (เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่เเล้ว)
- ธุรกิจ Semiconductor ยอดขายลดลง 11%
- ธุรกิจจอภาพลดลง 13%
- ธุรกิจโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น 37%
- ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง 0.4%
- ยอดขายรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3%
อัตรากำไรจากการดำเนินงานตามประเภทธุรกิจ
- ธุรกิจ Semiconductor กำไรลดลง 11%
- ธุรกิจจอภาพ กำไรลดลง 7%
- ธุรกิจโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น 6.2%
- ยอดขายรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3.4%
ยอดขายทั้งหมดในไตรมาสสาม 41.27 เเสนล้านวอน เทียบกับเมื่อปีที่เเล้ว 40.23 เเสนล้านวอน โดยยอดขายลดลงทั้งหมดยกเว้นกลุ่มธุรกิจสมาร์ทโฟนที่โตสูงมากจนชดเชยยอดขายจากธุรกิจอื่นๆ ได้หมด จนทำให้ยอดขายรวมทั้งหมดรวมเเล้วกลายเป็นเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่เเล้ว
ในขณะที่กำไรนั้นในกลุ่มธุรกิจ Semiconductor เเละจอภาพลดลง ส่วนธุรกิจโทรคมนาคมเเละเครื่องใช้ไฟฟ้ามีกำไรเพิ่มขึ้น เเต่เมื่อรวมยอดกำไรทั้งหมดเเล้วกลับน้อยกว่าไตรมาสเดียวกันเมื่อปีที่เเล้วอยู่ 1.8% เนื่องจากธุรกิจ Semiconductor ที่กำไรลดลงมาก
ยุุทธศาตร์ทางโทรคมนาคมของ Samsung ในไตรมาสที่ 4 ของ Samsung นั้น จะเน้นไปที่กลุ่มสินค้าใหม่ที่จะวางจำหน่ายในปลายปีนี้ อย่าง Samsung Galaxy Nexus, Samsung Galaxy Note เเละ Samsung Omnia W ที่วางไว้เป็นรุ่นท็อปของเเต่ละ OS ส่วนเครื่องระดับกลางก็จะมี Samsung Galaxy Y, Samsung Galaxy Y Pro, เเละ Samsun Wave
นอกจากนี้ปีหน้าจะมีเเท็บเล็ตที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับเเมสมากขึ้นที่ราคาไม่เเพง โดยมีปัจจัยภายนอกที่เอื้อต่อการยอดขายมากขึ้นเนื่องจากการเติบโตของเทคโนโลยีใหม่อย่างเครือข่าย LTE ในอเมริกาเหนือเเละเอเซียบางประเทศ เเละเเนวโน้มของการใช้ 3G ของโลกที่มีมากขึ้น
ผลประกอบการนี้ก็ไม่บอกด้วยว่าเสียค่าทนายในการฟ้องร้อง Apple ไปเป็นจำนวนเท่าใด ใครสนใจลองไปหาอ่านดูตามลิงค์นี้ครับ
ที่มา : Samsung