เมื่อคืนที่ผ่านมาในเวลาของประเทศไทย ทางฝั่งของอเมริกาที่?San Francisco ได้มีงาน Worldwide Developers Conference 2011 (WWDC 2011) ที่ทาง Apple ได้จัดขึ้นทุกๆ ปี เพื่อเป็นการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ แน่นอนว่าในปี 2011 นี้ ได้มีการเน้นไปที่ iOS 5, iCloud และ?Mac OSX 10.7 Lion ซึ่งทางทีมงานขอมาสรุปให้แฟนๆ ได้ชมกันนะครับ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยจะออกเริ่มจากบรรยากาศงานกันก่อนเลยนะครับ
สื่อต่างๆ จากทั่วโลก นักพัฒนา รวมไปถึงผู้คนก็ยังให้ความสนใจกับงาน?WWDC เหมือนอย่างที่ผ่านๆ มาครับ ถึงแม้ว่าจะต้องจ่ายค่าเข้างานก็ตาม (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 900 บาท)
ถึงเวลาเริ่มงานแล้ว
ลุง Steve Jobs ก็ได้ออกมากล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ
ซึ่งได้พูดถึงหัวข้อหลักๆ ของงานวันนี้ก็คือ ก็เปิดตัวของ??Mac OSX 10.7 Lion,?iOS 5 และ iCloud
โดยมีการส่งต่อให้?Phil Schiller ที่เป็น CEO ของ Apple อีกคน มาพูดถึงระบบปฏิบัตการ?Mac OSX 10.7 Lion ซะก่อน
ที่มาถึงก็กล่าวถึงตัวเลขเลยว่ามีคนใช้ Mac มากขึ้นเรื่อยๆ ที่ในขณะนี้มีถึง 54 ล้านคนแล้ว และจากปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตถึง 28% ส่วนทางฝั่ง Windows – 1% (- -“)
มาเริ่มเข้าสู่คุณสมบัติต่างๆ ในตัวของ?Mac OSX 10.7 Lion กัน ที่บอกไว้ว่ามีอย่างมากมาย แต่จะขอเริ่มต้นที่ระบบ?Multi-Touch รูปแบบใหม่ ที่ช่วยให้การทำงานง่ายยิ่งขึ้น
ระบบหน้าจอแบบเต็มหน้าจอ (Full Screen) ที่จะมีมาให้ แถมได้พูดอีกว่า ระบบนี้มีความสำคัญต่อการใช้งานเอามากๆ (แต่ไหงพึ่งนึกได้ก็ไม่รู้)
ตามมาด้วยระบบ Mission Control ที่จะมีหน้าที่คล้ายกับตัวของ Expose’ ไว้ร่วมมือกับ Space เพื่อใช้จัดการหน้าต่างของเหล่าโปรแกรมที่ใช้งาน
ดูจากภาพแล้วก็มีความสวยงามน่าใช้เหมือนอย่างเคย แน่นอนว่าต้องใช้งานกับ?Multi-Touch ใหม่ได้อย่างแน่นอน
สำหรับโปรแกรม Photo Booth ได้มีการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาไปเล็กน้อย พร้อมทั้งยังมีการใส่ลูกเล่นใหม่ๆ เข้าไป
นอกเหนือจากนั้นยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง?Launchpad, Resume, และ Auto Save?ในตัวของ?Mac OSX 10.7 Lion ที่จะช่วยให้ Mac มีความน่าใช้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับคุณสมบัติอย่าง AirDrop นับได้ว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ เพราะเราสามารถโอนไฟล์กันได้ง่ายๆ ผ่านทางสัญญาณ Wi-Fi เพียงแค่ขอให้คอมพิวเตอร์อีกเครื่องวางอยู่ใกล้ๆ กันเท่านั้น
ในส่วนของระบบ Mail รูปแบบใหม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาไป ซึ่งถ้าใครเคยใช้ใน iPad แล้วคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าน่าใช้งานกันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ทาง?Phil Schiller ได้กล่าวสรุปว่า?Mac OSX 10.7 Lion ได้มีคุณสมบัติมากมาย ที่จะตอบสนองการใช้งานของเราๆ ได้ พร้อมทั้งยังมีความน่าตื่นตาตื่นใจ
ที่สำคัญ Mac OSX 10.7 Lion?จะไม่มีในรูปแบบของแผ่น DVD แต่เราสามารถอัพเกรดได้ผ่านทาง Mac App Store เท่านั้น ภายในเดือนหน้าที่จะถึงนี้ โดยสนนราคาอยู่ที่ 29.99 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 900 บาท)
ถัดมาเป็นการพูดถึง iOS 5 กันบ้าง โดยจะมี Scott Forstall เป็นคนทำหน้าที่นำเสนอ
อย่างแรกเลยที่กล่าวถึงก็คือตัวเลขต่างๆ ที่น่าสนใจของ iOS อาทิเช่น iOS มีส่วนแบ่งในสมาร์ทโฟนทั้งหมดที่ 44% เป็นต้น
จากนั้นเป็นการนำเสนอคุณสมบัติใหม่ๆ ที่มีอยู่ใน iOS 5 เริ่มต้นด้วย ระบบการแจ้งเตือนหรือ?Notification แบบใหม่ ที่ถือได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงและน่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งมีส่วนของศูนย์สำหรับแจ้งการเตือนทั้งหมดเอาไว้ โดยเราสามารถเข้าถึงได้เพียงลากนิ้วจากบนลงล่างของหน้าจอ
ในกรณีที่มีข้อความเข้ามาใหม่ก็จะขึ้นเป็นแถบด้านบน ไม่เด้งขึ้นมาเต็มหน้าจอแบบก่อนๆ แล้ว
หรือถ้าอยู่ในส่วนของ Lock Screen ก็จะขึ้นเป็นแถบต่างๆ ทันทีที่กลางจอ พร้อมให้เราเข้าถึงง่ายๆ เพียง Slide แถบนั้นๆ โดยตรง
มีระบบ?Newsstand ที่มีหน้าตาคล้ายกับชั้นวางหนังสือ ไว้ใช้งานสำหรับนิตยสารฉบับบดิจิตอล เรียกได้ว่าให้สะดวกและมีความน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของ Twitter ได้นำมาใส่เป็นส่วนหนึ่งของ iOS โดยเราสามารถตั้งค่าได้ใน Settings ทันที ซึ่งจะสามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้อาทิ Safari, Camera และอื่นๆ เพื่อทำการแชร์ ได้อย่างสนุกมากเกว่าเดิม
ตัวอย่างของการแนบไฟล์ภาพไปกับการ Tweet
iOS 5 ใน Safari ได้มีการเพิ่มระบบ Reading List ทำหน้าที่เป็นตัวเก็บลิ้งค์ต่างๆ ไว้สำหรับอ่านครั้งต่อไป ที่สำคัญเราสามารถเข้าถึงจากเครื่องอื่นๆ ได้ด้วย
ในส่วนของ Reminders จะที่ทำหน้าที่คอยเตือนนัดหมายในเรื่องต่างๆ บนตารางเวลาของเรา พร้อมทั้งยังกำหนดสถานที่ในการแจ้งเตือนได้อีกด้วย
ระบบ Lock Screen มีการเพิ่ม Shortcut ต่างๆ เข้ามา ซึ่งเราสามารถตั้งค่าปุ่มต่างๆ เพื่อเข้าถึงได้สะดวกมากยิ่งขึ้น บนหน้า Lock Screen ได้ อย่างเช่นตามภาพจะเป็นแอพพลิเคชั่น Camera
มาว่าด้วยส่วนของการถ่ายภาพกันบ้าง หลังจากที่เราหวังมานาน ในตอนนี้สามารถใช้ปุ่มปรับ Volume ด้านข้างเครื่องมาเป็นปุ่มชัตเตอร์ได้แล้ว พร้อมทั้งยังเพิ่มลูกเล่นสำหรับกล้องใหม่ๆ อีกมากมาย อาทิ การล๊อคค่าแสงที่วัดเอาไว้แล้ว เป็นต้น
นอกจากนั้นยังสามารถตกแต่งภาพถ่ายได้ทันที โดยไม่ต้องไปง้อแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อีกต่อไป
ความสามารถคุณสมบัติต่างๆ ของ mail นั้น ตัว iOS 5 เอง ก็ใส่มาให้อย่างมากมาย อาทิ?Rich Text, Indentation Control, Draggable Addresses (from To: to Cc: or Bcc:), Flagging และ?Secure (S/MIME)
iOS 5 นี้มีคุณสมบัติอย่าง PC Free ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวจัดการกับอุปกรณ์ iOS ต่างๆ สามารถทำได้โดยไม่ต้องง้อคอมพิวเตอร์อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการสร้างหรือแก้ไขแอพพลิเคช่นต่างๆ
รวมไปถึงการ Activate เครื่องหลังจากซื้อ และการอัพเดทซอฟท์แวร์ต่างๆ อย่างเวอร์ชั่นของ iOS ก็สามารถทำแบบ OTA หรือติดตั้งผ่านเครื่องไม่ทันที โดยไม่ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์อีกต่อไป
และที่เป็นอีกจุดเด่นของ iOS 5 ก็คือ ได้มีการเปิดตัว iMessage ที่ไว้สำหรับการสนทนากันผ่านอุปกรณ์อย่าง iPhone, iPad, iPod Touch ด้วยกัน
โดยจะให้บริการในคล้ายๆ กับ SMS/MMS ซึ่งนอกจากข้อความแล้ว Photos และ Videos ก็สามารถส่งผ่าน iMessage ได้ เรียกได้ว่าเสมือน?Whatsapp และ BBM ก็ไม่ปาน
นอกเหนือจากทั้งนี้ใน iOS 5 ยังมีลูกเล่นคุณสมบัติอย่างมากมาย ยกตัวอย่างเช่น AirPaly Mirroring ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแสดงผลแบบไร้สาย ผ่านหน้าจอของทีวี
อีกทั้ง iOS 5 นี้ยังรองรับทั้ง iPhone 4, iPad, iPad 2, iPod touch gen 4 ซึ่งที่มน่าแปลกใจก็คือ รอบรับไปจนถึง iPhone 3GS และ?iPod touch gen 3 อีกด้วย นับได้ว่าเป็นข่าวดีจริงๆ โดยกำหนดการที่จะปล่อย iOS5 ออกมา น่าจะอยู่ในช่วงปลายๆ ปีนี้
สุดท้ายกับ iCloud ที่ถือได้ว่าเป็นบริการใหม่ โดยลุง?Steve Jobs กลับมากล่าวถึงรายละเอียดต่างๆ ด้วยตนเอง ว่าเรานั้นพยายามจะเก็บข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นดิจิตอลไว้ใน?iCloud
ซึ่งเมื่อข้อมูลที่เราต้องการทั้งหมดได้เก็บไว้ใน?iCloud แล้ว เราก็จะสามารถส่งต่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
ที่สำคัญที่สุดคือ บริการ?iCloud นั้นไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือจะเรียกว่าฟรีนั่งเอง
iCloud นั้นยังสามารถที่จะเก็บในส่วนของ App Store ที่เราดาวน์โหลดแอพฯ มาไว้หรือ iBook ก็สามารถทำได้ ซึ่งยกตัวอย่างว่าหากเราเปลี่ยนเครื่องใหม่ เราก็ Backup กลับลงมาได้ง่ายๆ ด้วย?iCloud
รวมไปถึงบริการของ?iCloud นั้น จะมีระบบ Backup อัตโนมัติผ่านทาง Wi-Fi โดยเก็บพวกเพลง, หนังสือ, แอพพลิเคชั่น, รูปภาพ และการตั้งค่าต่างๆ ของตัวเครื่อง อย่างที่เราไม่ต้องไปยุ่งยากกับมัน
และที่พิเศษไม่แพ้กันสำหรับ iTunes in the Cloud ทางผู้ที่ซื้อเพลงดิจิตอลไป สามารถเก็บใว้บน iCloud และแชร์ไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้ เพื่อทำให้ตรงกันได้
พร้อมทั้งยังมีระบบ?iTunes Match ที่จะทำให้เพลงในเครื่องของเราเองจับคู่กับเพลงบน iCloud ของข้อมูลที่มีอยู่แล้ว โดยตัวเพลงยังมีคุณภาพอยู่ แถมยังสามารถคัดลอกลงอุปกรณ์อื่นๆ ได้ สำหรับราคาค่าบริการรายปีตกอยูที่ 24.99 เหรียญสหรัฐ
ในส่วนของ iOS 5 และ iCloud พร้อมปล่อยตัวทดสอบสำหรับนักพัฒนาและในวันนี้ โดยจะให้พื้นที่ความจุฟรีปริมาณ 5 GB ด้วยกัน
ปิดท้ายกับการแสดงถึง?Data Center แห่งใหม่ของทาง Apple ที่ดูแล้วคงจะลงทุนไปมากมาย เพื่อให้สมกับความต้องการของการใช้งานในอนาคต
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับงาน?Worldwide Developers Conference 2011 (WWDC 2011) ของ Apple ที่จะเห็นได้เลยว่า ไม่มีการพูดถึง iPhone 5 ขึ้นมาเลยซักนิด เอาเป็นว่าในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ของคุณสมบัติใหม่ต่างๆ ของ iOS 5 ทางทีมงานจะรวบรวมมาให้ได้ชมกันอีกทัก็แล้วกันนะครับ
ส่งท้ายด้วยวีดีโอที่สาธิตการใช้งานต่างๆ ของ iOS 5 กันครับ
ที่มา : engadget