Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»News»iOS News»นักวิเคราะห์ประเมินต้นทุน iPad Air น่าจะไม่เกิน 11,000 บาท แถมยังถูกกว่า iPad 3 อีกด้วย
    iOS News

    นักวิเคราะห์ประเมินต้นทุน iPad Air น่าจะไม่เกิน 11,000 บาท แถมยังถูกกว่า iPad 3 อีกด้วย

    ZeroSystemBy ZeroSystem6 พฤศจิกายน 2013
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    iPad Air ได้เริ่มมีวางจำหน่ายมาได้เกือบ 1 สัปดาห์แล้ว และก็มีการแกะดูชิ้นส่วนภายในไปแล้วด้วยเช่นกัน (ข่าว iFixit แกะ iPad Air) ล่าสุดได้มีการประเมินจากสำนักวิเคราะห์ IHS iSuppli ถึงต้นทุนการผลิต iPad Air แต่ละเครื่องว่าน่าจะเริ่มต้นที่ $274 (8,500 บาท) ถึงไม่เกิน $361 (11,000 บาท) เท่านั้น โดยถ้าเทียบกับ iPad 3 จะพบว่าต้นทุนชิ้นส่วนของ iPad Air ยังจะถูกกว่า iPad 3 อยู่ราวๆ $42 หรือประมาณ 1,200 บาทด้วยซ้ำไป

    โดยจุดที่เป็นไฮไลท์ในด้านชิ้นส่วนมากที่สุดก็คือพาเนลจอแสดงผล ซึ่งมีรายงานว่าจอของ iPad Air ได้นำเทคโนโลยีพาเนลจอแบบ IGZO เข้ามาใช้งานเป็นครั้งแรก โดยผลที่ได้จากการนำเทคโนโลยีพาเนลจอแบบ IGZO มาใช้งานก็คืออัตราการกินไฟของจอต่ำลง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วคือดีขึ้นกว่า iPad 4 ราวๆ 52% และถ้าเทียบด้านอื่นๆ ก็จะเป็นดังนี้

    • แสงสะท้อนที่จอน้อยลง 23%
    • ความสว่างสูงสุดของจอเพิ่มขึ้น 7%
    • Contrast ของสีดีขึ้น 32%
    • สีสันดีขึ้นกว่าเดิม

    นอกจากนี้ยังมีรายงานมาอีกด้วยว่า iPad Air เลือกใช้หลอดไฟ LED ด้านหลังจอลดน้อยลงจากที่ iPad 4 เคยใช้หลอดไฟ LED ให้แสงสว่างจอถึง 84 หลอด แต่ใน iPad Air กลับใช้เพียงแค่ 36 หลอดเท่านั้น โดยที่ความสว่างของจอไม่ต่างจากเดิม ซึ่งก็ช่วยลดอัตราการใช้พลังงานลงไปได้พอสมควร ส่งผลให้ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ทำได้ดีขึ้น

    ปิดท้ายด้วยต้นทุนชิ้นส่วนอื่นๆ ใน iPad Air กันครับ

    • ต้นทุนหน้าจอ $133 (4,100 บาท) ถ้าแยกเฉพาะส่วนจะได้เป็น หน้าจอ $90 (2,700 บาท) ส่วนทัชสกรีน $43 (1,300 บาท)
    • ชิปประมวลผล A7 ราคา $18 (560 บาท)
    • ชิปรับสัญญาณไร้สาย $32 (1,000 บาท)
    • ชิปหน่วยความจำ 16 GB ราคา $9 (270 บาท) สูงสุดคือ 128 GB ราคา $60 (1,800 บาท)

    โดยถ้าคิดในแง่ของกำไรแล้ว iPad Air 16 GB WiFi จะกำไรให้ Apple คิดเป็น 45% ของราคาขาย ส่วน iPad Air 128 GB LTE ที่เป็นรุ่นท็อปสุด Apple จะได้กำไรถึง 61% จากราคาขายเลยทีเดียว ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้นทุนต่ำ ได้กำไรดี นอกจากราคาที่ตั้งมาค่อนข้างสูงอยู่แล้ว Apple ยังเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จัดการระบบสายการผลิต สายการขนส่งวัตถุดิบ (supply chain) ขนส่งผลิตภัณฑ์ได้ดีมาก จึงทำให้สามารถกดราคาต้นทุนลงได้ต่ำ (การจ้างโรงงานในจีนผลิตก็ช่วยลดต้นทุนค่าแรงลงไปได้มาก) จึงทำให้สามารถทำกำไรได้มากอย่างในปัจจุบัน

    ที่มา: 9to5mac, MacRumor

    iPad Air
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    Apple อาจใช้ ChatGPT หรือ Claude AI มาช่วยเสริมความสามารถให้ Siri

    1 กรกฎาคม 2025

    รายงานเผย Apple กำลังพัฒนาแว่นอยู่ 7 รุ่น คาดเปิดตัว Apple Vision Pro M5 ปลายปีนี้

    30 มิถุนายน 2025

    ลือ iPhone 17 Pro อาจปรับโลโก้ Apple ให้ต่างจากเดิม

    30 มิถุนายน 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    HONOR 400 Series กวาดยอดขายทะลุเป้า!ยอดจองพุ่ง 2.6 เท่า ตอกย้ำกระแสสมาร์ตโฟน AI ถ่ายภาพแห่งปี

    1 กรกฎาคม 2025

    Apple อาจใช้ ChatGPT หรือ Claude AI มาช่วยเสริมความสามารถให้ Siri

    1 กรกฎาคม 2025

    ลือ HyperOS 3 จาก Xiaomi อาจยืมแนวคิดดีไซน์ Liquid Glass มาใช้ แต่ทำบางจุดให้ดีขึ้น

    1 กรกฎาคม 2025

    Apple วางแผนจะเปิดตัว MacBook ราคาประหยัดรุ่นใหม่ที่ใช้ชิปของ iPhone A18 Pro ในปี 2026

    30 มิถุนายน 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X