Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»ทำความรู้จักกระจกนิรภัยและฟิล์มกันรอย Hi-Shield แบรนด์น้องใหม่ จากเครือเดียวกับฟิล์ม Hi-Kool
    Editorial

    ทำความรู้จักกระจกนิรภัยและฟิล์มกันรอย Hi-Shield แบรนด์น้องใหม่ จากเครือเดียวกับฟิล์ม Hi-Kool

    ZeroSystemBy ZeroSystem4 กุมภาพันธ์ 2015Updated:4 กุมภาพันธ์ 2015
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-033

    เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทางทีมงานเราได้ไปร่วมงานเปิดตัวอุปกรณ์เสริม (ที่จำเป็นของแทบจะทุกคน) สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแบรนด์ใหม่ล่าสุด นั่นคือกระจกนิรภัยและฟิล์มกันรอยจากแบรนด์ Hi-Shield?(ไฮชิลด์) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แยกธุรกิจมาจากฟิล์ม Hi-Kool ของในรถยนต์นั่นเอง ประมาณว่าธุรกิจในครอบครัว อะไรประมาณนี้ครับ โดยในงานนี้ได้มีการแนะนำทั้งส่วนของผู้บริหาร และตัวผลิตภัณฑ์เลย (อ่านได้จากข่าวนี้) สำหรับในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นของ Hi-Shield?กัน ว่ามีอะไรบ้าง แต่ละตัวมีจุดเด่นอย่างไร มาเริ่มกันเลยครับ

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-004

    สำหรับผลิตภัณฑ์ของ Hi-Shield จะแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ คือกลุ่มของกระจกนิรภัย กับกลุ่มของฟิล์มกันรอย มาดูจุดเด่นของฝั่งกระจกนิรภัยที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ของ Hi-Shield?กันก่อนนะ

    ไล่ดูทีละภาพก็แล้วกันนะครับ

    ภาพ 1:?กระจกนิรภัยแบบ Tempered Glass ของ Hi-Shield?จะมีให้เลือกทั้งแบบปิดแค่จอธรรมดา และแบบคลุมกระจกส่วนหน้าของเครื่องทั้งหมด ซึ่งยังคงเป็นแบบที่หาได้ยากสำหรับผู้ใช้งาน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่ขอบหน้าจอมีความโค้งมน เนื่องจากพวกฟิล์มหรือกระจกยี่ห้ออื่นๆ ในตอนนี้ ส่วนมากมักจะคลุมไม่ทั่วด้านหน้าตัวเครื่องทั้งหมด

    ภาพ 2:?สำหรับกระจกนิรภัยรุ่นที่ปิดหน้าจอ iPhone 6/6 Plus ทั้งหมดนั้น นอกจากจะมีสีขาวและสีดำแล้ว ยังมีสีอื่นๆ เป็นแบบแฟนซีให้เลือกด้วย ม่วง ทอง ชมพู กากเพชรเรืองแสงฟรุ้งฟริ้ง เชื่อว่าน่าจะถูกใจสาวๆ แน่นอนสำหรับกระจกนิรภัยกลุ่มนี้ นอกจากจะช่วยป้องกันหน้าจอแล้ว ยังได้เรื่องความสวยงามด้วย

    ภาพ 3:?เรื่องความแข็งแกร่งก็หายห่วงเลยครับ เพราะแข็งแกร่งตามมาตรฐานระดับ 9H เลย

    ภาพ 4:?ส่วนความหนาของตัวกระจกนิรภัยก็อยู่ที่ 0.33 มิลลิเมตรเท่านั้น ติดแล้วไม่ทำให้ตัวเครื่องหนาขึ้นจากเดิมมากนัก

    ภาพ 5: ที่ผิวของกระจก มีการเคลือบสารจำพวก Oleophobic ที่ช่วยลดความมัน ป้องกันการเกิดคราบลายนิ้วมือ รวมถึงมีการเคลือบสารจำพวก Hydrophobic เพื่อป้องกันการจับตัวของหยดน้ำ ทำให้ผิวสัมผัสลื่น น้ำไม่เกาะตัวบนกระจก

    ภาพ 6:?เนื้อกระจกมีความใส ทำให้สีสันของภาพจากจอไม่ลดลง ภาพยังคงคมชัด สวยงามเหมือนไม่ได้ติดกระจกเข้าไปเลย

    ภาพ 7:?การติดสามารถทำได้ง่าย ทำเองที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม หรือถ้าติดแล้วไม่พอใจ ก็สามารถลอกออกมาเพื่อติดใหม่ได้ด้วย

    ภาพ 8:?ในตัวเนื้อกระจกนิรภัย จะมีการแบ่งออกเป็น 6 ชั้นย่อยๆ ครับ ที่น่าสนใจก็คือส่วนของซิลิโคนที่ช่วยทำให้สามารถลอกออกมาติดใหม่ได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบเหมือนฟิล์มกันรอยบางตัว

    สำหรับในด้านราคา Hi-Shield จะเน้นปล่อยผลิตภัณฑ์ออกมาในช่วงราคากลางๆ แต่ให้คุณภาพผลิตภัณฑ์ในระดับที่ดี ไม่แพงเกิน ไม่ถูกเกินไป ส่วนราคาแต่ละรุ่นจะเป็นอย่างไร ก็รอชมในส่วนต่อไปได้เลย

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-013

    ส่วนใครไม่อยากใช้กระจก Hi-Shield?ก็มีฟิล์มกันรอยมาให้เลือกใช้งานด้วยเช่นกัน จุดเด่นก็คงเป็นเรื่องของวัสดุที่เลือกใช้วัสดุนำเข้าจากญี่ปุ่นและไต้หวัน คุณสมบัติที่น่าสนใจก็จะเป็นเรื่องของความใสของเนื้อฟิล์ม ที่ทำให้สีสันภาพสวยงาม คมชัด การป้องกันรอยนิ้วมือบนหน้าจอ รวมถึงยังมีการป้องกันรอยขีดข่วนจากการใช้งานทั่วไปได้อีกด้วย

    Tempered glass

    สำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Hi-Shield?ก็มีให้เลือกดังนี้ครับ (กระจกนิรภัยก่อนนะ)

    Full Coverage Tempered Glass

    • กระจกเต็มหน้าจอ
    • ผิวสัมผัสลื่น
    • ป้องกันรอยขีดข่วนด้วยความแข็งแกร่งระดับ 9H
    • เคลือบสารป้องกันคราบรอยนิ้วมือ และป้องกันการจับตัวของหยดน้ำ
    • บาง 0.33 มิลลิเมตร
    • ราคา 1,090 บาท (iPhone 6) / 1,190 บาท (iPhone 6 Plus)

    Colorful Frame Full Coverage Tempered Glass

    • คุณสมบัติเหมือนกับตัวบนครับ แต่เป็นรุ่นมีสีสันให้เลือกหลายสี
    • ราคา 1,190 บาท (iPhone 6) / 1,290 บาท (iPhone 6 Plus)

    Blue Light Cut Tempered Glass

    • เป็นกระจกถนอมสายตาแบบใส ช่วยตัดแสงสีฟ้าจากหน้าจอได้
    • เป็นกระจกปิดเฉพาะหน้าจอ และขอบบนขอบล่างของจอ ไม่คลุมส่วนโค้งที่ขอบเครื่อง (ใน iPhone 6/6 Plus)
    • สีเนื้อกระจกจะเป็นสีเทาอ่อน ติดแล้วดูเนียนกับตัวเครื่อง แม้ตัวเครื่องจะเป็นสีขาวก็ตาม
    • คุณสมบัติอื่นๆ เหมือนกับตัวแรก
    • ราคา 890 บาท

    Tempered Glass

    • คุณสมบัติเหมือนตัวแรกครับ ต่างกันที่ตัวนี้ไม่คลุมขอบโค้งข้างตัวเครื่องเท่านั้นเอง เน้นป้องกันเฉพาะส่วนผิวระนาบของหน้าจอ
    • ราคา 690 บาท

    Film

    ส่วนของฟิล์มกันรอย ก็มีดังนี้จ้า

    Blue Light Cut Screen Protector

    • คุณสมบัติเหมือนกับกระจกนิรภัยตัดแสงสีฟ้าเลย ต่างกันแค่ตัวนี้เป็นฟิล์ม
    • ป้องกันรอยขีดข่วนด้วยความแข็งแกร่งระดับ 4H
    • ราคา 490 บาท

    Ultra Clear Full Coverage Screen Protector (ฟิล์มใสเต็มหน้าจอ)

    • ป้องกันรอยขีดข่วนด้วยความแข็งแกร่งระดับ 4H
    • เนื้อฟิล์มใส คลุมถึงส่วนขอบโค้งของริมจอด้วย
    • ผิวสัมผัสลื่น ไร้ฟองอากาศรบกวน
    • ติดตั้งเองได้ง่าย
    • ราคา 490 บาท

    Anti Fingerprint Matte Screen Protector (ฟิล์มด้านลดรอยนิ้วมือ)

    • เน้นลดคราบรอยนิ้วมือที่จะเกิดขึ้นบนหน้าจอ
    • เนื้อฟิล์มเป็นแบบด้าน ปิดเฉพาะส่วนระนาบเรียบของหน้าจอเหมือนฟิล์มทั่วไปในท้องตลาด
    • ป้องกันรอยขีดข่วนด้วยความแข็งแกร่งระดับ 4H
    • ผิวสัมผัสลื่น ไร้ฟองอากาศรบกวน
    • ติดตั้งเองได้ง่าย
    • ราคา 390 บาท

    Anti Fingerprint Ultra Clear Screen Protector (ฟิล์มใสลดรอยนิ้วมือ)

    • คุณสมบัติเหมือนตัวฟิล์มด้านครับ ต่างกันแค่ตัวนี้เป็นฟิล์มใส
    • ราคา 390 บาท

    Anti Glare Screen Protector (ฟิล์มด้านลดรอยนิ้วมือ)

    • คุณสมบัติคล้ายๆ ฟิล์มด้านตัวด้านบนเลยครับ แต่คุณภาพลดลงมาหน่อยนึง ลดรอยนิ้วมือได้ไม่เท่าตัวบน
    • ราคา 290 บาท

    Ultra Clear Screen Protector (ฟิล์มใส)

    • เป็นฟิล์มใสธรรมดา คุณสมบัติคล้ายๆ ฟิล์มใสตัวด้านบนเช่นกัน แต่คุณภาพลดลงมาหน่อยนึง
    • ราคา 290 บาท

    สำหรับรุ่นที่มีวางจำหน่ายในช่วงแรกก็มีดังนี้ครับ

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-016

    ได้แก่

    • iPhone 6 Plus, iPhone 6, iPhone 5s, iPhone 5
    • iPad Air, iPad mini
    • Samsung Galaxy Note 4, Galaxy Note 3, Galaxy S5, Galaxy Grand Prime, Galaxy Grand 2 Galaxy Alpha, Galaxy V และ Galaxy Win

    ส่วนรุ่นอื่นๆ จะมีตามมาในภายหลังครับ ในช่วงแรกนี้จะเน้นไปที่มือถือรุ่นยอดนิยม ที่ทาง Hi-Shield เล็งแล้วว่ากลุ่มผู้ซื้อน่าจะอยากหากระจกนิรภัยมาติดให้กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตสุดรักของตน

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-019

    ในงานเปิดตัวครั้งนี้ ก็มีสาธิตการติดตั้งกระจกนิรภัยให้ได้ชมกันด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าสามารถติดได้ง่าย ไม่ว่าจะทั้งแบบเต็มหน้าจอครอบส่วนโค้ง และแบบปิดหน้าจอธรรมดาอย่างเดียว

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-021

    นี่คือหน้าตาของ iPhone 6 ที่ติดตั้งกระจกนิรภัย Hi-Shield แบบปิดเต็มทั้งด้านหน้าเรียบร้อยแล้วครับ จะเห็นว่าหน้าตาก็ยังคงเป็น iPhone 6 สีขาวอยู่เหมือนเดิมเลย

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-023

    พอมาดูด้านข้าง ก็จะเห็นว่าแผ่นกระจกคลุมมาปิดถึงส่วนโค้งของกระจกจอ จนมาชนกับขอบอลูมิเนียมของฝาหลังเลย รับรองว่าช่วยปกป้องได้เป็นอย่างดีแน่นอน แต่ก็อาจจะมีปัญหากับเคสบางตัวอยู่เหมือนกัน เพราะเคสบางรุ่นจะมีส่วนเกยขึ้นมาบนหน้าจอด้วย อันนี้ก็คงต้องศึกษาข้อมูลของเคส หรือทดสอบก่อนซื้อเคสกันให้ดีซักหน่อยนะครับ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นเสียเงินฟรีๆ

    ส่วนตัวผมเองใช้บัมเปอร์ Spigen รุ่นพลาสติกที่มียางหุ้มอยู่ภายในอีกชั้น เท่าที่ลองเอามาใส่กับ iPhone 6 เครื่องที่ติดกระจกแบบเต็มจอ ก็พบว่ายังสามารถใช้งานด้วยกันได้อยู่นะ ตัวเนื้อกระจกจะนูนขึ้นมาเสมอกับขอบริมของบัมเปอร์เลย (ปกติขอบบัมเปอร์จะนูนสูงกว่าจอเล็กน้อย) การใช้งานทั่วๆ ไปก็ยังทำได้สะดวกดีครับ สัมผัสได้ไหลลื่น ทัชติดมือ ภาพที่ได้ยังสวยเหมือนเดิม

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-028

    ทีนี้ก็ลองติดเครื่องของผมเองบ้าง ทางทีมงาน Hi-Shield เลือกใช้กระจกนิรภัยแบบมีสีสัน (อันนี้เป็นสีเงินสะท้อนแสง คล้ายๆ กระจกเงา) ซึ่งขั้นตอนในการติดก็ไม่ยากเลย ดังนี้

    • ลอกฟิล์มเก่าออก
    • ทำความสะอาดหน้าจอ (ในแพ็คเกจมีผ้าสำหรับทำความสะอาด และมีแผ่นกาวช่วยจับฝุ่นให้ด้วย)
    • เล็งตัวกระจกนิรภัยดีๆ เล็งให้ตรง
    • เริ่มติดกระจกลงไปบนหน้าจอ เริ่มจากตรงกลาง แล้วก็เริ่มกดลงไปจากส่วนกลางจอ จากนั้น ตัวกระจกจะดูดติดเข้าไปกับหน้าจอเอง และทำการไล่ลมออกเองด้วย
    • เสร็จเรียบร้อยจ้า

    จุดที่น่าสนใจก็คือ ตัวกระจกจะทำการไล่ลมเองระหว่างติดครับ จากที่ดูการสาธิตของทางทีมงาน Hi-Shield สามสี่รอบ ก็เห็นชัดๆ เลยว่าตัวกระจกดูดติดเข้าไปเอง ลมก็ถูกไล่ออกมาเองโดยไม่ต้องใช้นิ้วนั่งไล่ฟองอากาศเลย ดูแล้วติดง่ายมากๆ แถมถ้าไม่พอใจ ก็สามารถใช้เล็บค่อยๆ แงะตรงขอบกระจกเพื่อดึงขึ้นมาติดใหม่ได้ง่ายอีกต่างหาก

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-030

    รอบนี้เปลี่ยนไปติดกระจกนิรภัยแบบคลุมเฉพาะส่วนเรียบบนจอ ไม่คลุมขอบโค้งของกระจกจอกันบ้าง วิธีการติดก็เหมือนกันเลยครับ อากาศก็ถูกไล่ออกเองอีกเหมือนกัน ใช้เวลาติดไม่ถึง 2 นาทีก็เสร็จแล้ว (แต่ตอนเช็ดทำความสะอาดอาจจะนานหน่อย) ตัวกระจกเองก็ได้รับการเจาะ ตัดคัตติ้งออกมาได้พอดีกับตัวเครื่องและช่องต่างๆ มาก งานตัดทำได้เนียน ไม่มีเศษๆ หรือขั้วอะไรเกินออกมาเลย ถือว่างานดีเลยนะตัวนี้

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-032

    ติดเสร็จแล้ว มาดูความหนาของกระจกแบบใกล้ๆ กันครับ ออกตัวก่อนเลยว่าก่อนหน้านี้ผมไม่เคยใช้กระจกกันรอย กระจกนิรภัยมาก่อนเลย ปกติก็ติดแค่ฟิล์มเท่านั้น จากเท่าที่ผมลองใช้กระจกนิรภัย Hi-Shield ตัวนี้มา พบว่าภาพที่ได้จากจอดูใสขึ้นกว่าตอนใช้ฟิล์มเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะมันใหม่กว่าด้วยล่ะนะ (ฟิล์มเก่าผมใช้ของ Spigen ที่แถมมากับบัมเปอร์) การทัช การลากนิ้วเหมือนจะลื่นกว่าฟิล์มนิดหน่อย สัมผัสเนียน มุมมองภาพยังดีเหมือนไม่ได้ติดฟิล์มหรือกระจกใดๆ เลย

    ส่วนจุดที่ต่างจากฟิล์มอย่างชัดเจนก็คือความหนา ซึ่งสังเกตได้ชัดมากๆ จากการกดปุ่มโฮม เพราะความต่างความสูงของผิวกระจกกับผิวปุ่มโฮมเพิ่มขึ้น การใช้งานช่วงแรกๆ นี้เลยอาจจะยังไม่ชินซักเท่าไร ส่วนการลากนิ้วจากขอบเครื่องเข้ามาตรงกลางๆ จอ เช่นเวลาจะเลื่อนหน้าจอกลับไปหน้าก่อนหน้านี้ ซึ่งปกติจะต้องเลื่อนผ่านขอบฟิล์มเข้ามา แต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นกระจกแทน ซึ่งก็บอกว่าแทบไม่ต่างกันเลย เพราะขอบของกระจกไม่ถึงกับคมจนบาดมือ เผลอๆ ส่วนตัวผมคิดว่าขอบฟิล์มที่เคยใช้ยังจะคมกว่าด้วยซ้ำไป

    สำหรับใครที่สนใจกระจกนิรภัยหรือฟิล์มกันรอย Hi-Shield ก็สามารถหาซื้อได้แล้วตามร้านต่างๆ เช่น iStudio, iBeat, .Life รวมถึงตัวแทนจำหน่ายตามโซนมือถือชั้นนำในห้างสรรพสินค้าครับ โดยจะเริ่มกระจายสินค้าไปเรื่อยๆ ส่วนในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสที่ 12 ถึงวันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ Hi-Shield ก็จะไปออกบูทในงานด้วยเช่นกันครับ ไปลองชม หรือซื้อหามาติดกันได้เลย รู้สึกว่าจะมีโปรโมชันลดราคาพิเศษเฉพาะในงานด้วยนะ อาจจะติดตรงที่ยังมีรุ่นของมือถือที่ใช้งานได้น้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง

    ปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศในงานและภาพผู้บริหาร Hi-Shield เล็กๆ น้อยๆ ครับ

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-001

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-003

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-017

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-042

    Event-Hi-Shield-Tempered-Glass-SpecPhone-044

    accessories Film
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    วิธียกเลิกบริการเสริม AIS ที่เสียเงิน ยกเลิกข้อความเสียเงินจาก AIS ทำยังไง อัพเดท 2568

    13 พฤษภาคม 2025

    วิธียกเลิกแอพเสียเงิน iOS/ Android ยกเลิกสมัครแอพต่างๆ ทั้งหมดทำยังไงบ้างแบบง่ายๆ ปี 2025

    13 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 3 กลุ่มหลักที่เหมาะกับ iPhone 16e – ถ้าซื้อไปใช้ รับรองว่าคุ้ม!

    13 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    วิธียกเลิกบริการเสริม AIS ที่เสียเงิน ยกเลิกข้อความเสียเงินจาก AIS ทำยังไง อัพเดท 2568

    13 พฤษภาคม 2025

    วิธียกเลิกแอพเสียเงิน iOS/ Android ยกเลิกสมัครแอพต่างๆ ทั้งหมดทำยังไงบ้างแบบง่ายๆ ปี 2025

    13 พฤษภาคม 2025

    Samsung Galaxy S25 Edge มาแล้ว เปิดราคา 36,xxx บาง 5.8mm แต่แรงด้วย SD 8 Elite for Galaxy

    13 พฤษภาคม 2025

    Apple อาจใช้ AI ช่วยประหยัดพลังงาน คาดใส่เข้ามาใน iOS 19

    13 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X