เมื่อวันที่ 13 ก.ย.57 มีรายงานว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งเตือนแก่ผู้โดยสาร ถึงกรณีการพกพาแบตเตอรี่สำรอง Power Bank ขึ้นไปยังเครื่องบินดังนี้
“ผู้โดยสารสามารถนำแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟฟ้าน้อยกว่า 20,000 mAh ไปจนถึงความจุไฟฟ้าน้อยกว่า 32,000 mAh หรือแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุน้อยกว่า 100 Wh ไปจนถึง 160 Wh (20,000 mAh – 32,000 mAh พกได้ไม่เกิน 2 ก้อน) สามารถใส่กระเป๋าใบเล็กหิ้วขึ้นเครื่องไปกับตัวได้ ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารห้ามนำแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh หรือมากกว่า 160 Wh นำใส่กระเป๋าพกติดตัวขึ้นเครื่องบิน และกรณีที่ต้องการนำแบตเตอรี่ขึ้นเครื่องบิน กรุณาสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่เมื่อทำการเช็กอิน”
เชื่อว่าต้องที่อ่านข้อกำหนดของการบินไทยข้างต้นไม่เข้าใจแน่นอน ผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ รู้สึกข้อความมันงงๆ แต่ทางการบินไทยก็ได้ทำแผนภาพอินโฟกราฟฟิคออกมาเพื่อให้ผู้โดยสายเข้าใจข้อกำหนดเรื่อง Power Bank ได้ง่ายยิ่งขึ้น
และจากแผนภาพดังกล่าว ทางทีมงาน Specphone ก็ขอสรุปให้ฟังกันคร่าวๆ อีกทีครับ
- เราสามารถพก Power Bank ?ขึ้นเครื่องบินได้ครับ แต่จะต้องใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่สามารถพกติดตัวตอนขึ้นเครื่องบินเท่านั้น
- Power Bank ที่เอาขึ้นเครื่องบินได้จะต้องมีความจุไม่เกิน 32,000 mAh ถ้าเกินจาก 32,000 mAh หมดสิทธิ์เอาขึ้นเครื่องทุกกรณี (เกินกว่านี้จะเอาไปชาร์จไฟรถหรือครับเนี่ย)
- กรณีที่ Power?Bank มีความจุอยู่ในช่วงระหว่าง 20,000 – 32,000 mAh ผู้โดยสารสามารถพกขึ้นเครื่องบินได้ไม่เกิน 2 ก้อน
- ทั้งนี้ทั้งนั้นควรทำการสอบถามรายละเอียดเรื่อง Power Bank กับเจ้าหน้าที่อีกครั้งเมื่อทำการเช็คอิน
โดยสาเหตุที่ทางสายการบินจำเป็นต้องกำหนดมาตรการดังกล่าวออกมา เนื่องจากเคยมีสายการบินต่างชาติเกิดอุบัติเหตุแบตเตอรี่สำรองเกิดการลุกไหม้ ดังนั้นจึงต้องออกมาตรการป้องกัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร และนายสมัท พุ่มอ่อน ผอ.ฝ่ายบริหารภาวะฉุกเฉินและวิกฤติบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า ?แบตเตอรี่สำรองถือว่าเป็นวัตถุอันตรายเพราะเป็นแบตเตอรี่ลิเธียม เมื่อมีความร้อนสูงเกินไป สามารถนำไปสู่การติดไฟได้ ส่วนสาเหตุที่ห้ามใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่นั้น เนื่องจากการเก็บ Power Bank ไว้ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่จะไม่มีใครคอยตรวจเฝ้าตลอดเวลา ไม่เหมือนการเก็บไว้ในกระเป๋าที่ผู้โดยสารนำติดตัวขึ้นเครื่อง เพราะทางลูกเรือจะพอสังเกตและเข้าระงับเหตุได้ง่ายขึ้น?
ที่มา: thairath