แด่ Nokia!! ย้อนเวลาไปกับ 10 มือถือ Nokia ที่ดีที่สุด

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Microsoft ก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วนะครับเกี่ยวกับการเข้าซื้อ Nokia ว่าได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในอีก 2 – 3 ปีหลังจากนี้ก็มีความเป็นไปได้เอามากๆ เลยหล่ะครับว่าแบรนด์ Nokia จะเป็นแค่ตำนาน เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ในระบบ Windows Phone ก็จะใช้ชื่อว่า Microsoft Mobile ไปซะหมด แต่ชื่อรุ่นก็ยังคงเป็น Lumia อยู่นะครับ ตามข่าวนี้เลย “บ๊ายบาย Nokia เราจะไม่ลืมนาย – Microsoft จบดีล Nokia เรียบร้อยและใช้ชื่อ Microsoft Mobile แทน”?ซึ่งตัวผู้เขียนเอง รวมถึงหลายๆ ท่านก็คงจะต้องเคยได้สัมผัสได้ใช้โทรศัพท์มือถือ Nokia กันมาบ้างซักครั้งในชีวิต เพราะในช่วงระยะเวลาหนึ่งย้อนไปซักประมาณ 10 ปีนี่ก็ถือว่า Nokia ผูกขาดตลาดโทรศัพท์มือถือในช่วงเวลานั้นเอาไว้เจ้าเดียวก็ว่าได้ ว่าแล้วเรามาย้อนเวลาไปด้วยกันกับมือถือ Nokia ที่ดีที่สุดในอดีตกันเลยครับ

1. Nokia 3310, Nokia 3315

ผมเชื่อว่า 80% ของผู้ที่กำลังอ่านบทความนี้ต้องเคยได้ใช้เจ้ามือถือสุดอึดเครื่องนี้อย่างแน่นอน เจ้า Nokia 3310 เปิดตัวเมื่อปี 2000 ครับ ตอนนั้นใครมีใช้นี่ถือว่าเท่มากครับ ด้วยรูปทรงที่ทันสมัย (ในตอนนั้น) สามารถส่ง SMS และเล่นเกมยอดฮิตในขณะนั้นอย่างเกมงู บอกเลยว่าสมัยนั้นติดกันงอมแงมไม่แพ้คุกกี้รันเลยครับ การันตีด้วยยอดขายทั่วโลกกว่า 126 ล้านเครื่อง นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนหน้ากากได้หลากหลายสีด้วย และที่สำคัญต้องยกให้เจ้า Nokia 3310 ก็เรื่องความทนทานเลยครับ จะทำหล่นกี่ครั้งก็บ่ยั่น แค่หยิบขึ้นมาใส่แบตแล้วเปิดเครื่องก็เป็นอันใช้ได้ ในโลกอินเตอร์เน็ตถึงบกับขนานนามให้มันว่า “มือถือที่ไม่มีวันพัง” เลยทีเดียว

2. Nokia N-Gage, Nokia N Gage QD

จัดว่าเป็นมือถือสำหรับการเล่นเกมอย่างแท้จริงครับสำหรับ Nokia N Gage และ N Gage QD ด้วยลักษณะของตัวเครื่องที่ออกแบบมาเหมือนเครื่องเล่นเกมแบบเป๊ะๆ เรียกว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่โทรออกได้ก็คงจะไม่ผิดซะทีเดียว สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ Nokia N Gage ก็คือลักษณะการจับตัวเครื่องเวลาใช้งานโทรศํพท์ครับ ต้องเอาสันเครื่องแนบหูเพื่อคุย บอกเลยว่าตอนนั้นก็รู้สึกแปลกๆ แต่มันก็เท่ (ณ เวลานั้น) นะจะบอกให้ ถึงแม้ว่าในรุ่นปรับปรุงอย่าง N Gage QD จะปรับเปลี่ยนลักษณะการจับตัวเครื่องให้เหมือนปกติแล้วก็เถอะ แต่ตัวเครื่องมันก็ยังดูแปลกๆ อยู่ดีนั่นแหละครับ

3. Nokia E71

ณ ช่วงเวลานั้นกระแสของ BB หรือ Blackberry กำลังมาแรงมากๆ ครับ เรียกได้ว่าขอพินสาวๆ ง่ายกว่าขอเบอร์เลยหล่ะ โนเกียจึงมีความพยายามที่จะทำมือถือพร้อมคีย์บอร์ดแบบ QWERTY เพื่อมาต่อกรกับ Blackberry ซึ่งก็คือเจ้า Nokia E71 นั่นเอง โดยฟีเจอร์ของ Nokia E71 ก็ได้แก่การเชื่อมต่อ Wifi, กล้องหลังความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล, ปุ่มเฉพาะสำหรับเข้าถึงอีเมล์และปฏิทิน รวมถึงระบบแผนที่จาก Nokia เรียกว่าเป็นมือถือสำหรับคนทำงานอย่างแท้จริงเลย

4. Nokia N93

มือถือรุ่นนี้เปิดตัวเมื่อปี 2006 ครับ มันมาพร้อมกับดีไซน์สุดเท่ (ณ ช่วงเวลานั้นอีกแล้ว) แค่หยิบเครื่องแล้วพับจอขึ้นในแนวนอนก็เท่แล้วครับ จุดเด่นนอกจากการออกแบบก็คือกล้องหลัก (ไม่รู้มันอยู่หน้าหรือหลัง ขอเรียกกล้องหลักนะครับ) ความละเอียด 3.15 ล้านพิกเซล เลนส์?Carl Zeiss อันเลื่องชื่อ และฟีเจอร์สุดคูลของมันก็คือการซูมแบบออฟติคอลได้ถึง 3 เท่า แต่ข้อเสียก็ดันเป็นเรื่องของการบันทึกภาพเพราะว่าภาพที่มันถ่ายมีไฟล์ขนาดใหญ่พอสมควร?

5. Nokia N95

ส่วนเจ้าเครื่องนี้เปิดตัวในปี 2007 ใช่แล้วครับมันเปิดตัวในช่วงเวลาใกล้ๆ กับ iPhone ตัวแรก หรือ iPhone 2G ที่เราเรียกกันนั่นแหละ ด้วยดีไซน์แบบสไลด์โฟนแต่พิเศษกว่าด้วยการสไลด์ได้ 2 ด้าน โดยถ้าสไลด์ลงข้างล่างจะเป็นการแสดงปุ่มควบคุมการเล่นเพลง ถ้าสไลด์ขึ้นก็จะเป็นการใช้งานปุ่มกดโทรศัพท์ปกติทั่วไป เจ้าตัวนี้พิเศษที่มันมี GPS ในตัวและ accelerometer?ครับ กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล เลนส์?Carl Zeiss และยังสามารถต่อภาพออกจอทีวีได้ด้วยนะ เรียกได้ว่า N95 นี่เป็นประตูบานแรกสู่โลก “สมาร์ทโฟน” ของโนเกียก็ว่าได้เลยหล่ะ

6. Nokia N97

หลังจากที่ iPhone เปิดตัวได้ 2 ปี Nokia ก็ปล่อยเจ้า Nokia N97 ออกมาสู้ไฟว้ด้วยขนาดหน้าจอที่ใกล้เคียงกันแต่มีคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ที่เรียกใช้ด้วยการสไลด์ตัวเครื่องด้านข้าง กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซลพร้อมเลนส์ Carl Zeiss ที่สำคัญมันมีไฟแฟลชถึง 2 ดวง (แต่เป็นแฟลช LED สีขาวไม่ใช่แฟลชแบบ True-Tone นะ) และหลังจากเปิดตัว N97 ไปไม่นาน Nokia ก็ได้เปิดตัวรุ่นเล็กอย่าง Nokia N97 Mini ออกมาอีกด้วย (คุ้นๆ เหมือนสมาร์ทโฟนยุคนี้เลย)

7. Nokia N8

หลังจากเจอสมาร์ทโฟนเอฟเฟคเล่นงานโนเกียไปจนอ่วมพอสมควร แต่ก็ต้องชมครับว่ามือถือ Nokia ก็ยังขายได้อยู่ในช่วงเวลานั้น และสำหรับ Nokia N8 มือถือกล้องเทพโดยเฉพาะใน pantip มีผู้กล่าวถึงมันมากเป็นพิเศษ และเอาจริงๆ ผมว่ากล้อง 12 ล้านพิกเซลพร้อมเลนส์ Carl Zeiss ของมันก็ยังทำได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ บางตัวเสียอีก แถมยังถ่ายวีดีโอได้ความละเอียดระดับ HD ด้วยนะ นอกจากนี้ยังรอบรับการเชื่อมต่อกับสาย HDMI และการเชื่อมต่อ USB-OTG ด้วยนะ

8. Nokia N9

ตอนที่โนเกียเปิดตัว Nokia N9 นั้นมันถูกตั้งเป็นตัวความหวังของบริษัทที่จะต่อกรกับ Android และ iOS เลยทีเดียว เพราะมันเป็นมือถือเครื่องแรกที่โนเกียทำระบบปฏิบัติการณ์ของตัวเองอย่าง MeeGo ?มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาดใหญ่ F2.2 พร้อมระบบออโต้โฟกัสใบหน้า หน้าจอขนาด 3.9 นิ้ว?กระจกหน้าจอทนรอยขีดข่วน Gorilla glass?และสิ่งที่สำคัญคือนอกจากจะเป็นมือถือระบบปฏิบัติการณ์ MeeGo ตัวแรกแล้วมันยังเป็นตัวสุดท้ายอีกด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่า Nokia N9 เนี่ยเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Lumia รุ่นหลังๆ ครับ?

9. Nokia 808 Pureview

ตอนนั้นเป็นที่ฮือฮาพอสมควรเลยเมื่อมีข่าวออกมาว่า Nokia จะทำมือถือที่มีกล้องหลักความละเอียด 41 ล้านพิกเซล โดยจุดเด่นของมันก็อยู่ที่กล้องหลังความละเอียด 41 ล้านพิกเซลที่มีเซนเซอร์ขนาดใหญ่ พร้อมไฟแฟลชแบบ Xenon เป็นมือถือรุ่นสุดท้ายที่ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Symbian และนั่นคือสิ่งที่น่าเสียดายที่สุดสำหรับ Nokia 808 Pureview เพราะกล้องหลังของมันเป็นที่ยอมรับในความสุดยอดแต่ตัวระบบปฏิบัติการณ์กลับไม่สามารถดึงความสามารถที่แท้จริงของกล้องหลังออกมาได้มาพอ

10. Nokia Lumia 800

ณ ช่วงเวลานี้เราอยู่ในยุคที่เรียกมือถือว่า สมาร์ทโฟน และนี่ก็น่าจะเป็นมือถือจากค่าย Nokia ที่เรียกว่า Smartphone ได้อย่างเต็มปากเต็มคำเพราะมันมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการณ์ Windows Phone 7.5 ส่วนดีไซน์มันก็คือ Nokia N9 ชัดๆ จุดเด่นก็คือดีไซน์แบบ Unibody กล้องหลังพร้อมเลนส์ Carl Zeiss และที่สำคัญคือมันเป็นรุ่นแรกในชื่อ Lumia ของ Nokia เลยครับ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2011 และหลังจากนั้น Nokia ก็เริ่มผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการณ์ ?Windows Phone ออกสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงวันที่ Microsoft ปิดดีล Nokia ได้สำเร็จ

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับ 10 มือถือที่ดีที่สุดในอดีตของ Nokia จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ต้องบอกเลยว่าจริงๆ แล้วมีอีกหลายรุ่นเลยทีเดียวที่เราไม่ได้กล่าวถึง แต่ก็ยังอยู่ในความทรงจำไม่ว่าจะเป็น Nokia 8250, Nokia N70, Nokia 7610 และอีกหลายๆ รุ่นที่เคยโลดแล่นอยู่บนตลาดมือถือในช่วงระยะเวลาที่ไม่ว่าเราเดินไปทางไหนก็จะพบแต่คนใช้ Nokia ไม่ต่างจากยุคนี้ที่จะพบแต่ผู้ใช้ iPhone และ Samsung เลยหล่ะครับ