
กรุงเทพฯ ประเทศไทย 3 มีนาคม 2568 — เสียวหมี่ ประเทศไทย เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Xiaomi 15 Series สู่ความเหนือระดับครั้งใหม่ของการถ่ายภาพที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างน่าทึ่งในทุกสถานการณ์ด้วยเลนส์ออปติคอล Leica Summilux ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 รุ่นล่าสุดซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การเชื่อมต่อ และความสามารถของ AI เพื่อประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่เหนือระดับ
นอกจากนี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT อันน่าทึ่งอีกมากมาย อาทิ แท็บเล็ต Xiaomi Pad 7, แท็บเล็ต Xiaomi Pad 7 Pro, หูฟัง Xiaomi Buds 5 Pro, หูฟัง Xiaomi Buds 5 Pro (Wi-Fi), นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S4, สายรัดข้อมืออัจฉริยะ Xiaomi Smart Band 9 Pro, พาวเวอร์แบงค์ Xiaomi 212W HyperCharge Power Bank 24500, เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Smart Pet Care Air Purifier, เครื่องปรับอากาศ Mijia Air Conditioner Pro Eco EGAT Label No.5 with 3 Stars 12000BTU Inverter, รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Xiaomi Electric Scooter Elite

Xiaomi 15 Ultra: เหนือระดับของการถ่ายภาพเพื่อภาพถ่ายอันน่าทึ่ง
Xiaomi 15 Ultra ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ของกล้องคลาสสิก ซึ่งมาใน 3 สีสวยให้เลือก ได้แก่ Black, White, และ Silver Chrome โดยแต่ละรุ่นล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสง่างามที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว3 รุ่นสี Silver Chrome ได้หลอมรวมไฟเบอร์กลาสเกรดอากาศยาน (aerospace-grade glass fiber) และหนัง PU เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างไร้รอยต่อและช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของวัสดุให้ดียิ่งขึ้น
Xiaomi 15 Ultra โดดเด่นด้วยหน้าจอ WQHD+ AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดคมชัดถึง 3200 x 1440 และความหนาแน่นของพิกเซลอันน่าประทับใจ 522 ppi ความสว่างสูงสุด 3200 nits ทำให้หน้าจอจะยังคมชัดในทุกสภาพแสงและสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดจ้าหรือแสงสลัวก็ตาม นอกจากนี้หน้าจอแสดงผลยังมาพร้อม 1Hz Always-Active ที่จะแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น เวลา วันที่ และการแจ้งเตือนในทันที Xiaomi 15 Ultra ยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายขึ้นไปอีกขั้นด้วยเซ็นเซอร์ลายนิ้วมืออัลตราโซนิกที่ได้รับการอัปเกรดซึ่งช่วยให้คุณปลดล็อคได้เร็วขึ้นและใช้งานได้ดีขึ้น Xiaomi 15 Ultra มีการออกแบบที่ทนทานโดยตัวอุปกรณ์ใช้โครงสร้าง Xiaomi Guardian ขั้นสูง ซึ่งประกอบไปด้วย Xiaomi Shield Glass 2.0 รุ่นล่าสุดที่ทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้นถึง 16 เท่า2 และยังรวมไปถึงกรอบอะลูมิเนียม CNC ที่มีความแข็งแรงสูงที่ช่วยให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาแต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง ในขณะที่กระจก Corning® Gorilla® Glass 7i นั้นช่วยปกป้องตัวกล้องจากการตกหล่นและรอยขีดข่วนได้ดีมากยิ่งขึ้น
Xiaomi 15 Ultra ยกระดับการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน โดยตัวกล้องจะครอบคลุมความยาวโฟกัสทุกช่วงของการซูมแบบออปติคอลตั้งแต่ 14 มม. ถึง 200 มม. โดยประกอบด้วย กล้องหลักเลนส์ Leica Summilux และเลนส์แอสเฟอริคัล 8P ที่มีการส่งผ่านแสงสูง (8P aspherical high-transmittance lens) ซึ่งถูกเสริมด้วยการเคลือบป้องกันแสงสะท้อน (AR) แบบคู่เพื่อให้ผู้ใช้งานสัมผัสกับประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม
หัวใจสำคัญของระบบกล้องของ Xiaomi 15 Ultra คือกล้องหลัก Leica 23 มม. ขนาด 1 นิ้วชั้นนำของอุตสาหกรรมและเซ็นเซอร์รับภาพ Sony LYT-900 ความละเอียด 50MP เพื่อภาพที่คมชัดที่เก็บทุกรายละเอียด ทั้งนี้ตัวอุปกรณ์ยังมาพร้อมกับเลนส์ออปติคอล Leica Summilux ที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่ ƒ/1.63 ระยะโฟกัสตั้งแต่ 23 มม. 28 มม. และ 35 มม. รวมไปถึงช่วงไดนามิกที่สูงถึง 14EV และด้วยองค์ประกอบเหล่านี้จึงทำให้ความสามารถของกล้องของ Xiaomi 15 Ultra นั้นมีประสิทธิภาพการถ่ายภาพที่น่าทึ่งได้ทั้งในสภาวะแสงน้อยหรือยามค่ำคืนก็ตาม
สำหรับการถ่ายภาพบุคคลและภาพสตรีท Xiaomi 15 Ultra มีกล้องเทเลโฟโต้ลอยตัว Leica 70 มม. ที่ทำงานที่ระยะโฟกัสสูงสุดจึงทำให้ได้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติและสวยงาม ในขณะที่เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่นั้นโดดเด่นในด้านการถ่ายภาพมาโคร ทำให้ผู้ใช้สามารถเก็บภาพรายละเอียดที่ซับซ้อนได้ในระยะที่ใกล้เพียง 10 ซม. เท่านั้น ตัวอุปกรณ์ยังยกระดับการถ่ายภาพขึ้นไปอีกขั้นด้วยกล้องเทเลโฟโต้ Leica 100 มม. ความละเอียด 200MP ชั้นนำของอุตสาหกรรมจึงถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ไกลได้อย่างง่ายดายด้วยระยะโฟกัส 100 มม. ซึ่งสามารถขยายได้ถึง 200 มม. โดยใช้เทคโนโลยีซูมในเซ็นเซอร์อีกด้วย ทั้งนี้ Xiaomi 15 Ultra ยังใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว ที่ผนวกเข้ากับรูรับแสง ƒ/2.6 จึงสามารถรับแสงได้มากกว่า Xiaomi 14 Ultra ได้ถึง 136%1 และกล้องตัวที่สี่ตัวสุดท้ายก็คือกล้องอัลตราไวด์ Leica 14 มม. ที่ให้มุมมองที่กว้างไกลสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ที่สวยงามและภาพหมู่
Xiaomi 15 Ultra ทำลายทุกขีดจำกัดของการถ่ายวิดีโอ ให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นในระดับภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยกล้องหลักและกล้องเทเลโฟโต้ปริทรรศน์ (periscope telephoto cameras) ที่สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 120fps ได้ กล้องหลักมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EIS) ซึ่งจะช่วยลดการสั่นไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้วิดีโอนั้นคงคุณภาพระดับมืออาชีพ นอกเหนือจากความสามารถด้านวิดีโออันน่าประทับใจแล้ว Xiaomi 15 Ultra ยังรองรับการบันทึกวิดีโอด้วย Dolby Vision® ที่ 4K 60fps และการบันทึกวิดีโอแบบ 10-bit Log ในทุกความยาวโฟกัสอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะพันธมิตรผลิตภัณฑ์ของ ACES เป็นรายแรกของแอนดรอยด์ ตัวอุปกรณ์ได้ยกระดับการถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้นด้วยการรับประกันความแม่นยำของสีในระดับอุตสาหกรรมและฟุตเทจคุณภาพระดับภาพยนตร์ พร้อมไมโครโฟนอีก 4 ตัวที่ช่วยบันทึกเสียงได้อย่างเต็มอิ่มด้วยโหมดการบันทึกแบบรอบทิศทาง ทั้งข้างหน้า ข้างหลัง และตามวิถีการเคลื่อนที่อีกด้วย คุณสมบัติเหล่านี้จึงช่วยให้ผู้ใช้งานมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการตัดต่อและการปรับสีคุณภาพสูงเพื่อให้คุณสามารถรังสรรค์วิดีโอได้สนุกยิ่งกว่าเดิม
Xiaomi 15 Ultra เปิดตัวมาพร้อมกับชุดอุปกรณ์กล้อง Xiaomi 15 Ultra Photography Kit Legend Edition สุดคลาสสิกที่มอบความพิเศษให้กับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ของกล้องสุดคลาสสิก โดยประกอบไปด้วยวงแหวนที่ตกแต่งด้วยสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ UI ที่ออกแบบเองภายใต้โหมด Fastshot ปุ่มชัตเตอร์และที่รองรับนิ้วหัวแม่มือแบบถอดได้ วงแหวนอะแดปเตอร์ฟิลเตอร์ขนาด 67 มม. แบบมัลติฟังก์ชัน และแบตเตอรี่ในตัวขนาด 2000mAh เพื่อการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น
Xiaomi 15: ความเป็นเลิศรอบด้านระดับเรือธงในขนาดกะทัดรัด
Xiaomi 15 ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายที่พกพาได้ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Black, White, Green และสีพิเศษ Liquid Silver ที่โดดเด่นด้วยเส้นโค้งระยิบระยับอันน่าดึงดูดที่ทำมาจากกระจกที่ถูกดัดด้วยความร้อน3 Xiaomi 15 มีดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกมั่นคงและทนทานและเสริมด้วยกรอบอะลูมิเนียมทรงโค้งมนที่เพิ่มความแข็งแกร่งได้มากขึ้นถึง 33%1 รวมทั้งอัตราส่วนของหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ 94%4 และมีขอบจอที่บางเฉียบเพียง 1.38 มม. เท่านั้น โดยการใช้เทคโนโลยี LIPO ใหม่ล่าสุด1 จึงช่วยให้ตัวเครื่องและกรอบมีความบางเป็นพิเศษ
Xiaomi 15 มีระบบกล้องสามตัวที่ใช้งานได้หลากหลายและมอบคุณภาพของภาพได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีระยะโฟกัสที่ขยายได้ตั้งแต่ 14 มม. ถึง 120 มม. ทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนและใช้งานได้หลากหลายในทุกช็อต กล้องหลักใช้เลนส์ออปติคอล Leica Summilux ซึ่งประกอบไปด้วยเลนส์แอสเฟอริคัล 7P ที่มีการส่งผ่านแสงสูง (7P aspherical high-transmittance) พร้อมการเคลือบป้องกันแสงสะท้อนและรูรับแสงขนาดใหญ่ ƒ/1.62 เพื่อการจับแสงที่เหนือกว่าและความคมชัดที่ยอดเยี่ยมในสภาพแสงต่างๆ ทั้งยังใช้เซ็นเซอร์ไดนามิกสูง Light Fusion 900 ที่มอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับมืออาชีพด้วยระยะโฟกัสหลักสามระยะ ได้แก่ 23 มม. 28 มม. และ 35 มม. ทั้งนี้สำหรับการถ่ายภาพเทเลโฟโต้ที่มีรายละเอียด Xiaomi 15 ก็ยังมีกล้องเทเลโฟโต้ลอยตัว Leica 60 มม. เซ็นเซอร์ความละเอียด 50MP ที่ให้คุณสามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดที่ซับซ้อนจากระยะไกลและถ่ายภาพมาโครที่สวยงามได้ในระยะที่ใกล้ถึง 10 ซม.ได้ นอกจากนี้กล้องอัลตราไวด์ Leica 14 มม. ความละเอียด 50MP และรูรับแสงขนาดใหญ่ ƒ/2.2 ก็ยังจะช่วยให้คุณปลดล็อกทุกความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ และช่วยให้คุณถ่ายภาพมุมกว้างสวยยิ่งกว่าเดิม
ทั้งนี้โหมด Fastshot นั้นถูกออกแบบมาเพื่อความเร็วและความแม่นยำจึงช่วยให้คุณถ่ายภาพสตรีทได้อย่างรวดเร็วด้วยความเร็วในการจับภาพที่ 0.6 วินาทีในทุกระยะโฟกัส1 สำหรับการถ่ายวิดีโอ Xiaomi 15 ก็มาพร้อมกับ Xiaomi Master Videography ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายวิดีโอได้ในคุณภาพระดับสตูดิโอ โดยกล้องหลักรองรับการบันทึกวิดีโอ 8K ที่ 30fps และวิดีโอ Dolby Vision® ที่ 4K 60fps ในทุกระยะโฟกัส รวมไปถึงไมโครโฟนที่มีมาให้ถึง 4 ตัวที่จะช่วยบันทึกเสียงที่สมจริงและครอบคลุมเพื่อให้ได้กลิ่นไอของภาพยนตร์อย่างแท้จริง
Xiaomi 15 ให้คุณรับชมอย่างเต็มอิ่มไปกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว (2670 x 1200) พร้อมความหนาแน่นของพิกเซล 460 ppi ให้ความสว่างสูงสุด 3200 nits ที่ครอบคลุม APL 25% (ระดับภาพเฉลี่ย) เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่ชัดเจนและสีสันสดใสแม้ในสภาพแสงจ้า ทั้งนี้ด้วยการใช้แผงหน้าจอ M9 ที่พัฒนาขึ้นโดยเสียวหมี่จึงทำให้หน้าจอสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 10%5 และทำให้ภาพมีสีสันที่สดใสมากยิ่งขึ้นจึงช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับเนื้อหาได้อย่างสบายตาพร้อมการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมอีกด้วย นอกจากนี้ Xiaomi 15 ยังป้องกันแสงสีฟ้าด้วยการรับรองจาก TÜV Rheinland for Low Blue Light (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน), การปราศจากการกระพริบ (Flicker Free) การเป็นมิตรทางชีวภาพตลอดทั้งวันกับผู้ใช้งาน (Circadian Friendly) โดยมีการหรี่แสง DC ในทุกระดับความสว่างเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้งานจะสามารถรับชมได้อย่างสบายตาแม้จะใช้งานเป็นเวลานาน
สัมผัสกับพลังอันเต็มเปี่ยมของฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูงรุ่นล่าสุด
Xiaomi 15 Series ช่วยเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนด้วยการผสานโปรเซสเซอร์อันล้ำสมัยเข้ากับเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงและการเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่อันก้าวหน้า
Xiaomi 15 และ Xiaomi 15 Ultra ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Snapdragon® 8 Elite ที่มอบประสิทธิภาพ CPU ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจถึง 45% และลดการใช้พลังงานลง 52%1 พร้อมด้วยประสิทธิภาพ GPU ที่เพิ่มขึ้นถึง 44% และลดการใช้พลังงานลง 46%1 เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
Xiaomi 15 Series มีระบบระบายความร้อน Xiaomi IceLoop ซึ่งช่วยให้ตัวอุปกรณ์สามารถทำงานที่ท้าทายได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็น การบันทึกวิดีโอ ระบบการประมวลภาพเทคโนโลยี Computational Photography การประมวลผล AI แบบเรียลไทม์ และการเล่นเกมที่เข้มข้น ด้วยระบบระบายความร้อนที่ใช้โครงสร้างแบบปีกที่ล้ำสมัยทำให้สัมผัสกับเฟรมได้ดียิ่งขึ้นจึงช่วยให้สามารถลดอุณหภูมิในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของแบตเตอรี่และการชาร์จ ทั้ง Xiaomi 15 และ Xiaomi 15 Ultra ใช้ระบบ Xiaomi Surge Battery Management เพื่อให้คุณใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันและยาวนานยิ่งขึ้นไปอีก6 Xiaomi 15 Ultra ใช้แบตเตอรี่ Xiaomi Surge 5410mAh (typ) ที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูงเป็นพิเศษด้วยระดับคาร์ไบด์ซิลิกอนคอนเทนต์ (SiC) ถึง 10% ที่ทำให้ได้ความจุที่มากขึ้นในขนาดและน้ำหนักเท่าเดิม และยังรองรับไฮเปอร์ชาร์จที่ 90W และไฮเปอร์ชาร์จแบบไร้สาย 80W6 ในขณะที่ Xiaomi 15 ใช้แบตเตอรี่ Xiaomi Surge 5240mAh (typ) ที่รองรับไฮเปอร์ชาร์จ 90W และไฮเปอร์ชาร์จแบบไร้สาย 50W6
Xiaomi 15 Series ใช้ระบบหน่วยความจำ LPDDR5X รุ่นล่าสุด โดย Xiaomi 15 ใช้เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูล UFS 4.0 ในขณะที่ Xiaomi 15 Ultra ใช้เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูล UFS 4.1 Xiaomi 15 Ultra มีให้เลือกสองความจุคือ 16GB + 512GB และ 16GB + 1TB7 และ Xiaomi 15 มีให้เลือกสองรุ่นความจุคือ 12GB + 256GB และ 12GB + 512GB7
เติมสีสันให้ชีวิตของคุณด้วย Xiaomi HyperOS 2 ที่ได้รับการอัปเกรด
Xiaomi 15 Series ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 รุ่นใหม่ล่าสุด โดยใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ Xiaomi HyperCore, Xiaomi HyperConnect13 และ Xiaomi HyperAI8 นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่ดียิ่งขึ้นในด้านฟังก์ชันการทำงาน ความลื่นไหลของระบบ การเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์ม ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการเข้าถึงการโต้ตอบของ AI อันล้ำสมัยและเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอื่นๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
Xiaomi HyperAI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้ด้วยชุดเครื่องมือ AI อันทรงพลัง ซึ่งรวมไปถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น AI Writing10 และ AI Speech Recognition10 พร้อมด้วยเครื่องมืออื่นๆ อีกหลายตัว นอกจากนี้ AI Creativity Assistant ยังจะช่วยปลดล็อกศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ให้ผู้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ด้วยเครื่องมือการถ่ายภาพและวิดีโอที่ทันสมัย11 ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ได้แก่ AI Image Enhancement12, AI Image Expansion12, AI Eraser Pro12, AI Reflection Removal, AI Magic Sky และ AI Film ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้ผลลัพธ์ระดับมืออาชีพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
จากความร่วมมือระหว่าง Google และเสียวหมี่ ณ ปัจจุบัน Google Gemini สามารถค้นหาและดำเนินการต่างๆ ได้ในแอปต่างๆ ของเสียวหมี่ได้19 โดยช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Xiaomi Notes, Xiaomi Calendar และ Xiaomi Clock ได้โดยตรงใน Gemini เป็นครั้งแรก

หัวใจหลักของระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 นั้นอยู่ที่เทคโนโลยี Xiaomi HyperCore ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเองโดยรับประกันถึงความลื่นไหลและประสิทธิภาพของระบบที่ดีที่สุด รวมไปถึงการอัปเกรดแอปพลิเคชันระดับระบบและอื่นๆ อีกมากมาย13 Xiaomi HyperCore มาในรูปลักษณ์ใหม่โดยมีการออกแบบล็อกสกรีนพร้อมเทมเพลตและสไตล์ใหม่ที่ได้รับการอัปเดต ซึ่งแสดงถึงองค์ประกอบแบบภาพยนตร์อย่างแท้จริง ด้วยเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหวแบบใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากระบบย่อยกราฟิกที่ได้รับการปรับปรุง การออกแบบหน้าจอหลักใหม่ทั้งหมดจึงช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและสวยงามมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม
Xiaomi HyperConnect ทลายทุกอุปสรรคระหว่างอุปกรณ์ แพลตฟอร์ม และระบบนิเวศน์ รวมไปถึงแท็บเล็ตและแพลตฟอร์ม iOS/macOS14 อีกด้วย ฟีเจอร์ใหม่ เช่น กล้องข้ามอุปกรณ์ ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงกล้องของอุปกรณ์อื่นได้ในขณะที่ยังคงความสามารถในการประมวลผลภาพอันยอดเยี่ยมบน Xiaomi 15 Series เอาไว้ได้ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถใช้กล้องแบบผสมเพื่อรวมและแสดงฟีดวิดีโอจากอุปกรณ์หลายเครื่อง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเมื่อถ่ายภาพเหตุการณ์สด การบรรยาย หรือวิดีโอการสอนได้
การวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
Xiaomi 15 Ultra รุ่นความจุ 16GB + 1TB สี Silver Chrome วางจำหน่ายในราคา 46,990 บาท ที่ Xiaomi Store และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee, TikTok Shop พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 4 – 14 มีนาคม 2568 รับฟรี Xiaomi 15 Ultra Photography Kit และบริการอื่นๆ มูลค่ารวม 32,824 บาท20
Xiaomi 15 Ultra รุ่นความจุ 16GB + 512GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Silver Chrome, Black และ White วางจำหน่ายในราคา 42,990 บาท ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee, TikTok Shop พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 4 – 14 มีนาคม 2568 รับฟรี Xiaomi 15 Ultra Photography Kit และบริการอื่นๆ มูลค่ารวม 32,824 บาท20
Xiaomi 15 รุ่นความจุ 12GB + 512GB มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Green, Black, White และสีพิเศษ Liquid Silver (ซึ่งสี Liquid Silver จะจำหน่ายจำนวนจำกัดเฉพาะบน mi.com เท่านั้น)20 วางจำหน่ายในราคา 29,990 บาท ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee, TikTok Shop พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 4 – 14 มีนาคม 2568 รับฟรี Xiaomi Watch S3 และบริการอื่นๆ มูลค่ารวม 27,724 บาท20
Xiaomi 15 รุ่นความจุ 12GB + 256GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Green, Black, White วางจำหน่ายในราคา 26,990 บาท ที่ Xiaomi Store และ mi.com เท่านั้น พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 4 – 14 มีนาคม 2568 รับฟรี Xiaomi Watch S3 และบริการอื่นๆ มูลค่ารวม 27,724 บาท20
Xiaomi Pad 7 Series: เต็มประสิทธิภาพการทำงาน ขับเคลื่อนด้วย AI บนหน้าจอเรือธง
Xiaomi Pad 7 Series ประกอบไปด้วย Xiaomi Pad 7 Pro และ Xiaomi Pad 7 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตที่กำหนดนิยามใหม่ของประสิทธิภาพการทำงานและความบันเทิงเพื่อการใช้งานของมืออาชีพและผู้ใช้ทั่วไป Xiaomi Pad 7 Series เป็นแท็บเล็ตเพื่อการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพให้กับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานและการทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างราบรื่น แท็บเล็ตทั้งสองรุ่นมีหน้าจอขนาด 11.2 นิ้ว ความละเอียด 3.2K ที่คมชัดพร้อมอัตราส่วนภาพที่ 3:2 HDR แบบปรับได้และปกป้องสายตาด้วยการรับรองจาก TÜV Rheinland ตัวหน้าจอรองรับอัตราการรีเฟรชสูงถึง 144Hz15 จึงให้คุณรับชมภาพได้แบบไร้รอยต่อทั้งในการทำงานและเพื่อความบันเทิง นอกจากนี้ความหนาแน่นของพิกเซลที่สูงถึง 345 ppi ยังทำให้หน้าจอแสดงข้อความที่คมชัดและภาพที่สดใสอีกด้วย ทั้งนี้การปรับเทียบสีระดับสตูดิโอและขอบเขตช่วงสีที่กว้างกว่า 68 พันล้านสีจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ถึงสีสันที่แม่นยำและสมจริง ตัวอุปกรณ์มีน้ำหนักเบาเพียง 500 กรัมและบาง 6.18 มม.เท่านั้น และยังมีลำโพงสี่ตัวพร้อม Dolby Atmos® ที่มอบเสียงอันดื่มด่ำ ในขณะที่ระบบปฎิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 นั้นยกระดับประสิทธิภาพการทำงานขึ้นไปอีกขั้นด้วย Xiaomi HyperAI และ Xiaomi HyperConnect8
Xiaomi HyperAI8 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยเครื่องมืออัจฉริยะ เช่น AI Writing10 สำหรับการเขียนข้อความ AI Speech Recognition10 และ AI Art ด้วย Mi Canvas10 นอกจากนี้ AI Calculator12 ยังมีความสามารถในการแก้ปัญหาที่ล้ำสมัยโดยใช้ AI เพื่อจัดการการคำนวณที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ Xiaomi HyperConnect ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 ที่ช่วยมอบประสบการณ์ใหม่และใช้งานง่ายจึงช่วยให้คุณเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ด้วย NFC Sharing คุณสามารถเข้าถึง Xiaomi Share ได้อย่างง่ายดายโดยคุณสามารถถ่ายโอนไฟล์และจับคู่กับอุปกรณ์ได้ทันทีเพียงแค่แตะอุปกรณ์เข้าด้วยกัน และ Home screen+ 2.0 ยังให้คุณเข้าถึงแอปสมาร์ทโฟนสูงสุดถึง 2 แอปได้โดยตรงจาก Xiaomi Pad 7 Series13 อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นการรวมกล้องยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการนำเสนอและการทำงานที่สร้างสรรค์โดยคุณสามารถให้กล้องของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของคุณเปิดใช้งานพร้อมกันได้ภายในแอป13 ฟังก์ชันนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำเสนอเนื้อหาวิดีโอแบบไดนามิกในหลากหลายมุมมอง นอกจากนี้ Xiaomi Pad 7 Series ยังมีโหมดเวิร์กสเตชัน ซึ่งจะเปลี่ยนแท็บเล็ตของคุณให้เป็นอินเทอร์เฟซแบบเดสก์ท็อป สามารถเปิดหน้าวินโดว์ลอย (floating windows) ปรับขนาดของแอปและทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ ด้วยฟีเจอร์อันน่าทึ่งเหล่านี้จึงทำให้ Xiaomi Pad 7 Series นั้นเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบ
Xiaomi Pad 7 Pro ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้เหนือกว่าด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® 8s Gen 3 ที่ให้คุณสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันด้วยความราบรื่น มาพร้อมกล้องหน้า AON ความละเอียด 32MP และกล้องหลังความละเอียด 50MP จึงทำให้ถ่ายภาพและวิดีโอได้ในระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังมี Wi-Fi 7 อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Xiaomi Pad 7 Pro อีกด้วยจึงทำให้เชื่อมต่อได้รวดเร็วทันใจ9 และเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้านข้างยังเพิ่มความปลอดภัย รวมไปถึงแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8850mAh ที่รองรับไฮเปอร์ 67W16 ซึ่งชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 79 นาที1 เท่านั้น ทั้งนี้การออกแบบแบบยูนิบอดี้อะลูมิเนียมที่เพรียวบางที่ผสานความทนทานเข้ากับความประณีตจึงทำให้ Xiaomi Pad 7 Pro นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับมืออาชีพ ในขณะที่ Xiaomi Pad 7 มีการออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างการทำงานและการผ่อนคลาย ให้กล้องหลังความละเอียด 13MP สำหรับการภาพถ่ายคุณภาพสูงและกล้องหน้าความละเอียด 8MP สำหรับวิดีโอคอลและการเซลฟี่ที่คมชัด ตัวอุปกรณ์ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® 7+ Gen 3 ที่มอบประสิทธิภาพอันน่าทึ่งสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันและความบันเทิง Xiaomi Pad 7 ใช้ Wi-Fi 6E9 เพื่อการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพและชาร์จเทอร์โบ 45W16 ซึ่งรับประกันการชาร์จเต็มภายในเวลาเพียง 103 นาที1 เท่านั้น
Xiaomi Pad 7 Pro และ Xiaomi Pad 7 มีอุปกรณ์เสริมที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานทั้งมืออาชีพและผู้ใช้ทั่วไปยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ขึ้นไปอีกขั้น17 ซึ่งประกอบไปด้วยคีย์บอร์ด Xiaomi Pad 7 / 7 Pro Keyboard และปากกา Xiaomi Focus Pen18 ซึ่งปากกาให้ความหน่วงต่ำระดับ MS และระดับแรงกดที่ 8192 จึงเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการจดบันทึก การร่างภาพ และงานที่ต้องแม่นยำ และยังมาในตัวเลือกสีใหม่ในสีขาวอีกด้วย นอกจากนี้ตัวเคส Xiaomi Pad 7 / 7 Pro Cover ยังให้การป้องกันที่ทนทานอย่างมีสไตล์ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์จะปลอดภัยและไร้รอยขีดข่วนในระหว่างการใช้งาน
การวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
Xiaomi Pad 7 Pro รุ่นความจุ 12GB + 512GB มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Gray และ Blue วางจำหน่ายในราคา 18,990 บาทและรุ่น Matte Glass วางจำหน่ายในราคา 20,990 บาท ที่ Xiaomi Store และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee, TikTok Shop พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 4 – 14 มีนาคม 2568 เลือกรับฟรี Xiaomi Pad 7 / 7 Pro Keyboard หรือ Xiaomi Focus Pen มูลค่า 2,999 บาท20
Xiaomi Pad 7 Pro รุ่นความจุ 8GB + 256GB มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Gray และ Blue วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee, TikTok Shop พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 4 – 14 มีนาคม 2568 เลือกรับฟรี Xiaomi Pad 7 / 7 Pro Keyboard หรือ Xiaomi Focus Pen มูลค่า 2,999 บาท20
Xiaomi Pad 7 รุ่นความจุ 8GB + 256GB มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Gray และ Blue วางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee, TikTok Shop พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 4 – 14 มีนาคม 2568 เลือกรับฟรี Xiaomi Pad 7 / 7 Pro Keyboard หรือ Xiaomi Focus Pen มูลค่า 2,999 บาท20
Xiaomi Pad 7 รุ่นความจุ 8GB + 128GB มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Gray และ Blue วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท ที่ช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee, TikTok Shop เท่านั้น พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อสินค้าบนช่องทาง mi.com ตั้งแต่วันนี้ – 14 มีนาคม 2568 สามารถซื้อสินค้าในราคาพิเศษเพียง 10,490 บาทพร้อมรับฟรี Xiaomi Pad 7 / 7 Pro Cover มูลค่า 999 บาท20
Xiaomi Buds 5 Pro
หูฟัง Xiaomi Buds 5 Pro ได้นิยามเสียงไร้สายแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยี Snapdragon Sound™ Technology Suite และเทคโนโลยี Qualcomm® aptX™ Lossless21 โดยมอบเสียง 48kHz/24bit ที่แบนด์วิดท์การส่งข้อมูลที่สูงถึง 2.1Mbps22 มีระบบไดรเวอร์สามตัวแบบโคแอกเซียลขยายเสียงคู่ (dual-amplifier coaxial triple-driver system) เพื่อช่วยให้ได้เสียงเบสที่หนักแน่น เสียงกลางที่สมดุล และเวทีเสียงที่กว้าง พร้อมการปรับจูนหลักด้วย Harman Golden Ear Team ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การฟังด้วยโปรไฟล์ EQ ที่สร้างขึ้นในระดับมืออาชีพสองโปรไฟล์ หูฟัง Xiaomi Buds 5 Pro มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟไฮบริด (ANC) ที่สูงถึง 55dB23 ที่สามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันได้ ตัวอุปกรณ์ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์สองเครื่อง เสียงที่มีมิติส่วนบุคคล24 และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นเพื่อให้คุณรับฟังได้อย่างไม่มีสะดุด ทั้งนี้เมื่อใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ของเคสแล้ว คุณจะสามารถใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมง25 และเล่นเพลงได้ยาวนานถึง 4.5 ชั่วโมงด้วยการชาร์จด่วนเพียง 10 นาทีเท่านั้น
การบันทึกเสียงในตัวช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกเสียงสนทนาที่สำคัญได้โดยกดปุ่มเคสสามครั้ง26 ตัวเคสจะทำหน้าที่เป็นตัวสั่งบันทึกเสียงและช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเริ่มบันทึกเสียงได้จึงเหมาะสำหรับการประชุมหรือบันทึกข้อความสั้นๆ นอกจากนี้ Xiaomi Buds 5 Pro ยังรองรับการแปลและการถอดเสียงด้วย AI27 ที่ช่วยให้คุณใช้งานหลายภาษาได้อย่างราบรื่นด้วยท่าทางที่ง่ายและรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นการกดปุ่มควบคุมยังให้คุณใช้ท่าการบีบเพื่อเล่นเพลง การจัดการการโทร การปรับ ANC การเปิดใช้งานผู้ช่วยเสียง และการบันทึกเสียงในขณะที่ท่าทางการปัดจะช่วยควบคุมการปรับระดับเสียงได้สะดวกมากยิ่ง28
หูฟัง Xiaomi Buds 5 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ceramic White และ Titan Gray วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 5,990 บาท20 (จากราคาปกติ 6,990 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
Xiaomi Buds 5 Pro (Wi-Fi)
เสียวหมี่เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่อีกรุ่นคือ Xiaomi Buds 5 Pro (Wi-Fi) ซึ่งเป็นหูฟังรุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi โดยตรงกับสมาร์ทโฟน ที่จะมอบประสบการณ์เสียงแบบไร้การสูญเสียชั้นนำของอุตสาหกรรม (industry-leading lossless audio) ตัวอุปกรณ์ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Snapdragon Sound™ Technology Suite และเทคโนโลยี Qualcomm® XPAN21 ที่รองรับการส่งข้อมูลเสียงแบบไร้การสูญเสีย 96kHz/24bit ที่แบนด์วิดท์สูงสุด 4.2Mbps เพื่อประสบการณ์เสียงที่ไม่มีใครเทียบได้และมีความเที่ยงตรงสูง29 Xiaomi Buds 5 Pro (Wi-Fi) พัฒนาบนระบบไดรเวอร์สามตัวขั้นสูงโดยการปรับแต่งในทุกรายละเอียดโดยมอบเสียงเบสที่หนักแน่น เสียงสูงที่คมชัด และเวทีเสียงที่กว้าง รวมไปถึงยังมีโปรไฟล์ EQ เฉพาะทางที่มอบประสบการณ์เสียงที่ประณีตและดื่มด่ำมากยิ่งขึ้น
Xiaomi Buds 5 Pro (Wi-Fi) นั้นมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุดถึง 40 ชั่วโมง (พร้อมเคส) และสามารถเล่นเพลงได้นานถึง 4 ชั่วโมงจากการชาร์จเพียง 10 นาที25 เท่านั้น Xiaomi Buds 5 Pro (Wi-Fi) มาในสี Translucent Black ที่เปล่งประกายความงามแบบล้ำสมัยโดยมีผิวเคลือบคุณภาพสูงที่ผสมผสานพื้นผิวมันวาวที่ดูเรียบลื่นเข้ากับเนื้อสัมผัสแบบด้านที่ละเอียดอ่อนจึงให้ความรู้สึกที่พรีเมียมที่ช่วยส่งเสริมความสามารถขั้นสูงของหูฟังอีกด้วย
หูฟัง Xiaomi Buds 5 Pro (WiFi) สี Translucent Black วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 6,490 บาท20 (จากราคาปกติ 7,490 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 ที่ Xiaomi Store สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วานและสาขาสยามพารากอน รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
Xiaomi Watch S4
นาฬิกา Xiaomi Watch S4 มอบประสบการณ์การรับชมระดับพรีเมียมด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ที่มีความละเอียด 466 x 466 ความหนาแน่นของพิกเซล 326 ppi และอัตราการรีเฟรชที่ 60Hz30 ด้วยความสว่างของหน้าจอ HBM 1,500 nits จึงทำให้หน้าจอยังคงความคมชัดสดใสแม้จะอยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า ตัวอุปกรณ์มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 15 วันที่ช่วยให้คุณใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นและการชาร์จเพียง 5 นาทีก็ทำให้คุณสามารถใช้งานได้นานถึง 2 วัน31 นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S4 ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้ในหลากหลายรูปแบบโดยที่คุณสามารถเปลี่ยนขอบและสายรัดได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างสไตล์ต่างๆ ได้แบบไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ตัวหน้าปัดยังมีฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์อย่างเช่น Clearheaded จะติดตามระดับความเครียดโดยอัตโนมัติด้วยตัวบ่งชี้ที่อีโมจิที่สื่ออารมณ์ และ Wild Walker ที่จะบอกทิศทางและระดับความสูงแบบเรียลไทม์
นาฬิกา Xiaomi Watch S4 ติดตามการออกกำลังและสุขภาพด้วยอัลกอริทึมที่พัฒนาขึ้นเองที่ได้รับการอัปเกรดแล้ว จึงสามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด ระดับความเครียด และรูปแบบการนอนหลับได้ตลอดทั้งวัน โดยมีความแม่นยำในการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงถึง 98%32 จึงสามารถวิเคราะห์สุขภาพได้ในหลากหลายมิติที่เชื่อถือได้ ยิ่งไปกว่านั้น Xiaomi Watch S4 ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว33 โดยสามารถสร้างรายงานสุขภาพโดยละเอียดโดยใช้เวลาประมาณ 60 วินาที และยังรวมไปถึงหลักสูตรการฝึกหายใจ ตัวอุปกรณ์มีเทคโนโลยี GNSS L1+L5 ขั้นสูงที่ช่วยให้ติดตามตำแหน่งและตรวจสอบความเร็วได้อย่างแม่นยำสำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้ง พร้อมกับโหมดกีฬามากกว่า 150 โหมดอีกด้วย
Xiaomi Watch S4 ให้การเชื่อต่อเป็นไปได้อย่างราบรื่นกับ Xiaomi Smart Hub34 ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หูฟัง และอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่นๆ ของเสียวหมี่ได้อย่างง่ายดายเพื่อการจัดการอุปกรณ์ที่ดีขึ้น34 การเชื่อมต่อขั้นสูงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตได้อย่างง่ายดายผ่านฟังก์ชันการโทร ถ่ายภาพจากระยะไกล และจัดการการตั้งค่าหูฟัง เช่น การปรับระดับเสียง การสลับโหมดลดเสียงรบกวน และการตรวจสอบระดับแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมท่าทางที่เร็วและง่ายดาย เช่น การดีดนิ้วเพื่อปฏิเสธสายหรือยกเลิกการแจ้งเตือนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ทำให้เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจของไลฟ์สไตล์อันอัจฉริยะของคุณได้อย่างแท้จริง
นาฬิกา Xiaomi Watch S4 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Silver, Black และ Rainbow โดยสี Silver และ Black วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 4,990 บาท20 (จากราคาปกติ 5,490 บาท) และสี Rainbow วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 5,490 บาท20 (จากราคาปกติ 5,990 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
ทั้งนี้เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังประกาศวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ AIoT อื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่
สายรัดข้อมืออัจฉริยะ Xiaomi Smart Band 9 Pro สี White วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 2,690 บาท20 (จากราคาปกติ 3,490 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 เฉพาะที่ช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์มเท่านั้น
พาวเวอร์แบงค์ Xiaomi 212W HyperCharge Power Bank 24500 วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 3,390 บาท20 (จากราคาปกติ 4,290 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Smart Pet Care Air Purifier วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 3,490 บาท20 (จากราคาปกติ 4,490 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 ที่ Xiaomi Store สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วานและสาขาสยามพารากอน รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
เครื่องปรับอากาศ Mijia Air Conditioner Pro Eco EGAT Label No.5 with 3 Stars 12000BTU Inverter และ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Xiaomi Electric Scooter Elite จะวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้