ในที่สุด Xiaomi ก็ได้ทำการเปิดตัว Xiaomi 12 แบบ Global เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในครั้งนี้มาพร้อมกันถึง 2 รุ่นคือ Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro ซึ่งก็จัดเต็มทั้งสเปคและฟีเจอร์มาให้แบบอลังการเลย สำหรับราคาก็เรียกได้ว่าน่าสนใจมากเพราะราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 24,990 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสั่งจองที่น่าสนใจสุดๆ อีกด้วย สำหรับรายละเอียดของการเปิดตัวเราไปดูกันดีกว่า
เปิดตัว Xiaomi 12 / 12 Pro พร้อมโปรโมชั่นสั่งจองล่วงหน้า
Xiaomi 12
Xiaomi 12 เปิดตัวมาพร้อมหน้าจอพาแนล AMOLED ขนาด 6.28 นิ้ว ที่ความละเอียดระดับ Full-HD+ มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz แบบ AdaptiveSync รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ และใช้กระจก Gorilla G;ass Victus อีกด้วย แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือหน้าจอที่สามารถแสดงผลสีได้ถึง 68 พันล้านสี และมีความสว่างสูงสุดถึง 1100 nits ซึ่งช่วยให้สามารถใข้งานสูงแดดในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพนั้นมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 50 MP, f/1.88 ที่เป็นเซ็นเซอร์ Sony IMX766 และมีกันสั่นแบบ OIS ให้ด้วย ส่วนกล้องตัวที่ 2 คือกล้อง Ultrawide ความละเอียด 13 MP, f/2.4 ที่มีมุมมองกว้างถึง 123 องศา และตัวสุดท้ายคือกล้อง Telemarco ความละเอียด 5 MP, f/2.4 ที่มีระบบ AF ในตัว สามารถถ่ายมาโครได้ในระยะ 3 – 7 ซม. ซึ่งในครั้งนี้ทาง Xiaomi ได้พัฒนาระบบโฟกัสให้เทพยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวรวดเร็วแค่ไหนก็สามารถจับได้ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความละเอียดกล้องหน้าเป็น 32 MP อีกด้วย เรียกได้ว่าจัดเต็มในเรื่องกล้องสุดๆ
สำหรับในเร่องประสิทฑิภาพนั้นก็หายห่วงได้ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 ที่เป็นชิปตัวแรงของ Qualcomm มาพร้อมแรมให้เลือก 2 ขนาดคือ 8GB และ 12GB แบบ LPDDR5 และมีความจุมากถึง 256GB แบบ UFS 3.1 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh และมีระบบชาร์จเร็วขนาด 67W, ระบบชาร์จเร็วแบบไร้สายขนาด 50W กับระบบชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับขนาด 10W มาให้ด้วย เรียกได้ว่ามาครบจบในเครื่องเดียวจริงๆ
Xiaomi 12 Pro
Xiaomi 12 Pro มือถือระดับโปรที่มาพร้อมหน้าจอแบบ E5 AMOLED แบบ LTPO ขนาด 6.73 นิ้ว ซึ่งสามารถปรับอัตรารีเฟรชได้ตั้งแต่ 1 – 120Hz เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น มีความละเอียดระดับ WQHD+ แต่ที่น่าสนใจคือความสว่างที่มากถึง 1500 nits ช่วยให้สามารถใช้งานกลางแดดปรพเทศไทยได้สบายๆ
ในส่วนของกล้องนั้นจะมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวเป็นกล้องความละเอียด 50 MP เหมือนกันทั้งหมด โดยกล้องหลักนั้นใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX707 ส่วนกล้อง Ultrawide มีมุมกว้าง 115 องศา และกล้อง Telephoto ที่มีระยะซูมเทียบเท่าเลนส์ 48 มม. แถมยังรองรับฟีเจอร์ Xiaomi ProFocus เหมือน Xioami 12 อีกด้วย แถมกล้องทั้ง 3 ตัวยังสามารถถ่ายโหมดกลางคืนนรับ 4K 60fps ทุกตัวอีกด้วย
สำหรับชิปประมวลผลนั้นเป็น Snapdragon 8 Gen 1 เหมือนๆ กัน และมาพร้อมแรมขนาด 12GB และความจุ 256GB แต่ที่ทำให้รุ่น Pro เหนือกว่าก็คือแบตเตอรี่ขนาด 4,600 mAh ที่มาพร้อมระบบชาร์จเร็ว Xiaomi HyperCharge ขนาด 120W ที่สามารถชาร์จ 100% ได้เร็วสูงสุดเพียงแค่ 18 นาทีเท่านั้น แถมภายในยังมีชิป Surge S1 มาให้ 2 ตัว ซึ่งทาง Xiaomi เคลมเอาไว้ว่าจะช่วยจัดการพลังงานให้ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งควบคุมอุณภูมิและประสิทธิภาพในการชาร์จให้ดียิ่งขึ้น
ราคาและโปรโมชั่น
สำหรับราคาขายของ Xiaomi 12 นั้นจะมีราคาอยู่ที่ 24,990 บาทสำหรับรุ่น 8GB + 256GB ซึ่งจะสามารถหาซื้อได้ทุกช่องทางจำหน่าย ส่วนรุ่น 12GB + 256GB จะเป็นรุ่นพิเศษที่ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้นและจะจำหน่ายในราคา 26,990 บาท ส่วน Xiaomi 12 Pro จะมีแค่รุ่น 12GB + 256GB ในราคา 31,990 บาท สามารถหาซื้อได้ทุกช่องทางจำหน่าย
สำหรับการสั่งจองล่วงหน้านั้นจะเปิดให้จองในวันที่ 16 – 27 มีนาคม 2565 และจะวางจำหน่ายจริงตั้งแต่วันที่ 2 เมษษยน 2565 เป้นต้นไป ซึ่งผู้ที่ทำการสั่งจอง Xiaomi 12 หรือ Xiaomi 12 Pro ล่วงหน้าภายในเวลาที่กำหนดจะได้รับ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 4,990 แถมเพิ่มไปด้วยฟรีๆ
และสำหรับคนที่สั่งจองล่วงหน้าผ่านเครือข่ายจะสามารถซื้อ Xiaomi 12 ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 12,990 บาท ส่วน Xiaomi 12 Pro นั้นจะสามารถซือ้ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 17,990 บาทเท่านั้น
แต่ถ้าไม่อยากได้ Xiaomi Watch S1 Active ก็สามารถเปลี่ยนเป็นอัพเกรดเป็น Xiaomi 12 จากรุ่น 8GB เป็นรุ่น 12GB ได้ฟรีๆ เช่นกัน เพียงแต่ถ้าอยากอัพเกรดแรมก็จำเป็นต้องซื้อเครื่องผ่าน Lazada, Shopee หรือ JD Central เท่านั้นนะ
และนอกจากนี้ยังมีโปรลุ้นรับ Mi TV P1 55 นิ้ว มูลค่า 15,990 บาท เป็นต่อที่ 2 ด้วย โดยจะต้องทำการสั่งจองผ่านระบบออนไลน์ในวันที่ 16, 19 มีนาคม และ 2 เมษายน ซึ่งคนที่ได้ลำดับไม่เกินที่กำหนดก็จะได้รับ Mi TV P1 ไปเลย ส่วนคนที่สั่งจองในวันที่ 2 เมษายนซึ่งได้อันดับตั้งแต่ 101 – 300 จะได้รับ Xiaomi Buds 3 มูลค่า 2,999 บาทไปฟรีๆ แทน