นาทีนี้ใครไม่พูดถึงแอปฯ ดังอย่าง Clubhouse (คลับเฮ้าส์) ก็คงจะไม่ได้ เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเกิดคำถามขึ้นมาเหมือนกัน ว่าเจ้าตัวแอปฯ Clubhouse คืออะไร? แล้วถ้าอยากจะลองเล่นบ้างจะต้องสมัครยังไง หรือทำยังไงถึงจะได้ invited เข้าไปในแอปฯ กับเขาบ้าง ถึงแม้ว่าการเข้าถึงตัวแอปฯ จะค่อนข้างยากพอสมควร เพราะถ้าไม่มีเพื่อน หรือมีคนรู้จักที่มี invited เหลืออยู่พอจะให้เราเข้าไปได้ ก็แทบจะไม่มีทางเข้าไปร่วมวงสนทนา หรือเข้าไปฟังอะไรกับใครได้เลย เดี๋ยววันนี้เราจะมาทำความรู้จักกัน ว่าแอปฯ คลับเฮ้าส์ มีดียังไง และทำไมถึงได้ดังถึงขนาดนี้
ก่อนอื่นเหนือสิ่งอื่นใดเลยก็คือ แอปฯ นี้มีให้บริการแค่เพียงระบบ iOS เท่านั้น ตอนนี้ยังไม่ได้พัฒนาให้ใช้ได้กับ Android นะ ถ้าหาแล้วเจอก็คือไม่ใช่แอปฯ ที่เขาใช้งานกันอยู่ (เผื่อใครเผลอเข้าไปโหลดมา) และก็อย่างที่บอกไปว่าถึงแม้จะเป็นเครื่อง iOS ก็ตาม แต่ถ้าโหลดมาอย่างเดียว ไม่มีใครชวน (invited) เข้าไป ก็จะไม่สามารถเข้าไปทำอะไรได้เลยเช่นกัน ดังนั้นก่อนจะโหลดมาเล่น ก็ควรจะต้องมีเพื่อน หรือคนที่มี invited ชวนก่อนอยู่แล้ว ถึงจะโหลดมาเล่นได้ (ตอนนี้ต่างประเทศขายกันอยู่ที่ 10-15$ หรือประมาณ 300-500 บาท) หรือถ้าใครอยากหาแบบฟรีๆ ก็ยากหน่อย เพราะแต่ละคนที่เข้าไปก็จะสามารถเพิ่มคนอื่น หรือ invited ได้เพียงคนอื่นได้เพียง 2 คนเท่านั้น ถ้าไม่ใช่คนรู้จักก็ไม่แปลกหรอกที่เค้าจะไม่ชวนให้ หรืออีกหนึ่งวิธีก็คือถ้าเรามีเบอร์ของคนที่เล่นแอปฯ คลับเฮ้าส์อยู่แล้ว เราก็จะสามารถกดขอ และรอให้เพื่อนกดรับได้ด้วย ส่วนรายละเอียดของแอปฯ จะมีอะไรบ้าง วันนี้ทาง Specphone จะมาบอกให้รู้กันว่าแอปฯ คลับเฮาส์ คืออะไร และมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
โหลดแอปฯ Clubhouse : Drop-in audio chat เฉพาะ iOS เท่านั้น
Clubhouse คืออะไร?
มาทำความรู้จักกันแบบคร่าวๆ กันก่อน เพราะความจริงรายละเอียดของตัวแอปฯ ก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก โดยแอปฯ คลับเฮาส์ คือแพลทฟอร์มของ Social Media ประเภทหนึ่ง ที่ให้เราเป็นผู้พูดหรือเป็นผู้ฟัง ผ่านตัวแอปฯ ซึ่งจะไม่มีการพิมพ์ ไม่มีการส่งรูป จะมีเพียงอย่างเดียวก็คือเสียงพูดที่เป็นรายการสด ไม่มีการบันทึกใดๆ เมื่อพูดจบแล้วห้องจะถูกปิดทันที และไม่สามารถกลับไปฟังซ้ำได้อีกเลย ถ้าให้พูดง่ายๆ เลยก็เหมือนกับเป็นการเข้าไปฟังสัมมนาย่อยๆ ของคนหนึ่งหรือหลายคนที่มาพูดคุย หรือเล่าเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ฟัง เมื่อพูดจบแล้วก็คือจบเลย ไม่มีการบันทึก และไม่สามารถฟังซ้ำได้อีก หรือจะบอกว่าคล้ายๆ Podcast ที่สามารถตอบโต้และคุยกันได้ด้วยก็ได้ แต่ไม่ใช่ใครนึกจะพูดก็พูดได้นะ ก็ต้องขอผู้ดูแลห้องก่อนเสมอ ซึ่งคนที่พูดนั้นจะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะคนดัง คนธรรมดา หรือนักธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สรุปง่ายๆ อีกทีก็คือเหมือนเป็นห้องสัมมนาเล็กๆ ที่ให้เราเป็นผู้พูด หรือผู้ฟังได้อย่างเดียวนั่นแหละ
จะขอเข้า Clubhouse invited ได้อย่างไร?
การขอเข้า Clubhouse invited อย่างที่บอกในตอนแรกก็คือ ถ้าหากไม่มี invited ก็เหมือนโหลดมาอย่างว่างเปล่า ไม่มีอะไรให้ทำเลยนอกจากการลงทะเบียนจอง Username เอาไว้ เพื่อรอให้คนที่มีแอปฯ นี้ และใช้งานอยู่แล้ว ได้ทำการเชิญชวนเราเข้าไปให้ใช้งาน ซึ่งการขอเข้าไปเล่นแอพนี้ ก็ไม่ได้จำกัดแค่เพียงวิธีเดียว พูดง่ายๆ ก็คือไม่จำเป็นต้องไปซื้อ หรือคอยหา invited จากคนอื่นวิธีเดียว แต่ยังมีวิธีอื่นในการขอเข้าไปเล่นอยู่ด้วย มีวิธีทำดังนี้
1. วิธีแรกที่จะเข้าไปเล่นได้ ก็คือต้องได้ Clubhouse invited จากเพื่อน หรือจากคนอื่นๆ เท่านั้น ซึ่งผู้ที่ได้รับการชวนให้เข้าไปเล่นในแอปฯ นี้แล้ว ก็จะได้การชวนหรือ invited เพียง User ละ 2 คน หรือเรียกว่า 2 สิทธิ์ในการเชิญคนอื่นมาเล่นแอพนี้ก็ได้ ถ้าใช้หมดแล้วก็หมดเลย แต่มันสามารถเพิ่มได้อีก ถ้าเรามีการใช้งานและมีปฏิสัมพันธ์ในแอพมากขึ้น ส่วนการส่ง invited ของเพื่อน ถ้าเรายังไม่ได้กดสมัคร สามารถขอให้เพื่อนเชิญโดยใช้เบอร์ และจะมีการส่ง SMS มาให้พร้อมกับลิงก์ที่ให้โหลด หรือเข้าไปในแอพแล้ว login ด้วยเบอร์ที่เพื่อนเชิญมา ก็จะเข้าไปเล่นได้แล้ว
2. อีกวิธีนึงก็คือ ถ้าหากเราได้โหลดแอปฯ มาแล้ว และได้เข้าไปลงชื่อเพื่อขอ Username ไว้บนแอปฯ เรียบร้อย และถ้าหากมีเพื่อนที่ใช้งานแอปฯ นี้อยู่ (ต้องอยู่ในรายชื่อในมือถือด้วย) ระบบก็จะขึ้นเตือนเพื่อนของเราบนแอปฯ ว่ามีเพื่อนที่มาสมัครใช้งานอยู่ ซึ่งตรงนี้เพื่อนเราสามารถกดให้เราเข้าไปได้เลยเช่นกัน ด้วยการให้เพื่อนกด Let them in! เราก็จะเล่นได้เลย (ต้องเมมเบอร์เอาไว้ในเครื่องทั้ง 2 คนนะ) และเป็นคนละส่วนกับการเข้าด้วย invited ด้วย เพื่อนจึงจะไม่เสียสิทธ์ invite ที่มีอยู่ จึงไม่ต้องไปหา invited หรือไปซื้อต่อ (ช่วงนี้กำลังขายกันแพงมาก) เพียงมีเพื่อนที่เล่นอยู่ ก็จะสามารถขอเข้าไปได้ด้วยเหมือนกัน และเมื่อเราเข้าไปได้แล้ว เราจะใช้วิธีนี้ในการกดให้เพื่อนที่อยู่ใน Contact List และสมัครการใช้งานเข้ามาเพิ่มได้ด้วยเช่นกัน ก็ถือว่าไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่ถ้าไม่มีเพื่อนที่เล่นอยู่หรือใช้ Android ก็หมดสิทธิเลยในตอนนี้ แนะนำให้รอการพัฒนาอีกหน่อย
ฟีเจอร์ของ Clubhouse มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
ฟีเจอร์หลักๆ ของแอปฯ คลับเฮาส์ จะมีอยู่ 2 แบบก็คือ การเป็นผู้สร้างห้องและพูดด้วยตัวเอง ซึ่งตรงนี้เราจะเป็นคนคุมทุกอย่าง ตั้งแต่การเปิดให้คนอื่นเข้าร่วม เปลี่ยนจากคนฟังให้มาเป็นผู้สนทนาในห้องได้ หรือจะให้ฟังอย่างเดียว ไม่ปล่อยให้ใครพูดเลย ก็สามารถทำได้เช่นกัน พูดง่ายๆ ก็คือเหมือนเป็นหัวหน้าห้องสัมมนา ที่เป็นผู้พูด (เรื่องอะไรก็ได้) และมีผู้ฟัง ซึ่งการจะอนุญาตให้ผู้ฟังตอบโต้กับเราได้ ก็ต้องผ่านการอนุญาตจากเราทั้งหมด
กับอีกแบบนึงก็คือการเป็นผู้ฟัง ซึ่งอันนี้ถ้าเราไม่ได้เป็นคนที่ชอบพูด หรือเป็นคนที่คิดว่าชอบฟังอยู่แล้ว ก็จะเหมาะมากๆ การเป็นผู้ฟังของเรานี้ก็คือ เราจะเข้าไปที่ห้องไหนก็ได้ที่เราติดตามคนๆ นั้นอยู่ และเค้ากำลังพูด (หรือตั้งเวลานัดหมายว่าจะพูดอะไรตอนไหน) เราจะไม่สามารถพูดโต้ตอบอะไรได้เลย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราอยากจะพูดโต้ตอบ ก็เพียงกดปุ่มยกมือ เพื่อขอให้เจ้าของห้อง หรือผู้พูดได้รู้ว่าเราอยากจะสนทนาด้วย ถ้าเจ้าของห้องกดรับเราก็จะพูดได้ แต่ถ้าไม่ได้กดอนุญาตให้พูด ก็ต้องฟังต่อไป แต่ถ้าหากว่าฟังต่อไปนานๆ แล้วไม่อยากฟังต่อ ก็เพียงแค่กดปุ่มมุมซ้ายล่าง Leave quietly เพื่อออกจากห้องไปเลยทันที
มาพูดถึงเรื่องการสร้างห้องกันบ้าง ในโปรไฟล์ของเรานั้นจะมีชื่อ Username และรายละเอียดต่างๆ ของเราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการที่มีผู้ติดตาม หรือเราไปติดตามคนอื่น ซึ่งการที่มีผู้ติดตามอยู่ ก็หมายความว่าเมื่อเราสร้างห้อง คนที่ติดตามอยู่ก็จะมี Notification เตือนขึ้นมาว่า เรากำลังจะพูดเรื่องอะไรบางเรื่อง และถ้าคนที่กดติดตามเกิดสนใจอยากฟัง เค้าก็จะเข้ามาฟังได้ แต่การสร้างห้องของเราก็จะแบ่งกันได้อีก 3 แบบก็คือ Open ที่ให้ใครเข้ามาก็ได้ในห้องที่เราสร้าง Social คือเข้ามาได้เฉพาะคนที่ติดตามเท่านั้น และสุดท้ายคือ Closed ที่ต้องถูกเชิญเข้ามาในห้องที่เราสร้าง ถึงจะเข้ามาฟังได้ และเมื่อใดที่เราพูดจนเมื่อยปากแล้ว หรือหมดเรื่องที่จะพูด ก็เพียงแค่กด End room ห้องก็จะถูกปิดลง และไม่มีการบันทึกอะไรไว้เลย นอกจากนี้การเปิดห้อง ก็สามารถเปิดแบบ Club ที่จะแบ่งเป็นหมวดตามความสนใจได้ด้วยเช่นกัน
ทำไมคนถึงให้ความสนใจแอปฯ Clubhouse กันเยอะช่วงนี้
อย่างแรกที่ต้องบอกว่าทำไมคนถึงให้ความสนใจมากในช่วงนี้เลย ก็คือการที่เจ้าของแบรนด์ Tesla ชื่อดังอย่าง Elon Musk ที่ได้ Twitter เกี่ยวกับการพูดคุยผ่านแอปฯ นี้ กับนักพัฒนาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Vlad Tenev ผู้ก่อตั้ง Robinhood และคนดังอื่นๆ อีก (ล่าสุดเพิ่งทวิตชวน President of Russia มาเข้าร่วมคลับ) หลังจากนั้นแอปฯ นี้ก็เป็นที่พูดถึงกันในวงกว้าง และมีผู้ให้ความสนใจกันเยอะมากขึ้นด้วย รวมไปถึงฝั่งไทยเรา ที่มีนักพูด ทั้งดาราและคนดัง ร่วมไปถึงคนในวงการ Social Media อีกมากมายมาร่วมพูด และสร้างห้องของตัวเองมากขึ้นด้วย จึงทำให้แอปฯ นี้เป็นที่น่าสนใจขึ้นมา
ส่วนอีกหนึ่งเรื่องก็คงจะเป็นความใกล้ชิดกับคนพูด อย่างเช่นถ้าเราได้ไปสัมมนา เพื่อฟังคนดัง นักธุรกิจ หรืองานสัมมนาที่เราอยากฟัง และการจะได้ฟังแบบสดๆ นั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และอีกอย่างคือความใกล้ชิดกับผู้พูด ที่เราจะได้ฟังแบบ Exclusive มากขึ้น จึงทำให้ใครหลายคน ที่เป็นผู้ชอบฟังเกิดความสนใจขึ้นมา รวมไปถึงคนที่ต้องการแชร์ หรือพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากพูด แอปฯ นี้ก็ช่วยเปิดโอกาสให้คนเหล่านั้น ได้มีโอกาสในการพูดสิ่งที่น่าสนใจ และอาจจะต่อยอดไปจนเป็นนักพูดได้เลย สุดท้ายก็คือความเป็น Private และความปลอดภัยในการเข้าร่วมวงสนทนา ที่การพูดทุกอย่างนั้นจะไม่มีการอัดเสียง เมื่อพูดจบแล้วจะหายไปทันที ใครที่อยากฟังก็ต้องเปิดฟังขณะที่พูดอยู่เท่านั้น จึงทำให้การพูด หรือการฟังนั้นดูมีคุณค่าขึ้นมา
ถึงแม้ว่าตัวแอปฯ จะทำออกมาให้ใครหลายคนปวดหัวกับการหา invited ก็ตาม แต่ก็มีอีกหลายคนที่ให้ความสนใจกับการเข้าไปร่วมฟังในแอปฯ อยู่ไม่น้อยเลย แนะนำว่าให้ลองเข้าไปหาในกลุ่มที่เปิดแบ่ง invited และรอเพื่อได้รับคิว หรือถ้าใครมีเพื่อนที่เล่นอยู่ก็ลองเพิ่ม Contact ด้วยเบอร์จากนั้นก็ให้เพื่อนกดรับในแอปฯ ให้เลย หรือถ้าสุดๆ แล้วจริงๆ จะไปหาซื้อ invited ดูก็ได้ ตอนนี้คนไทยก็เริ่มมีขายกันบ้างแล้ว สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนด้วย เพราะในแอปฯ ก็ใช่ว่าจะมีแต่ห้องที่มีแต่สาระเสมอไป บางคนก็ไม่ได้ให้ความรู้อะไรเลย แค่พูดไปเรื่อยๆ อย่างเดียว ถ้าคิดว่าชอบฟังก็ลองเข้าไปโหลดแอปฯ และหา invited มาเล่นกันได้เลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ