
รวมโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดกลางปี 2025 มีรุ่นไหนวางขายราคาเท่าไหร่บ้างในตอนนี้
ใครที่อยากได้มือถือสเปคแรง เล่นเกมลื่น หรือเน้นใช้งานทั่วไปในราคาที่ไม่แรงมาก Infinix ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีตัวเลือกเยอะมาก ทั้งรุ่นเรือธง สเปคกลาง ไปจนถึงรุ่นประหยัดสุดคุ้ม แต่ละรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบเครื่อง ตอบโจทย์การใช้งานในหลายๆ ด้าน ใครที่กำลังมองหา Infinix มาใช้งานช่วงกลางปีนี้และอยากรู้ว่ามีรุ่นไหนวางขายอยู่บ้าง วันนี้เราจะมาอัพเดทพร้อมรวมโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดกลางปี 2025 ว่ามีรุ่นไหนบ้าง พร้อมสเปคและราคาของแต่ละรุ่น ไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนน่าบ้าง
Infinix ZERO Series

1. Infinix ZERO Flip
โทรศัพท์ Infinix ฝาพับรุ่นใหม่ที่เปิดตัวปลายปี 2024 โดยมีจอใน LTPO AMOLED ขนาด 6.9 นิ้วรีเฟรชเรต 120Hz และจอนอก AMOLED กว้าง 3.64 นิ้ว 120Hz เช่นกัน จุดเด่นคือกล้องคู่หลัง 50MP ทั้งตัวหลักและอัลตร้าไวด์ พร้อมกล้องหน้า 50MP ถ่ายเซลฟี่สวยคมชัด ส่วนชิปใช้ตัว Dimensity 8020 ที่มีแรม 8/512GB แรงพอสำหรับเล่นเกมและใช้ทั่วไป และมีแบต 4720 mAh ชาร์จไวได้ 70W เหมาะกับสายถ่ายรูปและวิดีโอ โดยเฉพาะโหมด DV สำหรับสาย Vlog จุดเด่นอีกอย่างคือราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับมือถือฝาพับรุ่นอื่นๆ ในตลาดจอพับด้วย สั่งซื้อที่ Infinix
- รุ่น RAM 8/512GB: 16,999 บาท
2. Infinix ZERO 40 5G
โทรศัพท์ Infinix สำหรับสายถ่าย Vlog และคอนเทนต์โดยเฉพาะ ด้วยกล้องหลัง 108MP พร้อม OIS และกล้องอัลตร้าไวด์ 50MP รองรับวิดีโอถึง 4K ทั้งกล้องหน้า-หลังที่ 60FPS พร้อมระบบกันสั่น ProStable Video และไมโครโฟน 3 ตัวหน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้วรองรับรีเฟรชเรท 144Hz เล่นลื่นจัดๆ มาพร้อมชิป Dimensity 8200 Ultimate และแรม 12/512GB เล่นเกมสบายๆ และมีแบต 5000mAh ชาร์จไวได้ 45W หรือไร้สาย 20W เล่นไปด้วยชาร์จไปด้วยไม่ร้อน เรียกได้ว่าครบเครื่องของจริง สั่งซื้อที่ Infinix
- รุ่น RAM 12/512GB: 11,999 บาท
เพิ่มเติม: Infinix ZERO 50 5G ใกล้จะเปิดตัวแล้วเร็วๆ นี้
Infinix NOTE Series

1. Infinix NOTE 50 Pro+ 5G
โทรศัพท์ Infinix เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมหน้าจอ AMOLED 6.78 นิ้วรองรับรีเฟรชเรท 144Hz และชิป Dimensity 8350 และแรม RAM 12/256GB (ขยายแรมได้สูงสุด 24GB) รองรับ 5G เร็วแรงเล่นได้ทุกเกมไม่มีปัญหา กล้องหลังมี 3 ตัว 50MP พร้อมเลนส์ Periscope 50MP ซูมไกล 100X และอัลตร้าไวด์ 8MP แบตเตอรี่ 5,200mAh ชาร์จไวได้ 100W และยังมีฟีเจอร์เด่นอย่าง AI อัจฉริยะ One-Tap Infinix AI และ Bio Active Halo วัดสุขภาพแบบเรียลไทม์ เหมาะกับสายถ่ายรูปและเล่นเกมได้หมดเลย สั่งซื้อที่ Infinix
- รุ่น RAM 12/256GB: 13,999 บาท
2. Infinix NOTE 50 Pro
โทรศัพท์ Infinix รุ่นกลางที่เน้นเรื่องความคุ้ม มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้วและรีเฟรชเรท 144Hz ตัวเครื่องบางเพียง 7.3 มม. มาพร้อมกล้องหลังคู่ 50MP และอัลตร้าไวด์ 8MP ถ่ายรูปสวยคมชัด กล้องหน้า 32MP ใช้ชิปตัว Helio G100 Ultimate และแรม 12/256GB ขยายแรมเพิ่มได้เท่าตัว กับแบตความจุ 5,200mAh ชาร์จไว 90W พร้อมลำโพงจูนโดย JBL จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์วัดสุขภาพได้ในตัว ใครที่มองหามือถือจอใหญ่สเปคครบราคาไม่เกินหมื่นคุ้มๆ รุ่นนี้ตอบโจทย์เลย สั่งซื้อที่ Infinix
- รุ่น RAM 12/256GB: 9,499 บาท
3. Infinix NOTE 50S 5G
อีกหนึ่งรุ่นสำหรับโทรศัพท์ Infinix ในซีรีส์ล่าสุด ที่มีจอโค้งแบบ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้วรองรับรีเฟรชเรท 144Hz พร้อมกระจก Gorilla Glass 5 พร้อมชิป Dimensity 7300 Ultimate ที่มีแรม 8/256GB เร็วแรงเล่นเกมได้ทุกเกม ส่วนกล้องหลังเป็นกล้องคู่ 64MP และมาโคร 2MP กล้องหน้า 13MP ถ่ายภาพคมชัดแบบทั่วไป และมีแบตอึดๆ ให้ 5,200mAh ชาร์จไวได้ 45W พร้อมระบบเสียง JBL และฟีเจอร์ AI ที่ช่วยให้การใช้งานได้สะดวกขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือสเปคครบราคาไม่แรงมาก สั่งซื้อที่ Infinix
- รุ่น RAM 8/256GB: 8,999 บาท
เพิ่มเติม: นอกจากจะมีรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวออกมาแล้ว ก็ยังมีรุ่นซีรีส์ก่อนหน้าอย่าง Infinix NOTE 40 Pro+ 5G พร้อม RAM 12/256GB ในราคา 11,999 บาท และ Infinix NOTE 40 Pro รุ่น RAM 8/256GB ในราคา 8,999 บาทวางขายอยู่ด้วยเช่นกันในตอนนี้ พร้อมกับโค้ดส่วนลดเหลือไม่เกินหมื่นด้วยทั่งสองรุ่น
Infinix GT Series

1. Infinix GT 30 Pro
โทรศัพท์ Infinix รูปแบบเกมมิ่งรุ่นล่าสุด สานต่อความสำเร็จจากรุ่นที่เปิดตัวปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้กำลังรอการวางขายอยู่ มีให้เลือก 2 รุ่นความจุสูงสุด 512GB และแรมสูงสุด 12GB หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว 1.5K รองรับรีเฟรชเรท 144Hz ตอบสนองไว มาพร้อมชิป Dimensity 8350 Ultimate และมีกล้องหลังคู่ 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP และกล้องหน้า 13MP จุดเด่นคือดีไซน์ Cyber Mecha พร้อมไฟ RGB และปุ่มเสริม GT Triggers สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ กับแบตอึด 5,500 mAh ชาร์จไว 45W ระบบเสียงจูนโดย JBL เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือเกมมิ่งครบเครื่องในราคาหมื่นต้นๆ

2. Infinix GT 20 Pro 5G
โทรศัพท์ Infinix ซีรีส์เกมมิ่งสำหรับคอเกมโดยเฉพาะ ด้วยดีไซน์สุดล้ำแบบ Cyber Mecha พร้อมไฟ LED ด้านหลัง หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้วพร้อมรีเฟรชเรท 144Hz เล่นลื่นไหลสีสันคมชัด ใช้ชิป Dimensity 8200 Ultimate และชิป Pixelworks X5 Turbo สำหรับประมวลผลภาพเกมโดยเฉพาะ กล้องหลัง 3 ตัว 108MP และอีกสองตัว 2MP กล้องหน้า 32MP และมีแบต 5,000mAh ชาร์จไว 45W เหมาะกับสายเกมและคนที่ชอบมือถือดีไซน์เกมมิ่งเป็นหลักในราคาหมื่นต้นๆ เท่านั้น สั่งซื้อที่ Infinix
- รุ่น RAM 12/256GB: 12,999 บาท
Infinix HOT Series

1. Infinix HOT 50 Pro Series
โทรศัพท์ Infinix ที่เปิดตัวมาช่วงปลายปีที่แล้ว มีสองรุ่นโปรคือ Pro และ Pro+ หน้าจอโค้ง AMOLED ขนาด 6.78 นิ้วรองรับรีเฟรชเรท 120Hz ใช้ชิป Helio G100 แรงพอสำหรับเล่นเกมและใช้งานทั่วไป มีแรม 8/256GB (ขยายได้สูงสุด 16GB) เท่ากันทั้งคู่ มาพร้อมกล้องหลังคู่ 50MP และชัดลึก 2MP ที่รุ่นโปรปกติมีกล้องหน้า 8MP ส่วน Pro+ มีกล้องหน้า 13MP ส่วนแบตมีความจุ 5,000mAh ชาร์จไว 33W เหมือนกันเลยทั้งสองรุ่น เหมาะกับสายเกมหรือใช้งานทั่วไปสเปคครบๆ ทั้งสองรุ่นต่างกันหลักๆ ที่กล้องหน้า
- Infinix HOT 50 Pro รุ่น RAM 8/256GB: 5,349 บาท (BaNANA)
- Infinix HOT 50 Pro+ รุ่น RAM 8/256GB: 6,650 บาท (Infinix)

2. Infinix HOT 50 Series
Infinix HOT 50i และ Infinix HOT 50 โทรศัพท์ Infinix ที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปราคาไม่เกิน 5000 บาท โดยรุ่น HOT 50i มีจอ IPS LCD ขนาด 6.7 นิ้วและรุ่น HOT 50 มีขนาด 6.78 นิ้วรองรับรีเฟรชเรท 120Hz ทั้งคู่ แต่ว่ารุ่น HOT 50 ใช้ชิป Helio G100 กล้องหลัง 50MP กับกล้องหน้า 8MP ส่วนของ HOT 50i ได้ชิป Helio G81 มีกล้องหลัง 48MP กับกล้องหน้า 8MP และมีแบตความจุ 5,000mAh ชาร์จไว 18W เท่ากันทั้งสองรุ่น ใครมองหามือถือสเปคคุ้มราคาไม่สูงมาก ทั้งสองรุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีเลย อยู่ที่ว่าจะเน้นจอใหญ่และแรงมากน้อยกว่ากัน
- Infinix HOT 50 รุ่น RAM 8/256GB: 5,499 บาท (Infinix)
- Infinix HOT 50i รุ่น RAM 4/256GB: 4,275 บาท (Infinix)
เพิ่มเติม: นอกจากจะมีรุ่นล่าสุด HOT 50 Series ทั้ง 4 รุ่นที่วางขายอยู่ล่าสุดแล้ว ก็ยังมีรุ่นเก่ากว่าคือ Infinix HOT 12i RAM 4/6GB ราคา 2,945 บาทเท่านั้น เหมาะใช้งานเป็นรุ่นเริ่มต้น
Infinix SMART Series

1. Infinix SMART 9
ปิดท้ายด้วยโทรศัพท์ Infinix รุ่นเริ่มต้นที่มีให้เลือกสองความจุ เหมาะกับการใช้งานทั่วไปแต่ได้ฟีเจอร์ครบ ด้วยหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.7 นิ้วรองรับรีเฟรชเรท 120Hz ให้ภาพไหลลื่นไหล พร้อมชิป Helio G81 และแรม 3GB ความจุสูงสุด 128GB (ขยายได้สูงสุด 6GB) กล้องหลัง 13MP และกล้องหน้า 8MP กับแบตความจุ 5,000mAh ชาร์จไวได้ 10W พร้อมระบบเสียงสเตอริโอ DTS และลำโพง Ultra Volume ดังได้ 300% จุดเด่นคือฟีเจอร์ Magic Ring แสดงสถานะการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือคุ้มค่าในงบเบาๆ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นโทรศัพท์ Infinix ทุกรุ่นล่าสุดปี 2025 มีให้เลือกครบทุกความต้องการ ตั้งแต่รุ่นเรือธงกล้องเทพ รุ่นสเปคแรงสำหรับสายเกม ไปจนถึงรุ่นกลางและราคาประหยัดสำหรับใช้งานทั่วไป จุดเด่นคือแต่ละรุ่นมีสเปคที่คุ้มค่า ฟีเจอร์ครบทุกการใช้งาน หน้าจอไหลลื่นในราคาที่จับต้องได้ ใครเน้นกล้องหรือวิดีโอแนะนำซีรีส์ ZERO หรือ NOTE สายเกมต้องลอง GT Series ส่วน HOT และ SMART เหมาะกับคนงบจำกัดหรือซื้อเป็นรุ่นเริ่มต้นไว้ใช้งานทั่วไปในราคาที่ไม่สูงมาก