จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่ COVID-19 จะกลับมาระบาดอีกรอบเมื่อไรก็ไม่รู้ทำให้หลาย ๆ บริษัทเปลี่ยนลักษณะการทำงานเป็น Work From Home แทน ส่วนเหล่านักเรียนก็ต้องมานั่งเรียนผ่านออนไลน์กันแทนจนกว่าโรงเรียนจะเปิด วันนี้ผมเลยจะมาแนะนำแท็บเล็ตประจำปี 2020 ที่สามารถเอามาใช้ทั้งเรียนและทำงานได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยอุปกรณ์เสริมที่ควรจะต้องมีให้ครบชุด ด้วยงบไม่เกิน 20,000 บาทกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันได้เลย
1. iPad Air 2019
iPad ผู้ยืน 1 มาตลอดในสายแท็บเล็ตที่มีความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะเอามาใช้ในการเรียน เอามาใช้ทำงาน หรือแม้กระทั่งเอามาใช้ตัดต่อคลิปวีดีโอก็ยังได้ ด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 10.5 นิ้ว ชิป Apple A12 Bionic ที่ยังคงความแรงสุดขีด ลำโพงสเตอริโอที่ให้เสียงได้ดังสนั่น และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้ครบวัน นอกจากนี้ยังมีแอพเฉพาะทางที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่
แต่เนื่องด้วยประสิทธิภาพที่สูงสุด ทำให้ด้วยงบเพียง 20,000 บาทนั้นสามารถซื้อได้แค่รุ่น 64GB เท่านั้น แต่ถ้ากัดฟันเพิ่มเงินไหวแนะนำให้ไปรุ่น 256GB แทนจะดีกว่า แต่หากจ่ายเพิ่มไม่ไหวจริง ๆ iCloud ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วครับ
iPad Air 64GB ราคาเริ่มต้น 17,900 บาท (รุ่น Wi-Fi)
สำหรับอุปกรณ์ที่ควรจะมีเอาไว้คู่กันเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก iPad Air ได้สูงที่สุดจะมีดังนี้
- Apple Pencil Gen 1
- เคสคีย์บอร์ด หรือเคสปกติ + คีย์บอร์ดบลูทูธ
- ฟิล์มกันรอย
ซึ่งถ้าจะให้แนะนำนั้นในส่วนของเคสจะแนะนำเป็น Genius Keyboard Case Folio Pro เพราะเป็นเคสที่สามารถกันกระแทกได้ มีที่เก็บ Apple Pencil แถมยังมีคีย์บอร์ดที่มี TouchPad พร้อมในตัว ส่วนฟิล์มกันรอยจะมีเพียง 2 อย่างที่จะแนะนำคือฟิล์มกระจกและฟิล์มกันรอย Paper-like ที่ช่วยกันรอยและให้ความรู้สึกเหมือนกระดาษเวลาเขียนอรกด้วย
2. Samsung Galaxy Tab S6 Lite
ต่อกันด้วยแท๊บเล็ตสุดคุ้มจาก Samsung ที่สเปคไม่ได้ต่างอะไรจากรุ่นพี่มากนัก แค่ลดชิปประมวลผลลงมา แต่ความแรงที่ได้ก็ยังคงอยู่เพราะชิปประมวลผลที่เอามาใช้นั้นเป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน Galaxy A51 ทำให้สามารถใช้งานหนัก ๆ ได้ แถมยังเล่นเกมได้ดีอีกด้วย และด้วยหน้าจอที่มีขนาดถึง 10.4 นิ้ว ที่มาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอที่ได้ AKG ช่วยจูนเสียงให้ ทำให้สามารถเอามาใช้ดูหนังหรือเรียนอนนไลน์ได้เป็นอย่างดี
อีกจุดเด่นหนึ่งของ Galaxy Tab S6 Lite ก็คือ S-Pen ที่มีความสามารถหลากหลายเหมือนใน Galaxy Tab S6 และด้วยขนาดของตัว S-Pen ที่แทบไม่ต่างจากดินสอจริง ๆ ทำให้สามารถใช้งานได้ชินมือง่ายกว่ามาก แถมยังมีดีกว่า Apple Pencil อยู่ 1 ข้อด้วย นั่นก็คือการที่ S-Pen นั้นไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟ ทำให้สามารถใช้่งานได้ยาวนานกว่านั่นเอง
ท้ายที่สุดคือเรื่องแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 7,040 mAh ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน แถมหากแบตเตอรี่ใกล้หมด Galaxy Tab S6 Lite ยังรองรับชาร์จเร็วอีกด้วย ทำให้ใช้เวลาในการชาร์จน้อยกว่าปกตินั่นเอง
Samsung Galaxy Tab S6 Lite ราคาเริ่มต้น 11,990 บาท (รุ่น Wi-Fi)
สำหรับอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีคู่เอาไว้จะมีดังนี้
- Book Cover หรือเคส
- ฟิล์มกันรอย
- Adaptor USB Type-C to USB-A
สำหรับเคสหรือ Book Cover ที่แนะนำจะขอให้เน้นไปที่เคสที่มีช่องเก็บ S-Pen แยก เนื่องจากเคสที่เว้นช่องสำหรับติด S-Pen เอาไว้ด้านข้างนั้นอาจจะทำให้ S-Pen หายได้ โดยหลัก ๆ ที่แนะนำคือ Book Cover ที่ Samsung ขายเอง เพราะเป็นของที่ทำขึ้นมาเพื่อ Tab S6 Lite โดยเฉพาะ ส่วนฟิล์มกันรอยนั้นถ้าเน้นประหยัดให้ติดเพียงแค่ฟิล์มกันรอยธรรมดาก็พอ เพราะปกติแล้วหน้าจอจะอยู่ใต้ฝาเคสตลอด โอกาศเกิดรอยยาก
ส่วนที่แนะนำให้มี Adaptor USB Type-C to USB-A ไว้ด้วยนั้นเพราะทำให้สามารถต่อคีบอร์ดและเมาส์ได้ รวมถึงการโอนถ่ายข้อมูลผ่าน USB ด้วย หรือไม่ก็ใช้เป็นตีย์บอร์ดและเมาส์แบบบลูทูธแทนก็ได้ ทำให้สามารถใช้พิมพ์เอกสารได้สะดวกขึ้นด้วย
3. HUAWEI MatePad Pro
ปิดท้ายด้วย HUAWEI MatePad Pro สุดยอดแท๊บเล็ตเรือธงจาก HUAWEI ที่อัดสเปคมาให้โหดกล่าใคร แต่ด้วยความที่ไม่มี Google Service ทำให้ราคาที่วางขายไม่ได้พงมากนัก ทว่าถึงแม้จะไม่มี Google Service ก็ใช่ว่าจะใช้ Google ไม่ได้ เพราะเรายังสามารถใช้งาน Google ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ได้อยู่ อีกทั้งในปัจจุบันแอพต่าง ๆ ก็เริ่มมาลงใน App Gallery ของ HUAWEI แล้ว
ตัวเครื่องของ HUAWEI MatePad Pro นั้นไม่ธรรมดา ด้วยหน้าจอความละเอียด 2K ขนาด 10.8 นิ้ว แถมมีลำโพง 4 ตัว ของ Harman/kardon ทำให้สามารถใช้ดูคลิปหรือเรียนออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ( มีหน้าจอความละเอียดสูงสุด และมีลำโพงเยอะสุดใน 3 อันดับนี้เลย ) นอกจากนี้ MatePad Pro ยังใช้ชิป Kirin 990 ที่มีความแรงอย่างมากด้วย (ถึงแม้จะสู้ iPad Air ไม่ได้ แต่ก็แรงกว่า Tab S6 Lite แน่นอน) และอีกความเจ๋งของ MAtePad Pro ที่ iPad Air และ Tab S6 Lite เทียบไม่ได้เลยก็คือระบบชาร์จเร็วที่รองรับถึง 20W แถมมีการให้อแดปเตอร์ 20W นี้มาพร้อมในกล่องด้วย ทำให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ขนาด 7,250 mAh ได้อย่างสบายใจ
HUAWEI MatePad Pro ราคาเริ่มต้น 16,990 บาท (รุ่น Wi-Fi)
อุปกรณ์แบบครบชุดที่แนะนำให้มีคู่กับ MatePad Pro ก็คือ
- HUAWEI Smart Magnetic Keyboard
- HUAWEI M-Pencil
- หูฟังไร้สาย
สำหรับอุปกรณ์ที่แนะนำ 2 อย่างแรกเป็นสิ่งที่ควรจะซื้อมากที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่จช่วยรีดประสิทธิภาพทั้งหมดของ MatePad Pro ออกมา ส่วนที่บอกว่าควรมีหูฟังไร้สายนั้นเนื่องมาจาก MatePad Pro นั้นไม่มีช่องหูฟังนั่นเอง หรือจะซื้อเป็นหูฟังที่มีสายเป็น Type-C ก็ได้
สำหรับแท๊บเล็ตที่เอามาแนะนำนี้ทั้งหมดจะอยู่ในช่วง 10,000 – 20,000 บาท ที่ซึ่งหากรวมอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วยังไงก็อาจจะเกิน 20,000 บาทแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้ง 3 เครื่องนี้มีความแรงพอที่จะเอามาแทนโน๊ตบุ๊คสายพกพาได้เลย เพราะความแรงก็มี ระบบเสียงก็ดี ใช้งานได้นานกว่า แถมยังเบากว่าด้วย หากจะเอามาใช้ทำงานขั้นต่ำอยากให้มองที่ 3 รุ่นนี้เป็นอย่างน้อย แต่หากเอามาใช้เรียนออนไลน์เพียงอย่างเดียวอาจจะลงไปเล่นรุ่นที่ถูกกว่านี้ก็ได้ เพราะในการเรียนจะให้ดีควรมีหน้าจอที่ใหญ่และเน็ตแรง ๆ เสถียร ๆ ก็พอแล้ว