หลังจากเพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน งานนี้ต้องถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์พอสมควรเลยครับ เมื่อ LG ประเทศไทยได้นำ LG G4 เครื่องจริงมาโชว์ในงาน Thailand Mobile Expo 2015 (TME) รอบนี้ด้วย แถมยังเปิดสั่งจองล่วงหน้าอีกต่างหาก ทางเราเลยไปลองๆ จับแล้วเก็บข้อมูลเป็นแบบพรีวิวมาให้ได้ชมกันครับ มาชมกันเลยว่า LG G4 มันมีอะไรน่าสนใจ และอัพเกรดขึ้นมาจาก G3 บ้าง
ขอเกริ่นถึงสเปคก่อนแล้วกัน สเปค LG G4 คร่าวๆ ก็มีดังนี้ครับ
- ชิปประมวลผล Snapdragon 808 (6 คอร์) ความเร็ว 1.8 GHz ชิปกราฟิก Adreno 418
- แรม 3 GB
- รอม 32 GB มีช่องใส่ MicroSD
- หน้าจอ IPS Quantum Display โค้ง ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K (2560 x 1440)
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล เลเซอร์โฟกัส
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- ใช้งาน 4G LTE ได้ ใช้ 3G ได้ทุกเครือข่าย
- แบตเตอรี่ 3000 mAh
- ราคารุ่นฝาหลังพลาสติก 20,990 บาท
- ราคารุ่นฝาหลังหนัง 21,990 บาท
- สเปค LG G4
สเปคต้องบอกเลยว่าสดใหม่มาก โดยเฉพาะชิปประมวลผล Snapdragon 808 ซึ่ง G4 เป็นรุ่นแรกๆ ที่นำมาใช้ แล้วออกวางจำหน่ายเลยก็ว่าได้ ความแรงก็หายห่วง แถมน่าจะไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนอย่างที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ในตัว Snapdragon 810 อีกด้วย ส่วนอีกจุดที่น่าสนใจมากๆ ก็คือหน้าจอครับ เพราะ G4 ใส่เทคโนโลยี Quantum Display ที่ใช้ในทีวีของ LG เองรุ่นท็อปๆ มาให้ด้วย แถมยังเลือกใช้จอแบบโค้งเล็กน้อยคล้ายกับใน LG G Flex 2 อีกต่างหาก บอกเลยว่าเทคโนโลยีจอของ LG ปีนี้จัดเต็มมากๆ
สำหรับด้านบนและล่างของหน้าจอก็เรียบๆ ครับ เหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป แต่ถ้าสังเกตดีๆ ผมว่าที่โลโก้ ตรงคำว่า LG เหมือนตัวอักษรมันจะบางลงกว่าเมื่อก่อนนะ ส่วนของปุ่มกดก็ใช้เป็นปุ่มของซอฟต์แวร์ทั้งหมดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ความรู้สึกแรกที่สัมผัส LG G4 ผมรู้สึกได้เลยว่ามันเบากว่าที่คิดมากๆ บางเฉียบ รูปทรงก็ค่อนข้างเข้ามือพอสมควร แต่เหมือนจะจับยากกว่า G3 นิดหน่อยนะ
อย่างที่บอกตอนแรกว่า LG จัดเต็มกับจอของ G4 มากๆ ไม่ว่าจะเทคโนโลยี Quantum Display ที่ทำให้ภาพสวย สีสันสด ภาพคมชัด กินพลังงานต่ำ แถมยังให้จอมาโค้งเล็กน้อยด้วย ซึ่งเท่าที่ลองดู รู้สึกว่ามันจะมีองศาโค้งน้อยกว่า G Flex 2 พอสมควรนะ การใช้งานหรือการพกพา ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกไปจากสมาร์ทโฟนทั่วไปเท่าไหร่ แต่มันทำให้ได้ตัวเครื่องที่มีขนาดโดยรวมเล็กลงนิดนึง
สำหรับภาพที่ได้จากจอ LG G4 ผมว่ามันโอเคเลยนะ สีไม่ฉูดฉาดเกินไป แถมที่สำคัญสุด คือมันแก้ปัญหาภาพคมชัดจนเกินไปที่เป็นใน LG G3 เรียบร้อยแล้วด้วย ทำให้คราวนี้สามารถใช้งาน G4 ได้แบบสบายตาขึ้นมากๆ อย่างเห็นได้ชัด จุดนี้ถือว่า LG แก้ตัวจากรุ่นที่แล้วได้ดีเลยแหละ
ฝาหลังของ LG G4 จะมีให้เลือกหลายแบบเลยครับ ซึ่งจะแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ คือกลุ่มของฝาหลังพลาสติกปกติ อันนี้ราคาในไทยเปิดมาที่ 20,990 บาท ส่วนถ้าอยากซื้อเป็นรุ่นฝาหนังไปเลย ไม่อยากมาซื้อฝาเพิ่มทีหลัง ก็จัดไปได้เลย 21,990 บาท บวกเพิ่มอีกพันนึง สำหรับฝาหลังแบบหนัง ก็มาแบบเรียบๆ เนียนๆ มือดีนะ ให้สัมผัสการใช้งานที่ดี กระชับมือเหมือนกัน ที่สำคัญ คือเป็นหนังแท้ด้วย
ด้านของกล้องหลังก็ยังคงมาพร้อมเลเซอร์ช่วยโฟกัสเช่นเดิม เท่าที่ลองดู ก็ยังโฟกัสได้ค่อนข้างเร็วตามปกติครับ
หนังซูม เอ้ย!! ซูมดูหนังกันใกล้ๆ หน่อย เนื้อเนียนมากครับ โดยเครื่องที่มาให้ลองเล่นกันในงานนี้เป็นโมเดลที่ขายในเกาหลีใต้นะ เลยมีตรารองรับมาตรฐาน 4G LTE ที่มีใช้อยู่เฉพาะในเกาหลีติดมาด้วย
การใช้งานจริง ก็เป็นในแบบฉบับของรุ่นท็อปครับ ไหลลื่นไร้กังวล รอมทำมาค่อนข้างดีเลย หน้าตาของอินเตอร์เฟสต่างๆ ก็ยังเป็นแบบเดียวกับ LG G3 อยู่ อ้อ!! ตัวระบบปฏิบัติการที่ติดเครื่องมาก็เป็น Android 5.1 มาเลยนะครับ
อันนี้ ภาพบนเป็นตัวเครื่องฝาหลังพลาสติก เนื้อของพลาสติกก็มันๆ วาวๆ ตามปกติ ไม่ได้ทำเป็นแบบเหมือนโลหะบรัชลายใน G3 ส่วนภาพล่างก็เป็นหนังเหมือนกันครับ แต่เป็นสีดำบ้าง
ส่วนด้านล่างนี้ ก็เป็นตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง LG G4 นะ ลองชมกันได้เลย เอาไว้ถ้ามีเครื่องมารีวิว ค่อยจัดเต็มกันอีกทีเนอะ
สำหรับใครที่สนใจ LG G4 ก็มาลองเล่นกันได้ที่บูท LG ในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ศูนย์สิริกิติ์นะครับ งานจัดถึงวันที่ 10 พฤษภาคมนี้เท่านั้น ส่วนถ้าสนใจจะจองเครื่องก็จัดไปได้เลย โดยจะเริ่มได้รับเครื่องตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป ถือว่าเร็วมากเลยนะเนี่ย