เปิดตัวและวางขายในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ ASUS Zenfone Max Pro M1 เกมมิ่งสมาร์ทโฟนสุดคุ้ม (ASUS บอกว่าอย่างนั้น) ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี จากราคาที่เปิดมาประทับใจมาก ๆ ในสเปคที่คุ้มค่า เชื่อว่าหลายคนอยากจะเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนสุดคุ้มตัวนี้แน่นอน แต่ ๆๆๆๆ SpecPhone จะบอกว่ามันมีรายละเอียดบางอย่างที่เพื่อนๆ ควรจะต้องรู้ก่อนจ่ายเงินซื้อ ASUS Zenfone Max Pro M1 เพราะบางอย่างผู้ผลิตก็บอกไม่หมดครับ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น เลื่อนลงไปอ่านบทความ 7 สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนจ่ายเงินซื้อ Asus Zenfone Max Pro M1 !! ได้เลย
1. Zenfone Max Pro M1 มี 3 รุ่น แต่สเปคกล้องไม่ได้เหมือนกันทุกรุ่น!
ASUS Zenfone Max Pro M1 ที่วางขายในประเทศไทยนั้น มีด้วยกันทั้งหมดสามรุ่นย่อย โดยสิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ แรม และความจุ แต่จะมีอีกหนึ่งรายละเอียดที่แตกต่างกัน นั่นก็คือเรื่องความละเอียดของกล้อง
- รุ่นแรม 3 GB รอม 32 GB กล้องหลังคู่ 13+5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.2
- รุ่นแรม 4 GB รอม 64 GB กล้องหลังคู่ 16+5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0
- รุ่นแรม 6 GB รอม 64 GB กล้องหลังคู่ 16+5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0
ซึ่งกล้องทั้งสามรุ่น มีระบบ Autofocus Phase-Detection และ LED Flash ส่วนกล้องหน้าเองรูรับแสงกว้างสุด f/2.2 ทุกรุ่นย่อย เลนส์กล้องหน้ากว้าง 85 องศา พร้อมกับ Softlight LED Flash ด้านหน้า เพราะฉะนั้นตัวที่คุ้มสุดจะเป็นตัวแรม 4 GB และรอม 64 GB ซึ่งเพิ่มเงินแค่หนึ่งพันบาทจากรุ่นแรม 3 GB นอกจากจะได้แรม และรอมเพิ่มขึ้น ยังได้กล้องที่มีประสิทธิสูงกว่าทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ใครสนใจจะซื้อรุ่นแรม 3 GB แนะนำให้เพิ่มอีกหนึ่งพันไปเอาแรม 4 GB คุ้มกว่าแน่นอนครับ !!
2. Wi-Fi รองรับเฉพาะคลื่นความถี่ 2.4 GHz
ASUS Zenfone Max Pro M1 จะรองรับแค่ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n ความถี่ 2.4 GHz เท่านั้น ดังนั้นหากบ้านใครใช้เร้าท์เตอร์ WiFi ที่ปล่อยสัญญาณสองคลื่นทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz ตัวเครื่องก็จะเห็นแค่คลื่นความถี่เดียวนั่นก็คือ 2.4 GHz ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญพอสมควร เนื่องจากปัจจุบัน WiFi คลื่น 5 GHz เริ่มใช้งานกันมากขึ้น แล้วก็มีความเสถียรกว่า 2.4 GHz อย่างเห็นได้ชัด
ปัญหาส่วนมากที่พบใน Wi-Fi 2.4 GHz ก็คือเรื่องสัญญาณตีกัน โดยเฉพาะบ้านที่เป็นทาวเฮ้าส์, หรือคอนโด ด้วยความที่ช่องสัญญาณแคบกว่า Wi-Fi 5 GHz ทำให้ในบางเวลาอาจเกิดปัญหาเน็ตช้า หรือเล่นเกมอยู่แล้ว ping ขึ้นสูงได้
วิธีการแก้ไขเบื้องต้น แนะนำให้ลองหาช่องสัญญาณที่ไม่ทับซ้อนกับบ้านข้าง ๆ (โดยปกติเวลาช่างมาติดตั้งมักจะเลือกช่องสัญญาณที่ไม่ตีกันอยู่แล้ว) หรืออาจจะต้องเล่นสมาร์ทโฟนใกล้เราท์เตอร์, Access Point (ตัวขยายสัญญาณ) แทน จากภาพด้านล่างจะเห็นว่า ASUS Zenfone Max Pro M1 ทางด้านขวา จะไม่เจอสัญญาคลื่น 5 GHz ทำให้เจอสัญญาณน้อยกว่า
3. สามารถสั่งซื้อใน Shopee เท่านั้น (ในตอนนี้) และอาจได้รับของเดือนหน้า !!
หลังจาก ASUS Zenfone Max Pro M1 เปิดตัวก็ได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ซึ่งทาง ASUS เองได้เปิดจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ก่อนในช่วงหลังเปิดตัว ก่อนที่จะเริ่มวางขายหน้าร้านในเร็ว ๆ นี้ หลายคนจึงอยากทราบว่าหากสั่งซื้อช่องทางออนไลน์จะได้ของตอนไหน จากที่เข้าไปดูในกลุ่ม ASUS ใน Facebook มีแอดมินมาตอบว่า รุ่น Ram 3/Rom 32 จะเริ่มจัดส่งก่อนในวันที่ 19 มิถุนายนนี้เลย สำหรับผู้ที่จองไปแล้ว ส่วนรุ่น Ram 4 และ Ram 6 จะเริ่มจัดส่งของได้ในต้นเดือนหน้า
แน่นอนว่าเครื่องรีวิว ASUS Zenfone Max Pro M1 ที่เราได้รับมาทดสอบในตอนนี้ก็เป็นรุ่น Ram 3 GB/ Rom 32 GB เหมือนกันครับ
4. กระจกหน้าไม่ใช่ Gorilla Glass
หลายคนอาจจะทราบเกี่ยวกับชื่อเสียงของกระจก Gorilla Glass กันดี เป็นกระจกที่ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานที่แบรนด์ผู้ผลิตหลายค่ายนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนของตนเอง แต่สำหรับ ASUS Zenfone Max Pro M1 นั้น ไม่ได้ใช้กระจก Gorilla Glass จึงไม่ทราบว่ากระจกที่ใช้อยู่นั้นมีความแข็งแรงในระดับใด หากใครที่ซื้อมาใช้งานแนะนำให้ติดกระจกกันรอย หรือฟิล์มกันรอยไว้จะดีกว่าครับ อย่างน้อยที่สุดก็จะได้ไม่เกิดรอยขนแมวขึ้นบนหน้าจอ ASUS Zenfone Max Pro M1 ของเพื่อน ๆ นะ
5. รับ Google Drive 100 GB ฟรี 1 ปี
ใครที่ใช้บริการ Sync ข้อมูลจาก Google Drive อยู่แล้วที่ได้ฟรีอยู่ที่ 15 GB หากซื้อ ASUS Zenfone Max Pro M1 และ Log in Google Account เข้าเครื่องก็ได้รับพื้นที่เก็บข้อมูลของ Google Drive ไปฟรี ๆ เลย 100 GB นาน 1 ปี เอาไว้เก็บข้อมูลได้แบบจุใจ
โดยพื้นที่เก็บข้อมูลดังกล่าวจะรวมกับบริการอื่น ๆ ของ Google ด้วย เช่น Gmail, Google Photo (แบบ Original File ไม่ลดความละเอียดภาพ) ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นหนึ่งของสมาร์ทโฟน ASUS เลยครับ
6. ระบบปฏิบัติการแบบ Stock Rom Android
ASUS Zenfone Max Pro M1 มากับระบบปฏิบัติการ Android™ 8.1 Oreo™ ซึ่งเป็น Android แบบแท้ ๆ ไร้การปรับแต่งใด ๆ จากแบรนด์ผู้ผลิต ทำให้มีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทเป็น Android เวอร์ชั่นใหม่อย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาให้ผู้ผลิตนำไปดัดแปลง และยังได้รับการอัพเดทที่ยาวนานกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปที่ไม่ใช่ Pure Android ในส่วนของความปลอดภัยนั้น หาก Google ตรวจสอบพบปัญหา หรือมัลแวร์ต่าง ๆ ก็จะได้รับอัพเดทรวดเร็ว และสม่ำเสมอ
ด้านประสิทธิภาพก็จะทำงานได้เร็วกว่า เนื่องจากไม่มีปรับแต่งซอฟต์แวร์ และทำให้ตัวเครื่องเหลือพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าอีกด้วย หน้าตาของ UI ASUS Zenfone Max Pro M1 ก็จะโล้นหน่อย ๆ ตามรูปด้านล่าง หากใครที่ไม่ชอบก็สามารถไปโหลด Theme หรือ Launcher อื่น ๆ ได้ที่ Playstore ครับ
เพราะฉะนั้นที่บอกว่า Rom ASUS ไม่ดี มีแอปพลิเคชันของแถมเยอะ หรือช้า หน่วง ก็ไม่น่าจะเกิดกับ Zenfone Max Pro M1 ล่ะครับ เพราะรอมของรุ่นนี้คือมาโล่ง ๆ แบบที่ว่าแทบจะไม่ได้ผ่านมือ ASUS เพราะฉะนั้นใครที่หวังจะใช้ ZenUI เหมือนสมาร์ทโฟน ASUS รุ่นอื่น ก็ต้องข้ามรุ่นนี้ไปก่อน ส่วนข้อสังเกตของ Rom แบบ Stock Android ก็คือมันจะจืด ๆ หน่อย ด้วยความที่ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม บรรดาฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็เลยหายไปด้วยนั่นเอง
7. เกม ROV เปิดโหมด High Frame Rate ได้ (60 fps)
ข้อนี้คงจะถูกใจคอเกม ROV เป็นที่แน่นอน เนื่องจากสมาร์ทโฟนบางรุ่นที่ใช้สเปคที่ใกล้เคียงกับ ASUS Zenfone Max Pro M1 ไม่สามารถเปิดโหมด High Frame Rate 60 fps ได้ ทำให้จำกัดการเล่นที่เฟรมเรตสูงสุด 30 fps เท่านั้น แต่สำหรับ ASUS Zenfone Max Pro M1 ทาง ASUS ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตเกม ROV ปรับแต่งให้สามารถเปิดโหมด High Frame Rate ได้โดยไม่ต้องลงรอมดัดแปลง ทำให้เล่นเกม ROV ได้แบบลื่น ๆ ฟินกันไป ซึ่งสเปคระดับนี้สามารถเล่นได้ที่เฟรมเรต 57-60 fps กันแบบชิว ๆ ครับ