งาน Thailand Mobile Expo Showcase 2011 นี้กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 29 กันยายน จนถึง 2 ตุลาคมนี้ ซึ่งถือเป็นงานมือถือส่งท้ายปี (ถ้าไม่จัดอีกนะ) จุดเด่นที่เพิ่มมาก็คือจะมีมือถือรุ่นที่จองในงาน Thailand Mobile Expo Hi end 2011 มาขายกันมากขึ้น สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามข่าวคราวมือถือบ่อยมากนักอาจจะตามไม่ทัน เเต่บทความนี้เรามาดูกันว่ารุ่นไหนที่จะมีโอกาสได้เห็น ได้ขาย หรือเเค่จองในงานเท่านั้นครับ
ตอนนี้ยังเขียนไม่เสร็จ มีอะไรจะมาอัพเดทเรื่อยๆ นะครับ ^^
รายชื่อเครื่องที่ขายใหม่ที่เพิ่มจากงาน Thailand Mobile Expo Hi end 2011 ที่ผ่านมา
- HTC EVO 3D
- HTC Sensation
- HTC Flyer
- HTC ChaCha
- HTC Salsa
- LG Optimus 3D
- LG Optimus Pad
- LG Optimus Pro
- LG Optimus Net (อาจจะ)
- Samsung Galaxy S II – White Edition [Update 12/9/2011]
- Samsung Galaxy S Plus
- Samsung Galaxy Tab 10.1
- Samsung Galaxy Pro
- Samsung Galaxy R [Update 12/9/2011]
- Sony Ericsson Xperia Play
- Sony Ericsson Xperia Mini
- Sony Ericsson Xperia Mini Pro
- Sony Ericsson W8 Walkman Phone
- BlackBerry Playbook
- BlackBerry Bold 9900
- Acer Iconia Tab A100
- Acer Iconia Smart [Update 12/9/2011]
รายชื่อเครื่องที่เป็นไปได้สูงว่ามีให้ลองเล่นภายในงาน Thailand Mobile Expo Showcase 2011
-
Nokia N9
- BlackBerry Curve 9360
- BlackBerry Touch 9810
- BlackBerry Touch 9860
- Samsung Galaxy Tab 8.9
- LG Optimus Sol
- LG Univa
- WellcoM A100
- Sony Ericsson Xperia Arc S
- Sony Ericsson Xperia Neo V
- Sony Ericsson Xperia Ray
- Nokia 500
- HTC Radar
- HTC Titan
- HTC Sensation Special Beats Edition
- Samsung Galaxy Tab 7.7
- Samsung Galaxy Note
- Samsung Galaxy M Pro
- Samsung Galaxy Y
- Samsung Galaxy Y Pro
- Samsung Galaxy W
- Samsung Galaxy Xcover
- LG Prada K2
รายละเอียดเครื่องต่างๆ ที่น่าสนใจในงาน Thailand Mobile Expo Showcase 2011
Nokia
Nokia N9
สถานะภายในงาน : เปิดจอง / นำมาโชว์ในงาน
ราคา : ประมาณ 16xxx ? 18xxx
Nokia N9 นั้นเข้ามาขายในไทยอย่างเเน่นอนโดย AIS ดังนั้นเเฟนๆ ของ Nokia ในประเทศไทยนั้นคงเลิกอัดอั้นตันใจกับ Symbian กันได้เสียที โดย Nokia N9 ตัวนี้มากับระบบปฏิบัติการ Meego ที่เคยเป็นความหวังของ Nokia ว่าจะเอามาต่อสู้กับ Android เเละ iOS อย่างสมน้ำสมเนื้อ เเต่ภายหลังร่วมหอลงโลกกับ Microsoft ไปเเล้ว ก็ดูเหมือนว่า Meego จะกลายเป็นลูกเมียน้อยไปโดยปริยาย สำหรับสเปคตัวนี้ถ้าเป็นฝั่ง Android ก็ถือว่าอยู่ในเครื่องระดับกลาง12,000 ? 13,000 เท่านั้น เเต่สำหรับ Nokia N9 ราคานั้นจัดอยู่ในระดับ Hi end ที่คาดว่าให้อย่างต่ำก็ 15,000 ขึ้นไปเเน่นอน ส่วนวันวางจำหน่ายอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมโดยจำหน่ายผ่าน Operator ของ AIS
วัสดุ ดีไซน์ยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่รู้จักกันดีในเรื่องคุณภาพที่สูง เเละถึงเเม้ตัวประมวลผลที่ไม่เเรงเป็น Dual Core เเต่ก็ให้ความสมูธที่เทียบเท่ากับตระกูล iOS หรือ QNX ปัญหาของตัวนี้อยู่ที่เพียง Ecosystem ในเรื่องเเอพลิเคชั่นว่าจะมีมาให้เล่นมากน้อยเเค่ไหน เเละเมื่อ Nokia ไม่ใช้ Meego เป็นหลักเเล้วจะมีนักพัฒนากล้ามาทำเเอพหรือไม่ จัดเป็นมือถืออินดี้สำหรับคนชอบความเเปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
Nokia 500
สถานะภายในงาน : มีโอกาสขายในงาน
ราคา : ประมาณ 6000 บาท
สมาร์ทโฟน Symbian Anna ตัวเเรกที่ใช้ซีพียูความเร็ว 1 GHz เป็นตัวเเรก เเต่ดูเหมือนว่าในเรื่องประสิทธิภาพจะยังทำได้ไม่ทีเท่าไหร่นัก ตัวประมวลผลของ Nokia N500 นั้นไม่ทราบว่าใช่รุ่นใด เเต่เป็นไปได้สูงว่าไม่มี GPU เหมือนกับของ Android หรือ iPhone หลายๆ รุ่นทำให้การเเสดงผลไม่ราบลื่นเท่าที่ควร ตัวนี้หน้าจอ 3.2 นิ้ว ROM 2 GB กล้อง? 5 ล้านพิกเซล กล้องหน้าความละเอียด VGA
ราคาเปิดมาที่ต่างประเทศที่ประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าเทียบกับตลาดมือถือในช่วงนี้ก็ถือว่าไม่ได้ถูกหรือเเพงอะไร ทำให้ปัญหาของตัวนี้กลับไปอยู่ที่ความเป็น Symbian ที่ล้าสมัยมากในปี 2011 นี้ เนื่องจากไม่มีเเอพลิเคชั่นดีๆ หลายตัวอย่างใน Android หรือ iOS มาลงมากนัก
Apple
Apple iPhone 4
สถานะภายในงาน : ขายในงาน
สุดยอดสมาร์ทโฟนค้างปีจาก Apple ที่ยังคงขายดิบขายดี ถึงเเม้ตัวประมวลผลจะไม่ได้ถือว่าเเรงมากเป็น Dual Core ที่เป็นที่นิยมของเครื่องไฮเอนด์อย่างในปีนี้ เป็นเพราะว่าเครื่องออกมานานเเล้ว เเต่ก็ยังคงยอดขายไว้ได้ดีเพราะคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่สูง ไม่ว่าจะเป็นการออกเเบบ ดีไซน์ วัสดุ คุณภาพของหน้าจอ ที่จัดอยู่ในขั้นสูงที่ดีกว่าคู่เเข่งอย่างชัดเจน รวมไปถึงความเร็วอินเตอร์เฟซที่สมูธในหลายจุดมากกว่า Android
อย่างไรก็ตาม iPhone 4 ตัวนี้มี Product Lifecycle ที่อยู่ในระยะสุดท้ายเเล้ว เพราะตัวนี้ออกมาช่วงกลางปีที่ผ่านมาสำหรับมือถือก็ถือว่าเป็นระยะวางจำหน่ายที่ยาวนานมากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ก็ถือว่าถึงเวลาปรับปรุงเเละออก iPhone 5 ออกมาภายในปีนี้ซะที เรียกว่าอีกสองสามเดือนก็น่าจะเห็นเเล้ว
Apple iPad 2
สถานะภายในงาน : ขายในงาน
ผู้สืบทอดของ iPad รุ่นเเรก การกลับมาในคราวนี้เรียกว่าพร้อมขึ้นกว่าตัวเก่า ไม่ว่าเป็นเเอพลิเคชั่นบน iPad ที่มีมากขึ้นจนเหมาะสมที่จะใช้งานได้ทั่วไปเเล้ว ตัวประมวลผลที่เป็น Dual Core ตัวเเรกของ Apple พิสูจน์เเล้วว่าจากความเร็วที่ลื่นอยู่เเล้ว ยังสามารถเร็วขึ้นไปได้อีก ถือว่าเป็นผู้นำในด้านความเร็วเทียบกับ Samsung Galaxy S II เลยทีเดียว
นอกจากนี้เเล้ว iPad 2 ยังถือเป็นเเท็บเล็ตตัวเเรกที่ทำน้ำหนักออกมาได้เบา ลบข้อเสียที่รู้สึกล้าเวลาใช้เเท็บเล็ตไปนานๆ ทั้งๆ ที่วัสดุทำจากอลูมิเนียม เเละดูหรูหราสไตล์ Apple
HTC
HTC Titan /HTC Radar
สถานะภายในงาน : ตัวโชว์ /ไม่ทำตลาดในประเทศไทย
ราคา : N/A
สองสมาร์ทโฟน Windows Phone 7 ตัวใหม่จาก HTC เเต่ดูท่าทางเเล้วโอกาสมาทำตลาดในไทยยาก เพราะทั้งสองตัวถึงเเม้จะใช้ Windows Phone 7.5 Mango ที่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเเล้ว เเต่ก็ยังไม่มีการสนับสนุนภาษาไทยอย่างเป็นทางการเสียที อย่างภาษาไทยสำหรับตัว HTC HD7 เเละ HTC Mozart ก็เป็นเพียงภาษาไทยที่พัฒนาขึ้นมาเอง ไม่ได้มาจากทาง Microsoft
อีกทั้งอัตราการเติบโตของ Windows Phone 7 ยังต่ำมากในประเทศไทยจากการทำตลาดของทั้งสองตัวก่อนหน้า เราอาจจะต้องรอจนกว่า Windows Phone สนับสนุนภาษาไทยอย่างเป็นทางการเราจึงจะได้เห็น HTC นำ Windows Phone 7 มาทำตลาดอีกครั้งครับ
HTC EVO 3D
สถานะภายในงาน : ขายภายในงาน
ราคา : 19,900
สมาร์ทโฟนจอสามมิติเคียงคู่มากับ LG Optimus 3D คราวนี้มาในเเบบฉบับของ HTC เอง สเปคนั้นใกล้เคียงกับ HTC Sensation มาก โดยตัวประมวลผลนั้นใช้ Qualcomm MSM8260 ตัวเดียวกัน เเต่ต่างกันตรงเเบตเตอรี่ที่ให้มามากกว่า เเรมมากกว่า เเละกล้องหน้าความละเอียดสูงกว่า ส่วนกล้องหลังนั้นตัวนี้ให้มา 5 ล้านในขณะที่ Sensation ให้มาที่ 8 ล้านพิกเซล
อย่างไรก็ตามจุดขายของตัวนี้อยู่ที่ความเป็นจอสามมิติเเบบมองได้ด้วยตาเปล่า เเละยังสามารถถ่ายรูปหรือวีดีโอเเบบสามมิติได้ (สามารถดูได้ด้วยจอที่สนับสนุนการเเสดงผลเเบบสามมิติเท่านั้น)
Samsung
Samsung Galaxy Tab 10.1
สถานะภายในงาน : ขายภายในงาน
ราคา : 18,900 สำหรับ Wi-Fi + 3G 16GB เเละ 14,900 บาท สำหรับ Wi-Fi 16GB
เเท็บเล็ต Honeycomb 3.1 จาก Samsung ที่มีจุดเเตกต่างจากเจ้าอื่นๆ พอสมควร นอกจากอินเตอร์เฟซที่มี TouchWiz UX ที่ครอบมาอย่างสมบูรณ์ทำให้ดูหน้าตาต่างจาก Honeycomb เจ้าอื่นๆ อย่างชัดเจนเเล้ว เจ้า Samsung Galaxy Tab 10.1 ยังเป็นเเท็บเล็ตที่เบาที่สุด (ในตอนที่เขียนนี้) บวกกับราคาในรุ่น Wi-Fi หรือ 3G ก็เอามาขายในเพียงรุ่นเล็กเท่านั้นทำให้ราคาออกมาค่อนข้าง Competitive กับคู่เเข่งได้ดี สำหรับสเปคนั้นก็เหมือนกับเเท็บเล็ต Honeycomb ทั่วไปๆ หน้าจอนั้นทาง Samsung บอกเป็นเเบบ PLS ที่ให้เเสงสว่างเเละสีสันสดใสตามเเบบของ Samsung ที่เราเห็นได้ในมือถือทั่วไป เเต่ก็ไม่ถึงขั้นเดียวกับจอ Super AMOLED
Samsung Galaxy Tab 7.7
สถานะภายในงาน : อาจจะนำมาโชว์ภายในงาน
ราคา : N/A
Samsung Galaxy Tab 10.1 เเละตัว Tab 8.9 กลายเป็นตัวขายหลอกไปในทันทีเมื่อเจอกับของจริงคือ Samsung Galaxy Tab 7.7 ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าจะมาพร้อมกับ Android Honeycomb 3.2 เพราะมากับตัวประมวลผล Exynos 4210 ที่ใช้กับตัว Samsung Galaxy S II เเละยังเพิ่มความเร็วไปเป็น 1.4 GHz (Honeycomb 3.0 เเละ 3.1 จะสนับสนุนเฉพาะ NVIDIA Tegra 2 เท่านั้น) ซึ่งตัวประมวลผลนี้ความเร็วเทียบเท่าได้กับ Apple A5 ที่ใช้ใน iPad 2? อีกทั้งยังใช้จอ Super AMOLED Plus เเบบเดียวกับใน Samsung Galaxy S II อีกด้วย ตัวนี้เหมือนตัวจัดเต็มในฝั่งเเท็บเล็ตเลยทีเดียว นอกจาก Samsung Galaxy S II ที่ทำได้ดีไปในฝั่งสมาร์ทโฟนเเล้ว จากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ก็คาดว่าจะทำให้ Samsung Galaxy Tab 7.7 ขายดีไม่เเพ้รุ่นพี่เช่นกัน
ถ้าเทียบความเเรงระหว่าง NVIDIA Tegra 2 กับ Samsung Exynos 4210 ละก็ เรียกว่าความเร็วของ Exynos 4210 นั้นเหนือกว่ามากทีเดียวจากผลการ Benchmark ก็ต้องดูว่าจะทำให้อาการหน่วงบน Honeycomb หายไปหรือไม่ด้วยตัวประมวลผลที่ถือว่าเร็วสุดสำหรับ Android ในตอนนี้ วัสดุก็ปรับปรุงโดยใส่อลูมิเนียมตรงฝาหลัง นอกจากนี้เเล้วตัวนี้ยังโทรออกได้เหมือนรุ่นพี่อีกด้วย!!
Samsung Galaxy Note
สถานะในงาน : อาจจะนำมาโชว์ภายในงาน
ราคา : N/A
โปรดักส์ Android ไลน์ใหม่จาก Samsung โดยเครื่องตัวนี้มีช่องเก็บปากกาเอาไว้ด้านหลังไว้สำหรับวาดรูปหรือจดโน้ตไว้ได้สะดวกเหมือนกับสมุดออกาไนเซอร์ คอนเซ็ปเป็น Digital Organizer ตามเเบบ HTC Flyer หรือ Lenovo Thinkpad Tablet เรื่องสเปคไม่ใช่สิ่งที่ตัวนี้น่าห่วง ตัวนี้มากับ Exynos 4210 ความเร็ว 1.4 GHz ที่พิสูจน์ความเร็วมาเเล้วใน Samsung Galaxy S II
สิ่งที่ตัวนี้น่าห่วงกกลับเป็นเรื่องการใช้ประโยชน์จากกปากกามากกว่า เช่นเรื่องเเปลงจากลายเส้นไปเป็นตัวอักษร (OCR) หรือการตอบสนองของปากกาบนหน้าจอทำได้ดีเท่าไหนกัน เเต่จากประสบการณ์ที่เล่นมานั้นมีความรู้สึกว่า เทคโนโลยี Stylus บนจอเเบบ capacitive ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เเละคงต้องใช้เวลาซักระยะถึงจะทำให้ Productivity อยู่ในขั้นที่ใช้งานได้อย่างประสิทธิภาพ เช่นเเปลงลายมืเป็นตัวอักษรได้เเม่นยำขึ้น หรือซอฟเเวร์จดโน้ตมีความน่าใช้งานได้ในหลายส่วน เช่น การใช้ปากกาวงโน้ตไว้บนโปรเเกรมอ่าน PDF, Word หรือเเม้กระทั่งสมุดโน้ตหลายๆ เเบบ (มีเส้น ไม่มีเส้น) ให้มีความน่าใช้มากขึ้น ถึงเเม้จะมีการโชว์วาดรูปบน Samsung Galaxy Note ไปเเล้วก็ตามก็ถือว่าการตอบสนองทำได้ดี ต้องลองจับตัวจริงก่อนจะมาเล่าเพิ่มให้ฟังครับ
Samsung Galaxy S II White Edition
สถานะในงาน : มีโอกาสขายภายในงาน
ราคา : N/A
คงไม่ต้องกล่าวอะไรกันมากกับสมาร์ทโฟน Android ยอดนิยมตัวนี้ ที่พกจุดเด่นคือจอที่เป็น Super AMOLED Plus ที่ให้สีสันเหมือนกับเราดูภาพในโทรทัศน์ LED คุณภาพสูง ให้สีสันที่สดใสสวยงาม เมื่อรวมกับความเร็วของตัวประมวลผล Dual Core ที่ exclusive เฉพาะของบน Samsung Galaxy S II อย่าง Samsung Exynos 4210 ที่เวลาใช้งานจริงพบว่าความเร็วดีกว่าตัวอื่นอย่างเห็นได้ชัด เเละราคาที่เรียกได้เป็นการตั้งมาตรฐานสำหรับเครื่อง Hi end ในประเทศไทยใหม่ที่ 18,900 บาทจนทำให้เจ้าอื่นๆ ที่ใช้ Dual Core ที่ออกตามมาทีหลังอย่าง HTC Sensation, HTC EVO 3D, LG Optimus 3D ทำราคาสูงไปกว่านี้ได้ไม่มากนัก
สามอย่างนี้ถือเป็นจุดเเข็งที่ชัดเจนที่สุดที่ทำให้ Samsung Galaxy S II เป็นน่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในปีนี้ไปได้ไม่ยาก สำหรับตัวนี้ก็เป็นการออกเวอร์ชั่นสีขาวตามมาอย่าง iPhone 4 หรือ LG Optimus Black ที่เเล้วเเต่ความชอบของคนว่าอยากได้สีไหนมากกว่ากัน ราคาน่าจะเท่ากับตัว Samsung Galaxy S II ปกติเเต่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Samsung Thailand
Samsung Galaxy R
สถานะในงาน : มีโอกาสขายภายในงาน
ราคา : ประมาณ 15,xxx
สำหรับตัว Samsung Galaxy R นั้นทาง Samsung ได้ลดสเปคลงมาเล็กน้อย ถ้ามองเป็นคู่เเข่งจริงๆ ต้องเทียบกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ตัวประมวลผลเป็น NVIDIA Tegra 2 เหมือนกันอย่าง LG Optimus 2X หรือ Motorola Atrix เท่านั้น เพราะว่าประสิทธิภาพของ NVIDIA Tegra 2 นั้นไม่เท่ากับตัว Samsung Exynos ที่ใช้ใน Samsung Galaxy S II ตัวนี้จึงเหมือนอยู่ในตำเเหน่ง Dual Core ระดับเริ่มต้นอย่างสองตัวที่กล่าวมา ก็ถือว่าเป็น Dual Core ในระดับเริ่มต้นที่น่าสนใจดี หน้าจอก็ถูกเปลี่ยนเป็น Super LCD เเทนเพื่อไม่ให้ไปชนกับ Samsung Galaxy S II
นอกจากนี้เเล้วตัวนี้วัสดุยังเป็นอลูมิเนียม ยังเป็นตัวเเรกของ Samsung (เท่าที่รู้จักมา) ที่วัสดุเป็นอลูมิเนียมเข้ามาด้วย ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของ Samsung ที่โดนต่อว่าในเรื่องวัสดุมาช้านาน เรียกได้ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นวัสดุที่ดูีขึ้นสำหรับรุ่น Hi end ของ Samsung
Acer Iconia Tab A100 & A500
สถานะในงาน : ขายภายในงาน
ราคา : เเล้วเเต่รุ่น
เเท็บเล็ต Android Honeycomb 3.0 จาก Acer โดยจุดเด่นของค่ายนี้อยู่ที่การทำราคาที่เรียกว่าถูกที่สุดสำหรับเเท็บเล็ต Honeycomb ทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi หรือ 3G ซึ่งเเท็บเล็ต Honeycomb ตอนนี้ไม่มีความเเตกต่างทางด้านฮาร์ดเเวร์นักเพราะทุกตัวใช้ตัวประมวลผล NVIDIA Tegra 2 ทั้งหมดจึงไม่มีความเเตกต่างทางด้านประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด สำหรับตัว Acer Iconia Tab A500 รุ่นถูกสุดเป็นไปได้ว่าอาจจะได้เห็นที่ราคา 13,900 ที่เห็นโปรโมชันในลดราคาที่ Digital Gateway ซึ่งราคาปกติรุ่นต่ำสุดจะอยู่ที่ 15,900 บาท
ส่วน Acer Iconia Tab A100 นั้นเป็นการลดขนาดหน้าจอเเละความละเอียดหน้าจอลดลงมา เหลือ 7 นิ้วเเละความละเอียดหน้าจอเป็น 1024 x 600 พิกเซล ซึ่งมาพร้อมกับ Android Honeycomb 3.2 ที่ปรับปรุงในเรื่องความเร็วที่เห็นได้ชัดกว่าตัว 3.0 หรือ 3.1 ใครที่ชอบใช้งานเเบบพกพาเเท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากขนาดเล็ก เบา เเละยังพกพาได้ง่ายอีกด้วย ตามสไตล์ Acer เเล้วเป็นไปได้สูงที่เราอาจจะเห็นเเท็บเล็ตตัวนี้ที่ราคา 9,900 บาทก็เป็นไปได้ครับโดยราคาเต็มสำหรับรุ่น 16 GB Wi-Fi อยู่ที่ 12,900 บาท
Acer Iconia Smart
สถานะในงาน : ขายภายในงาน
ราคา : 15,900 บาท
สมาร์ทโฟนระดับกลางของ Acer ตัวเเรกในปีนี้ (ตัวเเรกเป็น Acer Liquid Mini) สำหรับตัวนี้ดูน่าจะพัฒนาในความเร็วขึ้นมากว่าตัว Acer Liquid Metal ที่ถือเป็นตัวระดับกลางของ Acer ในปีที่เเล้วมาก ตัวประมวลผลใช้เป็น Qualcomm MSM8255 ที่ความเร็วน่าจะพอใช้งานในทุกด้านของปีนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกมส์หรือการใช้งานในทุกๆ ด้าน ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับรอมของ Acer เเล้วว่าจะปรับรอมออกมาให้ได้ดีเเค่ไหน เพราะสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ ที่ใช้ Qualcomm MSM8255 อย่าง HTC Incredible S, Sony Ericsson Xperia Arc นั้นไม่มีปัญหาเรื่องความเร็วเเต่อย่างใด
สิ่งที่ตัวนี้ดูเเตกต่างมากที่สุดคืออัตราส่วนหน้าจอที่เป็น 21 : 9 UWVGA หน้าจอ 4.8 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 480 พิกเซล ที่ดูมีความสูงที่มากกว่าสมาร์ทโฟนเเบบปกติ เเละความละเอียดหน้าจอที่เเตกต่างกับเจ้าอื่นๆ อาจจะทำให้ตัวนี้มีปัญหากับเกมส์พอสมควร เหมือนกับหน้าจอเเบบ qHD (960 x 540 พิกเซล) ที่เล่นบางเกมส์ไม่ได้ เเต่ด้วยอัตราส่วนของหนังบางเรื่องที่เป็น 21 : 9 ก็อาจจะเป็นประโยชน์ถ้าดูหนังที่ความละเอียดนั้นบ่อยๆ
Sony Ercisson Xperia Mini/ Xperia Mini Pro
สถานะในงาน : ขายภายในงาน
ราคา : 7,490/ 8,490 บาท
สมาร์ทโฟน Android ของ Sony ถึงเเม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กเเต่ก็ใช้ตัวประมวลผลระดับกลางอย่าง Qaulcomm MSM8255 ที่ใช้ในมือถือระดับราคา 12,000 ? 16,000 ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่ให้ความเเรงมาเกินตัว เเละเมื่อนำมาใส่ในหน้าจอขนาดเล็กเเค่ 3 นิ้ว เเต่ความละเอียดหน้าจอ 480 x 320 เท่ากับ Samsung Galaxy Cooper อีกทั้งหน้าจอเเบบ Bravie Engine เเบบ Sony Ericsson Xperia Arc ในเวลาที่เขียนนี้นับว่าน่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มราคาที่สุดในช่วงต่ำหมื่นในเเง่ของประสิทธิภาพ ส่วนข้อเเตกต่างของ Xperia Mini Pro คือมีกล้องหน้าความละเอียด VGA เเละคีย์บอร์ดเเบบสไลด์ข้างมาให้
Sony Ercisson Xperia Ray
สถานะในงาน : อาจจะขายภายในงาน
ราคา : N/A
ในปีนี้ Sony Ericsson ได้ใช้ตัวประมวลผลตัวเดียวทั้งมือถือระดับเริ่มต้น กลาง เเละสูงของ Qualcomm MSM8255 สำหรับ Xperia Ray นี้ถูกจัดมาเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางเล็กๆ คล้ายๆ กับ Motorola Defy, HTC Desire ถ้าเทียบในเเง่ Performance ก็กินขาดทั้งสองตัวที่กลาวมาอย่างไม่ต้องสงสัย
กิมมิคเล็กๆ อย่างหนึ่งของ Sony Ericsson Xperia Arc อยู่ที่ค่า PPI สูงถึๆง 269 ที่ใกล้เคียงกับ iPhone 4 มากเนื่องจาก Sony Ericsson Xperia Ray มีหน้าจอ 3.3 นิ้ว ความละเอียด 854 x 480 (iPhone 4 มีค่า PPI = 326 เนื่องจากหน้าจอเใหญ่เพียง 3.5 นิ้วเเต่ความละเอียดสูงถึง 960 x 640 ทำให้ดูมีความหนาเเน่นของพิกเซลมากกว่า) นอกจากนี้ยังมี Bravia Engine เเละเลนส์กล้องถ่ายรูป Exmor R เหมือน Sony Ericsson Xperia Arc อีกด้วย จัดเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามองถ้าราอคาอยู่ในระดับ 12,000 ? 13,000 บาท
Sony Ercisson Xperia Arc S, Xperia Neo V
สถานะในงาน : ไม่ขายภายในงาน
ราคา : N/A
สำหรับทั้ง Sony Ericsson Arc S เเละ Neo V นั้นถือเป็นตัว varaint จากตัว Xperia Arc เเละ Neo เดิม สำหรับ Neo V นั้นเป็นการลดสเปคกล้องเดิมจาก 8 ล้านมาเหลือ 5 ล้านพิกเซล เเละเพิ่มฟีเจอร์ xLOUD ที่เพิ่มพลังเสียงของลำโพงที่เพิ่มเข้ามา ส่วน Xperia Arc S นั้นข้อเเตกต่างกับ Xperia Arc ตัวเเรกคือความเร็วของซีพียูเพิ่มความเร็วจาก 1.0 GHz ไปเป็น 1.4 GHz เท่านั้น ส่วนที่เหลือเรียกว่ามาจาก Xperia Arc เดิมเเทบทั้งหมด ทั้งสองตัวนี้มีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงเดือนตุลาคมครับ
LG
LG Optimus Net
สถานะในงาน : อาจจะขายภายในงาน
ราคา : N/A
LG Optimus Net นั้นดูเหมือนเป็นตัวอัพเดทจาก LG Optimus One โดยการอัพเกรดที่ซีพียูเป็นความเร็ว 800 MHz ส่วนที่เหลือยังคงเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นความละเอียดหน้าจอที่เป็น 480 x 320 กล้องละเอียดสามล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส เเบตเตอรี่ 1,500 MHz รวมๆ เเล้วเป็นมือถือใกล้ๆ กับ Samsung Galaxy Cooper ที่ขายในราคาเกือบหมื่นมาก เเต่เชื่อว่า LG คงเปิดตัวนี้มาราคาต่ำกว่าเเน่นอนอาจจะอยู่ในระดับ 7,xxx ได้ เเละเป็นสมาร์ทโฟน LG ฃุดที่ออกมาใหม่นี้เป็น Android 2.3 ทั้งหมด รวมถึงตัว LG Optimus Sol, LG Optimus Pro ด้วย
LG Optimus Pro
สถานะในงาน : ขายภายในงาน
ราคา : 6,290 บาท
ตัวนี้เป็น QWERTY Phone มาเเนวคิดเดียวกับ HTC ChaCha หรือ Samsung Galaxy Pro ซึ่งมีการสกรีนตัวอักษรภาษาไทยมาบนเครื่องด้วย สเปคคล้ายๆ กับ LG Optimus Net เเต่หน้าจอลดลงมาเหลือ 2.8 นิ้วเเละความละเอียดหน้าจอลดลงเหลือ 320 x 240 เท่านั้น
LG Optimus Sol
สถานะในงาน : อาจจะนำมาโชว์ภายในงาน
ราคา : N/A
จากสเปคของตัวนี้นั้นถือว่าใกล้เคียงกับ LG Optimus Black ทั้งในเเง่ความเร็วเเละหน้าจอ โดยตัวนี้ LG ได้เปลี่ยนไปใช้เป็น Ultra AMOLED เเทน เเต่จากที่ลองไปสัมผัสดูเเล้วก็ไม่พบว่าต่างกับตัว LG Optimus 2X หรือ LG Optimus 3D มากนัก
ส่วนตัวประมวลผลนั้นก็ได้ใช้ตัว Qualcomm MSM8255 ที่อยู่ในตัวของพวก Samsung Galaxy S Plus, HTC Desire S, HTC Incredible S ส่วนกล้องนั้นก็ยังให้ความละเอียดมา 5 ล้านพิกเซลพร้อมออโต้โฟกัส เเละกล้องหน้าความละเอียด VGA (เเต่ตัวนี้ไม่มี LED Flash)
BlackBerry Bold 9900,
สถานะในงาน : ขายภายในงาน
ราคา : 18,900 ? 20,900
BlackBerry เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ ที่เพิ่มความเร็วเป็น 1.2 GHz อีกทั้งยังมี GPU เข้ามาช่วยประมวลผลได้ราบลื่นยิ่งขึ้นมากับ BlackBerry OS 7 ที่ปรับเปลี่ยนหน้าตาให้ดูเหมือน QNX บน BlackBerry Playbook นอกจากนั้นเเล้วตัวนี้ยังเพิ่มความละเอียดหน้าจอไปเป็น 640 x 480 ในหน้าจอขนาด 2.8 นิ้วทำให้ภาพที่ได้มีความเนียนตามาก กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash เเต่เป็นเเบบ Full Focus ความเร็วในการใช้งานทั่วไปนั้นเรีบกได้ว่าหายห่วงเเละมีความสมูธระดับ iPhone อีกทั้งตัวนี้ยังมีวัสดุในระดับพรีเมียมคือขอบด้านข้างนั้นเป็นอลูมิเนียมเเบบขัดเพิ่มความมีระดับเข้าไปอีก เเต่ด้วยตอนนี้นั้นไม่ใช่ยุครุ่งเรืองของ BlackBerry อย่างที่เป็นในปีที่เเล้ว จะหาคนมาใหม่มาใช้ BlackBerry อาจจะไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อก่อน เเต่ก็เป็นมือถือที่เน้นในด้านรสนิยม ความภูมิฐานมากกว่าในเรืองของความคุ้มค่าเป็นหลัก