กลับมาอีกรอบสำหรับงานมือถือในช่วงปลายปีคืองานหลักอย่าง Thailand Mobile Expo 2012 ที่ครั้งนี้ก็มีตัวเลือกใหม่ๆ โดยเฉพาะกับสมาร์ทโฟนระดับ 5 นิ้วอย่าง LG Optimus Vu เเละ Samsung Galaxy Note II ที่ถือเป็นสองเครื่องหลักของงานนี้ทีเดียว ในฝั่งเเท็บเล็ตก็จะมีตัวที่พึ่งออกมาหมาดๆ อย่าง Galaxy Note 10.1 เเละ Nexus 7 มาให้ซื้อเเละลองจับกันในงาน
ซึ่งก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่มือถือรุ่นใหม่หลายตัวนั้นมีกำหนดออกในช่วงหลังพฤศจิกายนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น Nokia Lumia 820/920, Sony Xperia T/V หรือเเม้กระทั่ง iPhone 5 ถ้าพูดตามตรงก็เป็นช่วงเลทของการซื้อสมาร์ทโฟนเเล้วสำหรับหลายๆ รุ่น ซึ่งครั้งนี้จะมาเเนะนำสำหรับตัวที่น่าสนใจในงานครั้งนี้ครับ
Acer
ในปีนี้ Acer ก็เริ่มลดไลน์โปรดักส์ลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะมือถือที่เราเห็นว่าออกมาเพียงเเค่รุ่นเดียวคือ Acer CloudMobile S500 ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้ Qualcomm Snapdragon S4 ที่ใช้หลายตัวในระดับไฮเอนด์ เเต่ราคาของ CloudMobile นั้นวางขายเพียง 13,900 บาทเท่านั้น เเละยังมากับหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล เเรม 1 GB ซึ่งถือว่าถูกทีเดียว ซึ่งส่วนที่เหลือก็อยู่ในระดับกลางๆ ส่วนมือถือตัวอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นรุ่นค้างปีมา ไม่ค่อยน่าซื้อเสียเท่าไร
ในส่วนของเเท็บเล็ตนั้นเเบ่งออกเป็นสองซีรีย์ใหญ่ๆ คือ Iconia Tab A2xx ที่เป็นหน้าจอความละเอียดระดับ 1280 x 800 พิกเซล กับเเบตเตอรี่ประมาณ 3000 mAhในขณะ Iconia Tab A7xx นั้นมีหน้าจอระดับ Full HD 1080p เเละเเบตเตอรี่ประมาณ 9800 mAh ?ซึ่งถ้าดูความลื่นเเละสมูธในการใช้งาน A200 จะดูกว่าเพราะหน้าจอมีความละเอียดต่ำทำให้เเสดงผลได้ราบลื่นกว่า ในขณะที่ A700 นั้นเเสดงภาพได้ละเอียดสวยงามกว่า เเต่ก็อาจจะมีอาการกระตุกให้เห็นบ่อยกว่าเช่นกัน ดูรวมๆ เเล้ว A200 จะเหมาะกว่าเพราะราคาเเค่ 7900 บาทเเถมยังลื่นกว่า เเต่ถ้าอยากได้จอ Full HD ก็ A700 ได้เลย ส่วนรุ่นอื่นๆ ไม่น่าสนใจเท่าไร
รุ่นน่าซื้อ : Acer CloudMobile S500, Acer Iconia Tab A200
Asus
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งเเรกที่ Asus มาออกงาน Thailand Mobile Expo ซึ่งเพราะส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Asus มีมือถือมาขายเเล้วอย่าง PadFone ที่เป็นส่วนผสมระหว่างเเท็บเล็ตเเละมือถือในเครื่องเดียวกัน ซึ่งถ้าซื้อครบชุดก็ถือว่าราคาถูกกว่าสมาร์ทโฟนเเละเเท็บเล็ตเเบบเเยก ซึ่งก็เหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจซื้อเเท็บเล็ตเเละมือถืออยู่เเล้วก็ถือว่าดีปกติ เเต่ถ้าให้พูดเเยกเป็นส่วนๆ เเล้ว ตัวโทรศัพท์นั้นทำออกมาได้ดี เร็ว เเละดีไซน์โอเคตามสไตล์ของ Asus เเต่ตัวเเท็บเล็ตนั้นไม่ประทับใจนักเพราะหน้าจอเป็น LCD ปกติไม่ได้เป็น IPS ตามมาตรฐานของ Asus ที่ใช้ในพวก Transformer ทั่วไป ส่วนปากกานั้นก็ไม่ได้ถือเป็นจุดขายนักเพราะหัวใหญ่ทำให้ใช้งานได้ค่อนข้างจำกัด
สำหรับไฮไลท์ของงานนี้อยู่ที่ Nexus 7 ที่เป็นเเท็บเล็ต 7 นิ้วจาก Google ที่มีราคาต่ำ ประสิทธิภาพสูงเเละได้รับตัวอัพเดท Android จาก Google ที่เร็วกว่าเจ้าอื่นๆ สำหรับราคาอยู่ที่ 9900 บาท ถึงราคาจะออกสูงไปซักหน่อยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ เเต่ก็สะดวกในการซื้อเเละประกันมากกว่าเพราะซ่อมที่ศูนย์ Asus ได้เลย โดยนำมาจำหน่ายเฉพาะรุ่น 16 GB Wi-Fi เท่านั้น ซึ่งในงานนี้จะนำมาขายในวันศุกร์ที่ 5 นี้เพราะของมาไม่ทันวันพฤหัสบดีครับ ส่วน Transformer Pad Infinity นั้นก็มีสเปคคล้ายกับ Iconia Tab A700 เเต่มีคีย์บอร์ดดอคเเละวัสดุที่ดูหรูหว่า
รุ่นน่าซื้อ : Padfone (เฉพาะตัวโทรศัพท์) ถือว่าอยู่ในขั้นดีเเต่ไม่ถึงกับคุ้มค่า ส่วน Nexus 7 ถือว่าบวกกับค่าเซอร์วิสประกันที่สะดวกมากกว่า ถ้าคิดว่าเเพงไปก็ซื้อเครื่องนอกดีกว่าครับ
HTC
สำหรับ HTC นั้นก็ปรับ One X ลงมา Offical ในราคาต่ำกว่าสองหมืนเรียบร้อยทำให้ราคาของ One S ลงมาด้วย ซึ่งตัว One X นั้นอีกไม่นานราคาก็คงจะดิ่งลงมาอีกเพราะ One X+ ออกมาเเล้วที่ต่างประเทศ ทำให้ไม่ค่อยน่าซื้อเท่าไรนักตอนนี้ ในขณะที่ HTC One S ที่จำเป็นต้องปรับเพดานให้ต่ำกว่า One X เสมอๆ จึงลงมาที่ 15,900 อาจจะเป็นรุ่นที่ราคาดิ่งโหดที่สุด เมื่อ One X+ เข้าไทยมาอีกที ซึ่งอาจจะเห็นที่ 13,900 ก็เป็นได้
ซึ่งจริงๆ เเล้วสเปคระดับ HTC One S ก็มีตัวอื่นที่น่าใช้มากกว่า เนื่องจากข้อเสียหลักๆ ของ One S คือหน้าจอที่เป็น Pentile เเละใช้ซีพียูตัวเก่านั่นเอง เเต่ก็สามารถเเสดงผลได้อย่างราบลื่นเพราะมีความละเอียดระดับ qHD เท่านั้น
ในขณะที่รุ่นระดับกลางอย่าง Desire V ที่เป็นสองซิมก็ถือว่าน่าใช้งานอยู่เพราะหน้าจอขนาด 4 นิ้วในราคา 10,900 บาทเสียตรงซีพียูเก่าไปนิด เเต่เท่าที่ลองจับก็ไม่มีปัญหาเท่าไรนัก โดยดีไซน์ถือว่าดีในช่วงหมื่นบาททีเดียว นอกจากนี้ Desire C ก็เป็นตัวที่น่าเล่นตัวหนึ่งจากเรื่องวัสดุ ดีไซน์ เเละ Android 4.0 ในราคาไม่ถึง 7000 บาทเเละไม่มีอาการหน่วงให้เห็นสำหรับการใช้งานเเบบทั่วไปที่ไม่กินเเรงเครื่องมากนัก
รุ่นน่าซื้อ : HTC Desire V, HTC Desire C เน้นวัสดุเเละดีไซน์, HTC One X ก็ดีเเต่ราคาคงตกอีกเร็วๆ นี้เเน่นอนจากการมาของ One X+
LG
ไลน์ของ LG ในปี 2012 ถือว่าดีกว่าปี 2011 พอสมควร จากการตั้งเพดานของรุ่นไฮเอนด์ไว้ไม่เกิน 20000 บาทเเต่มีสเปคเท่ากับหรือใกล้เคียงกับคู่เเข่งในระดับสองหมื่นขึ้นไปมาก ซึ่ง Optimus Vu ในราคา 18,900 บาทนั้นถือว่าน่าสนใจมากทีเดียว ลองอ่าน hands-on ดูได้ครับ ส่วน LG Optimus 4X ก็ถูกลดลงมาเหลือ 16,900 บาทกับสเปคเเละอะไรที่คล้ายๆ กับ HTC One X เเละ Samsung Galaxy S III ถ้าเรียกว่าถ้าเน้นสเปคเป็นหลักละก็ LG ถือว่าทำได้ดีที่สุดในปีนี้
ส่วนตัวระดับ mid range ก็น่าสนใจหลายตัว อย่าง LG Prada ที่ลดลงมาอีกเหลือ 14900 กับเด่นในเรื่องดีไซน์เเละวัสดุที่ดี บวกกับเเบรนด์ Prada ก็เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของบางคนที่นิยมชมชอบในเเบรนด์นี้ได้ LG Optimus ทั้ง L3, L5, L7 ก็ลดราคามาในระดับที่น่าซื้อทุกตัว เเต่ Optimus L7 นั้นอาจจะพบปัญหากระตุกมากหน่อยเนื่องจากหน้าจอละเอียดเกินกำลังของซีพียูที่ใช้
เเต่ปัญหาหนึ่งของ LG ที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์คือระยะเวลาในการอัพเดทเป็น Android เวอร์ชันใหม่ว่าจะทำได้ดีเเค่ไหน เพราะในปัจจุบันมือถือระดับไฮเอนด์หลายตัวในปี 2011 มีไม่กี่รุ่นเท่านั้นอัพเดทเป็น Android 4.0 เเล้ว ในขณะที่เเบรนด์อื่นๆ ทยอยอัพให้หมดเเล้ว เเต่ถ้าไม่ใส่ใจเรื่องตัวอัพเดทเเล้วมือถือหลายตัวของ LG ถือว่าโอเคมากครับ
รุ่นน่าซื้อ : LG Optimus Vu, LG Optimus 4X, LG Optimus L5, LG Optimus L3
OPPO
จุดเด่นของ OPPO นั้นสำหรับFinder เเละ Find 3 อยู่ที่วัสดุเเละสเปคที่จัดว่าดูดีกว่าเพื่อนๆ ในระดับเดียวกันพอสมควร เเต่รอมนั้นยังสามารถปรับปรุงเเก้ไขให้น่าใช้งานได้มากกว่านี้ออกเพราะเหมือนดีไซน์ดูหาตัวเองไม่เจอว่าจะไปทางไหนกันเเน่ ถือกลายเป็นจุดบอดสำคัญของ OPPO ที่ทำให้ดูยังไม่ก้าวพ้นความเป็นจีนเท่าไรนัก ความเด่นเหนือเเบรนด์จีนร่วมชาติอื่นๆ อย่าง Huawei จึงอยู่ที่วัสดุเท่านั้นเอง ส่วนถ้าเทียบกับ Sony เเล้วราคา Sony จะเเพงกว่าประมาณ 2000 บาทเเต่ก็ได้อะไรที่ดูสมบูรณ์เเละครบถ้วนกว่า เเต่ถ้าจับเเล้วชอบก็ไม่มีปัญหาใดๆ เพราะข้อด้อยของ OPPO นั้นเป็นเรื่องของรสนิยมในเรื่องการมองความสวยงามเสียมากกว่า
ในขณะที่ Find Gemini กับ Find Guitar นั้นดีไซน์รอมจะออกมาดูสดใสเเละสวยงาม (ส่วนตัวคิดว่าดีกว่า Find 3 เเละ Finder เสียอีก) ในราคาช่วง 6900 ? 9900 ได้ซีพียู 1 GHz เเละเเบตเตอรี่ในระดับ 1400 ? 1700 mAh ก็ถือว่าน่าใช้อยู่ เเต่ข้อด้อยของตัวนี้คือวัสดุที่ดูไม่ค่อยสมราคาระดับเกือบหมื่นมากนัก โดยเฉพาะ Find Gemini
รุ่นน่าซื้อ : Oppo Find 3, Oppo Find my Guitar เเต่เหมือนจะไม่ได้ Android 4.0
Samsung
สำหรับเเบรนด์ที่ติดลมบนไปเเล้ว ซึ่งตัวที่โดดนเด่นก็ไม่พ้นกับ Samsung Galaxy Note II ที่กำลังจะวางขาย (พร้อมมีให้จับลองเล่นในงาน) ที่ Thailand Mobile Expo ครั้งนี้เป็นที่เเรกด้วย ซึ่งสเปคนั้นก็ใกล้เคียงกับ Galaxy S III เเต่มีปากกาพร้อมช่องใส่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หน้าจอเพิ่มเป็น 5.5 นิ้วนั่นเอง ซึ่งตัวเครื่องก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่ขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ในขณะที่เครื่องอย่าง Galaxy S III ก็เป็นเครื่องที่พิสูจน์ในตัวเองกับยอดขายที่ผ่านมาหลายเดือนที่ทำลายสถิติของสองรุ่นเเรกไปเรียบร้อย
ในขณะเดียวกัน เครื่องอย่าง Galaxy Note 10.1 นั้นกลับมีเสียงตอบรับที่ไม่ดีนัก ทั้งๆ ที่ใช้ตัวประมวลผล Exynos Quad ตัวเดียวกับ Galaxy S III เเต่มีอาการหน่วงให้เห็นกว่าชัดเจน ถึงเเม้จะมีคอนเซ็ปที่น่าสนใจที่ใช้ปากกาวาดบนเเท็บเล็ตที่มีพื้นที่กว้างกว่าบนจอสมาร์ทโฟนปกติ ทำให้สามารถใช้งานวาดรูปหรือจดโน้ตได้ดีกว่า เเต่เรื่องการใช้งานที่ตอบสนองไม่ดีนักทำให้รุ่นนี้กลายเป็นรุ่นที่ตกม้าตายไปอย่างน่าเสียดาย
สำหรับเครื่องระดับกลางนั้นที่น่าสนใจคือ Galaxy S Advance, Ace 2, Ace Plus ให้เลือกกันตามสะดวกตามงบประมาณ เครื่องรุ่นล่างก็ยังมี Galaxy Pocket เเละ Galaxy Y ให้ใช้กันได้อยู่สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดเเต่อยากใช้ Android ซึ่งก็ถือว่าใช้งานได้ดีตามราคาทีเดียว ไม่ช้าจนถึงขั้นใช้งานไม่ได้
รุ่นน่าซื้อ : Samsung Galaxy S III, Galaxy Note II, Galaxy S Advance, Galaxy Ace 2, Galaxy Ace Plus, Galaxy Pocket, Galaxy Y
Sony
Sony ในตอนนี้อยู่ในช่วงใกล้เลหลังเพื่อนำ Xperia T, V เเละ J มาขายในช่วงปลายปีที่ใช้ Snapdraon S4 ทั้งล็อตจึงจัดเป็นเครื่องในเจนถัดไปของ Sony ที่จะมาเเทนตระกูล Xperia S, SL , acro S เเละ Ion ในปัจจุบันนี้
ตัวที่น่าสนใจสุดตอนนี้คงหนีไม่พ้น Xperia acro S ที่นานๆ เราจะเห็นสมาร์ทโฟนกันน้ำกันฝุ่นโผล่ระดับไฮเอนด์โผล่มาเสียทีกับค่าตัว 17900 บาทอาจจะดูสูงไปซักนิด เเต่ถ้าก็มีฟีเจอร์ที่ไม่ซ้ำกับคนอื่นเช่นเดียวกัน เเต่ถ้าใครอยากได้จอใหญ่ก็ Xperia Ion ที่มีหน้าจอใหญ่กว่า acro S ในราคาเท่ากัน ส่วน Xperia S ที่เริ่มจะเฟดออกจากตลาดไปเเล้ว ก็อาจจะมีให้เห็นกันบ้างเพื่อหลีกทางให้กับ Xperia SL มาทำตลาดต่อ โดยที่ความต่างอยู่ที่ซีพียูของ Xperia SL นั้นเร็วกว่า 200 MHz เเละมีสีอื่นให้เลือกมากขึ้น
เครื่องในระดับกลางที่น่าสนใจจริงๆ มีเเค่ Xperia P ที่ได้ตัวประมวลผล Dual-Core + หน้าจอ 4 นิ้ว + บอดี้หลังอลูมิเนียม ในขณะเครื่องระดับเริ่มต้นที่น่าสนใจคือ Xperia Tipo ที่ให้สเปคมาค่อนข้างดีทีเดียว ถ้ามีงบในระดับ 6000 บาทก็เล่นได้เลยครับ
รุ่นน่าซื้อ : Xperia Ion, Xperia P, Xperia Tipo, Xperia S (ถ้าได้ประมาณ 13k)
Motorola
มือถือ Motorola ครั้งนี้เรียกว่าเลหลังกันอย่างโหดเรียกว่าน่าซื้อกันเกือบทุกรุ่น หลังจากที่รอบที่เเล้วทำการเซล Atrix 2 ราคา 9900 บาทไปจนเเทบไม่เหลือของ ครั้งนี้ก็เป็นคิวของเครื่องเกือบทุกรุ่นโดยไฮไลท์อยู่ที่ Motorola RAZR ที่ลดเหลือ 10,900 บาท เเละ RAZR Maxx ที่เหลือ 13,900 บาทเท่านั้น Motorola Xoom 3G เองก็ลดเหลือเพียง 9900 บาทเท่านั้น เป็นเเท็บเล็ต 10.1 นิ้ว 3G ที่ราคาถูกที่สุดก็ว่าได้
รุ่นน่าซื้อ : Motorola RAZR, RAZR Maxx เเต่ถ้าอัพเดทเป็น Android 4.0 เเล้วความเร็วการใช้งานตกลงพอสมควร
สรุปสภาพงาน
อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่างานนี้ขาดมือถือที่ใกล้จะออกในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปหลายตัว โดยเฉพาะ Sony ในฝั่ง Android ในใช้ Snapdragon S4 นั้นหายไปยกชุดซึ่งเพิ่งเริ่มวางขายในต่างประเทศเท่านั้น ในฝั่ง Windows Phone 8 ก็ขายไม่ทันเลยเพราะว่ามีการเปิดตัวช่วงปลายเดือนตุลาคม สภาพจึงเป็นอย่างที่เห็นว่ามีการเลหลังมือถือหลายรุ่นเพื่อล้างสต็อกนำรุ่นใหม่เข้ามาในช่วงปลายปีนี้อีกทีหนึ่งหลังงาน
ตัวนี้น่าลงทุนสำหรับ Android ยังเป็นตระกูล Flagship หลายๆ ตัวไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy S III ที่ถือว่าราคาค่อนข้างนิ่ง เเต่ HTC One X ยังมีโอกาสร่วงต่อในปลายปีเพราะ One X+ ในขณะที่ LG Optimus 4X ก็ร่วงต่อได้อีกถ้า LG นำ Optimus G ขึ้นมา เเต่ถ้าตัวนั้นมาในราคาสองหมื่นกว่าราคาของ Optimus 4X ก็จะนิ่งไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าเราจะเห็น Nvidia Tegra 4 ออกมาในปีหน้า
ส่วนรุ่น mid-range เเละ entry ก็สามารถซื้อเลยได้ในช่วงนี้ถ้ามีการลดราคา เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องใหม่ในระดับนี้ออกมามากนัก ส่วนถ้าใครรอ Windows Phone 8 กับ Sony ล็อตใหม่ก็ข้ามงานนี้ไปได้เลยครับ หรืออาจจะไปลองเดินเล่นจับๆ ดูของกันก็ได้เพราะมีให้เล่นกันเยอะในงานเเน่นอน