สรุปข่าวมือถือประจำสัปดาห์ : realme เปิดตัว GT2 Pro แล้ว | Infinix Zero 5G ราคามาแล้ว | หลุดสเปคเกลี้ยง Galaxy M53 5G ฯลฯ

สรุปข่าวมือถือประจำสัปดาห์ 21 – 26 มีนาคม 2565 มาแล้วครับ เราจะมาสรุปข่าวมือถือที่น่าสนใจซึ่งเกิดขึ้นในสัปดาห์ให้กับเพื่อนๆ ได้อ่านกัน ใครที่พลาดข่าวหรือไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ เรามาสรุปข่าวมือถือให้อ่านกับแบบสั้นๆ แล้ว ซึ่งในตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง เราไปดูกันได้เลย

สรุปข่าวมือถือเด่นประจำสัปดาห์ 21 – 26 มีนาคม 2565

realme เปิดตัว realme GT2 Pro ในไทย พร้อมเผยราคา realme narzo 50 และ narzo 50 Prime แล้ว

ในวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา realme ได้ทำการเปิดตัวมือถือระดับเรือธงรุ่นใหม่อย่าง realme GT2 Pro ซึ่งมีจุดเด่นคือเป็นมือถือเครื่องแรกที่ผลิตจากวัสดุพอลีเมอร์ชีวภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้รับการดีไซน์โดยดีไซเนอร์ชื่อดังชาวญี่ปุ่น นาโอโตะ ฟูกาซาวะ มาพร้อมสเปคแบบจัดเต็มด้วยขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 1 หน้าจอ LTPO AMOLED 120Hz แบบ Adaptive ที่สามารถปรับอัตตรารีเฟรชได้ตามการใช้งาน มีกล้อง 50MP ทั้งกล้องหลักและกล้องอัลตร้าไวด์ และมีกล้องไมโครสโคปกำลังขยายสูงสุด 40 เท่ามาด้วย ช่วยให้การถ่ายภาพมีความหลากหลายขึ้นเยอะ นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh และระบบชาร์จเร็ว SuperDart Charge Enhanced ขนาด 33W ที่ใช้เวลาแค่ 33 นาทีก็สามารถชาร์จจนเต็มได้เลย ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถหาซื้อได้ในราคาเพียง 24,990 บาทเท่านั้น

นอกจากเปิดตัว realme GT2 Pro แล้ว realme ยังได้เปิดตัวซีรี่ส์เกมมิ่งน้องเล็กอย่าง narzo 50 และ narzo 50A Prime ที่ให้สเปคมาค่อนข้างน่าสนใจในงบเริ่มต้น 5,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นมือถือเพื่อการเล่นเกมสำหรับคนงบน้อยเลยก็ว่าได้ โดย narzo 50 นั้นจะมาพร้อมจุดเด่นคือหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด Full-HD+ ที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz ที่สามารถปรับค่าเองได้ตามการใช้งานตั้งแต่ 30Hz – 120Hz มีกล้องหลังความละเอียด 50 MP และรองรับระบบชาาร์จเร็ว 33W Dart Charge ในราคาเริ่มต้น 5,999 บาท

สำหรับ narzo 50A Prime นั้นคือ narzo 50 แบบลดสเปค โดยจะได้หน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ Full-Hd+ เหมือนกัน แต่อัตรารีเฟรชจะกลับมาเป็นค่าพื้นฐาน 60Hz หน้าจอกลับไปใช้ notch รูปหยดน้ำ มาพร้อมชิปประมวลผล Unisoc T612 ที่เป็นชิปราคาประหยัด และมาพร้อมระบบชาร์จเร็วขนาด 18W ส่วนกล้องนั้นเป็นชุดเดียวกันโดยตัวกล้องหลักมีความละเอียดถึง 50 MP มีราคาเริ่มต้นที่ 4,999 บาท

ตารางสรุปสเปค

	realme GT2 Pro	realme narzo 50	realme narzo 50A Prime
ขนาด	163.2 x 74.7 x 8.2 มม.	164.1 x 75.5 x 8.5 มม.	164.4 x 75.6 x 8.1 มม.
น้ำหนัก	189 กรัม	194 กรัม	189 กรัม
หน้าจอ	LTPO AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว 3216 x 1440 พิกเซล Refresh Rate 120Hz HDR10+ 1B Color Gorilla Glass Victus	IPS-LCD ขนาด 6.6 นิ้ว 2412 x 1080 พิกเซล Refresh Rate 120Hz	IPS-LCD ขนาด 6.6 นิ้ว 2408 x 1080 พิกเซล Refresh Rate 60Hz
ชิปประมวลผล	Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1	MediaTek Helio G96	Unisoc T612
แรม / ความจุ	12GB / 256GB	4GB / 64GB 6GB / 128GB	4GB / 64GB 4GB / 128GB
กล้องหลัง	50 MP, f/1.8, OIS (wide) 50 MP, f/2.2 (ultrawide) 3 MP, f/3.3, AF, 40x magnification (microscope)	50 MP, f/1.8 (wide) 2 MP, f/2.4 (macro) 2 MP, f/2.4 (B&W)	50 MP, f/1.8 (wide) 2 MP, f/2.4 (macro) 2 MP, f/2.4 (B&W)
กล้องหน้า	32 MP, f/2.4	16 MP, f/2.1	8 MP, f/2.0
แบตเตอรี่	5,000 mAh 33W SuperDart Charge Enhanced	5,000 mAh 33WDart Charge	5,000 mAh ชาร์จเร็ว 18W
ราคา	24,990 บาท	5,999 บาท (64GB) 6,999 บาท (128GB)	5,999 บาท (64GB) 5,799 บาท (128GB)

---

realme เปิดตัว realme GT NEO3 ในจีน มาพร้อมชิป Dimensity 8100 และระบบชาร์จเร็ว 150W

หลังจากที่ realme ได้เปิดตัว realme GT2 Pro แบบ Global ไปในวันถัดมา realme ก็ได้เปิดตัว realme GT NEO3 ตามมาติดๆ แต่ว่าเป็นการเปิดตัวในจีนนะ ซึ่ง GT NEO3 ตัวนี้ได้สเปคที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเรือธงแล้วไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 120Hz ชิปประมวลผล Dimensity 8100 ที่แรงเทียบเท่า Snapdragon 888 และที่โดดเด่นที่สุดก็คือระบบชาร์จเร็ว 150W UltraDart ซึง่ทาง realme เคลมมาเลยว่าสามารถใช้ชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh ใน GT NEO3 จาก 0% – 50% ได้ในเวลาสั้นๆ แค่ 5 นาทีเท่านั้น จะเรียกว่าเป็นมือถือเรือธงราคาประหยัดตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถึงจะยังไม่แน่ใจว่าจะเข้าไทยไหมก็ตาม (ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเข้าไทยนะ)

สรุปสเปค realme GT NEO3

• หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 2412 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 120Hz, Touch-sampling Rate 360Hz, HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1000 nits
• ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 8100
• แรม / ความจุ :
  • 6GB / 128GB
  • 8GB / 128GB
  • 8GB / 256GB
  • 12GB / 256GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.9, OIS (wide)
  • ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.3, 120˚ (ultrawide)
  • ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
• กล้องหน้า : 16 MP, f/2.5
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว UltraDart ขนาด 80W / 150W
• ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0
• การเชื่อมต่อ :
  • 5G
  • Wi-Fi 6E
  • Bluetooth 5.2
  • GPS, dual-band A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
  • NFC
  • USB Type-C 2.0
• ขนาด : 163.3 x 75.6 x 8.2 มม.
• น้ำหนัก : 188 กรัม

---

เปิดราคา Infinix Zero 5G แล้ว สเปคจัดเต็มทั้งจอ 120Hz กล้องซูม 30 เท่า เสียง DTS Wi-Fi 6 ในราคาแค่ 7,999 บาท

Infinix Zero 5G มือถือ 5G ตัวแรกของทาง Infinix ในที่สุดก็เปิดราคามาแล้ว ซึ่งสเปคที่ให้มานั้นเรียกได้ว่าคุ้มจนไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วกับราคาที่ขายเพียง 7,999 บาท ซึ่งสเปคที่ให้มาไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full-HD+ ที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz มี Touch-sampling Rate สูงถึง 240Hz ใช้ชิปประมวงลผลเป็น MediaTek Dimensity 900 5G ซึ่งนอกจากจะรองรับ 5G แล้วยังรองรับ Wi-Fi 6 อีกด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Extened RAM ที่จากมีอยู่เดิม 8GB จะเพิ่มแรมได้สูงสุดถึง 11GB นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องความละเอียด 48 MP ที่สามารถซูมได้สุงสุดถึง 30 เท่า เท่านั้นไม่พอ ยังมาพร้อมระบบเสียง DTS และระบบชาร์จ 33W อีกด้วย

สรุปสเปค Infinix Zero 5G

• หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.78 นิ้ว, ความละเอียด 2460 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 120Hz, Touch-sampling Rate 240Hz
• ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 900 5G
• แรม / ความจุ : 8GB / 128GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 48 MP, f/1.8, 30x Digital Zoom (wide)
  • ตัวที่ 2: 13 MP, f/2.5, 2x Optical Zoom (telephoto)
  • ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (depth)
• กล้องหน้า : 16 MP, f/2.0
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 33W
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย XOS 10
• การเชื่อมต่อ :
  • 5G
  • Wi-Fi 6
  • Bluetooth 5.0
  • GPS, A-GPS
  • USB Type-C 2.0
• ขนาด : 168.7 x 76.5 x 8.8 มม.
• น้ำหนัก : 199 กรัม

---

หลุดสเปค Samsung Galaxy M53 5G หมดเปลือก ทั้งหน้าจอ Super AMOLED 120Hz Dimensity 900 กล้อง 108MP ก่อนเปิดตัววันที่ 27 มีนาคม

หลังจากที่ Samsung เปิดตัว Samsung Galaxy A53 5G ไปแล้ว ก็เป็นที่แน่นอนว่าจะต้องมี Samsung Galaxy M53 5G ตามมาด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งแต่เดิม Galaxy M จะต้องมีสเปคที่ค่อนข้างคล้ายกับ Galaxy A แต่ทว่าในครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทีเดียว แถมยังเป็นการอัพเกรดจาก Galaxy M52 5G เยอะพอสมควรด้วย ซึ่งจากข้อมูลที่หลุดออกมานั้นนอกจากจะใช้หน้าจอ Super AMOLED 120Hz เหมือนเดิมแล้ว ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh และระบบชาร์จขนาด 25W เหมือนเดิมด้วย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือขนาดหน้าจอเพิ่มเป็น 6.7 นิ้ว ชิปประมวลผลเปลี่ยนไปใช้เป็น MediaTek Dimensity 900 5G กล้องหลักเปลี่ยนเป็นเซ็นเซอร์ความละเอียด 108 MP แทน นอกจากนี้กล้องหน้ายังเปลี่ยนไปใช้ความละเอียด 32 MP แทนด้วยเช่นกัน แต่ที่ทำให้หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยพอใจกันก็คือ Galaxy M53 5G จะไม่มีหัวชาร์จแถมมาให้ในกล่องด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นไปตามนโบายของ Samsung ที่จะไม่แถมหัวชาร์จแล้วนั่นเอง โดย Galaxy M53 5G นั้นจะเปิดตัวที่เวียดนามในวันที่ 27 มีนาคม 2565 ส่วนการเปิดตัวในประเทศไทยนั้นคงต้องรอทาง Samsung ประกาศอีกที แต่โดยส่วนตัวคิดว่าเข้าไทยแน่ๆ

สรุปสเปค Samsung Galaxy M53 5G แบบคร่าวๆ

• หน้าจอ : Super AMOLED, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Full-HD+, Refresh Rate 120Hz
• ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 900 5G
• แรม / ความจุ :
  • 8GB / 128GB
  • 8GB / 256GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 108 MP (wide)
  • ตัวที่ 2: 8 MP (ultrawide)
  • ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
  • ตัวที่ 4: 2 MP, f/2.4 (depth)
• กล้องหน้า : 32 MP
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 25W
• ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย OneUI 4.1

---

เข้าไทยแล้ว Redmi 10C ชิป Snap 680 จอใหญ่ 6.71 นิ้ว ในราคาเริ่มต้นแค่ 4,299 บาท

Redmi 10C มือถือรุ่นเริ่มต้นสเปคโดนใจที่เปิดตัวในอินเดีย ในที่สุดก็มาไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัว Redmi 10C จะมีจุดเด่นคือหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.71 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ HD+ ได้ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 680 ที่เรียกได้ว่าแรง มีความจุให้เลือกสูงสุดถึง 128GB ได้กล้องหลักความละเอียด 50 MP แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh และระบบชาร์จขนาด 18W (แต่ว่าในกล่องให้หัวชาร์จ 10W มานะ) ซึ่งทาง Xiaomi เคลมว่าด้วยชิป Snapdragon 680 ทำให้สามารถใช้เล่นเกมแบบตจ่อเนื่องได้ยาวนานถึง 11 ชั่วโมงเลยทีเีดยว แถมยังมีการอัพเกรดให้ลำโพงเสียงดังขึ้น 40% อีกด้วย โดย Redmi 10C จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ Graphite Gray, Mint Green และ Ocean Blue และจะมีราคาอยู่ที่ 4,299 บาทสำหรับรุ่น 64GB และ 4,999 บาทสำหรับรุ่น 128GB

สรุปสเปค Redmi 10C

• หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.71 นิ้ว, ความละเอียด 1650 x 720 พิกเซล (HD+)
• ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680
• แรม / ความจุ :
  • 4GB / 64GB
  • 4GB / 128GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8 (wide)
  • ตัวที่ 2: 2 MP, f/2.4 (depth)
• กล้องหน้า : 5 MP, f/2.2
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 18W
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 13
• การเชื่อมต่อ :
  • Wi-Fi 5 (802.11ac)
  • Bluetooth 5.0
  • GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO
  • ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
  • USB Type-C 2.0
• ขนาด : 169.6 x 76.6 x 8.3 มม.
• น้ำหนัก : 190 กรัม

---

มาเงียบๆ OPPO A76 ชิป Snap 680 จอ90Hz ได้ชาร์จเร็ว 33W ในราคาแค่ 7,999 บาท

มาเงียบจริงๆ กับ OPPO A76 มือถือระดับกลางที่ได้ดีไซน์แบบ OPPO Glow Design เหมือนซีรี่ส์ Reno ที่สีฝาหลังจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับมุมตกกระทบของแสง แถมยังมีการเคลือบสารพิเศาที่ช่วยกันรอยนิ้วมือ, รอยขีดข่วย หรือสิ่งสดปรกต่างๆ อีกด้วย โดย OPPO A76 นั้นเปิดราคามาที่ 7,999 บาท ด้วยหน้าจอแบบ 90Hz ขนาด 6.56 นิ้ว มีชิปประมวลผลคือ Snapdragon 680 รองรับฟีเจอร์ Extened RAM เพิ่มจาก 6GB เป็น 11GB ได้ มาพร้อมความจุขนาด 128GB และเทคโนโลยีชาร์จเร็วอย่าง SuperVOOC ขนาด 33W ที่ทาง OPPO เคลมไว้ว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 55% ภายใน 30 นาที โดย OPPO A76 จะมีให้เลือกทั้งหดม 2 สีคือ สีดำ Glowing Black และ สีฟ้า Glowing Blue ซึ่งสามารถหาซือ้ได้แล้วตามร้านต่างๆ ทั่วประเทศ

สรุปสเปค OPPO A76

• หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.56 นิ้ว, ความละเอียด 1612 x 720 พิกเซล (HD+), Refresh Rate 90Hz
• ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680
• แรม / ความจุ : 6GB / 128GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 13 MP, f/2.2 (wide)
  • ตัวที่ 2: 2 MP, f/2.4 (depth)
• กล้องหน้า : 8 MP, f/2.0
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 33W SuperVOOC
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11.1
• การเชื่อมต่อ :
  • Wi-Fi 5 (802.11ac)
  • Bluetooth 5.0
  • GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO
  • ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
  • USB Type-C 2.0
• ขนาด : 164.4 x 75.7 x 8.4 มม.
• น้ำหนัก : 189 กรัม

---

บทความที่เกี่ยวข้อง