สเปค Redmi Note 13 Series ทั้ง 5 รุ่นซีรีส์มือถือสเปคสุดคุ้ม เตรียมเปิดตัวที่ไทย 15 มกราคม 2567 นี้
หลังจากเมื่อช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา Redmi ได้มีการเปิดตัว Note 13 Series ในประเทศจีนออกมาทั้งหมด 3 รุ่นคือ Redmi Note 13 5G, Redmi Note 13 Pro 5G และ Redmi Note 13 Pro+ 5G แต่ว่าก็มีอีก 2 รุ่นที่คาดว่าจะนำมาวางขายด้วยคือ Redmi Note 13 4G และ Redmi Note 13 Pro 4G เนื่องจากทั้ง 5 รุ่นนี้ได้ผ่านการรับรองจาก กสทช. ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วทุกรุ่น ส่วนการเปิดตัวในวันที่ 15 มกราคม 2567 เวลา 17.00 น. ที่ได้เผยสเปคออกมา ทั้งกล้องหลังความละเอียด 200MP มีซูม Lossless Zoom 2x,4x กันสั่น OIS พร้อมหน้าจอ AMOLED ระดับ 1.5K และกันน้ำกันฝุ่น IP68 ซึ่งรุ่นนี้ก็ต้องเป็น Note 13 Pro+ 5G แน่นอน ส่วนรุ่นอื่นๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปสเปคให้ว่า Redmi Note 13 Series ทั้ง 5 รุ่นที่จะมีการเปิดตัวนำเข้ามาวางขายในไทยมีสเปคเป็นยังไง และมีสเปคคุ้มแค่ไหน
- สเปค Redmi Note 13 5G
- สเปค Redmi Note 13 Pro 5G
- สเปค Redmi Note 13 Pro+ 5G
- สเปค Redmi Note 13 (4G)
- สเปค Redmi Note 13 Pro (4G)
Redmi Note 13 5G
เริ่มต้นกันกับ Redmi Note 13 5G รุ่นที่เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการ ที่ได้เห็นสเปคเต็มๆ แล้วกันก่อนเลย ซึ่งรุ่นนี้ได้มีการดีไซน์กรอบแบน มีความบางเบาเพียง 7.6 มม. โมดูลกล้องเป็นกรอบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ที่มีเลนส์วงแหวนด้านใน 2 ตัว พร้อมแฟลช LED ส่วนหน้าจอรุ่นนี้ได้เป็นจอแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2400×1080) กว้าง 6.67 นิ้วขนาดใหญ่รองรับ Refresh Rate 120Hz และมีขอบบางเพียง 2.2 มม. เท่านั้น มีสีสันคมชัดทำความสว่างได้สูงสุด 1,000nits กับการลดแสงที่มีความถี่ PWM สูง 1920Hz ถนอมสายตาได้ด้วยแสงสีฟ้าต่ำ ครอบทับให้แข็งแรงด้วย Corning Gorilla Glass 5 มีสามสีคือสีฟ้า, สีขาว และสีดำ
ชิปประมวลผลของตัวนี้ก็ได้ชิป Dimensity 6080 ที่มีความเร็วแรงใช้งานได้ทั่วไป เล่นเกมได้ดีปกติ มีความจำและความจุให้เลือก 4 รุ่นคือ RAM 6/128GB, 8/128GB, 8/256GB และ 12/256GB มีการระบายความร้อนด้วยกราไฟท์ 4 ชั้น ปรับระดับเสียงได้สูงสุด 200% ส่วนแบตมีความจุเหมือนเดิมที่ 5,000mAh รองรับการชาร์จไวที่ 33W เล่นเกมได้ต่อเนื่อง 7.7 ชั่วโมง หรือเล่นทั่วไปก็ได้ยาวนานถึง 17 ชั่วโมงเลย
ในส่วนของกล้องหลังรุ่นนี้เป็นกล้องคู่ความละเอียดหลักแบบ Ultra-Clear 108MP (f/1.7) ที่มี Xiaomi Imaging Brain AI ทำงานร่วมกัน ทำให้ถ่ายรูปออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง สามารถซูมในเซ็นเซอร์ได้ถึง 3x (ซูมแบบครอปภาพมาแต่ก็ใกล้เคียงออปติคอล) กับอีกตัวคือเลนส์ชัดลึก 2MP (f/2.4) พร้อมฟิลเตอร์ฟิล์มให้ถ่ายเล่นอีกหลายรูปแบบ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP อัพเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้าหน่อย ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 1080P@30fps ทั้งหน้าและหลัง มีราคาตามแต่ละรุ่นคือ
- รุ่น RAM 6/128GB: ราคา 1,199 หยวน หรือประมาณ 6,000 บาท
- รุ่น RAM 8/128GB: ราคา 1,299 หยวน หรือประมาณ 6,400 บาท
- รุ่น RAM 8/256GB: ราคา 1,499 หยวน หรือประมาณ 7,400 บาท
- รุ่น RAM 12/256GB: ราคา 1,699 หยวน หรือประมาณ 8,400 บาท
สรุปสเปค Redmi Note 13 5G
- หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2400×1080) กว้าง 6.67 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz
- สว่างสูงสุด 1,000nits
- Corning Gorilla Glass 5
- ชิปประมวลผล: MediaTek Dimensity 6080
- GPU: Mali-G57
- RAM: 6GB/ 8GB/ 12GB (LPDDR4X)
- ROM: 128GB / 256GB (UFS 2.2)
- กล้องหลัง 2 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 108MP (f/1.7)/ In-Sensor Zoom 3x
- เลนส์ Depth 2MP (f/2.4)
- วิดีโอ 1080P@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 16MP/ วิดีโอ 1080P@30fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi5, Bluetooth 5.3, 3.5 Jack, USB-C
- ซิม: 2 ช่อง
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ MIUI14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000mAh/ ชาร์จไว 33W
- กันน้ำกันฝุ่น: IP54
- ราคา: เริ่มต้นราคา 1,199 หยวน หรือประมาณ 6,000 บาท
Redmi Note 13 Pro 5G
อัพเกรดระดับขึ้นมาเป็นรุ่นโปรสำหรับ Redmi Note 13 Pro 5G ที่รุ่นนี้มีการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องที่คล้ายๆ กับตัวปกติเลยมีกรอบแบนเป็นกระจกสองด้าน เบาบาง 7.98 มม. โมดูลกล้องเหมือนกันแต่ว่ารุ่นนี้มีเลนส์ถึง 3 ตัว ส่วนหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ความละเอียด 1.5K (2712×1220) กว้าง 6.67 นิ้วขอบบางเช่นกันพร้อม Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 2160Hz กับการหรี่แสง PWM ที่ 1920Hz ถนอมสายตาได้ดีและทำความสว่างได้สูงถึง 1,800nits ปรับได้ 10,000 ระดับรองรับทั้ง ZREAL และ Dolby Vision ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus มีสี่สีคือสีฟ้า, สีขาว, สีดำ และสีม่วง
ส่วนชิปประมวลผลของรุ่นนี้ได้เป็นชิป Snapdragon 7s Gen 2 ตัวใหม่ที่มีความเร็วแรงแน่นอนแหละ มาพร้อมสเปคที่ให้เลือกถึง 5 รุ่นได้แก่ RAM 8/128GB, 8/256GB, 12/256GB, 12/512GB และ 16/512GB แต่ไม่รู้ว่าเข้ามาในบ้านเราจะได้ความจุเท่าไหร่บ้างนะ นอกจากนี้ก็ยังมีลำโพงคู่แบบ Hi-Res ที่รองรับ Dolby Atmos มอเตอร์เชิงเส้นแกน X เพื่อความสมจริงในการเล่นเกม สามารถปลดล็อคลายนิ้วมือใต้หน้าจอได้ และกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP54 มีแบตมาให้ที่ความจุ 5,100mAh ชาร์จไวได่ถึง 67W สามารถชาร์จ 1–100% ได้ในเวลา 44 นาที
สำหรับกล้องหลังของรุ่นนี้ก็จัดหนักมาพอตัวด้วยกล้อง 3 ตัวความละเอียดหลัก 200MP (f/1.65) ที่มีกันสั่น OIS+EIS พร้อมเซ็นเซอร์เรือธง Samsung ISOCELL HP3 สามารถซูมแบบ Lossless หรือซูมในเซ็นเซอร์ได้ 4x ทำงานร่วมกับ Xiaomi Imaging Brain เพื่อการถ่ายรูปที่ดีขึ้นไปอีกขั้น และยังมีฟิลเตอร์ใหม่ๆ ให้เล่นด้วย ส่วนที่เหลือก็คือกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP (f/2.2) และกล้องมาโคร 2MP (f/2.4) ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K@30fps กล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ถ่ายวิดีโอได้ 1080p@30/60fps มีราคาตามรุ่นคือ
- รุ่น RAM 8/128GB: ราคา 1,499 หยวน หรือประมาณ 7,400 บาท
- รุ่น RAM 8/256GB: ราคา 1,599 หยวน หรือประมาณ 8,000 บาท
- รุ่น RAM 12/256GB: ราคา 1,799 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท
- รุ่น RAM 12/512GB: ราคา 1,999 หยวน หรือประมาณ 10,000 บาท
- รุ่น RAM 16/512GB: ราคา 2,099 หยวน หรือประมาณ 10,400 บาท
สรุปสเปค Redmi Note 13 Pro 5G
- หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 1.5K (2712×1220) กว้าง 6.67 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz
- สว่างสูงสุด 1,800nits
- ZREAL, Dolby Vision
- Gorilla Glass Victus
- ชิปประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 (4nm)
- GPU: Adreno 710
- RAM: 8GB/ 12GB/ 16GB
- ROM: 128GB / 256GB/ 512GB
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 200MP (f/1.65) Samsung ISOCELL HP3/ In-Sensor Zoom 4x, OIS+EIS
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP (f/2.2)
- เลนส์ Macro 2MP (f/2.4)
- วิดีโอ 4K@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 16MP/ วิดีโอ 1080p@30/60fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi5, Bluetooth 5.2, NFC, 3.5 Jack, USB-C
- ซิม: 2 ช่อง
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ MIUI14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000mAh/ ชาร์จไว 67W
- กันน้ำกันฝุ่น: IP54
- ราคา: เริ่มต้นราคา 1,499 หยวน หรือประมาณ 7,400 บาท
Redmi Note 13 Pro+ 5G
มาดูที่ตัวท็อปสุดของซีรีส์นี้กันบ้าง ซึ่งเป็นรุ่นที่น่าจะอยู่บนเว็บประกาศสเปคก่อนวันเปิดตัวของ Redmi ในไทยด้วย โดย Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่นนี้มีดีไซน์ตัวเครื่องที่ต่างไปจากรุ่นปกติเลย เพราะว่าทำฝาหลังและหน้าจอโค้ง ถือว่าเป็นรุ่นแรกที่ทำจอโค้งเลยสำหรับ Redmi ฝาหลังมีลายเรียบที่เป็นสีขาวและสีดำ ส่วนแบบลายหนังเทียมมีสี่สีในอันเดียวเป็นสีม่วง (มีลายทำร่วมกับ Aape ด้วย) ตัวโมดูลกล้องมีกรอบแต่ไม่นูนขึ้นมา เป็นแบบเลนส์ฝังเข้าไปแทนสามเลนส์ หน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบ AMOLED C7 ความละเอียด 1.5K (2712×1220) กว้าง 6.67 นิ้วกับ Refresh Rate 120Hz พร้อมการหรี่แสง PWM ความถี่ 1920Hz ปรับความสว่างได้ 16000 ระดับจากความสว่างสูงสุด 1,800nits รองรับทั้ง Dolby Vision, HDR10+ และ ZREAL
สำหรับชิปประมวลผลรุ่นนี้ก็ได้ใช้ชิปตัวแรงอย่าง Dimensity 7200 Ultra มีหน่วยความจำและความจุให้เลือก 3 รุ่นได้แก่ RAM 12/256GB, 12/512GB และ 16/512GB อันนี้ก็ต้องรอดูว่าบ้านเราได้รุ่นไหนบ้างเหมือนกัน เล่นเกมได้สบายๆ สมจริงขึ้นจากมอเตอร์ลิเนียร์แกน X พร้อมลำโพงคู่แบบ Hi-Res รองรับ Dolby Atmos มีชุดเสาที่รับสัญญาณ 4G/5G ได้ดีขึ้น 35% กันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 สแกนลายนิ้วมือใต้จอได้ และมีแบตความจุให้ 5,000mAh ชาร์จไวได้เร็วถึง 120W โดยชาร์จกลับมาเต็ม 100% ได้เพียง 19 นาทีเท่านั้น
สเปคกล้องหลังและกล้องหน้าจอรุ่นนี้ได้อิงเอาสเปคจากรุ่นโปรมาเลย โดยมีกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดหลัก 200MP (f/1.65) ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 กับการซูมในเซ็นเซอร์ได้ 4x และทำงานร่วมกับ Xiaomi Imaging Brain เพื่อให้การถ่ายภาพนั้นมีประสิทธิภาพสูง ถ่ายวิดีโอได้นิ่งเรียบด้วยกันสั่น OIS+EIS และฟิลเอตณืสำหรับสายเที่ยว กล้องตัวอื่นก็เหมือนกันด้วยทั้งอัลตร้าไวด์ 8MP (f/2.2) และกล้องมาโคร 2MP (f/2.4) สามารถถ่ายวิดีโอได้ 4K@30fps ส่วนกล้องหน้ามี 16MP ถ่ายวิดีโอได้ 1080p@30/60fps เช่นกัน มีราคาดังนี้
- รุ่น RAM 12/256GB: ราคา 1,999 หยวน หรือประมาณ 10,000 บาท
- รุ่น RAM 12/512GB: ราคา 2,199 หยวน หรือประมาณ 11,000 บาท
- รุ่น RAM 16/512GB: ราคา 2,299 หยวน หรือประมาณ 11,500 บาท
สรุปสเปค Redmi Note 13 Pro+ 5G
- หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 1.5K (2712×1220) กว้าง 6.67 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz
- สว่างสูงสุด 1,800nits
- Dolby Vision, HDR10+, ZREAL
- Gorilla Glass Victus
- ชิปประมวลผล: MediaTek Dimensity 7200 Ultra
- GPU: Mali-G610
- RAM: 12GB/ 16GB (LPDDR5)
- ROM: 256GB/ 512GB (UFS 3.1)
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 200MP (f/1.65) Samsung ISOCELL HP3/ In-Sensor Zoom 4x, OIS+EIS
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP (f/2.2)
- เลนส์ Macro 2MP (f/2.4)
- วิดีโอ 4K@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 16MP/ วิดีโอ 1080p@30/60fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi6, Bluetooth 5.3, NFC, 3.5 Jack, USB-C
- ซิม: 2 ช่อง
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ MIUI14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000mAh/ ชาร์จไว 120W
- กันน้ำกันฝุ่น: IP68
- ราคา: เริ่มต้นราคา 1,999 หยวน หรือประมาณ 10,000 บาท
Redmi Note 13 (4G) (จากข่าวหลุด)
มาดูที่รุ่น Redmi Note 13 (4G) ของซีรีส์นี้กันบ้างที่ทั้งสองรุ่นยังไม่ได้มีการเปิดตัวออกมา ทำให้ข้อมูลทั้งหมดยังคงเป็นสเปคจากข่าวหลุดออกมาเท่านั้น ไม่ใช่สเปคอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด แต่ก็พอทำให้เราได้เห็นสเปคบางอย่างของรุ่นนี้ได้บ้างแล้ว ทั้งตัวเครื่องที่เป็นกรอบแบน ไม่มีกรอบที่โมดูลกล้องและเป็นเลนส์ฝังสามเลนส์แทน ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่าตัว 5G เล็กน้อย หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080×2400) กว้าง 6.67 นิ้วและมี Refresh Rate 120Hz สว่างได้ 1200nits ครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 3 มีสามสีคือสีดำ, สีฟ้า และสีเขียว
ชิปประมวลผลก็ได้ชิป Snapdragon 685 ยังไม่มีข้อมูลแรม รู้แค่ว่าเป็นแบบ LPDDR4X และที่เก็บข้อมูลแฟลช UFS 2.0 ส่วนกล้องหลังนั้นมี 3 ตัวที่ความละเอียดหลัก 108MP (f/1.65,OIS) ซูมได้ 3x พร้อมเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.67 นิ้ว กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP พร้อมแฟลช LED ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP มีลำโพงรองรับ Dolby Atmos กันน้ำและฝุ่นได้ที่ IP54 และมีแบตให้ที่ความจุ 5,000mAh ชาร์จไวได้ 33W
สรุปสเปค Redmi Note 13 (4G) (จากข่าวหลุด)
- หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080×2400) กว้าง 6.67 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz
- สว่างสูงสุด 1,200nits
- Corning Gorilla Glass 3
- ชิปประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 685
- GPU: Adreno 610
- RAM: LPDDR4X
- ROM: UFS 2.0
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 108MP (f/1.65)/ OIS/ Zoom 3x
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP (f/2.2)
- เลนส์ Macro 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด: 16MP
- การเชื่อมต่อ: 4G, Wi-Fi5, Bluetooth 5.2, NFC, 3.5 Jack, USB-C
- ซิม: 2 ช่อง
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ MIUI14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000mAh/ ชาร์จไว 33W
- กันน้ำกันฝุ่น: IP54
- ราคา: –
Redmi Note 13 Pro (4G) (จากข่าวหลุด)
ปิดท้ายกันด้วยรุ่นโปรของตัว Redmi Note 13 Pro (4G) ที่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเช่นกัน แต่ทั้งสองรุ่นที่กล่าวมานี้ผ่านการรับรองจาก กสทช. บ้านเราหมดทุกรุ่นแล้ว ดีไซน์ตัวเครื่องรุ่นนี้จะคล้ายกันกับรุ่นปกติ แต่ว่าตัวฝาหลังที่โมดูลกล้องจะมีการไล่ระดับสีเป็น 3 เฉด หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2400×1080) กว้าง 6.67 นิ้วรองรับ Refresh Rate 120Hz สว่างได้ 1,000nits ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 กันน้ำและฝุ่นได้ที่ IP54
ชิปประมวลผลได้ชิป Helio G99 Ultra ที่ปรับปรุงจากตัว G99 มาพร้อมกับแรม LPDDR4X และความจุแบบ UFS 2.0 ส่วนกล้องหลังนั้นได้เป็นกล้องตัวโปร 3 ตัวความละเอียดหลัก 200MP (f/1.65) มีเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.4 นิ้ว ซูมได้ 4x และมีกันสั่น OIS นอกนั้นเป็นกล้องเหมือนตัวปกติหมดทั้งอัลตร้าไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP พร้อมแฟลช LED กล้องหน้ามีความละเอียด 16MP มีลำโพงรองรับ Dolby Atmos และมีแบตให้ที่ความจุ 5,000mAh ชาร์จไวได้ 67W โดยใช้ชิป Surge G1 และ Surge P1 สำหรับแบตและการชาร์จรวมอยู่ด้วย
สรุปสเปค Redmi Note 13 Pro (4G) (จากข่าวหลุด)
- หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080×2400) กว้าง 6.67 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz
- สว่างสูงสุด 1,000nits
- Corning Gorilla Glass 5
- ชิปประมวลผล: MediaTek Helio G99 Ultra
- GPU: Mali G57
- RAM: LPDDR4X
- ROM: UFS 2.0
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 200MP (f/1.65)/ OIS/ Zoom 4x
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP (f/2.2)
- เลนส์ Macro 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด: 16MP
- การเชื่อมต่อ: 4G, Wi-Fi6E, Bluetooth 5.2, NFC, 3.5 Jack, USB-C
- ซิม: 2 ช่อง
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ MIUI14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000mAh/ ชาร์จไว 67W
- กันน้ำกันฝุ่น: IP54
- ราคา: –
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคของ Redmi Note 13 Series ที่กำลังจะเปิดตัวกันอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยหลักๆ แล้วที่น่าจะมีมาเลยก็คือ Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 Pro 5G และ Redmi Note 13 5G หรือไม่ก็ออกมาทีเดียวหมดเลยทั้ง 5 รุ่นก็เป็นได้ เพราะทุกรุ่นก็ผ่านการรับรองกันหมดแล้ว ก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าจะมีรุ่นไหนวางขายเลยบ้าง และจะมีราคาเท่าไหร่ แต่คาดว่าคงไม่น่าจะเกิน 15,000 เพราะเป็นมือถือระดับกลางที่ใช้งานทั่วไปได้ดีเยี่ยม ถ่ายรูปได้สวยๆ และเล่นเกมได้ดีแน่นอน สเปคคุ้มแบบนี้ถ้าราคาไม่สูงมากก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยเหมือนกัน แล้วถ้ามีการอัพเดทเพิ่มเติมเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากจาก Redmi CN, appuals, mysmartprice, mi