สเปค vivo X100 5G/ vivo X100 Pro 5G มาพร้อมกล้อง Telephoto และเลนส์ ZEISS APO Floating ซูมดวงอาทิตย์ เปิดตัว 30 ม.ค. 2567 นี้
หลังจากที่รุ่นเรือธงของ vivo อย่าง vivo X90 ได้เปิดตัวออกมาช่วงต้นปีที่แล้ว เมื่อตอนปลายปี 2023 ที่ผ่านมาทาง vivo จีนก็ได้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดของ X Series ออกมานั่นก็คือ X100 5G ที่เป็นรุ่นปกติและรุ่น X100 Pro 5G ที่เป็นตัวโปร หน้าจอสว่างคมชัดไหลลื่น ดีไซน์สวยงาม จัดเต็มเรื่องกล้องมาให้โดยเฉพาะ พร้อมเน้นในเรื่องของการซูมด้วยกล้อง Telephoto และเลนส์ที่ทำร่วมกับ ZEISS เหมือนเดิม แต่ทำให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า แถมยังมีการพูดถึงเรื่องการซูมดวงอาทิตย์มาด้วยในรุ่นนี้ โดยทางฝั่งไทยบ้านเราก็จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ม.ค. 2567 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไปทั้งสองรุ่นเลย สำหรับใครที่สนใจสเปคของทั้งสองรุ่นนี้ Specphone จะมาสรุปสเปค vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G ให้ว่ามีสเปคเป็นอย่างไรบ้าง
vivo X100 5G/ vivo X100 Pro 5G
สำหรับสเปคของ X100 5G และ X100 Pro 5G นั้นจะมีตัวเครื่องภายนอกและภายในที่คล้ายๆ กัน ตัวเครื่องมีดีไซน์ขอบบางเพราะว่าหน้าจอเป็นจอโค้ง ฝาหลังมีลวดลายต่างกันตามสีตัวเครื่องที่มีสีดำ และสีฟ้า ส่วนรุ่นโปรมีอีกสีคือสีส้มเป็นหนังเทียม (ไม่ได้เข้าไทยสำหรับรุ่นสีส้ม) ดีไซน์ที่ต่างกันของทั้งสองรุ่นนี้อยู่ที่โมดูลกล้อง ที่ตัว X100 5G ทำเป็นวงแหวน Moon Halo พร้อมกระจกครอบเลนส์ 2.5D และตัว X100 Pro 5G ทำเป็นวงแหวน Sun Halo มีกรอบใหญ่กว่า และมีกระจกครอบเลนส์ 2.5D จาก Corning Gorilla Glass Victus สามารถกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 เท่ากันทั้งคู่
หน้าจอของทั้งสองรุ่นนี้ก็ทำออกมาเหมือนกัน ที่เป็นจอโค้งแบบ AMOLED 8T LTPO ความละเอียด (FHD+) (2800×1260) กว้าง 6.78 นิ้วรองรับ Refresh Rate 1-120Hz พร้อมความสว่างหน้าจอที่ทำได้สูงสุด 3000nits กับการหรี่แสง PWM 2160Hz มีระบบถนอมสายตา และมีรูกล้องหน้าแบบเจาะรู
สิ่งที่เหมือนกันอีกอย่างก็คือชิปที่ได้เป็นตัว Dimensity 9300 ที่มี CPU แรงกว่าเดิม 40% GPU ดีกว่าเดิม 46% และ AI APU 790 ที่ประมวลผลได้เร็วขึ้นเยอะมาก นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดพลังงานลงได้ถึง 33% อีกด้วย โดยรุ่น X100 5G มีรุ่น RAM 12/256GB, 16/512GB แต่ว่ารุ่นโปรมีแบบเดียวคือ RAM 16/512GB คาดว่ารุ่นที่เข้าไทยก็น่าจะเป็น RAM 16GB ทั้งคู่
จุดที่แตกต่างกันจริงๆ และตัวโปรก็ทำได้ดีกว่ามากด้วย นั่นก็คือเรื่องของกล้องหลัง ถึงแม้ว่าจะมีกล้องหน้าเหมือนกันที่ความละเอียด 32MP (f/2.0) แต่กล้องหลังนั้นต่างกันเลย โดยตัว X100 5G นั้นมีกล้องหลังสามตัวความละเอียดหลัก 50MP (f/1.57) ที่มีเซ็นเซอร์ IMX920 ขนาด 1/1.49” กับ VSC True Color และกันสั่น OIS กล้องอลัตร้าไวด์ 50MP (f/2.0) และ Telephoto 64MP (f/2.57) ที่มีกันสั่น OIS และ Digital Zoom 100x เลนส์เคลือบด้วย ZEISS T* Coating สามารถถ่ายสีสันยามค่ำคืนได้สวยงาม ซึ่งกล้องเทเลโฟโต้เป็นแบบปริทรรศน์ที่เก็บแสงได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะซูมแค่ไหนก็ยังถ่ายออกมาได้สวยงาม นอกจากนี้ยังมี Origin Imaging Engine ที่ช่วยให้การถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น-ลง ปรับโทนสีให้ได้ภาพออกมาสวยที่สุด รวมไปถึงชิป vivo V2 ที่ประมวลผลภาพได้ดีขึ้น กับภาพถ่ายบุคคลจาก ZEISS ที่ปรับได้หลายระยะ สามารถถ่ายวิดีโอแบบ 4K Super Night ได้ด้วย
ส่วนรุ่นโปรนั้นก็ชยับสเปคขึ้นไปอีกขั้น โดยมีกล้องหลังสามตัวความละเอียดหลัก 50MP (f/1.75) ที่มีเซ็นเซอร์ IMX989 ขนาด 1/0.98” และกันสั่น OIS กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP (f/2.0) และกล้อง Telephoto 50MP (f/2.5) ที่มีกันสั่น OIS และ ZEISS APO Floating เคลือบเลนส์ด้วย ZEISS T* Coating เจนเนอร์เรชั่นใหม่ โดยตัวกล้องหลักที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ร่วมกับ Origin Imaging Engine ที่พัฒนาจาก vivo ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความชัดเจน และความแม่นยำของแสงได้มากขึ้น 20% ถ่ายท้องฟ้าและดาวตอนกลางคืนได้สวยและคมชัดด้วย Sky Night Imaging System
ส่วนตัวเทเลโฟโต้ที่เป็น ZEISS APO Floating นั้นมีการออกแบบองค์ประกอบแบบลอยตัว ทำให้มีความไวแสงสูงและได้สีสันสดใสกว่าในทุกระยะการถ่าย รวมไปถึงการถ่ายดวงอาทิตย์ทุกช่วงเวลาให้มีสีสมจริงปรับโทนได้สวยแม่นยำ และยังได้ชิป vivo V3 ตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังถ่ายวิดีโอ 4K แบบ Cinematic Portrait ได้ด้วย รวมไปถึงการถ่ายภาพบุคคลจาก ZEISS ที่ปรับได้หลายระยะด้วยเช่นกัน
สุดท้ายคือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ทั้งสองรุ่นนี้มีความจุต่างกัน โดยรุ่น X100 5G มีแบต 5,000mAh ชาร์จไวได้ 120W ชาร์จกลับมา 50% ได้ในเวลา 11 นาทีเท่านั้น ส่วนรุ่น X100 Pro 5G มีแบตถึง 5,400mAh ชาร์จไวได้ 100W ชาร์จไรสายได้ 50W ชาร์จได้ 50% ในเวลา 14 นาที ทำงานบนระบบ Funtouch OS 14 บนพื้นฐานของ Android 14 โดยรุ่นนี้จะเปิดตัวที่ไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มกราคม 2567 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไปผ่านช่องทาง Facebook vivo มีราคาถ้าเทียบจากที่มาเลเซียมีราคาดังนี้
- vivo X100 5G รุ่น RAM 16/512GB: ราคา 3,499 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 26,300 บาท
- vivo X100 Pro 5G รุ่น RAM 16/512GB: ราคา 4,599 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 34,600 บาท
สรุปสเปค vivo X100 5G (รุ่น Global)
- หน้าจอ: หน้าจอโค้ง AMOLED 8T LTPO ความละเอียด Full HD+ (2800×1260) กว้าง 6.78 นิ้ว
- Refresh Rate 1-120Hz/ สว่าง 3,000nits
- DCI-P3 100%
- PWM Dimming 2160Hz
- ชิปประมวลผล: MediaTek Dimensity 9300 (4nm)
- GPU: Immortalis-G720
- RAM: 12/16GB (LPDDR5X)
- ROM: 256GB / 512GB (UFS 4.0)
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (f/1.57)/ เซ็นเซอร์ IMX920/ OIS
- เลนส์ Ultra-wide 50MP (f/2.0)
- เลนส์ Telephoto 64MP (f/2.57)/ Digital Zoom 100x/ OIS
- ชิป vivo V2
- ZEISS T* Coating
- วิดีโอ 4K
- กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (f/2.0)
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 7, BT5.4, GPS, OTG, NFC, USB-C
- ซิม: Dual SIM
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 ครอบทับ Funtouch OS 14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000mAh/ ชาร์จไว 120W
- ราคา: 3,499 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 26,300 บาท
สรุปสเปค vivo X100 Pro 5G (รุ่น Global)
- หน้าจอ: หน้าจอโค้ง AMOLED 8T LTPO ความละเอียด Full HD+ (2800×1260) กว้าง 6.78 นิ้ว
- Refresh Rate 1-120Hz/ สว่าง 3,000nits
- DCI-P3 100%
- PWM Dimming 2160Hz
- ชิปประมวลผล: MediaTek Dimensity 9300 (4nm)
- GPU: Immortalis-G720
- RAM: 16GB (LPDDR5X)
- ROM: 512GB (UFS 4.0)
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (f/1.75)/ เซ็นเซอร์ IMX989 ขนาด 1/0.98”/ OIS
- เลนส์ Ultra-wide 50MP (f/2.0)
- เลนส์ Telephoto 50MP (f/2.5)/ ZEISS APO Floating/ OIS
- ชิป vivo V3
- ZEISS T* Coating
- วิดีโอ 4K แบบ Cinematic Portrait
- กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (f/2.0)
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 7, BT5.4, GPS, OTG, NFC, USB-C
- ซิม: Dual SIM
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 ครอบทับ Funtouch OS 14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,400mAh/ ชาร์จไว 100W ไร้สาย 50W
- ราคา: 4,599 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 34,600 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคของ vivo X100 Series 5G ทั้งสองรุ่นที่เป็นรุ่นปกติและรุ่นโปร พร้อมจะเปิดตัวแล้วอีกไม่นาน ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ช่องทาง Facebook ของ vivo และคาดว่าน่าจะเปิดวางขายในวันที่เปิดตัวเลย ที่เหลือก็แค่รอลุ้นราคาว่าจะเปิดตัวออกมากี่บาท คาดว่าน่าจะราคาพอๆ กันกับที่มาเลเซียนั่นแหละ แต่ก็อาจจะราคาต่ำกว่านี้ก็ได้ ถ้ามีการเปิดตัวออกมาเมื่อไหร่แล้วเราจะมาอัพเดทราคาให้อีกครั้ง รอติดตามดูกันได้เลยในวันที่ 30 มกราคม 2567 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพทั้งหมดจาก vivo Global, vivo Thailand