สเปค Redmi Note 12 4G, 5G และ Redmi Note 12 Pro 5G, Pro+ 5G จอใหญ่ 6.67, 120Hz ได้ชิปตัวแรงพร้อมเข้าไทยเร็วๆ นี้
เปิดตัวกันไปได้สักพักแล้วกับ Redmi Note 12 Series ที่มีสเปคย่อยแยกออกมาอีกหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่น 4G, 5G และรุ่น Pro 5G, Pro+ 5G ที่ยังมีรุ่นพิเศษอื่นๆ อีกอย่างเช่น 12S, 12 Turbo, 12 Explorer และรุ่นโปรที่เป็น 4G อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่มีรุ่นย่อยออกมาค่อนข้างจะเยอะทีเดียว แต่รุ่นหลักๆ ที่น่าสนใจและคาดว่าจะเข้าไทยมาก็คือรุ่น 4G, 5G และรุ่น Pro 5G, Pro+ 5G ที่หลายคนจับตามองให้ความสนใจกันเยอะ อีกทั้งยังผ่านการรับรองจาก กสทช. กันไปแล้วทั้งสี่รุ่นรวมไปถึงรุ่นโปรที่เป็น 4G ด้วย ก็คาดว่าจะมีการนำเข้ามาขายในบ้านเราเร็วๆ นี้แน่นอน ส่วนใครที่สนใจรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ทั้ง 4 รุ่นและอยากรู้ว่ามีสเปคอะไรน่าสนใจบ้าง วันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปสเปค Redmi Note 12 4G, 5G และ Redmi Note 12 Pro 5G, Pro+ 5G ที่มีจอใหญ่ 6.67, 120Hz ได้ชิปตัวแรงเล่นเกมได้สบาย และยังถ่ายรูปได้สวยๆ อีกด้วย
Redmi Note 12
เริ่มกันที่ Redmi Note 12 รุ่นเริ่มต้นกันก่อนเลย ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่น 4G ที่คาดว่าจะมีราคาไม่เกินหมื่นด้วย แถมยังมีสเปคที่น่าสในใจและน่าใช้งานไม่แพ้รุ่นพี่ตัวอื่นๆ เลย ดีไซน์ตัวเครื่องของรุ่นนี้จะทำออกมาเป็นแบบเหลี่ยม มีขอบเครื่องและฝาหลังแบน กับรูกล้องหน้าแบบ Punch-Hole ตัวเครื่องบางกว่าทุกรุ่น และมีสามสีให้เลือกคือ Ice Blue, Mint Green และ Onyx Gray ส่วนโมดูลกล้องเป็นแบบเหลี่ยม ที่นูนขึ้นมาจากฝาหลังเล็กน้อย และยังคงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. กับการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่องหรือสแกนหน้าก็ได้ และกันน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP53
ส่วนหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.67 นิ้วและมี Refresh Rate 120Hz สว่างได้สูงสุด 1,200 Nits และยังดู Netflix แบบ HD ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการปรับแสงได้ถึง 4096 ระดับ ทั้งการถนอมสายตา และการปรับแสงให้อย่างรวดเร็วเข้ากับแสงโดยรอบได้อย่างนุ่มนวลอีกด้วย รุ่นนี้มาพร้อมชิปประมวลผลรุ่นนี้ได้ใช้ตัว Snapdragon 685 (6nm) ที่มี RAM สูงสุด 8GB กับ ROM สูงสุด 128GB เล่นเกมได้สบายหายห่วง
ตัวกล้องของรุ่นนี้จะมีกล้องหลัง 3 ตัวที่ความละเอียดหลัก 50MP (f/1.8) ถ่ายรายละเอียดได้คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน มาพร้อมเลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP (f/2.2) กว้างได้ 120 องศา และมาโคร 2MP (f/2.4) ถ่ายโบเก้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ กล้องหน้ามีความละเอียด 13MP (f/2.45) ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงาม ส่วนแบตนั้นมีความจุแบบอึดๆ ให้ถึง 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33W ใช้ได้ยาวนานถึง 1.35 วันไม่มีปัญหา ทั้งนี้ราคายังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเรา แต่ถ้าเทียบจากรุ่น Global จะมีราคาประมาณ 7,000-8,500 บาท ถ้าเข้าไทยเราอาจจะราคาต่ำกว่านี้ก็เป็นได้
สรุปสเปค Redmi Note 12
- หน้าจอ: AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว มีอัตรา Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 1,200 นิต, Netflix HD
- ชิปประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 685 Octa Core
- RAM: 4/6/8GB (LPDDR4X)
- ROM: 128GB (UFS2.2)
- กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (ƒ/1.8)
- เลนส์ Ultra Wide 8MP (ƒ/2.2) 120°
- เลนส์ Marcro 2MP (ƒ/2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด: 13MP (f/2.45)
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ MIUI 14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W, USB-C
- ราคา: เริ่มต้น 219USD หรือประมาณ 7,500 บาท
Redmi Note 12 5G
มาดูที่รุ่น 5G ของซีรีส์ตัวปกติกันบ้าง ที่ต้องบอกว่ามีสเปคที่คล้ายกับตัว 4G อยู่หลายจุด แต่ด้วยความเป็น 5G ก็จะมาสเปคที่บางอย่างก็เหนือกว่า แต่บางอย่างก็จะดรอปกว่าเป็นเรื่องปกติของทุกรุ่นในสมัยนี้ อย่างแรกคือดีไซน์ตัวเครื่องของรุ่นนี้จะมีขอบเครื่องแบน แต่ว่าฝาหลังจะโค้งขึ้นมาเล็กน้อย ตัวโมดูลกล้องก็ยังคงคล้ายกับรุ่น 4G แต่ว่ารุ่นนี้ได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งกล้องหลังนิดหน่อย รวมถึงตำแหน่งของแฟลชด้วย นอกนั้นจะเหมือนกันหมดทั้งช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. การสแกนด้วยใบหน้าหรือด้านข้างตัวเครื่อง และกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP53 เหมือนกัน
หน้าจอของรุ่นนี้ก็เป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.67 นิ้วกับอัตรา Refresh Rate 120Hz สว่างได้สูงสุด 1,200 nits และยังมีการปรับระดับแสงให้เข้ากับแสงรอบตัวได้เหมือนกันกับรุ่น 4G อีกด้วย สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้ต่างมากที่สุดก็คือชิปประมวลผลที่ใช้ตัว Snapdragon 4 Gen 1 (6nm) ที่มี RAM สูงสุด 8GB และ ROM สูงสุด 256GB รองรับ 5G และยังรองรับ Dual 5G SIM หรือซิมคู่ 5G ได้สองซิมเลยทีเดียว
กล้องหลังของรุ่นนี้ก็เป็นกล้อง 3 ตัวเหมือนกันที่ความละเอียดหลัก 48MP (f/1.8) ถ่ายกลางวันสวยและเน้นการถ่ายกลางคืนที่คมชัดเป็นพิเศษ กับอีกสองตัวคืออัลตร้าไวด์ 8MP (f/2.2) กว้างได้ 118 องศา และมาโคร 2MP (f/2.4) ที่ถ่ายพร้อมเอฟเฟกต์โบเก้ได้เป็นธรรมชาติ กับกล้องหน้าความละเอียด 13MP (f/2.45) เซลฟี่ได้คมชัดเหมือนกัน อีกทั้งยังมีแบตอึดด้วยความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W และด้วยชิปที่ช่วยประหยัดพลังงานจึงทำให้รุ่นนี้สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่ารุ่น 4G พอสมควรเลย ส่วนราคาเริ่มต้นของ Global อยู่ที่ 289USD หรือประมาณ 9,900 บาท และอาจมีราคาต่ำกว่านี้เมื่อเข้าไทยอีกด้วย
สรุปสเปค Redmi Note 12 5G
- หน้าจอ: AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว มีอัตรา Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 1,200 นิต, Netflix HD
- ชิปประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 4 Gen 1 Octa Core
- RAM: 4/6/8GB (LPDDR4X)
- ROM: 128/256GB (UFS2.2)
- กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 48MP (ƒ/1.8)
- เลนส์ Ultra Wide 8MP (ƒ/2.2) 118°
- เลนส์ Marcro 2MP (ƒ/2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด: 13MP (f/2.45)
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับ MIUI 14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W, USB-C
- ราคา: เริ่มต้น 289USD หรือประมาณ 9,900 บาท
Redmi Note 12 Pro 5G
สำหรับรุ่นโปรที่เป็น 5G รุ่นนี้ก็ได้มีการอัพสเปคขึ้นมาจากรุ่นธรรมดาหลักๆ เลยก็คือเรื่องของกล้อง และชิปที่แรงกว่า พร้อมการดีไซน์ที่ดูพรีเมียมมากขึ้น โดยมีขอบเครื่องและฝาหลังแบบแบน กับรูกล้องหน้าแบบ Punch-Hole และยังเน้นความเบาบางถือได้ถนัดและสบายมากขึ้น ตัวโมดูลกล้องของรุ่นโปรนี้ก็จะคล้ายกับตัว Note 12 5G แต่ว่าจะมีความพรีเมียมและมีตัวเลนส์ที่สูงกว่าเล็กน้อยด้วย มีสามสีให้เลือกคือ Polar White, Midnight Black และ Sky Blue กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP53 และแน่นอนว่ายังคงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ให้ใช้งานอยู่เหมือนเดิม พร้อมกับลำโพงคู่ที่รองรับ Dolby Atmos, Hi-Res Audio
ส่วนหน้าจอของรุ่นโปรนี้เป็นแบบ Flow AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.67 นิ้วแบบ Hi-end ที่มีขอบบางลงทำให้เล่นได้เต็มที่มากขึ้น พร้อมกับอัตรา Refresh Rate 120Hz สว่างได้สูงสุด 900 nits มีทั้งโหมดอ่านหนังสือและโหมดออกแสงแดดที่ปรับได้อย่างรวดเร็ว และยังรองรับ Dolby Vision, HDR10+ ที่ให้ภาพสวยสมจริง รุ่นนี้ได้ใช้ชิป Dimensity 1080 ที่มี RAM สูงสุด 8GB และ ROM สูงสุด 256GB เล่นเกมได้สบายไม่ต้องกลัวร้อนด้วยกราไฟต์ 12 ชั้น และยังสมจริงมากขึ้นด้วย X-axis linear motor อีกด้วย โดยรุ่นนี้รองรับทั้งการใช้งาน 5G และ Wi-Fi 6 เลย
ตัวเด็ดจริงๆ อยู่ที่กล้องหลัง 3 ตัวที่ตัวหลักมีความละเอียด 50MP (f/1.88) ที่มีเซ็นเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56”, 2μm 4 in 1 ช่วยรับแสงได้มากขึ้น และยังโฟกัสอัตโนมัติแบบ All-pixel ด้วยความเร็วสูง กับกันสั่น OIS ที่ช่วยให้ถ่ายได้นิ่งมากขึ้น จะถ่ายกลางวันหรือกลางคืนก็คมชัด แถมยังมี Xiaomi Imaging Engine ด้วย AI ที่ช่วยปรับปรุงภาพให้ดูสวยสมจริงขึ้นอีก นอกจากนี้ก็ยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกถ่ายอีกเพียบ ส่วนที่เหลือคืออัลตร้าไวด์ 8MP (f/2.2) กว้างได้ 119 องศา และมาโคร 2MP (f/2.4) ถ่ายวิดีโอได้ถึง 4K กับกล้องหน้า 16MP และมีแบตความจุ 5,000 mAh รองรับ Turbo charging 67W ชาร์จ 15 นาทีก็เล่นต่อได้ยาวๆ แล้ว รุ่นนี้มีราคาของ Global ที่ประมาณ 11,200-15,000 บาทและอาจต่ำกว่านี้เมื่อเข้าไทยเช่นกัน
สรุปสเปค Redmi Note 12 Pro 5G
- หน้าจอ: Flow AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว, Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 900 นิต, Dolby Vision, HDR10+
- ชิปประมวลผล: Mediatek Dimensity 1080 Octa Core
- RAM: 6/8GB (LPDDR4X)
- ROM: 128/256GB (UFS2.2)
- กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (ƒ/1.88), Sony IMX766, OIS, Xiaomi Imaging Engine, วิดีโอ 4K
- เลนส์ Ultra Wide 8MP (ƒ/2.2) 119°
- เลนส์ Marcro 2MP (ƒ/2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด: 16MP
- ระบบปฏิบัติการ: MIUI 14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W, USB-C, NFC
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ 11,200-15,000 บาท
Redmi Note 12 Pro+ 5G
ปิดท้ายกันด้วยรุ่น Redmi Note 12 Pro Plus 5G ที่เป็นรุ่นเรือธงและมาเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ทั้ง 4 รุ่นในนี้แล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องกล้อง ความแรง และการใช้งานที่ครบจบในตัวเดียว โดยรุ่นนี้มีการดีไซน์ออกมาให้ดูพรีเมียมมากขึ้น ตัวขอบเครื่องจะเป็นแบบขอบแบน และฝาหลังมีโค้งขึ้นมาแบบ 3 มิติ พร้อมกับการใช้ฝาหลังกระจก ตัดกับโมดูลกล้องที่เป็นโลหะได้อย่างลงตัวสวยงามมาก มีสามสีให้เลือกคือ Polar White, Midnight Black และ Sky Blue นอกจากนี้ยังกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP53 กับลำโพงคู่ที่รองรับ Dolby Atmos, Hi-Res Audio และมีช่องหูฟัง 3.5 มม. ให้ด้วย
หน้าจอของรุ่นนี้ก็เป็นเหมือนกับรุ่นโปรคือ Flow AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.67 นิ้วและมีอัตรา Refresh Rate 120Hz ที่สว่างได้สูงสุด 900 nits ซึ่งรุ่นนี้ก็ลดขนาดขอบล่างให้เล็กลง ทำให้เล่นได้อย่างเต็มที่มากขึ้น พร้อมการรองรับ Dolby Vision และ HDR10+ เช่นกัน รวมไปถึงชิปประมวลผลที่ใช้ตัว Dimensity 1080 ที่มี RAM 8GB และ ROM 256GB เล่นเกมได้ไหลลื่นและเย็นลงด้วย Vapor Chamber ที่ช่วยคุมอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงความสมจริงที่มี X-axis linear motor และการเชื่อมต่อทั้ง 5G กับ Wi-Fi 6 เหมือนกับรุ่นโปร ทีเด็ดอีกอันคือแบตความจุ 5,000 mAh ที่มีชิป Xiaomi Surge P1 รองรับ HyperCharge 120W ชาร์จเต็ม 100% ได้ใน 19 นาทีเท่านั้น
สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ก็คือกล้องหลังที่มี 3 ตัวกับความละเอียดกล้องหลัก 200MP (f/1.65) ระดับเรือธงที่มีกันสั่น OIS และเลนส์ 7P, สารเคลือบกันแสงสะท้อน ALD กับขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.4”, 2.24μm 16-in-1 Super Pixel ที่ได้ถ่ายออกมาได้ความละเอียดสูงคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน อีกทั้งยังมีโหมด Xiaomi ProCut ที่ครอบภาพออกมาได้ถึง 5 ภาพด้วยความคมชัดสูงทุกภาพ แน่นอนว่ามี Xiaomi Imaging Engine และฟิลเตอร์ให้เล่นเหมือนรุ่นโปรด้วย ที่เหลือคือกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP (f/2.2) กว้าง 119 องศา และมาโคร 2MP (f/2.4) ถ่ายวิดีโอได้ 4K และกล้องหน้า 16MP เหมือนกัน ส่วนราคารุ่นนี้จาก Global อยู่ที่ประมาณ 13,600 บาทแต่อาจต่ำกว่านั้นเมื่อเข้าไทยอีกนั่นแหละ
สรุปสเปค Redmi Note 12 Pro+ 5G
- หน้าจอ: Flow AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว, Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 900 นิต, Dolby Vision, HDR10+
- ชิปประมวลผล: Mediatek Dimensity 1080 Octa Core
- RAM: 8GB (LPDDR4X)
- ROM: 256GB (UFS2.2)
- กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 200MP (ƒ/1.65), OIS, Xiaomi ProCut, Xiaomi Imaging Engine, วิดีโอ 4K
- เลนส์ Ultra Wide 8MP (ƒ/2.2) 119°
- เลนส์ Marcro 2MP (ƒ/2.4)
- กล้องหน้าความละเอียด: 16MP
- ระบบปฏิบัติการ: MIUI 14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh, Xiaomi Surge P1 รองรับชาร์จเร็ว 120W, USB-C, NFC
- ราคา: เริ่มต้นประมาณ 13,600 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลและสเปครายละเอียดต่างๆ ของสเปค Redmi Note 12 4G, Redmi Note 12 5G และ Redmi Note 12 Pro 5G, Redmi Note 12 Pro+ 5G ทั้งสี่รุ่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โดยแต่ละรุ่นนั้นเป็นสเปคข้อมูลจาก Global โดยตรงที่เปิดตัวออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนราคาของทุกรุ่นนั้นยังคงไม่ได้กำหนดราคาของประเทศไทยออกมาอย่างเป็นทางการ แต่มีราคาประมาณจากต่างประเทศเท่านั้น ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะนำเข้ามาขายช่วงไหน แต่คาดว่าน่าจะเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ใครที่เล็งรุ่นไหนไว้ก็รอซื้อกันได้เลย และถ้ามีการอัพเดทเพิ่มเติมเดี๋ยวเราจะมาอัพเดทราคาให้อีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพทั้งหมดจาก Xiaomi Global