สเปค OPPO Reno 12/ OPPO Reno 12 Pro มาพร้อมชิป Dimensity 9200+ กล้อง Telephoto 50MP เริ่มต้น 13,xxx บาท
เปิดตัวออกมาใหม่อีกหนึ่งรุ่นสำหรับมือถือ OPPO Reno Series ในซีรีส์ใหม่ 2 รุ่นได้แก่ OPPO Reno 12 และ OPPO Reno 12 Pro หลังจากที่เปิดตัวรุ่นก่อนหน้าคือ OPPO Reno11 Series ออกมาในช่วงต้นปีที่ผ่านมาในไทย ซึ่งรุ่นใหม่นี้ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าจอโค้งใหม่เป็นแบบโค้ง 4 มุม เพิ่มความแข็งแรงให้หน้าจอมากขึ้น และยังมีการใช้หน้าจอที่ให้ความละเอียดคมชัดได้เกือบเท่ารุ่นเรือธงเลยทีเดียว ส่วนเรื่องประสิทธิภาพก็ได้อัพเกรดให้แรงมากขึ้น และยังคงเน้นเรื่องกล้องและการถ่ายรูปพอร์ตเทรตมาให้เหมือนเดิม พร้อมการทำงานร่วมกับ AI อีกเพียบ และยังผ่านการรับรองจาก กสทช. แล้วในตอนนี้ในรหัสรุ่น CPH2625/ CPH2629 ส่วนรายละเอียดสเปคจะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเลย
OPPO Reno 12
เริ่มต้นกันด้วยรุ่นมาตรฐานของซีรีส์ใหม่นี้กันก่อนเลย สำหรับ OPPO Reno 12 ที่ภายนอกหรือการดีไซน์ตัวเครื่องนั้นมีการปรับเปลี่ยนให้มีความเหลี่ยมมากขึ้น คล้ายๆ กับรุ่นก่อนหน้ากว่า 6 เจนนู่นเลย รวมไปถึงตัวโมดูลกล้องก็เปลี่ยนให้เป็นกรอบสี่เหลี่ยม และมีวงแหวนเลนส์ 3 ตัวเรียงลงมา ตัวเครื่องยังมีความบางเบาที่ขนาด 7.25 มม. และ 179 กรัมเท่านั้น มี 3 สีให้เลือกคือสีเงิน (Millenium Silver), สีชมพู (Pastel Peach) และสีดำ (Ebony Black) กับลวดลาของแต่ละสีที่ต่างกันไป สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP65
ส่วนหน้าจอของรุ่นนี้ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน จากเดิมที่เป็นจอโค้งเต็มก็เปลี่ยนมาใช้จอแบบโค้ง 4 มุมเท่าๆ กัน ก็คือมีความนูนและโค้งขึ้นมาเล็กน้อยแบบเท่ากันทุกมุม ทำให้ตัวเครื่องนั้นดูสวยหรูมากขึ้น ป้องกันหน้าจอด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ที่แข็งแรง
ตัวหน้าจอของรุ่นนี้มีหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2412 × 1080) กว้าง 6.7 นิ้วและมี Refresh Rate 120Hz และ Touch Sampling Rate 240Hz สว่างได้สูงสุดถึง 1,200nits และการหรี่แสง PWM Dimming 2160Hz กับฟีเจอร์ถนอมสายตา พร้อมรองรับรูปแบบ ProXDR ที่ให้ภาพคมชัดสมจริง มีสีสันรองรับกว่า 1.07 พันล้านสี รวมไปถึง HDR10+ และ Rain touch ที่สัมผัสได้แม้มือเปียกอีกด้วย
สำหรับชิปประมวลผลของ OPPO Reno 12 ได้ใช้ชิปเป็นตัว Dimensity 8250 Star Speed Edition ที่มีความเร็วแรงมากขึ้นกว่าเดิม มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการทำงานร่วมกับกับ OPPO x Dimensity มีหน่วยความจำมาให้เลือกคือ RAM 12/16GB และความจุ ROM 256/512GB ทั้งหมด 4 รุ่น สามารถเล่นเกมได้ไหลลื่นอย่าง King of Glory (RoV) ที่ได้ถึง 120fps ส่วนแบตมีความจุ 5,000 mAh ชาร์จไวได้ 80W รองรับการใช้งานได้นานถึง 4 ปี
แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็ยังเน้นเรื่องกล้องและการถ่ายรูปมาให้เป็นหลัก ด้วยกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดหลัก 50MP (ƒ/1.8) ที่มีเซนเซอร์ Sony LYT-600 กับกันสั่น OIS และ AF กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.2) ถ่ายได้กว้าง 112 องศา และอีกตัวคือ Telephoto 50MP (ƒ/2.0) สำหรับถ่ายพอร์ตเทรตระดับ DSLR ซูมแบบ Hybrid Optical Zoom 2x และซูมแบบ Digital Zoom 20x จัดระยะการถ่ายพอร์ตเทรตได้เป็นอย่างดี ถ่าย Live Photo ได้ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 50MP (ƒ/2.0) มี AF และถ่ายวิดีโอทั้งหน้า-หลังได้สูงถึง 4K@60fps
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ OPPO Reno 12 รุ่นนี้ก็คือการทำงานร่วมกับ AI Imaging ที่ช่วยปรับแต่งรูปถ่ายได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น AI Closed Eye Repair ที่สามารถปรับเปลี่ยนเมื่อถ่ายแล้วเราหลับตาให้ลืมตาขึ้นมาได้ด้วย AI มากสุด 20 คน, AI Elimination ที่สามารถลบคนหรือวัตถุออกไปจากภาพได้ง่ายๆ และ AI Cutout ที่สามารถแยกวัตถุออกมาจากภาพได้ เพื่อไปทำสติกเกอร์หรือแต่งรูปขายของได้สบาย
ส่วน AI ทางด้านอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการแต่งรูปก็ยังมีอีกได้แก่ AI Recording Summary ที่เอาไว้สรุปการประชุมหรือการเรียนจากเสียงที่บันทึกมาได้ง่ายๆ ฟีเจอร์ English teacher ที่ช่วยสอนภาษาอังกฤษทั้งการฝึก การแปล อธิบายคำศัพท์ต่างๆ และการเขียนเพื่อช่วยฝึกภาษาให้เก่งขึ้น กับ AI Document Scanning ที่เอาไว้สแกนเอกสารและบันทึกออกมาในรูปแบบของ Word/ PDF/ รูปภาพ และอื่นๆ ได้ รวมไปถึงการแยกสูตรที่ซับซ้อนและการเขียนด้วยลายมือได้อีกด้วย
สรุปสเปค OPPO Reno 12
- ขนาดและน้ำหนัก:
- 161.4 x 74.8 x 7.25 มม. (สีดำ), 7.30 มม. (สีเงินและชมพู)/ 179 กรัม
- หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED โค้ง 4 มุม ความละเอียด FHD+ (2412 × 1080) กว้าง 6.7 นิ้ว
- Refresh Rate 120Hz
- สว่างสูงสุด 1,200 nits/ PWM Dimming 2160Hz
- สี 1.07 พันล้านสี/ P3
- ProXDR/ HDR10+/ Rain Touch
- ชิปประมวลผล: Dimensity 8250 Star Speed Edition (4nm)/ OPPO x Dimensity
- GPU: Mali-G610
- RAM: 12GB/ 16GB (LPDDR5x)
- ROM: 256GB/ 512GB (UFS 3.1)
- microSD: –
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (𝑓/1.8)/ OIS/ AF/ เซ็นเซอร์ LYT-600
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP (𝑓/2.2)/ กว้าง 112 องศา
- เลนส์ Telephoto Portrait 50MP (𝑓/2.0)/ Hybrid Optical 2x / Digital 20x
- ทำงานร่วมกับ AI
- วิดีโอ 4K@60fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 50MP (𝑓/2.0)/ AF/ 4K@60fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 6, BT5.4, NFC, USB-C 2.0
- ซิม: Dual SIM
- ระบบเสียง: ลำโพง
- เซ็นเซอร์: สแกนลายนิ้วมือใต้จอ/ Geomagnetic/ Front Color Temperature/ Proximity/ Under-Screen Light/ Acceleration/ Gravity/ Gyroscope/ Step Counting/ IR Blaster
- กันน้ำกันฝุ่น: IP65
- ระบบปฏิบัติการ: ColorOS 14.1 พื้นฐาน Android 14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh/ ชาร์จไว 80W
- ราคา: เริ่มต้น 2,699 หยวน หรือประมาณ 13,700 บาท
OPPO Reno 12 Pro
มาดูทางด้านของ OPPO Reno 12 Pro รุ่นตัวท็อปของซีรีส์กันบ้าง ที่มีทั้งหน้าตาและสเปคที่คล้ายกับรุ่นปกติเลย แต่ว่าตัวเครื่องของรุ่นนี้จะมีความหนาขึ้นมาหน่อยด้วยขนาด 7.55 มม. และหนัก 183 กรัม นอกนั้นก็เหมือนกันเลยทั้งดีไซน์ตัวเครื่องและโมดูลกล้อง ส่วนสีตัวเครื่องรุ่นนี้จะมี 3 สีที่ต่างไปด้วยคือสีเงินม่วง (Silver Magic Purple), สีทอง (Champagne Gold) และสีดำ (Ebony Black)
ทางด้านสเปคของหน้าจอรุ่นนี้ก็เหมือนกับรุ่นปกติทั้งหมด มีสิ่งที่ต่างไปจริงๆ ก็คือชิปประมวลผลที่ใช้ชิป Dimensity 9200+ Star Speed Edition เร็วแรงขึ้นกว่าเดิม พร้อมปรับแต่งเข้ากับ OPPO x Dimensity ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีมาให้เลือก 3 รุ่นในความจำ RAM 12/16GB และ ROM 256/512GB ส่วนแบตมีความจุเท่ากันที่ 5,000 mAh ชาร์จไวได้ 80W นอกจากนี้ยังมีเพิ่มมาในส่วนของมอเตอร์ X-axis linear แบบ 4D ที่ให้การสั่นสมจริงมากขึ้นด้วย
และอีกหนึ่งความแตกต่างก็แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องกล้อง ที่ถึงแม้ว่าจะมีกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.2) ถ่ายได้กว้าง 112 องศา และ Telephoto 50MP (ƒ/2.0) สำหรับถ่ายพอร์คเทรตได้เหมือนกัน แต่ตัวกล้องหลักของรุ่นโปรนี้จะเป็น 50MP (ƒ/1.8) ที่มีเซ็นเซอร์ SONY IMX890 ขนาดใหญ่ขึ้น ถ่ายได้ดีขึ้นกว่าเดิม นอกนั้นทั้งฟีเจอร์ AI และการถ่ายภาพเหมือนกันหมด
สรุปสเปค OPPO Reno 12 Pro
- ขนาดและน้ำหนัก:
- 161.4 x 74.8 x 7.55 มม. (สีดำและทอง), 7.6 มม. (สีเงินม่วง)/ 183 กรัม (สีดำและทอง), 184 กรัม (สีเงินม่วง)
- หน้าจอ: หน้าจอ AMOLED โค้ง 4 มุม ความละเอียด FHD+ (2412 × 1080) กว้าง 6.7 นิ้ว
- Refresh Rate 120Hz
- สว่างสูงสุด 1,200 nits/ PWM Dimming 2160Hz
- สี 1.07 พันล้านสี/ P3
- ProXDR/ HDR10+/ Rain Touch
- ชิปประมวลผล: Dimensity 9200+ Star Speed Edition (4nm)/ OPPO x Dimensity
- GPU: Immortalis-G715
- RAM: 12GB/ 16GB (LPDDR5x)
- ROM: 256GB/ 512GB (UFS 3.1)
- microSD: –
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (𝑓/1.8)/ OIS/ AF/ เซ็นเซอร์ SONY IMX890
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP (𝑓/2.2)/ กว้าง 112 องศา
- เลนส์ Telephoto Portrait 50MP (𝑓/2.0)/ Hybrid Optical 2x / Digital 20x
- ทำงานร่วมกับ AI
- วิดีโอ 4K@60fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 50MP (𝑓/2.0)/ AF/ 4K@60fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 6, BT5.4, NFC, USB-C 2.0
- ซิม: Dual SIM
- ระบบเสียง: ลำโพง
- เซ็นเซอร์: สแกนลายนิ้วมือใต้จอ/ Geomagnetic/ Front Color Temperature/ Proximity/ Under-Screen Light/ Acceleration/ Gravity/ Gyroscope/ Step Counting/ IR Blaster/ มอเตอร์ X-axis linear
- กันน้ำกันฝุ่น: IP65
- ระบบปฏิบัติการ: ColorOS 14.1 พื้นฐาน Android 14
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh/ ชาร์จไว 80W
- ราคา: เริ่มต้น 3,399 หยวน หรือประมาณ 17,200 บาท
ราคาและการวางขาย
สำหรับการวางขายของ OPPO Reno 12 และ Reno 12 Pro ทั้งสองรุ่นนี้เปิดตัวพร้อมให้สั่งจองและซื้อได้ตั้งแต่ 31 พฤษภาคม 2024 ที่ประเทศจีน และยังไม่ได้เปิดตัวในรูปแบบ Global ออกมาในตอนนี้ รวมไปถึงประเทศไทยก็ยังไม่ได้เปิดตัวสเปคออกมาเช่นกัน แต่ตอนนี้ก็ผ่านการรับจาก กสทช. ไปแล้ว รอแค่การเปิดตัวออกมาวางขาย คาดว่าเร็วๆ นี้แน่นอน ส่วนราคาของทั้งสองรุ่นแบ่งได้ตามความจุดังนี้ (จากราคาจีน)
OPPO Reno 12
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: ราคา 2,699 หยวน หรือประมาณ 13,700 บาท
- รุ่น RAM 12GB/ 512GB: ราคา 2,999 หยวน หรือประมาณ 15,200 บาท
- รุ่น RAM 16GB/ 256GB: ราคา 2,999 หยวน หรือประมาณ 15,200 บาท
- รุ่น RAM 16GB/ 512GB: ราคา 3,199 หยวน หรือประมาณ 16,200 บาท
OPPO Reno 12 Pro
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: ราคา 3,399 หยวน หรือประมาณ 17,200 บาท
- รุ่น RAM 16GB/ 256GB: ราคา 3,699 หยวน หรือประมาณ 18,800 บาท
- รุ่น RAM 16GB/ 512GB: ราคา 3,999 หยวน หรือประมาณ 20,300 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคของมือถือ OPPO Reno 12 Series ใหม่ที่เปิดตัวออกมาที่จีนไปล่าสุด หลังจากเปิดตัว OPPO Reno11 Series ที่ประเทศไทยไปได้ไม่นานมานี้ คาดว่าน่าจะมีการเปิดตัวแบบ Global และที่ไทยตามมาเร็วๆ นี้ เพราะผ่านการรับรองจาก กสทช. แล้ว ส่วนราคาคาดว่าจะใกล้เคียงกับที่เปิดตัวที่จีนนั่นแหละ จากรุ่นที่ผ่านๆ มา แต่ว่าสเปคจะได้เหมือนสเปคจีนเลยหรือไม่ก็ต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกที ทั้งนี้รุ่นใหม่ก็ได้ปรับเปลี่ยนทั้งดีไซน์ตัวเครื่อง รูปแบบหน้าจอ ชิปประมวลผลที่เร็วขึ้น และยังมีกล้องที่ทำงานร่วมกับ AI เพื่อตอบโจทย์การถ่ายรูปให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ข้อมูลและรูปภาพจาก OPPO CN