สเปค Xiaomi 14/ Xiaomi 14 Pro รุ่นแรกที่ได้ชิป SND 8 Gen 3 มาพร้อมกล้อง LEICA 50MP ชาร์จไว 120W บนระบบ HyperOS
เปิดตัวออกมาแล้วกับ Xiaomi รุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศจีนกับรุ่น Xiaomi 14 Series ที่ปล่อยออกมาทีเดียว 2 รุ่นคือรุ่นปกติและรุ่นโปร โดยทั้งสองรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับอะไรใหม่ๆ กันทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นตัวระบบ HyperOS ตัวใหม่ที่มาแทนระบบ MIUI ได้ทั้งความเร็ว ประหยัดพลังงาน และยังเน้นเรื่องของผู้ใช้งานเป็นหลักอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังได้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 เป็นรุ่นแรกของโลก ชิปตัวเต็งที่คาดว่าจะอยู่ในเรือธงหลายๆ รุ่นในปี 2024 รวมไปถึงตัวกล้องที่ยังคงทำร่วมกับ LEICA เหมือนเดิม เพิ่มเติมที่มีการอัพเกรดให้ดีกว่าเดิม ถ่ายรูปได้ดียิ่งขึ้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ก็ยังมีการอัพเกรดเพิ่มเติมในอีกหลายๆ ด้านอีกด้วย เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปสเปค Xiaomi 14/ Xiaomi 14 Pro ทั้งสองรุ่นนี้ที่เป็นซีรีส์แรกที่ได้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 มาพร้อมกล้อง LEICA 50MP สามตัว ชาร์จไวได้สูงสุด 120W บนระบบ HyperOS ใหม่
Xiaomi 14
เริ่มต้นกันที่ Xiaomi 14 รุ่นปกติกันก่อนเลย อย่างแรกก็คือการดีไซน์ของตัวเครื่องที่ยังมีความคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า ที่เป็นกรอบแบนโลหะปัดเงาวับมุมโค้งมน ตัวฝาหลังมีสองแบบให้เลือกคือแบบตัวกระจก และอีกแบบคือหนังเทียม ขนาดบางสุดที่ 8.20 มม. ในรุ่นกระจก อีกทั้งยังมีขนาดที่พอเหมาะสำหรับการจับถือด้วยมือเดียว มาพร้อมขอบจอที่บางสุดๆ เพียง 1.61 มม. ตรงขอบบนและด้านข้าง ส่วนด้านล่างมี 1.71 มม. มองเห็นได้เต็มที่มากขึ้นกว่าเดิม ส่วนโมดูลกล้องมีกรอบนูนขึ้นมากว่าเดิมกับเลนส์ 3 ตัวด้านในค้ลายๆ เดิมแต่สวยหรูพรีเมียมมากขึ้น มีปล่อยออกมา 4 สีได้แก่สีขาว, สีดำ, สีเขียว และแบบหนังเป็นสีชมพู
ในส่วนของหน้าจอ Xiaomi 14 รุ่นนี้ได้ใช้หน้าจอ OLED แบบ Super Visual Sense ระดับ 1.5K (2670×1200) กว้าง 6.36 นิ้วครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus รองรับ Refresh Rate 120Hz (1-120Hz) และได้มีการอัพเกรดใหม่ในเรื่องของหน้าจอที่เป็น LTPO C8 ใหม่ที่ให้ความแม่นยำสูงถึง 460PPI และทำความสว่างหน้าจอได้สูงสุดถึง 3000nits เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังให้สีตามมาตรฐาน CIE2015 ระดับมืออาชีพที่เอาถ่ายรูปตัดต่อได้สีอย่างแม่นยำ พร้อมรองรับ Dolby Vision ,HDR10+, ZREAL และ HDR Vivid ได้หมดเลย
ชิปประมวลผลที่รุ่นนี้ก็มีความพิเศษตรงที่ได้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 (4nm) เป็นรุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวออกมา ทำให้มีความเร็วแรงมากขึ้นถึง 32% และ GPU แรงขึ้นถึง 34% รวมไปถึงการประมวลผลของ AI ที่เพิ่มมาอีก 98% มาพร้อม RAM 8GB/ 12GB /16GB กับความจุ ROM 256GB/ 512GB/ 1TB มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น สามารถเล่นเกมได้ไหลลื่นไม่มีสะดุดแน่นอน หมดกังวลเรื่องความร้อนด้วยการระบายความร้อนแบบช่องแยก ลดความร้อนลงได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่า โดยมีแบตมาให้ที่ความจุ 4,610mAh รองรับชาร์จได้ 90W และชาร์จไวแบบไร้สายได้ 50W
มาดูจุดเด่นหลักๆ ของรุ่นนี้ก็ที่ตัวกล้องที่มี 3 ตัวและแน่นอนว่าทำร่วมกันกับ LEICA แต่ว่าคราวนี้ก็มาพร้อมกับการอัพเกรดครั้งใหญ่ ด้วยการใช้เลนส์ LEICA Optics Summilux ที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่พิเศษที่ f/1.6 เก็บแสงและรายละเอียดได้ดีเพิ่มขึ้นถึง 80% บนกล้องตัวหลักความละเอียด 50MP ที่ได้เซ็นเซอร์ Light Hunter 900 ขนาด 1/1.31″/ 2.4μm กับช่วงไดนามิกสูง 13.5EV เพิ่มขึ้น 8 เท่า และมีเทคโนโลยี Dual-native ISO Fusion Max ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่แสงน้อยหรือว่าแสงจ้ามากๆ ก็ยังได้รายละเอียดที่คมชัด อีกทั้งยังมีกันสั่น OIS แบบออปติคอล และถ่ายภาพได้ที่ระยะ 23 มม. จากตัวหลักที่เป็น Leica Super Dynamic
ส่วนเลนส์ที่เหลือนั้นจะเป็นตัวอัลตร้าไวด์ความละเอียด 50MP รูรับแสงขนาดใหญ่ f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้สูงสุด 115 องศาและมีกันสั่นแบบ EIS ในตัว และกล้อง Telephoto ความละเอียด 50MP สำหรับการถ่ายพอร์ตเทรต ส่วนโหมดธรรมดาจะใช้กล้องความละเอียด 32MP แทน สามารถถ่ายได้ด้วยระยะ 14 มม.-75 มม. และถ่ายได้ใกล้สุด 10 ซม. พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.0 ที่มีกันสั่น OIS ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมี Leica Texture Portrait ใหม่ที่ปรับสีผิวและแสงเงาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้สีสันและภาพถ่ายออกมาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วยเลนส์พิเศษจาก LEICA
ในเรื่องของฟีเจอร์และโหมดที่มาพร้อมกับ LEICA นั้นก็ยังมีให้เล่นและใช้งานกันอีกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น Leica Dual Picture ที่มีทั้ง LEICA VIBRANT และ LEICA AUTHENTIC เลือกถ่ายโทรภาพแบบต่างๆ ได้ แต่ว่าในคราวนี้ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Style Presets” ที่สามารถเลือกสไตล์ให้เหมาะกับตัวเอง ทั้งการปรับโทรสี พื้นผิวต่างๆ ได้อย่างอิสระ โดยมีทั้งตัวอย่างเอฟเฟกต์ให้เลือกแบบ Realtime สามารถแก้ไขและบันทึก หรือจะนำเข้าและแบ่งให้กับคนอื่นๆ ก็ยังได้ รวมไปถึงฟิลเตอร์จาก LEICA ที่มีให้เลือกอีกเพียบเช่นสีธรรมชาติ, Vivid, Monochrome และอื่นๆ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP (f/2.0)
ปิดท้ายด้วยการถ่ายวิดีโอที่มีโหมดภาพยนตร์พร้อมเทคนิคการถ่ายระดับมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอไดนามิกสูง, โฟกัสหน้าหลังเบลได้ และยังมีรูปแบบอื่นๆ ให้ถ่ายได้ตามต้องการถ่ายได้สูงถึง 8K@24fps เก็บเสียงได้แม่นยำด้วยไมค์ 4 ตัวรอบทิศทาง 360 องศา มีลำโพงคู่สเตอริโอรองรับ Dolby Atmos กระจายเสียงออกได้หลายมิติรอบทิศทาง สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP68 นอกจากนี้ก็ยังมีมอเตอร์สั่นสะเทือนที่ให้ความแม่นยำมากขึ้น รองรับการเชื่อมต่อ 5G และ Wi-Fi 7 ทำงานบนระบบ HyperOS พื้นฐาน Android 14 มีราคาวางขายที่จีนอยู่ที่
- รุ่น 8/256GB: ราคา 3,999 หยวน หรือประมาณ 19,700 บาท (จำกัดแค่สีดำ และสีเขียว)
- รุ่น 12/256GB: ราคา 4,299 หยวน หรือประมาณ 21,200 บาท
- รุ่น 16/512GB: ราคา 4,599 หยวน หรือประมาณ 22,600 บาท
- รุ่น 16/1TB: ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 24,800 บาท
สรุปสเปค Xiaomi 14
- หน้าจอ: OLED LTPO C8 ระดับ 1.5K (1200×2670) กว้าง 6.36 นิ้ว/ Refresh Rate 1-120Hz/ สว่าง 3,000nits
- มาตรฐานสี CIE2015
- รองรับ Dolby Vision ,HDR10+, ZREAL, HDR Vivid
- ชิปประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 (4nm)
- RAM: 8GB/ 12GB/ 16GB, (LPDDR5x)
- ROM: 256GB/ 512GB/ 1TB, (UFS 4.0)
- กล้องหลัง 3 ตัวทำร่วม LEICA Optics Summilux ความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (ƒ/1.6)/ OIS/ Sensor Light Hunter 900 1/1.31″
- เลนส์ Ultra-wide 50MP (ƒ/2.2)/ EIS/ กว้าง 115 องศา
- เลนส์ Telephoto 50MP (portrait mode)/ 32MP (photo mode) (ƒ/2.0), OIS, ถ่ายใกล้ 10 ซม., ช่วง 14 มม.-75 มม.
- ฟีเจอร์และฟิลเตอร์จาก LEICA
- วิดีโอ 8K@24fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (ƒ/2.0)
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 7, BT 5.4, NFC, USB-C 3.2 Gen1
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 ครอบทับ HyperOS
- แบตเตอรี่ความจุ: 4,610mAh/ ชาร์จไว 90W และไร้สาย 50W
- ราคา: 3,999 หยวน หรือประมาณ 19,700 บาท
Xiaomi 14 Pro
มาดูที่รุ่น Xiaomi 14 Pro กันบ้างที่ตัวนี้จะมีความคล้ายกับรุ่นปกติอยู่ในหลายๆ ด้านเลย แต่จุดต่างเด่นๆ เลยก็คือเรื่องกล้อง แบตเตอรี่และการชาร์จ กับรายละเอียดย่อยๆ อีกพอสมควร โดยดีไซน์ตัวเครื่องนั้นยังคงคล้ายกับ ที่เป็นขอบแบนมุมโค้งด้วยโลหะเงางาม ส่วนโมดูลกล้องจะมีกรอบนูนขึ้นมาเหมือนๆ กับรุ่นปกติ แต่ว่ารุ่นโปรนี้มีความพิเศษอีกอย่างก็คือ จะมีทั้งรุ่นที่ใช้ฝาหลังเป็นกระจกกับกรอบโลหะเงา และอีกแบบก็คือรุ่นฝาหลังเป็นกระจก Xiaomi Dragon Crystal Glass พร้อมกรอบแบบไทเทเนียมเกรดยานอวกาศ 99% ที่ให้ความแข็งแรงได้มากกว่าปกติ ดูเรียบหรูสวยงามทีเดียว รุ่นนี้มี 3 สีคือสีดำ, สีขาว และสีเขียว ส่วนรุ่นไทเทเนียมเป็นสีไทเทเนียม
ตัวจอและฝาหลังมีความโค้งขึ้นมาขอบกรอบด้านข้างเล็กน้อย เพื่อการจับถือที่สะดวกมากขึ้น พร้อมขอบหน้าจอที่ทำออกมาบางเป็นพิเศษ โดยใช้หน้าจอแบบเดียวกันคือ AMOLED super Visual Sense ครอบทับด้วย Xiaomi Dragon Crystal Glass ที่มีความแข็งแรงกว่าเดิม 10 เท่ากันรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น แต่ว่าตัวโปรจะมีจอความละเอียด 2K (3200×1440) กว้าง 6.73 นิ้วและมี Refresh Rate 120Hz (1-120Hz) แบบ LTPO C8 แม่นยำ 522PPI มีระบบถนอมสายตาและรองรับ Dolby Vision ,HDR10+, ZREAL และ HDR Vivid ได้เหมือนกัน
ด้านของชิปประมวลผลก็แน่นอนว่าได้ตัวเดียวกันคือ Snapdragon 8 Gen 3 (4nm) รุ่นใหม่และใช้เป็นรุ่นแรกของโลก มีความเร็วแรงและประหยัดพลังงานมากขึ้น ประสิทธิภาพแบบเดียวกับรุ่นปกติ รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดีอีกด้วย ทั้งนี้จุดที่ต่างไปก็คือตัวสเปคที่รุ่นนี้มี RAM 12GB/ 16GB กับความจุ ROM 256GB/ 512GB/ 1TB มีมาให้เลือก 3 รุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีไมค์ 4 ตัวกับลำโพงคู่ พร้อมมอเตอร์ลิเนียที่สั่นได้แม่นยำ กันน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP68 เท่ากัน แต่ว่ารุ่นโปรจะมีแบตความจุเยอะกว่าที่ 4,880mAh ชาร์จไวได้สูงสุด 120W และไรสายได้ 50W
จุดที่ทำให้แตกต่างอีกจุดก็คือกล้องหลัง โดยรุ่น Xiaomi 14 Pro นี้จะมีกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมการพัฒนาร่วมกับ LEICA Optics Summilux ด้วยชุดเลนส์แบบเดียวกันกับรุ่นปกติ แต่ว่าจุดที่ทำให้แตกต่างก็คือกล้องหลักที่ใช้ Leica super dynamic ความละเอียด 50MP ที่มีเซ็นเซอร์ Light Hunter 900 สามารถปรับรูรับแสงได้ทั้งกว้างและแคบจาก ƒ/1.42 – ƒ/4.0 กับทางยาวโฟกัส 23 มม. และมีกันสั่น OIS แบบออปติคัลในตัวด้วย ส่วนที่เหลือก็คือกล้องอัลตร้าไวด์ที่มีความละเอียด 50MP (ƒ/2.2) ถ่ายได้ทางยาวโฟกัส 14 มม. และถ่ายซูเปอร์มาโครได้ใกล้ถึง 5 ซม. อีกเลนส์คือ Telephoto 50MP (ƒ/2.0) สำหรับ Portrait mode และได้ 40MP ในโหมดถ่ายรูปปกติ ความยาวเลนส์ 75 มม. และถ่ายใกล้ได้ 10 ซม. พร้อมกันสั้น OIS
ที่น่าสนใจอีกอย่างใน Xiaomi 14 Pro รุ่นนี้ก็คือ Leica Professional Street Photography Mode หรือว่าโหมดที่เอาไว้ถ่ายแนววสตรีท จะออกแนวคล้ายๆ การ Snapshot ที่หยิบขึ้นมาถ่ายอย่างรวดเร็ว เพราะว่าสามารถถ่ายได้ในเวลาเพียงแค่ 0.8 วินาทีเท่านั้นด้วยการกดปุ่มลดเสียง 2 ครั้ง สามารถเปลี่ยนระยะ Focal Length ได้ด้วย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีมากับ LEICA ทั้งLEICA VIBRANT และ LEICA AUTHENTIC พร้อมฟีเจอร์และฟิลเตอร์การถ่ายภาพแบบเดียวกับรุ่นปกติทั้งหมด รวมไปถึงการถ่ายวิดีโอด้วยโหมดภาพยนตร์ที่ได้สูงสุดถึง 8K @24/30fps กับกล้องหน้า 32MP (f/2.0) มีราคาเปิดตัววางขายที่จีนได้แก่
- รุ่น 12/256GB: ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 24,800 บาท
- รุ่น 16/512GB: ราคา 5,499 หยวน หรือประมาณ 27,500 บาท
- รุ่น 16/1TB: ราคา 5,999 หยวน หรือประมาณ 39,800 บาท (รุ่นกระจก)
- รุ่น 16/1TB: ราคา 6,499 หยวน หรือประมาณ 32,300 บาท (รุ่น Titanium Edition )
สรุปสเปค Xiaomi 14 Pro
- หน้าจอ: AMOLED LTPO C8 ระดับ 2K (3200×1440) กว้าง 6.73 นิ้ว/ Refresh Rate 1-120Hz/ สว่าง 3,000nits
- มาตรฐานสี P3
- รองรับ Dolby Vision ,HDR10+, ZREAL, HDR Vivid
- ชิปประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 (4nm)
- RAM: 12GB/ 16GB, (LPDDR5x)
- ROM: 256GB/ 512GB/ 1TB, (UFS 4.0)
- กล้องหลัง 3 ตัวทำร่วม LEICA Optics Summilux ความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (ƒ/1.42 – ƒ/4.0)/ ทางยาวโฟกัส 23 มม. / OIS/ Sensor Light Hunter 900 1/1.31″
- เลนส์ Ultra-wide 50MP (ƒ/2.2)/ EIS/ กว้าง 115 องศา/ SuperMacro 5 cm.
- เลนส์ Telephoto 50MP (portrait mode)/ 40MP (photo mode) (ƒ/2.0), OIS, ถ่ายใกล้ 10 ซม., ช่วง 75 มม.
- ฟีเจอร์และฟิลเตอร์จาก LEICA
- วิดีโอ 8K @24/30fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (ƒ/2.0)
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 7, BT 5.4, NFC, USB-C 3.2 Gen2
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 ครอบทับ HyperOS
- แบตเตอรี่ความจุ: 4,880mAh/ ชาร์จไว 120W และไร้สาย 50W
- ราคา: 4,999 หยวน หรือประมาณ 24,800 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการสรุปสเปคของ Xiaomi 14 และ Xiaomi 14 Pro ทั้งสองรุ่นที่เปิดตัวออกมาล่าสุดพร้อมการเปลี่ยนแปลง และการอัพเกรดสเปคใหม่เยอะทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ที่มีกรอบตัวเครื่องแบบไทเทเนียนเข้ามาใหม่ในรุ่นโปร ได้ชิปตัวใหม่ตัวแรงเป็นรุ่นแรกของโลก และยังเปลี่ยนมาใช้ระบบ HyperOS ใหม่เป็นรุ่นแรกอีก แต่ที่เป็นจุดน่าสนใจที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นกล้องหลัง ที่ทำร่วมกับ LEICA แต่มีการปรับปรุงใหม่ให้ถ่ายรูปออกมาได้ดีกว่าเดิมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะรุ่นโปรที่เหนือขึ้นไปอีกขั้น ทั้งนี้ยังไม่รู้ว่าจะเข้ามาขายในไทยหรือทั่วโลกหรือไม่ ต้องรอติดตามดูกัน ถ้ามีการอัพเดทเพิ่มเติมหรือมีมาวางขายเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้ง
ขอบคุณภาพและข้อมูลทั้งหมดจาก Xiaomi 14/ Xiaomi 14 Pro CN