สเปค realme 11 5G/ realme 11x 5G ได้ชิป Dimensity 6100+ จอ 120Hz กล้อง 108MP พร้อมชาร์จไว เปิดตัว 21 ก.ย. 2023 นี้
เปิดตัวกันออกมาอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศอินเดียสำหรับ realme รุ่นใหม่ล่าสุด 2 รุ่นของ realme 11 Series นั่นก็คือรุ่น realme 11 5G และ 11x 5G ที่ทั้งสองรุ่นนี้เป็นมือถือระดับกลางในราคาเปิดตัวออกมาไม่เกินหมื่น (ที่อินเดีย) ซึ่งจะมีการเปิดตัวพร้อมกันในไทยด้วย สำหรับสเปคของทั้งสองรุ่นนี้จะเน้นไปที่ความคุ้มค่าในการใช้งาน มีตัวเครื่องสวยหรู หน้าจอใหญ่เล่นได้อย่างไหลลื่น และยังมีชิปที่แรงใช้งาน 5G ได้ บวกกับกล้องที่ทรงพลังสูงสุด 108MP อีกทั้งยังมีแบตที่อึดชาร์จไวได้สูงสุด 67W เลยทีเดียว แต่ว่าทั้งสองรุ่นนี้ก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ต่างกันอยู่หน่อยนึง เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปสเปค realme 11 5G/ realme 11x 5G ทั้งสองรุ่นที่ได้ชิป Dimensity 6100+ หน้าจอ 6.72 นิ้ว 120Hz พร้อมกล้องถ่ายรูปได้สวย มีแบตอึดและการชาร์จไว เปิดตัวพร้อมกันวันที่ 21 ก.ย. 2023 นี้
realme 11x 5G
เริ่มต้นกันด้วยสเปค realme 11x 5G ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นซีรีส์ตัว 5G ของ realme 11 กันก่อนเลย ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นรองรุ่นพี่แค่เรื่องของกล้อง ความจุ และการชาร์จไวเท่านั้น เพราะส่วนอื่นๆ ก็ยังได้สเปคคล้ายกัน โดยรุ่นนี้มีการดีไซน์ตัวเครื่องออกมาแบบ S-curve มีการไล่ระดับโทนสีและสะท้อนแสงได้อย่างสวยงาม ขอบเครื่องเป็นขอบแบนมุมโค้งที่มีความบางเพียง 7.89 มม. ส่วนโมดูลกล้องเป็นวงแหวนอันใหญ่และมีเลนส์อีกสองตัวด้านใน สามารถสแกนลายนิ้วมือปลดล็อคด้านข้างตัวเครื่องได้รวดเร็ว มีสองสีให้เลือกคือ สีม่วงและสีดำ
ในส่วนของหน้าจอรุ่นนี้มีหน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ (1080×2400) กว้าง 6.72 นิ้วและมี Refresh Rate 120Hz ปรับได้ 6 ระดับที่ปรับแต่งได้เองตามสถานการณ์การใช้งานของเรา พร้อมอัตราส่วนต่อตัวเครื่อง 91.40% ถือว่ามีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ และยังเล่นได้ไหลลื่นเต็มที่อีกด้วย นอกจากนี้หน้าจอยังทำความสว่างได้ 550nits และเร่งความสว่างแบบ HBM ได้ถึง 680nits ออกกลางแจ้งก็ยังเห็นชัดเจน กล้องหน้าเป็นแบบเจาะรู ทำงานบนระบบ realme UI 4.0 บน Android 13
รุ่นนี้ได้ใช้ชิปตัว Dimensity 6100+ 5G (6nm) ที่มี RAM 6/8GB และ ROM 128GB มีให้เลือกสองรุ่นตามหน่วยความจำแรม และยังขยายแรมเพิ่มด้วย Dynamic RAM ได้สูงสุด 8GB เพื่อให้การเล่นเกมไม่มีสะดุดหรือใช้งานอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถเพิ่มความจุด้วย microSD ได้มากถึง 2TB สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง 5G ที่แชร์ให้คนอื่นได้แบบประหยัดพลังงาน รองรับ Wi-Fi 4/ Wi-Fi 5/ Bluetooth 5.2 และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ให้ด้วย มาพร้อมแบตอึดขนาดความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จไวด้วย SUPERVOOC 33W (USB-C) ชาร์จ 1-50% ในเวลาเพียง 29 นาทีเท่านั้น ใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมก็ยังอยู่ได้ตลอดทั้งวัน
จุดเด่นรุ่นนี้จะเน้นมาที่เรื่องของกล้องเป็นหลัก ที่รุ่นนี้มีกล้องหลังคู่ความละเอียดหลัก AI 64MP (f/1.79) และกล้องชัดลึกสำหรับถ่ายพอร์เทรต 2MP (f/2.4) สามารถถ่ายภาพได้คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดี และยังซูมในเซ็นเซอร์ได้อีก 2 เท่าทำให้การซูมภาพนั้นไม่เสียคุณภาพหรือว่ายังมีความคมชัดอยู่นั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังถ่ายด้วยโหมดกลางคืนได้ดี มีฟิลเตอร์สำหรับถ่ายภาพสตรีทให้เล่นเยอะ พร้อมถ่ายวิดีโอได้ 1080P@30fps ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP (f/2.05) รองรับโหมดถ่ายภาพหลายโหมด และถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 1080P@30fps โดยมีราคาให้เลือกตามรุ่นคือ
- รุ่น RAM 6/128GB: ราคา 14,999 รูปี หรือประมาณ 6,400 บาท
- รุ่น RAM 8/128GB: ราคา 15,999 รูปี หรือประมาณ 6,800 บาท
สรุปสเปค realme 11x 5G
- หน้าจอ: IPS LCD FHD+ (1080×2400) กว้าง 6.72 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 680nits (HBM)
- ชิปประมวลผล: Mediatek Dimensity 6100+ 5G Octa Core
- RAM: 6/8GB (LPDDR4X)
- ROM: 128GB / microSD ได้ 2TB
- กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 64MP (ƒ/1.79)
- เลนส์ Depth 2MP (ƒ/2.4)
- ซูมในเซ็นเซอร์ 2x
- วิดีโอ 1080P@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 8MP (ƒ/2.05)/ 1080P@30fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi4-5, BT 5.2, 3.5 Jack, USB-C
- ระบบปฏิบัติการ: realme UI 4.0 บน Android 13
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh/ ชาร์จไว 33W
- ราคา: เริ่มต้น 14,999 รูปี หรือประมาณ 6,400 บาท
realme 11 5G
มาดู realme 11 5G รุ่นสเปคสูงกว่ากันบ้างกับตัวรุ่นหลัก 5G ที่มีการดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Glory Halo ที่มีการตกแต่งรัศมีกล้องแบบร่องเหมือนกับนาฬิการะดับไฮเอนด์หรูหราตรงกรอบกล้องหลัง และมีเลนส์คู่วงแหวนด้านใน ส่วนฝาหลังมีการทำเอฟเฟกต์แสงรูปตัว S และไล่โทนสีทองสำหรับสีทอง กับอีกสีเป็นสีดำ ตรงขอบด้านข้างเป็นขอบแบน PVD ขัดเงา สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคด้านข้าง การดีไซน์ตัวเครื่องนี้จริงๆ ก็คล้ายกับรุ่น 11x 5G เลยนั่นแหละ แต่ว่ารุ่นนี้จะหนากว่าเล็กน้อยที่ 8.05 มม. นอกนั้นเท่ากันหมดรวมถึงน้ำหนักตัวเครื่อง 190 กรัมก็เท่ากันด้วย
จุดที่ทั้งสองรุ่นนี้เหมือนกันอีกอย่างก็คือหน้าจอ ที่ realme 11 5G ก็เป็นหน้าจอแบบ IPS LCD ที่มีความละเอียด FHD+ (1080×2400) ขนาดกว้าง 6.72 นิ้วกับอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 91.40% และมี Refresh Rate 120Hz ที่สามารถปรับแบบไดนามิกได้ถึง 6 ระดับตามการใช้งานของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ดูหนัง หรือว่าเล่นเกม มีหน้าจอที่ใหญ่เล่นได้ลื่นๆ รวมไปถึงความสว่างของหน้าจอที่สว่างได้ทั่วไปสูงสุด 550nits และเร่งความสว่างแบบ HBM ได้สูงสุด 680nits เช่นกัน แน่นอนว่ารูกล้องหน้าก็ต้องเป็นแบบเจาะรูเหมือนกัน โดยทำงานบนระบบ realme UI 4.0 บนพื้นฐาน Android 13
อีกอย่างที่ได้เหมือนกันก็คือชิปประมวลผลที่ realme 11 5G ก็ได้ชิป Dimensity 6100+ 5G (6nm) ที่มี RAM 6/8GB และ ROM 128/256GB สามารถขยายแรมเพิ่มด้วย Dynamic RAM ได้อีกสูงสุด 8GB เพื่อการทำงานหลายแอพได้ลื่นขึ้น รวมไปถึงการเล่นเกมและอื่นๆ ด้วย โดยรุ่นนี้มีให้เลือกสองรุ่นเช่นกันแต่ว่ารุ่นสเปคสูงสุดจะได้ความจุที่มากขึ้น และยังเพิ่มด้วย microSD ได้อีก 2TB มีเสาอากาศแบบ Array Matrix 2.0 ที่เชื่อมต่อได้ดีขึ้น รองรับการใช้งานทั้ง 4G/5G สลับไปมาได้ไม่มีสะดุด หรือจะแชร์ให้คนอื่นก็ยังประหยัดพลังงาน พร้อมค้นหาเครือข่าย LTE ที่เร็วแรงให้ได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังรองรับ WiFi 4/ WiFi 5/ Bluetooth 5.2 และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ด้วยเหมือนกัน รวมไปถึงแบตที่มีความจุ 5,000mAh เท่ากัน แต่ว่ารุ่นนี้จะรองรับการชาร์จเร็วที่มากกว่าด้วย SUPERVOOC 67W (USB-C) สามารถชาร์จตั้งแต่ 0-50% ในเวลาเพียง 17 นาที เล่นได้ต่อเนื่องยาวนานทั้งวัน หรือเล่นเกมได้ต่อเนื่องถึง 9.9 ชม. เลย
จุดสำคัญของ realme 11 5G ที่แตกต่างและทำออกมาได้ดีมากเลยก็คือกล้อง โดยรุ่นนี้มีกล้องคู่เหมือนกันแต่ว่าตัวหลักมีความละเอียด 108MP (f/1.75) มีเซ็นเซอร์ Samsung IOSCELL HM6 และเลนส์ชัดลึกสำหรับถ่ายพอร์ตเทรต 2MP (f/2.4) ซึ่งตัวกล้องหลักสามารถถ่ายรูปได้คมชัดสูง แถมครอบรูปออกมาก็ยังมีความคมชัดอยู่ และยังซูมในเซ็นเซอร์ได้ถึง 3 เท่าโดยเป็นการจับภาพ 12MP ทำให้ไม่เสียคุณภาพของรูปไปด้วย แต่อาจจะต้องถ่ายในที่แสงสว่างสักหน่อย ส่วนโหมดกลางคืนก็มีเทคโนโลยี Nonapixel Plus ที่รับแสงเพิ่มสว่างได้อีก 123% ถ่ายได้ชัดและช่วยลดนอยซ์ได้อีก นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ทั้งการซูมอัตโนมัติและ HyperShot ที่ช่วยให้ถ่ายได้ดีขึ้นด้วย ส่วนกล้องหน้ารุ่นนี้มี 16MP (f/2.45) ถ่ายเซลฟี่ได้ชัดมากขึ้นอีกระดับ โดยแต่ละรุ่นมีราคาคือ
- รุ่น RAM 6/128GB: ราคา 18,999 รูปี หรือประมาณ 8,100 บาท
- รุ่น RAM 8/256GB: ราคา 19,999 รูปี หรือประมาณ 8,600 บาท
สรุปสเปค realme 11 5G
- หน้าจอ: IPS LCD FHD+ (1080×2400) กว้าง 6.72 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 680nits (HBM)
- ชิปประมวลผล: Mediatek Dimensity 6100+ 5G Octa Core
- RAM: 6/8GB (LPDDR4X)
- ROM: 128/256GB / microSD ได้ 2TB
- กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 108MP (ƒ/1.75)/ Samsung IOSCELL HM6
- เลนส์ Depth 2MP (ƒ/2.4)
- ซูมในเซ็นเซอร์ 3x
- วิดีโอ 1080P@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 16MP (ƒ/2.45)/ 1080P@30fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi4-5, BT 5.2, 3.5 Jack, USB-C
- ระบบปฏิบัติการ: realme UI 4.0 บน Android 13
- แบตเตอรี่ความจุ: 5,000 mAh/ ชาร์จไว 67W
- ราคา: เริ่มต้น 18,999 รูปี หรือประมาณ 8,100 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการสรุปข้อมูลสเปคของ realme 11 5G/ realme 11x 5G ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โดยทั้งสองรุ่นจะมีการเปิดตัวพร้อมกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กันยายน 2023 เวลา 15:30 น. สามารถรับชมแบบสดพร้อมกันได้ 3 ช่องทางได้แก่
- Facebook: realmeTH
- YouTube: realme Thailand
- TikTok: realme_thailand
ซึ่งในกิจกรรมจะได้พบกับพรีเซ็นเตอร์ดับเบิ้ลสตาร์คือ คุณปอนด์ – ภูวิน พร้อมกิจกรรมแจก realme รุ่นใหม่นี้ทั้งสองรุ่นคือ realme 11 5G 11 5G และ 11x 5G ตามเงื่อนไขของ realme ใครที่สนใจสเปคหรือว่าอยากเข้าไปร่วมสนุกก็เข้าไปติดตามดูได้ตามช่องทางที่เราบอกไปได้เลย และหลังการเปิดตัวเราจะมาอัพเดทราคาของแต่ละรุ่นให้อีกครั้ง ว่ารุ่นไหนมีราคาวางขายบ้านเราเท่าไหร่กันบ้าง โดยหลักๆ แล้วสเปคของทั้งสองรุ่นนี้จะเน้นไปที่การถ่ายรูปเป็นหลัก หรือถ้าจะใช้งานทั่วไปเล่นเกมได้ด้วยก็ยังไหว มารอลุ้นราคากันได้เลยว่าจะเปิดตัวออกมาเท่าไหร่ แล้วเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้ง
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลทั้งหมดจาก realme IN