สเปค OPPO Reno10, Reno10 Pro และ Reno10 Pro+ สเปคดีงาม ถ่ายซูมได้ดีขึ้น เริ่มต้นประมาณ 12,300 บาท
เปิดตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับมือถือ OPPO รุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีส์ของ Reno10 ที่มีออกมา 3 รุ่นคือ Reno10, Reno10 Pro และ Reno10 Pro+ ที่พร้อมวางขายแล้วในประเทศจีนในตอนนี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา (ไม่เกี่ยวกับ OPPO Reno 10x Zoom) ที่สำคัญก็คือทั้ง 3 รุ่นที่เปิดตัวที่จีนไปนี้ ล่าสุดก็ได้ผ่านการรับรองจาก กสทช. หมดแล้วทั้งสามรุ่นเลย เป็นสัญญาณที่ดีว่าซีรีส์นี้เราจะได้เห็นและได้ใช้กันอย่างแน่นอน ก็รอแค่เพียงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเท่านั้น หลังจากที่บ้านเรานั้นข้ามซีรีส์ Reno9 กันไปแล้ว ส่วนสเปคของรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ที่เปิดตัวออกมา ก็ถือว่าเป็นมือถือระดับกลางไปจนถึงระดับบน ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายเหมือนเดิม ไม่ว่าจะใช้เล่นเกม ใช้ทั่วไป หรือว่าถ่ายรูปที่สามารถซูมได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย วันนี้ Specphone จะมาแนะนำสเปค OPPO Reno10, OPPO Reno10 Pro และ OPPO Reno10 Pro+ ที่มีสเปคดีงาม ถ่ายซูมได้ดีขึ้น ราคาเริ่มต้นประมาณ 12,300 บาท
OPPO Reno10
เริ่มต้นกันที่รุ่นแรกกันก่อนเลย กับรุ่นปกติหรือว่ารุ่นทั่วไปของซีรีส์ OPPO Reno10 นี้ ที่ดีไซน์ตัวเครื่องออกมาแบบขอบโค้ง และมีฝาหลังโค้งลงแบบ 3D พร้อมตัวเครื่องที่บางเบาเพียง 7.58 มม. จับถือได้สะดวก กับลวดลายที่ต่างกันตามสีของตัวเครื่อง ที่มีให้เลือกอยู่ 3 สีคือสีทอง สีดำ และสีฟ้า (บ้านเราอาจเข้าไม่ครบทุกสี) ส่วนโมดูลกล้องหลังรุ่นนี้ทำออกมาเป็นแบบวงรีเหมือนแคปซูลยา กับการเรียงกล้องแนวตั้งสวยทีเดียว ส่วนหน้าจอของรุ่นนี้เป็นหน้าจอโค้งแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.7 นิ้วและมี Refresh Rate 120Hz อัตราสัมผัสสูง 240Hz กับขอบจอที่แคบในอัตราส่วนหน้าจอถึง 93% รองรับ HDR10+ และสว่างได้สูงสุด 950 nits ตรงนี้ทำออกมาได้ดีเลย
โดยรุ่นนี้ก็ได้ความเร็วแรงจากชิประดับกลางขึ้นไปอย่าง Snapdragon 778G ที่มีความจุ 3 รุ่นให้เลือกคือ RAM 8GB/256GB, 12GB/256GB ที่เป็นแบบ LPDDR4x/UFS 2.2 และ 12GB/512GB แบบ LPDDR5/ UFS 3.1 ไม่รองรับการ์ดเพิ่มความจุแต่รองรับ OTG, 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 และ NFC ซึ่งรุ่นนี้ก็ใช้เล่นเกมได้สบายๆ เพราะมีการระบายความร้อนที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น ครอบคลุมพื้นที่ตัวเครื่องได้มากขึ้น พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ส่วนระบบของตัวเครื่องจะเป็น ColorOS 13.1 กับแบตความจุ 4,600 mAh รองรับ SuperVOOC 80W ชาร์จ 50% ใน 11 นาทีและเต็ม 100% ในเวลาเพียง 29 นาทีเท่านั้น
มาดูที่เรื่องกล้องกันบ้างที่รุ่นปกตินี้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว ด้วยกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดเลนส์ไวด์หลัก 64MP (ƒ/1.7) ถ่ายภาพบุคคลหรือถ่ายวิวได้คมชัดสวยงาม เลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.2) กว้างได้ 112 องศา และทีเด็ดก็คือเลนส์เทเลโฟโต้ 32MP (ƒ/2.0) ที่ซูมแบบออพติคอลได้ 2 เท่า ถ่ายแสงและเงาออกมาได้อย่างชัดเจน หรือถ่ายบุคคลก็ละลายหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติระดับ DSLR พร้อมถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ถ่ายได้ไม่ต้องกลัวสั่นด้วยกันสั่น EIS ทั้งหน้าและหลัง จุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือกล้องหน้า ที่มีเลนส์แบบตาแมวละเอียด 32MP (ƒ/2.4) ถ่ายเซลฟี่ได้ใกล้สุด 15 ซม. และขยายได้ถึง 2 เท่ากับการถ่ายวิดีโอได้ 1080p มีราคาตามความจุคือ
- 8GB/256GB ราคา 2,499 หยวน (ประมาณ 12,300 บาท)
- 12GB/256GB ราคา 2,799 หยวน (ประมาณ 13,700 บาท)
- 12GB/512GB ราคา 2,999 หยวน (ประมาณ 14,700 บาท)
สรุปสเปค OPPO Reno10
- หน้าจอ: AMOLED (FHD+) กว้าง 6.7 นิ้ว อัตรา Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 950 นิต รองรับ HDR10+
- ชิปประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 778G Octa Core
- RAM: 8/12GB (LPDDR4x/LPDDR5)
- ROM: 256/512GB (UFS 2.2/UFS 3.1)
- กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด
- เลนส์หลัก 64MP (ƒ/1.7) กันสั่น EIS
- เลนส์ Ultra Wide 8MP (ƒ/2.2) 112°
- เลนส์ Telephoto 32MP (ƒ/2.0) ซูม 2X (Optical)
- กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (ƒ/2.4) กันสั่น EIS
- การเชื่อมต่อ: OTG, 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, NFC
- ระบบปฏิบัติการ: ColorOS 13.1
- แบตเตอรี่ความจุ: 4,600 mAh SuperVOOC 80W
- ราคา: รุ่นเริ่มต้นประมาณ 12,300 บาท
OPPO Reno10 Pro
มาดูที่รุ่นกลางของซีรีส์ OPPO Reno10 Pro กันบ้างที่รุ่นนี้ก็ได้เพิ่มความโปรในการใช้งานอย่างตัวกล้องที่ทำออกมาได้ดีมากขึ้น รวมไปถึงสเปคภายในทั้งชิปและหน้าจอที่ดีกว่ารุ่นปกติด้วย ส่วนในเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องนั้นตอกว่า มีความคล้ายกับรุ่นปกติมากๆ ที่เป็นขอบโค้ง ฝาหลัง 3D และโมดูลกล้องแคปซูลเหมือนกัน เน้นความเบาบางแต่ว่ารุ่นนี้หนากว่าเล็กน้อยที่ 7.68 มม. มี 3 สีเหมือนกันคือสีทอง ดำ และฟ้า โดยรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอระดับเรือธงที่เป็นจอโค้งแบบ OLED ระดับ 1.5K กว้าง 6.74 นิ้วที่มี Refresh Rate 120Hz และอัตราสัมผัส 240Hz พร้อมรองรับ HDR10+ และสว่างได้สูงสุดถึง 1,400 nits เลยทีเดียว
ส่วนชิปประมวลผลของรุ่นนี้ก็ได้อัพเกรดขึ้นมาเป็นตัว Dimensity 8200 ที่มีความจุให้เลือก 2 รุ่นคือ RAM 16GB/256GB และ 16GB/512GB แบบ LPDDR5/UFS3.1 เร็วแรงเล่นเกมได้สบายหายห่วง เพราะมีระบบระบายความร้อนที่ครอบคลุมรอบตัวเครื่องเช่นกัน อีกทั้งยังมีทั้งฟีเจอร์ HyperBoost สำหรับเล่นเกมกับการสั่นแบบสมจริงด้วย X-axis linear 4D และระบบเสียงที่ดีเยี่ยม โดยรุ่นนี้ก็ไม่ได้รองรับความจุเพิ่ม แต่รองรับการเชื่อมต่อ OTG, 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC ซึ่งรุ่นนี้มีแบต 4,600 mAh แต่รองรับ SuperVOOC 100W ชาร์จ 50% ใน 9.30 นาที และเต็ม 100% ใน 27 นาทีด้วย
สำหรับกล้องหลังของรุ่นนี้ก็ได้อัพเกรดขึ้นมาอีกระดับถึงแม้ว่าจะมี 3 ตัวเหมือนกัน แต่ว่ารุ่นนี้มีชิป MariSilicon X ที่ช่วยประมวลผลให้ภาพออกมาดูดียิ่งขึ้นทั้งแสงและเงา โดยมีความละเอียดหลัก 50MP (ƒ/1.8) ที่มีเซ็นเซอร์ Sony IMX890 และกันสั่น OIS ถ่ายรูปได้คุณภาพระดับเรือธง กับเลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.2) กว้างได้ 112 องศาและเลนส์เทเลโฟโต้ 32MP (ƒ/2.0) ที่ซูมออพติคอลได้ 2 เท่า ถ่ายโบเก้ได้เป็นธรรมชาติ พร้อมการถ่ายวิดีโอแบบ 4K ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP (ƒ/2.4) ถ่ายโฟกัสในระยะใกล้และขยายได้ กับการถ่ายวิดีโอระดับ 1080p เหมือนกัน มีราคาดังนี้
- 16GB/256GB ราคา 3,499 หยวน (ประมาณ 17,100 บาท)
- 16GB/512GB ราคา 3,899 หยวน (ประมาณ 19,000 บาท)
สรุปสเปค OPPO Reno10 Pro
- หน้าจอ: OLED (1.5K) กว้าง 6.74 นิ้ว อัตรา Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 1,400 นิต รองรับ HDR10+
- ชิปประมวลผล: Dimensity 8200
- RAM: 16GB (LPDDR5)
- ROM: 256/512GB (UFS3.1)
- กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด
- ชิป MariSilicon X
- เลนส์หลัก 50MP (ƒ/1.8) Sony IMX890 กันสั่น OIS+EIS
- เลนส์ Ultra Wide 8MP (ƒ/2.2) 112°
- เลนส์ Telephoto 32MP (ƒ/2.0) ซูม 2X (Optical)
- กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (ƒ/2.4) กันสั่น EIS
- การเชื่อมต่อ: OTG, 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC
- ระบบปฏิบัติการ: ColorOS 13.1
- แบตเตอรี่ความจุ: 4,600 mAh SuperVOOC 100W
- ราคา: รุ่นเริ่มต้นประมาณ 17,100 บาท
OPPO Reno10 Pro+
ปิดท้ายกันด้วยรุ่นตัวท็อปของซีรีส์อย่าง OPPO Reno10 Pro+ ที่รุ่นนี้อัพเกรดในเรื่องของกล้องให้ออกมาเทพสุดกว่าทุกรุ่น แถมยังมีราคาเริ่มต้นที่อาจไม่เกิน 20,000 บาทด้วยหากเข้ามาวางขายในบ้านเรา ซึ่งตัวเครื่องนั้นออกแบบมาคล้ายๆ กับทุกรุ่นคือมีขอบโค้ง ฝาหลังแบบ 3D และเบาบางเพียง 8.28 มม. รวมไปถึงโมดูลกล้องแบบแคปซูลและสีทอง ดำ และฟ้าเหมือนกันด้วย ซึ่งหน้าจอของรุ่นนี้ก็เหมือนกันกับรุ่นโปรทั้งหมดคือหน้าจอโค้งแบบ OLED ระดับ 1.5K กว้าง 6.74 นิ้วพร้อม Refresh Rate 120Hz และอัตราสัมผัส 240Hz รองรับ HDR10+ และสว่างได้สูงสุด 1,400 nits กับอัตราส่วนหน้าจอ 93.9% เหมือนกันทั้งหมด
จุดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนอย่างแรก ก็คือชิปประมวลผลที่รุ่นนี้ได้อัพเกรดมาเป็นชิปเรือธง Snapdragon 8+ Gen 1 (4nm) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงานลง โดยมีความจุ 2 รุ่นคือ 16GB/256GB และ 16GB/512GB ในรูปแบบ LPDDR5/UFS3.1 กับระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยมเต็มทั้งตัวเครื่อง และยังมีฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมทั้ง HyperBoost, X-axis linear 4D และลำโพงคู่ Super Linear Stereo รองรับการเชื่อมต่อ OTG, 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC ไม่รองรับความจุเพิ่ม และรุ่นนี้มีแบตมากกว่ารุ่นอื่นนิดหน่อยที่ 4,700 mAh รองรับ SuperVOOC 100W ขาร์จเต็ม 100% ในเวลา 27 นาทีเช่นกัน
ส่วนของกล้องหลังรุ่นนี้ก็ได้มีการอัพเกรดขึ้นมาเหมือนกัน โดยมีกล้องหลัง 3 ตัวที่มีชิป Marisilicon X ช่วยในการประมวลผลภาพให้คมชัดทั้งแสงและเงา ส่วนในกล้องตัวหลักมีความละเอียด 50MP (ƒ/1.8) มีเซ็นเซอร์ Sony IMX890 พร้อมกันสั่น OIS ถ่ายได้สีสันและภาพคมชัดระดับเรือธง กับเลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.2) กว้าง 112 องศา และทีเด็ดคือเลนส์เทเลโฟโต้แบบ Periscope 64MP (ƒ/2.5) ที่มีกันสั่น OIS สามารถซูมออพติคอลได้ 3-6 เท่ากับการซูมแบบดิจิทัลได้ 120 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังถ่ายวิดีโอได้ 4K กับกล้องหน้าที่มี 32MP เซลฟี่ในระยะใกล้พร้อมขยายได้ และถ่ายวิดีโอได้ 1080P เหมือนรุ่นโปรเลย มีราคาดังนี้
- 16GB/256GB ราคา 3,899 หยวน (ประมาณ 19,000 บาท)
- 16GB/512GB ราคา 4,299 หยวน (ประมาณ 21,000 บาท)
สรุปสเปค OPPO Reno10 Pro+
- หน้าจอ: OLED (1.5K) กว้าง 6.74 นิ้ว อัตรา Refresh Rate 120Hz สว่างสูงสุด 1,400 นิต รองรับ HDR10+
- ชิปประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 Octa Core
- RAM: 16GB (LPDDR5)
- ROM: 256/512GB (UFS3.1)
- กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด
- ชิป MariSilicon X
- เลนส์หลัก 50MP (ƒ/1.8) Sony IMX890 กันสั่น OIS+EIS
- เลนส์ Ultra Wide 8MP (ƒ/2.2) 112°
- เลนส์ Periscope 64MP (ƒ/2.5) ซูม 3-6X (Optical), ซูม 120X (Digital) กันสั่น OIS
- กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (ƒ/2.4) กันสั่น EIS
- การเชื่อมต่อ: OTG, 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC
- ระบบปฏิบัติการ: ColorOS 13.1
- แบตเตอรี่ความจุ: 4,700 mAh SuperVOOC 100W
- ราคา: รุ่นเริ่มต้นประมาณ 19,000 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคของ OPPO Reno10, OPPO Reno10 Pro และ OPPO Reno10 Pro+ ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งทั้งสามรุ่นนี้ก็จ่อเตรียมเข้ามาขายในบ้านเราแน่นอน เพราะผ่านการรับรองจากกสทช.แล้วทุกรุ่น ส่วนจะเข้ามาพร้อมกับความจุเท่าไหร่ และมีสีไหนเข้ามาบ้างอันนี้ต้องรอดูกันอีกทีตอนเปิดตัวในไทย สเปคโดยรวมของทั้งสามรุ่นนี้ถือว่าทำออกมาได้น่าใช้งานมาก ทั้งรุ่นเริ่มต้นที่ราคาเบาๆ แต่ก็มีสเปคจัดเต็มทั้งการใช้งานและถ่ายรูปแล้ว แต่ถ้าอยากได้ความโปรมากขึ้นก็แนะนำว่าให้รอซื้อรุ่นโปรหรือโปรพลัสไปเลย จะได้ถ่ายรูปได้ดีมากกว่า หน้าจอมีความคมชัดมากกว่า ถ้าลองได้ดูจากต่างประเทศที่รีวิวมาแล้วก็คือดีงามมากจริงๆ ในรุ่น Pro+ ถ้าเราได้เครื่องมาก็จะรีบมารีวิวให้ดูเช่นกัน แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะมาแนะนำกันเรื่อยๆ เลยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก OPPO China