แนะนำ Xiaomi Pad 5 แท็บเล็ตราคาหมื่นต้นๆ ได้สเปคอย่างโหด ชิปตัวแรง แบตอึด หน้าจอใหญ่ไหลลื่น 120Hz
ต้องบอกว่าอุปกรณ์ต่างๆ ของ Xiaomi แต่ละตัวที่ทำออกมานั้นน่าสนใจแทบจะทุกอย่าง ด้วยสเปคที่จัดหนักจัดเต็มมาให้ตลอด แถมยังมีราคาน่าคบหาที่ไม่แพงมากนัก นอกจากในปีนี้จะมี Smart Phone อย่าง Xiaomi 11T Pro และ Xiaomi 11T ตัวแรงในราคาเบาๆ ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาได้ไม่นานแล้ว ก็ยังมีแท็บเล็ตที่น่าสนใจมากๆ ออกมาด้วย นั่นก็คือตัว Xiaomi Pad 5 ที่เปิดตัวออกมาในเดือนที่แล้ว และหลังจากที่ทีมงานได้รีวิวกันไปแล้ว ก็ต้องบอกเลยว่าแท็บเล็ตในราคาหมื่นต้นๆ แต่ได้สเปคโหดขนาดนี้แทบจะหาตัวไหนเทียบได้ยากจริงๆ (ดูรีวิวได้ที่นี่) วันนี้ทาง Specphone เลยจะพามาแนะนำแท็บเล็ต Xiaomi Pad 5 ที่มีราคาโดนใจ และยังได้สเปคที่แรงเอาเรื่อง กับหน้าจอใหญ่ไหลลื่นถึง 120Hz มาดูกันว่าแท็บเล็ตของ Xiaomi ตัวนี้มีสเปคเป็นอย่างไรบ้าง และน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน
- ดีไซน์ภายนอก
- สเปคหน้าจอ
- ชิปประมวลผล กับการเชื่อมต่อ
- กล้องหน้าและกล้องหลัง
- ความจุแบตเตอรี่ และราคา
- ตารางเปรียบเทียบ Xiaomi Pad 5 กับ Xiaomi Pad และแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ
ดีไซน์ใหม่ที่สวยและเรียบหรูมากขึ้น
มาเริ่มกับที่ดีไซน์ภายนอกของตัวนี้กันก่อนเลย ซึ่งถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้าคือรุ่นที่ 4 นั้น ตัวนี้ก็ได้เปลี่ยนรูปแบบออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยการดีไซน์ตัวนี้จะเป็นตัวเครื่องแบบเหลี่ยมและมีขอบมุมโค้งมน ตัวเครื่องบางและมีน้ำหนักที่ไม่เยอะเท่าไหร่ ถือว่ายังพกพาและถือได้อย่างสบายๆ ส่วนฝาหลังจะเป็นสีแบบด้าน กับขอบที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมแบบเงาทำให้รู้สึกถึงความหรูหรา และน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น และยังสามารถแปะ Xiaomi Smart Pen เข้าไปตรงด้านบนตัวเครื่องได้ด้วย ส่วนด้านล่างก็จะมีพอร์ต USB-C และช่องลำโพงตามแบบแท็บเล็ตทั่วไป จุดเด่นหลักๆ ของตัวนี้จะไปอยู่ที่สเปคภายใน และหน้าจอที่ไหลลื่นมากกว่า รุ่นนี้มี 2 สีให้เลือกคือ Pearl White และ Cosmic Gray
หน้าจอใหญ่ คมชัด ไหลลื่นทุกการใช้งาน
จุดเด่นหลักๆ ของ Xiaomi Pad 5 ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของหน้าจอที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือว่าสเปคต่างๆ ที่ช่วยให้การใช้งานทั่วไป จนถึงงานกราฟิกก็สามารถทำได้ง่ายๆ แค่ใช้ Xiaomi Smart Pen ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำใกล้เคียงกับปากกาจริงเลย ซึ่งความหน่วงนั้นจะน้อยมากเนื่องจากสเปคของหน้าจอที่มีอัตรา Refresh Rate ถึง 120Hz และมี Touch Sensing ถึง 240Hz เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือว่าใช้ทำงานก็จะดูไหลลื่นมากยิ่งขึ้น
ส่วนหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็น IPS LCD แสดงผลระดับ WQHD+ กว้าง 11 นิ้วกับขอบเขตสี DCI-P3 และมีสีมากกว่า 1 พันล้านสีเลยทีเดียว ทำให้การใช้งานไม่ว่าจะทำงานกราฟฟิก จดบันทึก งานทั่วไป หรือว่าจะใช้เพื่อความบันเทิงอย่างการเล่นเกม หรือดูหนังก็มีการรองรับ Dolby Vision และ HDR 10 ที่ทำให้สีนั้นออกมาแม่นยำ และดูเป็นธรรมชาติ เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตเทพๆ ในเรื่องของหน้าจอตัวหนึ่งเลย นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับแสง ที่สามารถแสดงผลและปรับให้เข้ากับสภาพแสงรอบข้างอย่างแม่นยำ แถมยังมีแสงสีฟ้าที่ต่ำที่ช่วยให้สบายตาเมื่อใช้งานมากขึ้นด้วย
ชิปประมวลผลตัวแรงเล่นเกมได้ลื่นๆ
นอกจากจะมีหน้าจอสุดโหดแล้ว สเปคภายในของตัว Xiaomi Pad 5 ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ด้วยการเสริมความเร็วแรงมาด้วยชิป Snapdragon 860 ความเร็ว 2.96 GHz พร้อม GPU Adreno 640 ทำให้รุ่นนี้สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมที่หนักหน่วงแค่ไหน รุ่นนี้ก็รับไหวแน่นอน หรือแม้แต่จะดูหนัง ท่องอินเทอร์เน็ตก็ไม่มีสะดุด แถมยังมีระบบเสียงในระดับเรือธง ที่มีลำโพงสี่ตัวแบบรอบทิศทาง ในดับ Hi-Res Audio และ Dolby Atmos ทำให้เสียงที่ออกมานั้นกระจายไปตามการใช้งานของเรา เปรียบเสมือนอยู่ในโรงหนังจริงๆ เลยทีเดียว ส่วนรุ่นความจุจะมีให้เลือก 2 ขนาดคือรุ่น RAM 6GB ROM 128GB และรุ่น RAM 6GB ROM 256GB ในราคาที่ต่างกันหลักพันนิดๆ เท่านั้น เรื่องการเชื่อมต่อของรุ่นนี้จะไม่สามารถใส่ซิมได้ จะเชื่อมต่อได้เพียง Wi-Fi เท่านั้น ถ้าแชร์จากมือถือมาก็เล่นได้สบายๆ ทุกที่
กล้องหน้าและกล้องหลัง
มาที่ตัวกล้องหน้าและกล้องหลังกันบ้าง ที่ต้องก่อนเลยว่ารุ่นนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำออกมาเพื่อเน้นให้ถ่ายรูปเป็นหลักเท่าไหร่นัก ถ้าใช้เพื่อถ่ายทำงาน หรือถ่ายส่งงานก็พอได้อยู่ รวมไปถึงกล้องหน้าก็ไม่ได้ทำออกมาเพื่อให้ถ่ายเซลฟี่เป็นหลักเช่นกัน แต่ถ้าใช้เพื่อวิดีโอคอล หรือใช้ในงานประชุมก็ทำได้เป็นอย่างดีแน่นอน โดยกล้องหลังจะเป็นกล้องตัวเดียวที่ความละเอียด 13MP (ƒ/2.0) ถ่ายแบบทั่วไปหรือถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ 4K ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 8MP (ƒ/2.0) ใช้ในงานประชุมหรือถ่ายแบบทั่วไปได้เช่นกัน
ความจุแบตเตอรี่ และราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
ปิดท้ายกันด้วยความจุของแบตที่อึดเอาเรื่อง ด้วยความจุ 8,720 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ฟังเพลงได้ต่อเนื่องสูงสุดมากกว่า 5 วัน หรือถ้าเน้นเล่นเกมก็จัดเต็มได้ต่อเนื่องมากกว่า 10 ชั่วโมง และดูหนังได้ติดต่อกันมากกว่า 16 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่ามีความอึดที่ใช้งานได้ยาวนานมาก ถ้าพกพาออกไปข้างนอกและเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือเชื่อมต่อ Hotspot จากมือถือก็อยู่ได้ยาวๆ ทั้งวันแน่นอน และถึงแม้ว่าจะหมดก็สามารถชาร์จกลับมาเต็มได้ในเวลาไม่นาน เพราะรุ่นนี้รองรับ Fast Charge 23W ที่ให้มาด้วยในกล่องเลย ใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงก็กลับมาเต็มพร้อมใช้งานเหมือนเดิมแล้ว ส่วนราคาของรุ่นนี้จะมีให้เลือก 2 ความจุคือ
- รุ่น RAM 6GB ROM 128GB ราคา 10,990 บาท
- รุ่น RAM 6GB ROM 256GB ราคา 12,990 บาท
ตารางเปรียบเทียบ Xiaomi Pad 5 กับ Xiaomi Pad และแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ
ข้อมูล\ รุ่น | Xiaomi Pad 5 | Xiaomi Mi Pad 4 | HUAWEI MatePad 2021 | Samsung Galaxy Tab S6 Lite LTE |
หน้าจอ | IPS LCD กว้าง 11 นิ้ว | IPS LCD กว้าง 8 นิ้ว | IPS LCD กว้าง 10.4 นิ้ว | TFT กว้าง 10.4 นิ้ว |
ขนาด | 254.7 × 166.3 × 6.9 มม. | 200.2 × 120.3 × 7.9 มม. | 154.96 × 245.2 × 7.45 มม. | 244.5 × 154.3 × 7 มม. |
น้ำหนัก | 511 กรัม | 342.5 กรัม | 460 กรัม | 467 กรัม |
ชิปฯ | Snapdragon 860 | Snapdragon 660 | Kirin 820 | Exynos 9611 |
RAM | 6GB | 4GB | 4GB | 4GB |
ROM | 128GB/ 256GB | 64GB | 128GB | 64GB |
กล้องหน้า | 8MP | 5MP | 8MP Ultrawide | 5MP |
กล้องหลัง | 13MP | 13MP | 8MP | 8MP |
การเชื่อมต่อ | WiFi | WiFi | WiFi 6 | 3G, 4G, WiFi |
แบตเตอรี่ | 8,720 mAh | 6,000 mAh | 7,250 mAh | 7,040 mAh |
ราคา | 10,990 บาท* | ~7,390 บาท | 9,990 บาท | 14,990 บาท |
และทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลและสเปคทั้งหมดของ Xiaomi Pad 5 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โดยรวมแล้วถ้าดูตามการใช้งานกับราคาที่ไม่แพงมากแล้ว ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยเหมือนกัน ทั้งสเปคของหน้าจอที่ใหญ่ และใช้งานได้อย่างไหลลื่น แถมยังมีชิปประมวลผลที่เร็วแรง สามารถใช้งานทั่วไป หรือจะเล่นเกม เน้นดูหนังบน Netflix แบบ HD ก็ดูได้สบายๆ หรือว่าถ้าใครจะซื้อไปเพื่อเรียนออนไลน์ เอาไว้จดบันทึกข้อมูลตอนเรียนก็คุ้มค่ามากๆ ยิ่งถ้าใช้งานร่วมกับปากกา Xiaomi Smart Pen ก็จะยิ่งทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งการวาดเขียน หรือออกแบบงานกราฟิกก็ทำได้สบายๆ หรือถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ ก็ถือว่ารุ่นนี้ไม่ได้ด้อยกว่ารุ่นอื่นๆ มากนัก ใครที่สนใจก็สามารถกดเข้าไปสั่งซื้อได้ที่นี่เลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันอีกเรื่อยๆ เลยนะครับ
ขอบคุณรูปภาพจาก Xiaomi